TAKAO 599 MUSEUM

ขุมทรัพย์ของภูเขาทาคาโอะ

Plants

ความหลากหลายของแมลงที่อยู่อาศัยหลายพันชนิดที่ยังมีความทับซ้อนในทาคาโอะโดยอาศัยอยู่หลายพันชนิด สามารถนับและจัดอันดับในญี่ปุ่นได้เป็นสามลำดับที่อยู่อาศัยที่สำคัญ คือ มิโน่ (โอซาก้า) และคิบูเนะ (เกียวโต) เป็นเขตของแมลงที่มีการศึกษามาเป็นเวลานาน สายพันธุ์หลากหลายเหล่านี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในทาคาโอะยังแมลงจำนวนมากที่เป็นราชาและยังมีทากาโอะ คิลฟิช และนักฆ่าวาฬซึ่งในปัจจุบันนั้นชื่อของทาคาโอะก็ยังปรากฏอยู่

  • คิจิ มุชิโร่ ตระกูลกุหลาบสีขาว
    คิจิ มุชิโร่
    คิจิ มุชิโร่ ตระกูลกุหลาบสีขาว
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต พบป่าเขา ทุ่งหญ้าหรือในบริเวณทั่ว ๆ ไปที่มีแดดส่องถึง ( เป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อ คิจิ แปลว่า ต้นไม้ใหญ่ มุชิโร่แปลว่าเสื่อ ฟาง จึงรวมกันเรียกว่า ต้นฟาง ซึ่งมีลำต้นคล้าย ๆกับเสื่อที่ทอด้วยฟาง ดอกมีสีเหลือง มีก้านยาว เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1.5 - 2 ซม. มีกลีบดอก 5 กลีบ มีรากแก้วหยั่งลึกถึงพื้นดิน ประคองลำต้นที่แข็งแรง ในใบใหญ่ 1 ใบ จะยังประกอบด้วยใบขนาดเล็กอีก 5 - 9 ใบ ที่รวมเป็นใบใหญ่ ส่วนใบที่ใหญ่ที่สุด ยาวประมาณ 3 ซม. ลักษณะใบ เป็นใบเรียวยาว ที่ขอบใบจะมีหยักคล้ายขอบเลื่อยหยาบ ๆ หลังจากดอกได้รับการผสมเกสร แล้วดอกนั้นแก่จัดเต็มที่ จะมีเมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดที่อยู่ในดอกจะใช้ในการขยายพันธ์พืชชนิดนี้ให้คงอยู่ต่อไป

    ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 5 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ ภูเขาอินาริ , ภูเขาอุระทาคาโอ่ะ โอคุ ทาคาโอ่ะ
  • สตรอเบอรรี่ เฮบิ ตระกูลเชอรรี่
    สตรอเบอรรี่ เฮบิ
    สตรอเบอรรี่ เฮบิ ตระกูลเชอรรี่
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณสันเขา นาข้าว ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (ไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่เหนียว ลำต้นเลื้อย ขนานกับพื้นดิน เป็นพืชที่อยู่ในป่าดงดิบ โดยมีการเจริญเติบโตตลอดทั้งปี ชื่อ สตรอเบอรรี่ เฮบิ (สตรอเบอรรี่งู) มีที่มาจากเรื่องเล่าในอดีตที่งูมักจะมาแอบกินสตอเบอรี่ชนิดนี้เป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ (โดกุ อิจิโก่ะ) หรือ สตรอเบอรรี่พิษ เป็นเพียงชื่อเรียกเล่น ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีพิษแต่อย่างใด เพียงแต่มีความหวานน้อยกว่าสตรอเบอรี่โดยทั่วไป ใบมีสีเหลือง เขียว ในใบใหญ่ 1 ชุด จะประกอบด้วยใบเล็กจำนวนทั้งสิ้น 3 ใบ ใบมีรูปไข่ ยาว 2 - 3.5 ซม. และขอบฟันมีรอยหยักเหมือนคมเลื่อย ดอกขณะบาน จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.2 - 1.5 ซม. มีสีเหลือง และมีกลีบดอกอยู่ทั้งสิ้น 5 กลีบ

    ● ฤดูกาล เดือนมีนาคมถึง เดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 5 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนน Trail 1 ,3 , 5 เทือกเขาอินาริ , อุระทาคาโอ่ะ
  • โคชาหรุ เมรุ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    โคชาหรุ  เมรุ
    โคชาหรุ เมรุ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณที่มีธารน้ำไหล ในป่า ในภูเขาลำธารชื้น ในริมน้ำ ไม้ยืนต้นชนิดนี้จะใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต ชื่อเรียกนั้น มาจากรูปทรงของเมล็ด เมื่อสุกจะมีกลิ่นหอม และด้านไม้จะมีปากเป็นรูปแตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีสีเหลือง สีเขียว สีแดง สีม่วง สิ่งเป็นสีไม่ฉูดฉาดมานัก ขณะบานจะมีดอกประมาณ 10 ช่อดอกต่อ 1 ต้น กลีบเลี้ยงดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 - 5 ซม. มีทั้งสิ้น 5 กลีบ ใบมีกลิ่นฉุนรุนแรง มีปลายรากแก้วที่หยั่งไปถึงพื้นดิน ทำให้ต้นมีความแข็งแรงในการพยุงกิ่งก้านสาขา ที่โคนต้นจะมีหนามเล็ก ๆ แต่ไม่คมมาก เป็นขอบฟันเลื่อย ที่โคนดอกจะมีเกสรตัวผู้ตัวเมีย ที่มีแมลงเข้ามาตอม ทำให้เกิดการผสมพันธ์กันเองตามธรรมชาติ และเมื่อดอกแก่จัดเต็มที่แล้ว จะทำให้ภายในดอก เกิดเป็นเมล็ดแก่จัดมากมาย พร้อมที่จะล่วงหล่นมาบนพื้น เพื่อที่จะทำการขยายพันธ์ต่อไปในอนาคต

    ● ฤดูกาล ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ภูเขาอุระทาคาโอะ
  • เนโก่ะ โน๊ะเม่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    เนโก่ะ โน๊ะเม่ะ
    เนโก่ะ โน๊ะเม่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในบริเวณแถบที่มีอากาศชุ่มชื้น อยู่ในป่า ตามภูเขา แม่น้ำ ลำธาร แหล่งน้ำต่าง ๆ ที่อยู่ในป่า ไม้ยืนต้น จะใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโตจนเป็นต้นที่สมบูรณ์) ลำต้นมีรากแก้วหยั่งถึงพื้น ยึดพื้นแน่น ทำให้ต้นมีความแข็งแรง มีการขยายพันธ์โดยใช้เมล็ด ที่ในโคนดอกจะมีเกสรตัวผู้ตัวเมีย แล้วใช้แมลง ผีเสื้อ เป็นผู้ผสมเกสรตามธรรมชาติ เมื่อดอกแก่จัด จะเกิดเมล็ดพันธ์ที่อ่ยู่ในโคนดอกออกมามากมาย แล้วจะใช้เมล็ดพันธ์ดังกล่าวเป็นผู้มีหน้าที่ในการขยายพันธ์ให้กับพืชพันธ์นี้เป็นไปตามวิถีทางธรรมชาติ รอบ ๆ ใบจะมีขอบฟันเป็นรอยหยักเหมือนปลายเลื่อย ที่งดงาม ใน 1 โคนดอก จะประกอบไปด้วยดอกเล็ก ๆ ประมาณ 10 ดอก แต่ละดอก จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 มม. และใน 1 ดอก จะมีกลีบเลี้ยงดอก 4 กลีบ ดอกไม้มีสีเหลือง สีเขียว และสีอ่อน ๆ ผสมผสานกันให้ความสวยงาม และมีความแตกต่างด้านสีบ้าง แล้วแต่สายพันธ์ และใน 1 ดอก ก็จะมีเกสรตัวผู้ตัวเมียอยู่รวมกัน และการผสมเกสรก็จะเป็นไปอย่างธรรมชาติ ก่อนที่ดอกจะแก่จัด แล้วกลายเป็นเมล็ด เพื่อจะให้ต้นทิ้งเมล็ดร่วงลงสู่พื้น ในการที่จะดำรงเผ่าพันธ์ต่อไป

    ● ฤดูกาล ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 5 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ ถนนTrail 1 Trail 4 Trail 6 เทือกเขาอุระ ทาคาโอะ
  • ฮานาเนโก่ะ โน๊ะเม่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    ฮานาเนโก่ะ โน๊ะเม่ะ
    ฮานาเนโก่ะ โน๊ะเม่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าหิน สันเขา นาข้าว ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (ไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่เหนียว เลื้อยลำต้น ขนานกับพื้นดิน เป็นพืชที่อยู่ในป่าดงดิบ โดยมีการเจริญเติบโตตลอดทั้งปี ในพืชตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ นั้น ฮานาเนโก่ะโน๊ะเม่ะ จะเป็นพืชพรรณที่ต้นใหญ่ที่สุด และมีดอกใหญ่ที่สุด เบ่งบานออกน่าประทับใจมาก ใน1 ดอก จะมีกลีบเลี้ยงดอกประมาณ 2 - 3 กลีบ เส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 5 มิลลิเมตร มีลักษณะใบเป็นรูปพัด โค้งมน มีความยาวประมาณ 5-8 มิลลิเมตร มีสีเขียวเข้ม ขอบใบมีรอยหยักเหมือนฟันของเลื่อย

    ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนมีนาคม
    ● ความสูง ประมาณ 5-10 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายที่ 1 ถนนเฮบิทากิ , เทือกเขาอุระทาคาโอ่ะ
  • ยามาเนโก่ะ โน๊ะเม่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    ยามาเนโก่ะ โน๊ะเม่ะ
    ยามาเนโก่ะ โน๊ะเม่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ที่เต็มไปด้วยหิน สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ดอกไม้ชนิดนี้จะเบ่งบานกว่า โคชารุ เมรุ กลีบดอกมีทั้งหมด 4 กลีบ และมีเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 4 มม. มีสีเหลือง สีเขียว สีอ่อน ที่ไม่ฉูดฉาด แล้วแต่สายพันธ์ที่จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง เวลาบาน ดอกจะมีความสวยงามโดดเด่น มักจะมีการสับสนกันระหว่าง ยามาเนโก่ะโน๊ะเม่ะ กับ เนโก่ะโน๊เม่ะ ซึ่งขนาดของใบ และลักษณะของใบมีความคล้ายคลึงกันมาก ใบยาวประมาณ 1 - 3 ซม. มีลักษณะคล้ายรูปของไต หรือรูปหัวใจ ที่โคนดอกจะมีเกสรตัวผู้ตัวเมีย ที่มีแมลงเข้ามาตอม ทำให้เกิดการผสมพันธ์กันเองตามธรรมชาติ และเมื่อดอกแก่จัดเต็มที่แล้ว จะทำให้ภายในดอก เกิดเป็นเมล็ดแก่จัดมากมาย พร้อมที่จะล่วงหล่นมาบนพื้น เพื่อที่จะทำการขยายพันธ์ต่อไปในอนาคต

    ● ฤดูกาล ตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายน
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 3 Trail 6 Jyataki , Ura - ทาคาโอะ
  • ยูกิโน๊ะชิตะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    ยูกิโน๊ะชิตะ
    ยูกิโน๊ะชิตะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในบริเวณที่มีความชื้นสูง บนโขดหิน หรือใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ ใกล้ ๆ กับภูเขา เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลานานหลายปีที่จะบำรุงต้นไม้ให้เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ชื่อ ยูกิโน๊ะชิตะ แปลว่า อยู่ภายใต้หิมะสีขาว โดยไม่เหี่ยวแห้ง ยังคงเป็นสีเขียวเสมอ ต้นไม้นี้จะเจริญะเติบโตตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง ยืนยาวไปจนถึงฤดูหนาว ภายใต้หิมะที่ปกคลุม จะยังคงสภาพอยู่ได้จนถึงฤดูใบไม้ผลิในฤดูกาลหน้า
    เนื่องจากต้นมีรากหยั่งถึงพื้นที่แข็งแรง มีกิ่งก้านสาขาที่สวยงามโดดเด่ และมีผู้นิยม นำไปประดับเป็นต้นคริสมาสต์ ขนาดของใบมีความยาว 3 - 6 ซม. มีรูปคล้ายไต หรือรูปหัวใจ พื้นผิวของใบเป็นสีเขียวเข้ม และมีเส้นคล้าย ๆ เส้นเลือดอยู่ตามก้านของใบ โดยมีสีแดง สีม่วง เป็นจำนวนมาก ส่วนใบจะหนา นุ่ม สามารถนำมาปรุงแต่งอาหารได้ และสกัดเป็นยาสมุนไพรได้

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนพฤษภาคม ถึงปลายเดือนมิถุนายน
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 50 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 6 จาทากิ ,เทือกเขาโอคุ- ทาคาโอะ
  • โยโกเร๊ะ เน๊โก่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    โยโกเร๊ะ เน๊โก่ะ
    โยโกเร๊ะ เน๊โก่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ที่เต็มไปด้วยหิน สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีใบสีเขียวเข้ม สลับกับเทาที่แต่งแต้มไว้อย่างลงตัว ชื่อของ โยโกเร๊ะ เนโก่ะเม่ะ แปลความได้ว่า นัยน์ตาแมวที่สกปรก เพราะ ดอกจะดูมีละอองเกสรที่คลุกเคล้าไปด้วยฝุ่น มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 - 4 มิลลิเมตร มีกลีบเลี้ยงทั้งสิ้น 4 กลีบ ดอกมีสีแดงเข้ม มีละอองเกสรดอกไม้ทั้งตัวผู้และละอองเกสรตัวเมียในดอกเดียวกัน โดยเฉพาะเกสรตัวผู้จะมีสีแดงเข้ม ด้านในจะมีละอองเกสรตัวเมีย มีสีเหลือง ซึ่งจะมีการผสมเกสรทางธรรมชาติโดยแมลง ทำให้โคนดอกดังกล่าวเมื่อแก่จัด จะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ซึ่งจะสามารถขยายพันธ์ได้เองโดยธรรมชาติ จะมีลักษณะคล้าย ๆ กับพืชในตระกูลยูกิโน๊ะชิตาทั้งหมด คือกลีบเลี้ยงจะมีสีเขียวอมเหลือง แต่โคนดอก และละอองเกสรตัวผู้จะมีสีแดงตัดกัน ทำให้มีสีสันที่สวยงาม เป็นพิเศษกว่าพืชพรรณอื่นที่อยุ่ในตระกูลเดียวกัน

    ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนมีนาคม
    ● ความสูง ประมาณ 5-15 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนที่ 1 , 5,6 ภูเขาอินาริยามา ,เฮบิตากิ ,อุระทาคาโอ่ะ โอคุทาคาโอ่ะ
  • ต้นละหุ่ง โคลอน ตระกูล ละหุ่ง
    ต้นละหุ่ง โคลอน
    ต้นละหุ่ง โคลอน ตระกูล ละหุ่ง
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ที่เต็มไปด้วยหิน สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร ในภูเขาสูง (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ซึ่งจะมีการเริ่มเจริญะเติบโตตั้งแต่ในช่วงฤดูหนาว จนถึงปลายฤดูใบไม้ร่วงของปีถัดไป มีดอกเป็นสีขาวทั่วทั้งดอกไม่มีสีอื่นปน เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร โคนใบจะแนบขนาบกับลำต้นทั้งสองข้าง ด้านล่างของใบมีขนขึ้นบาง ๆ อ่อนนุ่มคล้ายขนก ขอบใบเป็นรูปรอยหยัก เหมือนฟันของใบเลื่อย ดอกไม้สีขาว ได้พบพืชชนิดนี้ครั้งแรกที่ ทะเลทาเดโน อุมิ แถบเมืองนิกโก่ะ จังหวัดโตชิกิ จึงได้ขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า "ต้นละหุ่ง ทาเดโน่"

    ● ประมาณ ปลายเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30-50 ซม. ความสูง
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระทาคาโอ่ะ มินามิทาคาโอะ
  • ต้นละหุ่ง มารูบะ ตระกูล ละหุ่ง
    ต้นละหุ่ง มารูบะ
    ต้นละหุ่ง มารูบะ ตระกูล ละหุ่ง
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณในที่ร่ม ไม่มีแดดจัด ป่าชื้น สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร ซึ่งต่างจากต้นละหุ่งทั่ว ๆ ไป (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ใบมีลักษณะเป็นลักษณะครึ่งวงกลม จึงเป็นที่มาของชื่อ ละหุ่งมารุบะใบของวงกลม มีความสมบูรณ์ของลำต้นมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ในบรรดาตระกูลของละหุ่ง โคนใบ 1 ชุด จะประกอบไปด้วยใบเล็ก ๆ ประมาณ 5 - 7 ใบ และผิวของใบจะขระขระ ขอบใบจะมีขอบหยัก ๆ เหมือนใบเลื่อย และโค้งมนงดงาม ดอกเป็นดอกสีขาว กลีบดอกมีประมาณ 4 กลีบ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 มม.

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 10-20 ซม.
    ● สถานที่ ภูเขาอุระ ทาคาโอ่ะ
  • ยูริ วาซาบิ ตระกูล ละหุ่ง
    ยูริ วาซาบิ
    ยูริ วาซาบิ ตระกูล ละหุ่ง
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณที่เปียกชื้นใกล้ลำธารที่มีก้อนกรวดมาก ไม่มีแดดจัด ป่าชื้น สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธารต่าง ๆ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็นดอกไม้ที่เบ่งบานในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ มีรากแก้วที่แข็งแรงหยั่งลงพื้นโคนต้นตั้งตรงตระหง่าน ใบและโคนต้นมีกลิ่นฉุน โคนดอกมีลักษณะรูปดอกคล้ายดอกลิลลี่ กิ่งจะมีลำทีโตอวบอ้วน สาเหตุที่ได้ชื่อว่า ยูริ วาซาบิ เนื่องจากว่า เป็นวาซาบิที่มีดอกเหมือนกับดอกลิลลี่ หรือจะเรียกอีกในหนึ่งคือ มะรุมญี่ปุ่น ขนาดของดอก มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ใบมีรูปคล้ายหัวใจ มีขอบใบที่หยักคล้ายฟันของใบเลื่อย มีรากเหล้าขนาดใหญ่ และมีกลิ่นฉุนมาก นำมาใช้ในการประกอบทำยาสมุนไพร และนิยมนำมาปรุงแต่งรสชาดอกหาร และนำมาประกอบอาหารอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น

    ●ฤดูกาล กลางเดือนมีนาคม ถึงปลายเดือนเมษายน
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 30 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 1 - 6, ภูเขาอินาริ จาตากิ, อุระทาคาโอ่ะ, มินามิทาคาโอ่ะ, คิตะทาคาโอ่ะ
  • คุซาโน ตระกูลฝิ่น
    คุซาโน
    คุซาโน ตระกูลฝิ่น
    สมุนไพรล้มลุก ซึ่งต้นกล้าเริ่มเจริญเติบโตตั้งแต่ในฤดูใบไม้ร่วง จนถึงปลายฤดูหนาว หลังจากนั้นจะเริ่มผลิดอกและโตเต็มที่ในฤดูกาลถัดไป) พบในบริเวณที่มีแดด ริมถนน เขตทุ่งหญ้าในภูเขา มีใบ ลำต้นสีเขียว และผลออกเป็นสีเหลือง จึงมีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "คุซาโน" ความหมาย "เทพเจ้าแห่งหญ้าสีเหลือง" แต่มีอีกหนึ่งเหตุผล ที่พืชชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง แปลตามตัวอักษรว่า "เทพเจ้าแห่งใบหญ้า" ใบและลำต้นมีสีเขียว แต่มีขนสีขาวเล็กๆ หยาบ ๆ เมื่อมองไกล ๆ ที่มองเห็นขนสีขาว ๆ ได้ชัดเจน เส้นผ่าศูนย์ดอกประมาณ 2 ถึง 3 ซม. มีสีเหลืองบานสะพรั่งสวยงาม ใบมีลักษณะที่เรียวยาว คดเคี้ยว ที่ดอกและใบจะมีกลิ่นฉุน หากเข้าใกล้ และสูดดมเข้าไป จะทำให้เกิดการอาเจียร คันตามร่างกาย หรือมีการเสพเข้าไปโดยไม่ได้ตั่งใจแล้ว จะทำให้เกิดอาการปวดท้องได้

    ●ฤดูกาล ตั้งแต่พฤษภาคม - กรกฎาคม
    ●ความสูง ประมาณ 30-80 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 1 - 4-6, ภูเขาอินาริ, อุระทาคาโอะ, คิตะทาคาโอะ
  • จิโรโบ เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น
    จิโรโบ เองโก่ะซากุ
    จิโรโบ เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น
    สมุนไพรยืนต้นที่พบในป่าทุ่งโล่ง และที่ขอบป่าในภูเขา คล้ายกับ ฝิ่นคุซาโน แต่ที่เด่นชัดจะเป็นลักษณะของดอกที่เล็กกว่า เป็นเอกลักษณ์ ตามชื่อภาษาญี่ปุ่น Jirobo-engosaku หมายถึง ไวโอลินเล็ก (ไวโอลินที่เล็กกว่าไวโอลินทั่วไป) จากความหมายชื่อพันธ์ไม้ คำว่า จิโร (แปลว่า ลูกชายคนที่สองในครอบครัว) ซึ่งจะหมายถึง มีดอกขนาดเล็กกว่าดอกไม้อื่นในตระกูลเดียวกัน จึงใช้ชื่อนี้เรียกดอกไม้ชนิดนี้ ก้านดอกจะเป็นส่วนที่ยืดออกจากลำต้น จึงมีความแข็งแรง ความยาวดอก ยาว 1.5 ซม. สีของดอกเป็นสีแดงสีม่วง ส่วนดอกสีฟ้า สีม่วงและสีขาวซ้อนด้านใน จะเป็นพันธ์ที่หาดูได้ยากมาก ลำต้นมีขนาดใหญ่ และมีรากแก้วที่แข็งแรงหยั่งลงถึงพื้นได้ลึก ใบลักษณะใบคล้ายรูปไข่ มีใบจำนวนมากคลุมรอบลำต้น

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนเมษายน
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ, คิตะ-ทาคาโอะ
  • มิยามา คิเคมัง ตระกูลฝิ่น
    มิยามา คิเคมัง
    มิยามา คิเคมัง ตระกูลฝิ่น
    สมุนไพรล้มลุก ที่มักพบบนถนนที่ปกคลุมด้วยแดดจัด บริเวณขอบป่า และแม้แต่ในพื้นที่อยู่บนนอกเขตป่า ชื่อญี่ปุ่น Miyama-ki-keman อักษรความหมายคือ ช่อดอกไม้สีเหลืองที่อยู่ในเขตภูเขา นอกจากนี้เรายังพบในพื่นที่ในพื้นราบอยู่บ้าง เป็นดอกไม้ที่มีดอกจำนวนมากในก้านดอกเดียว ซึ่งที่เป็นที่น่าสนใจมาก ในกลีบดอกทที่มีละอองเกสรสีเหลืองนี้เป็นสีเหลือง ยังมีพิษอยู่ด้วย ในเดือนเมษายน จะเริ่มมีการเจริญเติบโตของลำต้นอย่างเต็มที่ ดอกมีลักษณะคล้ายรูปริมฝีปาก ยาวประมาณ 2 ซม ดอกเริ่มแรกจะเป็นสีขาว แล้วเมื่อดอกแก่จัด โคนดอกจะเริ่มเปลี่ยนเป็นผง เปลี่ยนเป็นสีเขียว สีแดง เป็นผงละอองเนื้อนุ่ม และมีกลิ่นเหมือนยาง หลังจากดอกแก่เต็มที่จะกลายเป็นผลคล้ายลูกปัด เพื่อขยายพันธ์ต่อไป

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 20 ถึง 40 ซม.
    ●สถานที่ ถนนTrail 1 - 3 - 5 จาทากิi, เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ / โอคุ-ทาคาโอะ
  • มูราซากิ คิเคมัง ตระกูลฝิ่น
    มูราซากิ คิเคมัง
    มูราซากิ คิเคมัง ตระกูลฝิ่น
    สมุนไพรล้มลุกที่พบในพื้นป่าที่มีแดดส่องถึง ป่าโปร่ง และที่ขอบป่าในภูเขาและยังพบอยู่ในเขตเมือง ชื่อญี่ปุ่น มูราซากิ-เคมัง ถูกตั้งชื่อตามดอกไม้ที่มีลักษณะ คล้ายพวงหรีด ดอกไม้ตกแต่งในพุทธศาสนาเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีสีม่วงเหมือนชื่อ (มูราซากิ ซึ่งแปลว่าสีม่วง) ทั้งต้นและใบ ดอกจะมีลักษณะที่อ่อนนุ่ม แต่ถ้าหากได้รับการขีดข่วนจะ จะมีกลิ่นฉุนอย่างรุนแรง พืชชนิดนี้ จะเริ่มเติบโตตั้งแต่เดือนเมษายน และยาวไปจนถึงปลายฤดูหนาว ในฤดูใบไม้ผลิต้นเติบโตขึ้น และดอกจะเริ่มบาน โดยมีความยาวประมาณ 1.5 ซม. สีของดอกไม้ที่เป็นสีแดง สีม่วงและสีคล้ายกับ ยามาเอ็งโกซากุ และ จิโรโบเองโก่ะซากุ แต่พืชชนิดนี้มีร่องใบที่มีลักษณะคล้ายฟันที่ถี่กว่า โดยคล้ายกับใบของแครอท หากได้สูดดมเข้าร่างกาย หรือทานเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ อาจก่อให้เกิดการอาเจียนได้

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 20 ถึง 50 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนTrail 1 - 3 เทือกเขาอินาริ, เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ, เทือกเขามินามิ ทาคาโอะ
  • ยามา เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น
    ยามา เองโก่ะซากุ
    ยามา เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ที่เต็มไปด้วยหิน สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) และยังพบในป่าในเขตภูเขาทาคาโอะ ซึ่งเป้นพื้นที่ที่มีความชื้นสูง และตามลำธาร ดอกจะเริ่มผลิบานเต็มที่ในต้นฤดูใบไม้ผลิ ความยาวดอก 2 ซม. มีสีแดง สีม่วง สีฟ้า เมื่อดอกแก่จัดเต็มที่จะกลายเป็นสีน้ำเงินมากขึ้น พบตามภูเขาในพื้นที่ภาคเหนือ มีใบประดับกับลำต้นที่ดูสวยงาม จะห้อยเป็นตุ้ม ในใบ 1 ชุดจะประกอบด้วย 3 ใบเล็ก ก้านใบมีลักษณะยาว รูปทรงของใบเป็นเหมือนเท้าของนก และมีขนขึ้นที่หลังใบ คล้ายกับขนนก ลำต้นมีส่วนที่อยู่ใต้พื้นดิน ที่นิยมใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพร ที่เรียกว่า Engosaku เพื่อบรรเทาอาการปวดหรือเป็นตะคริว

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายน
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ●สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ, คิตะ-ทาคาโอะ
  • ยามาบูกิ โซ ตระกูลฝิ่น
    ยามาบูกิ โซ
    ยามาบูกิ โซ ตระกูลฝิ่น
    สมุนไพรยืนต้นที่พบในพื้นดินเฉอะแฉะ ในป่าลึก ในป่าดงดิบ ดอกไม้มีลักษณะที่สวยโดดเด่น เหมือนดอกหญ้าบานสะพรั่งบนภูเขา ซึ่งขณะที่ดอกไม้ชนิดนี้บานจะเป็นที่น่าสนใจมาก ชื่อภาษาญี่ปุ่น Yamabuki จึงถูกตั้งชื่อตามรูปร่างของดอกคล้าย กุหลาบป่า ยามาบูกิ ซึ่งดอกไม้นี้เองก็จะถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นดอกหญ้ายามาบูกิ อักษรความหมาย "คุสะ" แปลว่าหญ้าญี่ปุ่น เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 5 ซม. มีกลีบดอกทั้งสิ้น 4 กลีบ แต่ กุหลาบป่ายามาบูกิ มี 5 กลีบทั้งต้นและใบ ดอกจะมีลักษณะที่อ่อนนุ่ม แต่ถ้าหากได้รับการขีดข่วนจะ จะมียางไหลออกมา และมีกลิ่นฉุนอย่างรุนแรง ใบมีประมาณ 5 -7 ใบใน 1 กิ่ง รูปร่างของใบเป็นรูปไข่ และขอบใบมีรอยหยักคล้ายรูปฟัน หลังจากดอกบานเต็มที่ โคนดอกจะหลายเป็นเม็ด เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 40 เซนติเมตร
    ●สถาน ภูเขามินามิ-ทาคาโอะ
  • หญ้าอิกาลิโซ ตระกูลเบอเบอร์รี่
    หญ้าอิกาลิโซ
    หญ้าอิกาลิโซ ตระกูลเบอเบอร์รี่
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อญี่ปุ่น Ikai-Sou ตั้งชื่อตาม รูปร่างดอกไม้ที่มีลักษณะเหมือน สมอเรือ มีดอกเป็นสีแดงเข้ม สีม่วงอ่อน เส้นผ่าศูนย์กลางดอก 2 ซม. มีกลีบดอก 4 กลีบ กลางดอกมีลักษณะเดือยยาว โคนดอกมีกลุ่มเกษรตัวผู้ตัวเมียอยู่ภายใน ก้านเดือยเกสรตัวผู้ยาว 1.5-2 ซม. ใบมีความยาว 3-8 เซนติเมตร มีรูปร่างเป็นรูปไข่ ขอบใบมีลักษณะคล้ายร่องฟัน คมเลื่อยที่ขอบ มีลำต้นบางส่วนที่อยู่ใต้ดิน รากแก้วหยั่งรากจนลึก และรากแขนง รากฝอย กระจายไปไกลจากรัศมีของต้นไม้นี้ และรากนิยมไปทำการปรุงแต่งเป็นยาชูกำลัง ที่โคนดอกเมื่อแก่เต็มที่แล้ว ดอกไม้จะเริ่มเหี่ยเฉา และจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ คล้ายเมล็ดถั่ว สีขาวหรือสีขาวขุ่น ที่จะทำหน้าที่ในการขยายพันธ์ โดยใช้เมล็ดพันธ์นี้ต่อไป

    ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 40 ซม.
    ● สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • หญ้าอาสึมะ อิจิเก่ะ ตระกูล Buttercup
    หญ้าอาสึมะ อิจิเก่ะ
    หญ้าอาสึมะ อิจิเก่ะ ตระกูล Buttercup
    สมุนไพรยืนต้น ที่เจริญเติบโตบริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ป่าไม้ผลัดใบ ตามลำธาร (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต)ที่พบในป่าและทุ่งหญ้าโล่ง ในภูเขาเริ่มเจริญเติบโตในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ และเติบโตเต็มที่ในปลายฤดูหนาว เส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 3 ถึง 4 ซม. ดอกไม้มีสีขาว ชื่อภาษาญี่ปุ่นซูอิจิ หมายถึง ดอกไม้ที่มีความงามเป็นที่หนึ่ง ในพื้นที่ทางภาคตะวันออก เป็นชื่อที่ไพเราะมาก ซึ่งโดดเด่นในภูมิภาคคันโต หรือภาคตะวันออก ดอกจะะบานเพียงทีละดอกใน 1 โคนดอก ใบจะประกอบไปด้วย 3 ใบ ใน 1 โคนใบ ขนาดของใบยาวประมาณ 2 ถึง 3 ซม. มีลักษณะบาง ๆ และมีขนสั้นรอบ ๆ ซึ่งมองคล้ายกับดอกไม้ทะเลหลอก อัลทายเซีย และใบจะมีขอบหยักเหมือนฟัขของเลื่อย

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงปลายเดือนเมษายน
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 ซม.
    ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ, เทื่อเขามินามิ-ทาคาโอะ
  • Anemone nikoensis ตระกูล Buttercup
    Anemone nikoensis
    Anemone nikoensis ตระกูล Buttercup
    เช่นทุ่งหญ้าของขอบสดใสของป่าไม้และป่าพรุไปตามภูเขา (พืชที่จะปลูกในช่วงหลายปี) สถานที่ที่จะเติบโตยืนต้นมันเป็นชื้น ชื่อของ "หญ้าหนึ่งล้อ" อยู่กับความจริงที่ว่าบานหนึ่งล้อดอกไม้สีขาวขนาดใหญ่ไปข้างหน้าของก้านเดียว เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 4 เซนติเมตรมีการแสดงตน กลีบเลี้ยงสามารถมองเห็นได้ 5-6 กลีบมีการเปิด หลายคนเป็นสีขาวนอกจากนี้ยังมีนามแฝงของ "Urabeniichige" จากข้อเท็จจริงที่ว่าเหล่านั้นบางครั้งกลับเป็นสีม่วงอ่อนจะเห็น สามใบมีด้ามยาวที่แนบมาจากกลางลำต้นใบเป็นจำนวนมากตัดปรับรูปแบบที่เป็นลักษณะขรุขระ

    ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ, เทื่อเขามินามิ-ทาคาโอะ
  • หญ้าอุมาโน๊ะ อะชิ ตระกูล Buttercup
    หญ้าอุมาโน๊ะ อะชิ
    หญ้าอุมาโน๊ะ อะชิ ตระกูล Buttercup
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ญี่ปุ่นชื่อ UMANO-ashidaka หมายถึง รอยเท้าของม้า เพราะใบมีลักษณะคล้ายๆ กับเท้าของม้า แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้มีลักษณะเช่นนั้นทั้งหมด ใบมีลักษณะต่อจากก้านใบที่ยาว ซึ่ง 1 ก้านใบจะประกอบด้วยใบ 3 - 5 ใบ มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2 ซม.และดอกมีสีเหลืองบานสะพรั่ง สวยงามมาก ลำต้นและใบลำต้นมีผมเติบโตในแนวตั้ง หากได้มีการเสพเข้าไป หรือสูดดมเข้าไป แม้จะไม่ได้ตั้งใจ อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว และเป็นเหมือนยาเสพติด และมีพิษต่อร่างกายได้ รวมถึงการระคายเคืองตามผิวกาย

    ●ฤดูกาล เมษายน-พฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนTrail 5 ภูเขาอินาริ, เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • หญ้าคิคุซากิ อิชิเก่ะ ตระกูล Buttercup
    หญ้าคิคุซากิ อิชิเก่ะ
    หญ้าคิคุซากิ อิชิเก่ะ ตระกูล Buttercup
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร และพบมากในเทือกเขาทาคาโอ่ะ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) และดอกจะเริ่มบานในฤดูใบไม้ผลิ ชื่อภาษาญี่ปุ่น Kikuza-ichige หมายถึง เบญจมาศบานฉ่ำ อาจเป็นเพราะดอกไม้นี้มีลักษณะคล้ายดอกเบญจมาศ มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 3 ซม. และเบ่งบานเพียงหนึ่งครั้งก็โรย ที่กลีบดอกมีขนสั้น ๆ กลีบดอกจะเป็นกลีบเลี้ยงซ้อนกันหลายชั้น มีสีขาว สีม่วงเข้ม แต่ที่บานสะพรั่งทั่วพื้นที่โตเกียวส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว จะบานก็ต่อเมื่อได้รับแสงจากดวงอาทิตย์เท่านั้น เป็นพืชพรรณที่บอบบางมาก และเหี่ยวเฉาได้หากถูกบดบังจากต้นไม้ใหญ่ หรือมีต้นไม้ใหญ่ถมทับ จะไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ ขอบใบมีรอยหยักคล้ายร่องฟันงดงาม

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 ซม.
    ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • หญ้าโทโกกุ ซาบาโน่ ตระกูล Buttercup
    หญ้าโทโกกุ ซาบาโน่
    หญ้าโทโกกุ ซาบาโน่ ตระกูล Buttercup
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร ตามถนนหนทาง ขอบป่าตามแนวภูเขา และพบมากในเทือกเขาทาคาโอ่ะ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีการเจริญเติบโตของต้นตลอดทุกฤดูกาล ดอกจะบานและเติบโตอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีลักษณะของดอกที่คล้ายกับหางปลาซาบะ จึงถูกเรียกเป็นชื่อนี้ Tougoku - sabanoo แปลว่า หางของปลาซาบะ ซึ่งถูกพบมาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 6-8 มม. มีสีครีม มีกลีบดอกสีเหลือง ด้านในของ กลีบเลี้ยงมีลักษณะเป็นกลีบบาง ๆ หุ้มล้อมกลีบดอก ใบสีเขียว และมีกลิ่นที่ฉุนรุ่นแรง มีรากฝอย รากแขนงเป็นจำนวนมาก และมีใบงอกออกมาจากโคนต้นจากด้านล่าง ใน 1กิ่ง จะมีใบเล็กประกอบ 3-5 ใบ สลับกันไป รูปทรงของใบเป็นรูปใบเรียวโค้งยาว ขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายฟันของใบเลื่อย ดอกมักจะบานมากในช่วงฤดูร้อน

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 ซม.
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ, มินามิ-ทาคาโอะ
  • หญ้านิรินโซ ตระกูล Buttercup
    หญ้านิรินโซ
    หญ้านิรินโซ ตระกูล Buttercup
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต ในชายป่าที่มีแดดจัด ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ดอกจะบานออกมาเป็น 2 ช่อใน 1 ก้านดอก จึงได้ชื่อว่า "Nirinsou" ซึ่งแปลว่า หญ้าสองช่อ แต่ในความเป็นจริง อาจจะบานมากกว่า 2 ช่อก็มี มักจะขึ้นบริเวณที่มีความชื้นสูง อยู่ในชายป่าตามริมน้ำ จะมีความสวยงามมากที่สุดในฤดูที่ดอกบาน ขณะที่มองเห็นหญ้าชนิดนี้บานปกคลุมไปด้วยดอกไม้สีขาว มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2 ซม. และบานด้านบนของ 2 ช่อดอกใน 1 ก้านดอกไม้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับดอกไม้ทะเลพันธ์อื่น ๆ แต่มีขนาดที่เล็กกว่ามาก กลีบเลี้ยงจะมี 5 กลีบ ส่วนใหญ่แล้วกลีบดอกจะเป็นสีขาว แต่ยังมีแสงสีแดงหรือสีเขียว ปนอยู่บ้าง บางดอกจะมีกลีบเลี้ยงทั้งสิ้น 7 กลีบ

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 ซม.
    ●สถานที่ ถนน Trail 1 - 6 จากาติ, ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ, มินามิ-ทาคาโอะ, คิตะ-ทาคาโอะ
  • หญ้าฮิเมอุสุ ตระกูล Buttercup
    หญ้าฮิเมอุสุ
    หญ้าฮิเมอุสุ ตระกูล Buttercup
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต ในชายป่าที่มีแดดจัด ทุ่งหญ้า และในพื้นที่ที่มีรั้วหิน (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อภาษาญี่ปุ่น Hime-uzu หมายถึง หัวของนกมองส์ฮู้ด ถูกใช้เป็นชื่อเพราะ ใบคล้ายหัวนกมองส์ฮู้ด มีขนาดใบสั้น ดอกขณะบานเต็มที่จะมีสีแดงขนาดเล็ก และมีสีขาวอยู่บ้าง เส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 5 มม. กลีบดอกด้านในมีสีเหลือง ใบสีเขียว และมีกลิ่นที่ฉุนรุ่นแรง มีรากฝอย รากแขนงเป็นจำนวนมาก และมีใบงอกออกมาจากโคนต้นจากด้านล่าง ใน 1กิ่ง จะมีใบเล็กประกอบ 3-5 ใบ สลับกันไป รอบ ๆ ใบจะมีขนสั้น ๆ รายรอบ

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ●สถานที่ ถนนอุระ-ทาคาโอะ, ภูเขามินามิ-ทาคาโอะ
  • หญ้ามิยาม่า ฮาโคเบ่ะ ตระกูลนาเดชิโก่ะ
    หญ้ามิยาม่า ฮาโคเบ่ะ
    หญ้ามิยาม่า ฮาโคเบ่ะ ตระกูลนาเดชิโก่ะ
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร ตามถนนหนทาง ขอบป่าตามแนวภูเขา และพบมากในเทือกเขาทาคาโอ่ะ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) สายพันธุ์นี้มีขนาดลำต้นใหญ่ กว่าดอกหญ้าประเภทอื่น ดอกมีสีขา เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 1-1.5 ซม. มีลำต้น กิ่งก้านแข็งแรง และรากหยั่งลึกถึงพื้นได้ลึก จึงทำให้ลำต้นหาอาหารได้อย่างสมบูรณ์ กลีบดอกมีทั้งสิ้น 5 กลีบ ใน 1 ช่อดอก และยังมีอีกสายพันธ์หนึ่ง ที่มีกลีบดอกถึง 10 กลีบ ที่โคนดอกมีเกสรตัวผู้ตัวเมีย เพื่อผสมพันธ์กันในดอกเดียวกัน โดยเกสรตัวผู้จะมีเดียวยาวสีขาวโผล่พ้นดอกออกมาชัดเจน ใบมีรูปร่างคล้ายจอบ ยาวประมาณ 1-3.5 เซนติเมตร มีก้านใบที่ค่อนข้างยาว และใบนั้น จะปกคลุมทั่วพื้นดิน

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนมิถุนายน
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 ซม.
    ● สถานที่ ถนนอุระ-ทาคาโอะ
  • หญ้าโอบะอุมะ ซุซุคุสะ ตระกูลของ (ginger)
    หญ้าโอบะอุมะ ซุซุคุสะ
    หญ้าโอบะอุมะ ซุซุคุสะ ตระกูลของ (ginger)
    เป็นหญ้าที่เจริญเติบโตได้ในป่า ในภูเขา มักจะพบอยู่ใกล้ ๆ กับ หญ้ามิยาม่า ฮาโคเบ่ะ ลักษณะของดอกคล้ายกับหางม้าขนาดใหญ่ หรือมองคล้าย ๆ กับแซ็กโซโฟน มีผลรูปร่างคล้าย กับ ดอกที่เป็นรูปหางม้าขนาดใหญ่ จึงมีชื่อว่า Obano suzukusa หมายถึง หางม้าขนาดใหญ่ ดอกไม้มีสีเหลือง ไม่มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงท่อ แต่มีกลีบในแถบสีม่วง ใบกว้าง 8-15 ซม. คล้ายรูปหัวใจ หนาและมีสีขาวด้านหลังของใบ มีขนทั้งสองด้าน แต่มีพิษอยู่บ้างเพื่อป้องกันหนอนเข้ามาจิกกินใบ ในฤดูใบไม้ร่วงผลไม้จะเริ่มสุกเป็นสีดำ และมีเมล็ดภายใน เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนพฤษภาคม ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง เท่ากับต้นวายน์
    ●สถานที่ เทือกเขาคิตะ-ทาคาโอะ
  • หญ้าอามาโนกัง อาโออิ ตระกูลของ (ginger)
    หญ้าอามาโนกัง อาโออิ
    หญ้าอามาโนกัง อาโออิ ตระกูลของ (ginger)
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต ในชายป่า เนินเขา ทุ่งหญ้าทั่วไป (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อภาษาญี่ปุ่น Tamano-Kan-aoi เนื่องจากได้พบเป็นครั้งแรกที่เนินเขา คังอาโออิ บนเทือกเขาทาคาโอ่ะ และภูมิภาคด้านทิศตะวันตกของประเทศ มีลักษณะใบที่หนา สีดำมัน ใบมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ ยาวประมาณ 5 ถึง 10 ซม. ก้านใบมีลักษณะยาว ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ซม. มีลำต้นไม่สูงมากนัก เนื่องจากลำต้นบางส่วนได้อยู่ใต้ผิวดิน ดอกไม้ และใบบางส่วนจึงดูเหมือนจะเป็นพืชที่ปลูกคลุมพื้นดินไว้ เป็นลักษณะเหมือนต้นดอกหญ้าบนพื้นดิน

    ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 10 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ทั่วไป
  • ฟุตาบะ อาโออิ ตระกูลของ (ginger)
    ฟุตาบะ อาโออิ
    ฟุตาบะ อาโออิ ตระกูลของ (ginger)
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ลำต้นเติบโตไปตามพื้นดิน มีใบสองใบคู่ ตามชื่อเรียก "ฟุตาบะ" แปลว่า 2 ใบ ที่มีรูปร่างคล้ายรูปหัวใจ ก้านใบมีลักษณะเรียวยาวจากลำต้น เป็นต้นไม้ที่ใช้ประกับในศาลเจ้าโชกุนโทคุกาว่า รวมถึงยังมีการใช้ในงานเทศกาล คาโมอาโออิ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่ง Kamo-aoi ใบมีความยาว 4-8 ซม. และมีขนสั้นสีขาวทั้งสองด้าน ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 ซม. และมีรูปร่างคล้ายรูประฆัง กลีบดอกมีอยู่น้อยมาก มีเพียงกลีบเลี้ยงซึ่งจะมีลักษณะเป็นแนวโค้งห่อหุ้มดอกเอาไว้ สีของดอกเป็นสีน้ำตาล สีม่วง โดยมีสีขาวด้านนอก ดอกจะไม่ค่อยเด่นชัดมาก เนื่องจากมีใบหนาปกคลุม

    ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 8 ถึง 15 ซม.
    ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • อุวะบามิโซ ตระกูลตำแย
    อุวะบามิโซ
    อุวะบามิโซ ตระกูลตำแย
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในป่าดิบชื้น ในป่าที่ไม่มีแดดส่องถึง พบตามริมลำธาร ที่มีความชุ่มเย็น ตามริมถนน และบริเวณตีนเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อภาษาญี่ปุ่น Uwabami แปลว่างูยักษ์ งูขนาดใหญ่จึงหมายถึง พืชอันเป็นที่อาศัยของงูยักษ์ นอกจากนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งคือ Mizu หรือ Mizuna แปลว่า พืชน้ำ ซึ่งพืชชนิดนี้จะอยู่ใกล้ริมธาร และต้องการความชื้นสูง ใบมีสีแดง มีความยาว 4-10 ซม. เป็นรูปร่างคล้ายไข่ และมีขอบใบหยักรูปร่างคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีขนทั้งสองด้าน ดอกไม้มีขนาดเล็ก ๆ เป็นกลุ่ม เป็นก้านดอก ที่บานออกจากก้านใบ บานดอกไม้เล็ก ๆ บานเต็มที่ในฤดูใบไม้ร่วง

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนมิถุนายน
    ●ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสาย 1 สาย 3 สาย 4 และสาย 6 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • คาเตนโซ ตระกูลตำแย
    คาเตนโซ
    คาเตนโซ ตระกูลตำแย
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในป่าดิบชื้น บริเวณตีนเขา พบเห็นเป็นพืชคลุมดิน ที่อยู่ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ ๆ บนภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ดอกไม้สีม่วงขนาดเล็ก เริ่มผลิบ้านตั้งแต่ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ แต่เนื่องจากดอกมีขนาดเล็กเกินไปที่จะสังเกตเห็นได้ชัดเจน ซึ่งต้องเข้าไปดูใกล้ๆ เท่านั้น ภายในโคนดอก จะมีละอองเกสรอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แมลงเป็นผู้ผสมเกสรให้ รวมถึงลมที่พัดตามหลักธรรมชาติ ซึ่งใน 1 ดอก จะมีละอองเกสรดอกไม้ทั้งเกสรตัวผู้เกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน ใบมีความยาวประมาณ 3 ซม. รูปสามเหลี่ยมคล้ายรูปไข่ ขอบใบมีรอยหยักคล้ายฟันของใบเลื่อย และพื้นผิวมันวาวดูสวยงาม

    ●ฤดูกาล มีนาคม-เมษายน
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 30 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสาย 1 สาย 3 สาย 4 และ 6 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ฮิโตริ ชิสุกะ ตระกูลดอกหญ้า
    ฮิโตริ ชิสุกะ
    ฮิโตริ ชิสุกะ ตระกูลดอกหญ้า
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในป่าลึก ชายป่า ทุ่งหญ้า (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีก้านที่แข็งแรง 1 ก้านจะประกอบด้วยใบ 4 ใบ มีดอกสีขาว ชือที่เรียกว่า ฮิโตริ ชิสุกะ (Chloranthus japonicus) แปลว่า "คน 1 คนที่ดูสงบเงียบ" ซึ่งหมายถึง ลักษณะสง่างามของลำต้นและโคนดอกที่มีความแข็งแกร่ง ยืนหยัดด้วยลำต้นเดียว ที่ถูกเปรียบเทียบจาก นางสนมราชสำนักในอดีตชื่อ Shizukagozen (นางสนมผู้เลอโฉมในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ระหว่างศตวรรษที่ 12) ช่อดอกมีความยาวประมาณ 3 ซม. ลักษณะของจ่ย กิ่ง ใบจะะมียางสีขาว ใช้นำมาปรุงแต่งเป็นยาได้ ในช่อดอกจะประกอบไปด้วย เกสรตัวผู้ ตัวเมียในดอกเดียวกัน โคนดอกจะไม่มีกลีบนอก หรือ ไม่มี่กลีบเลี้ยง ดอกมีสีขาว และเมื่อดอกเจริญเติบโตเต็มที่จะเริ่มมีสีเขียวเข้มเข้ามาประปราย ขอบใบมีรอยหยักคล้ายขอบฟันของใบเลื่อย และเมื่อดอกแก่จัด ภายในดอกจะมีเมล็ดแก่อยู่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ .3-3 มิลลิเมตร เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ●ฤดูกลาล ต้นเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 ซม.
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระ - ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ- ทาคาโอะ
  • ฟุตาริ ชิสุกะ ตระกูลดอกหญ้า
    ฟุตาริ ชิสุกะ
    ฟุตาริ ชิสุกะ ตระกูลดอกหญ้า
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในป่าลึก ชายป่า ทุ่งหญ้า ที่ชุ่มชื้น รวมถึงริมแหล่งลำธารต่าง ๆ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต)
    ใน 1 กิ่งจะมี 2 ช่อดอก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ได้ชื่อนี้ ฟุตาริ ชิสุกะ (Chloranthus serratus) แปลว่า ดอกไม้ 2 ช่อที่ดูสงบเงียบ มีก้านที่แข็งแรง 1 ก้านจะประกอบด้วยใบ 4 ใบ มีดอกสีขาว 2 ดอกคู่ใน 1 ก้าน หากส่วนบนของก้านขยายตัวได้เต็มที่ เดิมดอกสีขาวที่มีขนาดเล็ก จะขยายตัวใหญ่ขึ้น ดอกจะมีความยาวประมาณ 2 - 5 ซม. ในโคนดอกจะประกอบด้วยละอองเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน จะมีการผสมเกสรตามธรรมชาติ ไม่มีกลีบดอก หรือกลีบเลี้ยง มีลักษณะดอกที่แตกต่างจาก ฮิโตริ ชิสุกะ นิดหน่อย ลักษณะของเกสรตัวผู้จะเป็นคล้ายถั่วงอกที่ชูตัวสูงขึ้น อยู่กลางของดอก ส่วนเกสรตัวเมียจะมีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าว ครอบคลุมรอบ ๆ โคนดอกทั้งหมด ลักษณะใบจะเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 8 ถึง 16 มม.ไม่เงางาม ขอบใบจะมีลักษณะเป็นรอยหยัก คล้ายร่องฟันคม ๆ ของใบเลื่อย ดอกไม้จะเริ่มมีการผสมเกสร ตั้งแต่ในช่วงฤดูร้อน ถึงฤดูใบไม้ร่วง

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนพฤษภาคม ถึงประมาณปลายเดือนมิถุนายน
    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาTrail 3 เทือกเขาอุระ- ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • เอบิเน่ ตระกูลกล้วยไม้
    เอบิเน่
    เอบิเน่ ตระกูลกล้วยไม้
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในชายป่า ทุ่งหญ้า ป่าไผ่ที่มีความชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีกลุ่มดอกใน 1 โคนดอก ประกอบด้วยดอกเล็ก ๆ ประมาณ 10-20 ก้านใบมีความแข็งแรง ใบเป็นใบแนวยาวเส้นตรงวางขวางกับลำต้น ปัจจุบันเริ่มมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการ ลักลอบขุด และตัดทำลายป่า ชื่อเรียก เอบิเน่ (Calanthe) แปลว่า หนวดกุ้ง ซึ่งมีกลีบดอก แลลักษณะลำต้นคล้ายกับหนวดกุ้ง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ถึง 3 ซม. กลีบดอกมีทั้งสิ้น 3 กลีบ และมีกลีบเลี้ยงอยู่ 3 กลีบ กลีบดอกที่อยู่ด้านล่าง จะถูกแบ่งออกเป็น 2 - 3 สีที่แตกต่างกัน มักจะมีดอกในโทนสีสีแดงอ่อน หรือสีขาว กลีบดอกและกลีบเลี้ยง จะมีสีน้ำตาล สีมะกอก ใบมีรูปทรงเป็นรูปไข่ ยาว ประมาณ 10 ถึง 30 ซม. ใบกว้าง 5-8 ซม. มีจำนวนใบที่โคนกิ่งประมาณ 3 ถึง 5 ใบ มีโคนต้นที่แข็งแรง รากหยั่งลึก ทำให้ต้นมีการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อผ่านเข้าฤดูหนาว จะมีการสลัดใบ ใบที่แก่แล้วจะเหี่ยวเฉาร่วงลง และมีใบใหม่ขึ้นมาทดแทนในไม่ช้า

    ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 40 เซนติเมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง) ตระกูลกล้วยไม้
    คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง)
    คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง) ตระกูลกล้วยไม้
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบ ที่มีแดดส่องถึง บริเวณตีนเขา เนินเขา พบเห็นเป็นพืชคลุมดิน ที่อยู่ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ ๆ บนภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็นพรรณไม้ที่พบน้อยมาก และหาดูได้ยากมากเราสามารถพบเห็นได้เพียงในเทือกเขาทาคาโอะเท่านั้น มีดอกสีเหลืองสด และนี่คือเหตุผลจะถูกตั้งชื่อ คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง)' Cephalanthera falcata . มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกไม้ประมาณ 1-1.5 ซม. มีจำนวนดอกบาน 3 ถึง 12 ดอก ต่อ 1 โคนดอก ด้านบนของก้านบิดโค้งขึ้นไป ดอกจะไม่บานทั้งหมดในช่วงเช้า แต่จะรอให้พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะเริ่มคลี่ปลายขลิบดอกออกมาเป็นสีเหลืองทองเรื่อ ๆ งดงาม กลีบดอกและกลีบเลี้ยง จะมีสีเดียวกัน ที่โคนราก จะมีประมาณ 5 - 7 กมร 1 โคนราก มีสีน้ำตาลเข้ม ใบมีลักษณะเหมือนหญ้าไม้ไผ่ ยาวประมาณ 8 ถึง 15 ซม กว้างประมาณ 2 - 4.5 ซม. ใบ มีโคนต้นที่แข็งแรง รากหยั่งลึก ทำให้ต้นมีการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อผ่านเข้าฤดูหนาว จะมีการสลัดใบ ใบที่แก่แล้วจะเหี่ยวเฉาร่วงลง และมีใบใหม่ขึ้นมาทดแทนในไม่ช้า

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • กิมลัง (กล้วยไม้สีเงิน) ตระกูลกล้วยไม้
    กิมลัง   (กล้วยไม้สีเงิน)
    กิมลัง (กล้วยไม้สีเงิน) ตระกูลกล้วยไม้
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบ ที่มีแดดส่องถึง บริเวณตีนเขา เนินเขา พบเห็นเป็นพืชคลุมดิน ที่อยู่ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ ๆ บนภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็นสายพันธุ์ที่หายาก แม้แต่ในเทือกเขาทาคาโอ่ะ ก็ยังไม่สามารถพบเห็นได้ มีลักษณะโคนต้น ใบ ดอกคล้ายๆ กับ คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง) มาก แต่ดอกจะเป็นสีขาวขุ่น คล้ายสีเงิน ซึ่งไม่เป็นสีเหลืองเหมือนกล้วยไม้สีทอง จากสีของดอกที่เป็นสีเงิน กิมลัง (กล้วยไม้สีเงิน) Cephalanthera erecta มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 1.5 - 2 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้วยดอกประมาณ 5 ถึง 10 ดอก ด้านบนของก้านบิดโค้งขึ้นไป ดอกจะไม่บานทั้งหมดในช่วงเช้า แต่จะรอให้พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะเริ่มคลี่ปลายขลิบดอกออกมาเป็นสีเหลืองทองเรื่อ ๆ งดงาม กลีบดอกและกลีบเลี้ยง จะมีสีเดียวกัน กลีบดอกและกลีบเลี้ยงจะมี 3 กลีบหลักและมีสีเหลือง ใบมีลักษณะเหมือนหญ้าไม้ไผ่ ยาวประมาณ 3-8 ซม.กว้าง 1-2.5 ซม.5-6 ใบ มีโคนต้นที่แข็งแรง รากหยั่งลึก ทำให้ต้นมีการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อผ่านเข้าฤดูหนาว จะมีการสลัดใบ ใบที่แก่แล้วจะเหี่ยวเฉาร่วงลง และมีใบใหม่ขึ้นมาทดแทนในไม่ช้า

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 30 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสายหลัก ๆ
  • ชุนลัง (Noble Orchid) ตระกูลกล้วยไม้
    ชุนลัง (Noble Orchid)
    ชุนลัง (Noble Orchid) ตระกูลกล้วยไม้
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบแห้งแล้ง ที่มีแดดส่องถึง บริเวณตีนเขา เนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ยังเป็นหนึ่งในพรรณไม้ กล้วยไม้ที่หาได้ยากที่สุดพรรณหนึ่ง ที่พบในเทือกเขาทาคาโอ่ะ ก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จากชื่อที่ใช้เรียก ชุนลัง แปลว่า กล้วยไม้ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ หรือกล้วยไม้ชาววัง (Noble Orchid) แสดงให้เห็นว่า เป็นกล้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุด จะบานเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 3 - 3.5 ซม. และมักจะบานสะพรั่งที่ด้านบนของก้านดอก กลีบเลี้ยงและกลีบดอก เป็นสีเหลือง สีเขียว กลีบดอกไม้ด้านนอกจะเป็นสีแดงเลือด สีแดงฝาด ๆ คล้ายจุดดำ ๆ แดงบนใบหน้า และจึงเป็นที่มาของอีกชื่อหนึ่งคือ 'ตุ่นเข้ม' หรือ 'จีจี้ (คุณตาคุณยาย) ซึ่งหมายถึงกล้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุด มีใบที่หนา ยาวประมาณ 20 ถึง 35 ซม.กว้างประมาณ 0.6 - 1 ซม. ขอบใบมีลักษณะคมเหมือน ร่องฟัน หรือฟันของใบเลื่อย ใบสีเขียวเข้ม มีการแตกหน่อจากรากตลอดทั้งปี มีการเจริญเติบโตไม่เว้นแม้ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงปลายเดือนเมษายน
    ● ความสูง ประมาณ 15-25 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 5 ภูเขาอินาริ , เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ-ทาคาโอะ
  • กล้วยไม้สกุลหวาย ตระกูลกล้วยไม้
    กล้วยไม้สกุลหวาย
    กล้วยไม้สกุลหวาย ตระกูลกล้วยไม้
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบแห้งแล้ง บนโขดหิน บริเวณตีนเขา เนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เติบโตอยู่กับต้นไม้ขนาดใหญ่ มักจะพบในเทือกเขา ทาคาโอ่ะ มีดอกที่สวยงาม คงทน ใบมีลักษณะเป็นใบหนา ๆ ตรงๆ และโอบอุ้มลำต้น และโคนดอกไว้ จะมีช่อดอกยาว ๆ ที่แยกออกมาหลังจากใบที่ 2 -3 นับจากใบบนลงมา ดอกไม้มีความยาวประมาณ 3 ถึง 4 ซม. มีสีขาว สีชมพูอ่อน มีกลิ่นหอม กลีบดอกสั้น ภายในต่อมที่รากยาว 3 ถึง 5 ซม. รากมีอายุประมาณ 2 - 3 ปี หลังจากนั้นเมื่อรากแก่ลง จะเหี่ยวและมีรากใหม่ขึ้นมาทดแทน ชื่อภาษาญี่ปุ่น คือ " sekoku " เป็นชือในงานวรรณกรรม ที่ได้กล่าวถึงกล้วยไม้ชนิดนี้อยู่ในนั้นด้วย ซึงได้นำกล้วยไม้พันธ์นี้ มาปรุงเป็นยา เป็นยาสมุนไพรจีน ใช้รักษาการอักเสบ และเป็นยาชูกำลัง

    ● ฤดูกาล กลางเดือนพฤษภาคม ถึงปลายเดือนมิถุนายน
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 30 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 6
  • ดอกไอริส ตระกูลดอกไม้เมืองหนาว
    ดอกไอริส
    ดอกไอริส ตระกูลดอกไม้เมืองหนาว
    เป็นพรรณไม้ป่าดงดิบ ยืนต้น ที่เติบโตบริเวณตีนเขา เนินเขา บนเชิงดอย ยอดดอย แล้วยังพบตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ริมธาร (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เติบโตโดยการขยายเหง้า เพราะไม่สามารถที่จะขยายพันธ์ได้จากเมล็ดพันธุ์ มักจะปลูกเป็นกำแพงบนฝั่งแม่น้ำ ขนาดของดอก มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 4 ถึง 6 ซม. บานในตอนเช้าและเหี่ยวเฉาในช่วงบ่าย บนขอบใบมีรอยหยักสวยงาม และมีสีประกายแสงสีม่วง และสีส้ม กลีบด้านนอกมีสีสันสวยงาม เมือถึงฤดูกาลที่บานเต็มที่ จะมีความสวยงามมากในป่า และจะมีความโดดเด่นอย่างมาก มักจะพบในเทือกเขาทาคาโอะ ใบเป็นรูปดาบยาว 30 ถึง 60 ซม. พื้นผิวมันวาวและสีเขียวสดใส

    ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 50-60 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6, เทือกเขาอินาริ , จากาติ, อุระ-ทาคาโอะ Iroha, โอคุ-ทาคาโอะ
  • อาม่ะ โดโคโร่ะ ตระกูลลิลลี่
    อาม่ะ โดโคโร่ะ
    อาม่ะ โดโคโร่ะ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพรรณไม้ป่าดงดิบ ยืนต้น ที่เติบโตบริเวณตีนเขา เนินเขา บนเชิงดอย ยอดดอยแล้วยังพบตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ริมธาร (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ลำต้นบางส่วนอยู่ใต้ดิน ซึ่งทั้งลำต้นและใบนั้นสามารถนำมาปรุงอาหาร รับประทานได้ และมีรสชาติหวานอร่อย และก็เป็นที่มาของชื่อที่ใช้เรียก อามะโดโคโร่ะ ซึ่ง แปลว่า (ไม่ว่าตรงไหน ก็หวาน) ซึ่งเป็นพืชพรรณในตระกูลยูริ ที่โดดเด่นที่สุด ใบยาวประมาณ 5 ถึง 10 ซม. กว้างประมาณ 2 - 5 ซม. รูปวงรี และด้านหลังของใบ มีลักษณะมันวาว เป็นสีขาวเหมือนแป้งเคลือบ
    กลีบดอกไม้กว้างประมาณ 1.5 - 2 ซม. กลีบดอกไม้จะถูกแต่งแต้มด้วยสีเหลือง สีเขียว งดงาม ปลายใบจะรีดเรียวยาว และจะงอกออกมาเป็น ถั่วงอก สามารถนำถั่วงอก มาปรุงอาหารจำพวก เทมปุระ และใบ ก็สามารถนำไปรับประทานได้ กรุบกรอบ และหวาน น่ากิน ลำต้นส่วนที่อยู่ใต้ดิน เมื่อโคนรากแห้งแล้ว จะสามารถนำไปปรุง เป็นยาชูกำลัง ได้

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนพฤษภาคม ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 4 จากาติ , เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ- ทาคาโอะ
  • เอนเรโซ่ ตระกูลลิลลี่
    เอนเรโซ่
    เอนเรโซ่ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบที่ชุ่มชื้น บริเวณตีนเขา เนินเขา ที่อยู่ริมลำธาร ที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) สิ่งที่ดูแล้วน่าประทับใจ ก็คือว่าใบมีขนาดใหญ่ มีกิ่งก้านที่แข็งแรง ก้านเป็นลำตรง ใบจะสวมคลุมทั้งต้น ดูสวยงามจาก ถึงฤดูกาล ดอกจะบานสะพรั่ง ดอกเหมือนถูกผลักออกจากใจกลางของลำต้นและกิ่ง ดอกไม้สีแตกต่างกันไป อาทิ สีเขียว สี ชา สีดำ และอีกมากมาย ส่วนดอกสีเขียว จะพบมากที่เทือกเขาทาคาโอะ ซึ่งพรรณสีเขียว จะไม่มีกลีบดอก ยาวประมาณ 1.5 ซม. กว้าง 2 ซม. ใบมีรูปไข่ ขอบใบมีลักษณะคม ยาวประมาณ 10 ถึง 15 ซม. และใน 1 กิ่งจะประกอบไปด้วย 3 ใบ ชาวจีนมักจะนำราก ใบ กิ่งของพืชชนิดนี้ ไปอบแห้ง แล้วนำไปเป็นยาสมนไพร โดยมีตัวยาสมุนไพรจีน ที่ชื่อว่า ' apetalon Trillium ( Enrenkonsou ) อาจกล่าวได้ว่า ทุกส่วนของพืชนี้ มีสารพิษอ่อน ๆ ปนอยู่ หากสัมผัสโดยตรง ที่ไม่ได้ตั้งใจ อาจทำให้เกิดการระคายเคือง อาเจียน อย่างเฉียบพลันได้

    ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 40 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • คาตะ คูริ ตระกูลลิลลี่
    คาตะ คูริ
    คาตะ คูริ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบแห้งแล้ง ป่าที่มี่แดดจัด ป่าแดดผลัดใบ บริเวณตีนเขา เนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) พบมากทางตอนใต้ของเทือกเขาทาคาโอะ คาตะ ยูริ (Erythronium japonicum)เติบโตขึ้นมาในป่า มีการขยายพันธ์โดยการแตกหน่อ เช่นเดียวกับพืชพรรณในตระกูลเดียวกัน และมีดอกบาน รวมถึงเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นปรกติของพืชพรรณที่อยู่ในตระกูลหญ้าภูเขา รูปร่างของใบเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 6-12 ซม. ใบจะหนาและอ่อนนุ่ม และมักจะเป็นสีม่วง ดอกมีสีแดง มี 6 กลีบดอก ยาวประมาณ 4 - 5 ซม. ชื่อ'คาตะ คูริ Erythronium japonicum มาจาก วรรณกรรมเรือง Katakagono ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่มีชื่อสียง และทำให้ทุกคนต้องรูจัก คาตะ ยูระ ตั้งแต่ในศตวรรษที่ 8 เป็นต้นมา ลำต้นที่อยู่ใต้ดิน จะให้แป้งมาก ซึ่งสามารถนำไปทำ มันฝรั่งได้

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ เทือกเขามินามิ- ทาคาโอะ , คิตะ- ทาคาโอะ
  • คิบานะ โน๊ะอามะนะ ตระกูลลิลลี่
    คิบานะ โน๊ะอามะนะ
    คิบานะ โน๊ะอามะนะ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบแห้งแล้ง ป่าที่มี่แดดจัด ป่าที่ชุ่มชื้น ใกล้ริมลำธาร รวมถึงบริเวณเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) คิบานะ โน๊ะอามะนะ ( Gagea lutea) มีดอกสีเหลือง เหมือน คาตะยูริ ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกัน เหตุผลที่ได้รับการตั้งชื่อนี้ เป็นเพราะ มีต้นที่สง่างาม และมีใบหนาที่สุด มีจำนวนก้านดอกมากที่สุด เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2-2.5 ซม. มี กลีบดอก 6 กลีบ ภายในกลีบดอก เป็นสีเหลืองและด้านนอกจะเป็นเพียงสีเขียว มันวาว ด้านล่างดอกไม้ จะมีกาบขนาดเล็กสีเขียว ในโคนดอกมีละอองเกสรตัวผู้ตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน กลีบดอกด้านในประมาณ 1-5 ซม. ออกดอกเฉพาะเวลาที่ถูกแสงอาทิตย์ ในวันที่เมฆครึ้ม หรือฝนตก ดอกจะไม่บาน โคนต้นจะยาวประมาณ 15 ถึง 20 ซม. ก้านดอกหนา มีสีเขียว สีขาวประปรายสวยงาม เมล็ดมีความยาวประมาณ 7 ซม. เมื่อดอกแก่จัดแล้ว จะเหี่ยวแห้งลง เมล็ดภายในดอกจะร่วงหล่น พร้อมที่จะขยายพันธ์ในโอกาสต่อไป

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายน
    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • ชิโก่ะยูริ ตระกูลลิลลี่
    ชิโก่ะยูริ
    ชิโก่ะยูริ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบที่ชุ่มชื้น ป่าทีมีแดดส่องถึง บริเวณเนินเขา ที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีการขยายลำต้นอยู่ใต้ดิน มีดอกสีขาวบานสะพรั่ง 1 โคนดอกจะประกอบไปด้วย ดอกประมาณ 3 ดอก มีก้านแยกออก ลักษณะของดอกไม้ขณะบาน จะเป็นดอกไม้ขนาดเล็ก โค้งๆ คล้ายเด็กทารกนอนขดตัวในท้องแม่ จึงได้ชื่อดังกล่าวเป็นชื่อเรียก ชิโก่ะยูริ แปลว่า ดอกยูริกับเด็กทารกทั้ง 4 ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. กลีบดอกมี 6 กลีบ ใบเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 4 ถึง 7 ซม. เป็นใบไม้ที่บางๆ มันวาว มีลักษณะเหมือนใบหญ้า ไม้ไผ่ หลังจาก ดอกไม้แก่จัด จะเหี่ยวเฉา และภายในโคนดอก จะมีเมล็ดกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. จะกลายเป็นเมล็ดสีดำ ทำหน้าที่เป็นเมล็ดพันธุ์ ในการเพาะพันธ์ต่อไป. ทั้งชิโก่ะยูริ และ คิบานะ โน๊ะอามะนะ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1984 ที่ เทือกเขาทาคาโอะ

    ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 30 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , เทือกเขาอินาริ , จากาติ , อิโรฮ่ะ , อุระทาคาโอ่ะ, อุระทาคาโอ่ะ, คิตา- ทาคาโอะ
  • นารูโก่ะ ยูริ ตระกูลลิลลี่
    นารูโก่ะ ยูริ
    นารูโก่ะ ยูริ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพืชพรรณไม้ยืนต้น ที่ติบโตในป่าแดด ทุ่งหญ้า และริมถนน (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) จากลำต้นมีลักษณะโค้ง เหมือนคันธนู มีดอกไม้สีขาวเหมือนท่อร้อย ทิวทัศน์ที่มีความคล้ายคลึงกับ ' Naruko ' จึงเป็นที่มาของชื่อพืชพรรณตระกูลยูริ ที่ชื่อ นารูโก่ะ ยูริ ใน 1 ก้านดอก จะประกอบด้วยดอกไม้สีขาว ประมาณ 3 - 5 ดอก ความยาวของดอกประมาณ 2 ซม. และปลายของดอกเป็นสีเขียวเข้ม ใบมีความยาว ประมาณ 8 ถึง 15 ซม. กว้าง 1 - 2.5 ซม. มีลักษณะเหมือนหญ้า ไม้ไผ่ ค่อนข้างยาวและแคบ ติบโตขึ้นสลับ กับ ก้านที่มีสีขาว เมล็ดมีความยาวประมาณ 7 ซม. เมื่อดอกแก่จัดแล้ว จะเหี่ยวแห้งลง เมล็ดภายในดอกจะร่วงหล่น พร้อมที่จะขยายพันธ์ในโอกาสต่อไป

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนพฤษภาคม ถึงต้นเดือนมิถุนายน
    ● ความสูง ประมาณ 50-70 เซนติเมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ- ทาคาโอะ
  • โฮชากุโซ ตระกูลลิลลี่
    โฮชากุโซ
    โฮชากุโซ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบที่ชุ่มชื้น ป่าทีมีแดดส่องถึง อยู่ใกล้กับริมธารที่มีความชุ่มชื้น บริเวณเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นบางส่วนที่อยู่ใต้ดิน มีดอกที่งดงาม และใน 1 โคนดอกจะประกอบด้วยดอกประมาณ 2 - 3 ดอก ดอกจะมีลักษณะบานสะพรั่ง และห้อยหัวลงมาคล้ายแตร หรือระฆังคว่ำ ขนาดใหญ่ จากชื่อ (HOU - Chaku - SO ) คือระฆังขนาดใหญ่ ที่ปรากฏในวัด ศาลเจ้าของญี่ปุ่น ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับดอกของโฮชากุโซ จึงนำมาใช้เป็นชื่อ กลีบดอกประกอบด้วย 6 กลีบ ดอกจะมีท่อยาว ประมาณ 2 ถึง 3 ซม. สีขาว แต่งแต้มด้วยสีเขียวอ่อน รูปทรงของใบเป็นเป็นรูปไข่ และยาวประมาณ 5 ถึง 15 ซม. รูปไข่กว้าง 1.5-4 ซม. พื้นผิวเป็นเงาเล็กน้อย หลังจากดอกไม้แก่จัด จะเหี่ยวเฉาลง เมล็ดแก่จะมีสีดำที่อยู่ตรงกลางโคนดอก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีลักษณะโค้งมน และจะทำหน้าที่เป็นเมล็ดพันธ์เพื่อขยายพันธ์ต่อไป ทั้งชิโก่ะยูริ และ คิบานะ โน๊ะอามะนะ ถูกค้นพบครั้งแรกในที่ ภูเขาจิงบ่ะ ในเทือกเขาอินาริยามา ในปี 1977

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , เทือกเขาอินาริ , จากาติ , อุระ-ทาคาโอะ
  • มิยามา เอนเรโซ ตระกูลลิลลี่
    มิยามา เอนเรโซ
    มิยามา เอนเรโซ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบที่ชุ่มชื้น ป่าทีมีแดดส่องถึง อยู่ใกล้กับริมธารที่มีความชุ่มชื้น บริเวณเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีดอกขนาดใหญ่กว่าดอกไม้ชนิดอื่นที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน เหตุที่ใช้ชื่อ มิยามา เอนเรโซ เนื่องจาก ได้ค้นพบครั้งแรกในพื้นที่ภูเขา( Miyama ) . นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกชื่ออื่น คือ ชิโรบาน่ะ เอนเรโซ (Trillium tschonoskii Maxim) แปลว่าดอกยูริสีขาว เพราะเนื่องจากดอกนี้เป็นดอกสีขาว ขนาดใหญ่ และมีความโดดเด่นอย่างมาก ต่างจากดอกนารูโก่ะ ยูริอย่างมาก ดอกมีความยาวประมาณ 2-2.5 ซม. ยาว กลีบของดอกจะเป็นสีแดง สีม่วง สีอ่อน ๆ ใบมีรูปวงรีคล้ายรูปไข่ ยาวประมาณ 10 ถึง 15 ซม. เมื่อดอกแก่จัดแล้ว จะเหี่ยวแห้งลง เมล็ดภายในดอกจะร่วงหล่น พร้อมที่จะขยายพันธ์ในโอกาสต่อไป

    ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 40 ซม.
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • มิยามา นารูโก่ะยูริ ตระกูลลิลลี่
    มิยามา นารูโก่ะยูริ
    มิยามา นารูโก่ะยูริ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบที่ชุ่มชื้น ป่าทีมีแดดส่องถึง บริเวณเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มิยามา นารูโก่ะยูริ ส่วนหนึ่งของชื่อหมายความว่า ลึกลงไปใน ภูเขา Miyama ซึ่งหมายถึงได้ถูกพบครั้งแรกในเทือกเขามิยามา และมีลักษณะของลำต้นและดอกคล้าย ๆ กับ โนรูโก่ะยูริ อีกด้วย ใบยาว ประมาณ 6 - 11 ซม. , รูปวงรี กว้างประมาณ 3 - 4.5 ซม. มีลักษณะใบค่อนข้างหนาและหนัก หลังของใบจะเป็นสีขาว เหมือนแป้งเคลือบ . ดอกยาวประมาณ 1.7-2 ซม. กลีบดอกเป็นคล้าย ๆ หลอดสีขาว และปลายของกลีบดอกไม้ถูกแต่งแต้มด้วยสีเขียวอ่อน พืชพรรณนี้จะโดดเด่นด้วย ก้านเกสรดอกไม้ตัวผู้จะมีลักษณะโค้งงอนเหมือนลูกศร เกสรตัวเมียจะมีลักษณะอยู่รวมกันกลางดอกมีสีขาว ขยายพันธ์โดยใช้เมล็ดแก่จากโคนดอก และการแตกหน่อ ใน 1 โคนดอก จะประกอบด้วยดอกประมาณ 1 ถึง 3 ดอก หลังจาก ดอกไม้ เหี่ยวเฉา เมล็ดแก่ที่อยู่ในโคนดอก จะทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป ซึ่งดอกจะแก่จริง ๆ ในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งดอกจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม

    ● ฤดูกาล กลางเดือนพฤษภาคม ถึงต้นเดือนมิถุนายน
    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 4 เทือกเขาอินาริ
  • วานิ กุจิโซ ตระกูลลิลลี่
    วานิ กุจิโซ
    วานิ กุจิโซ ตระกูลลิลลี่
    เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบที่ชุ่มชื้น ทุ่งหญ้า ป่าลึกทีมีแดดส่องถึง อยู่ใกล้กับริมธารที่มีความชุ่มชื้น บริเวณเนินเขา มีดอกที่สวยงาม ก้านดอกจะแทงก้านออกจากจากด้านข้างของลำต้น ใน1 กิ่งจะประกอบด้วยใบใหญ่ ๆ 2 ใบ ดอกขณะบานจะโดดเด่นมาก จะบานสะพรั่งสวยงามมาก ชื่อ (Waniguchi) หมายถึง กลอง ฆ้องเหล็ก ที่มีรูปทรงกลม ใช้ในการพิธี ใช้ในการสวดมนตร์ในศาลเจ้า ซึ่งดอกไม้นี้ มีลักษณะคล้ายกับกลอง ฆ้องเหล็กนี้ จึงกลายเป็นชื่อเรียกจนติดปาก ดอกยาวประมาณ 2-2.5 ซม. ที่เกสรตัวผู้มีลักษณะคล้ายกับท่อ มีสีเขียวอ่อน และมีเกสรตัวอยู่อยู่ภายในดอกเดียวกัน กาบใบมีลักษณะคล้ายรูปไข่ ยาวประมาณ 2 ซม. ใบยาว ประมาณ 5 ถึง 10 ซม. , กว้าง 2.5 ถึง 4 ซม. ดอกไม้ เหี่ยวเฉา เมล็ดแก่ที่อยู่ในโคนดอก จะทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป ซึ่งดอกจะแก่จริง ๆ ในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งดอกจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนมิถุนายน
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 40 ซม.
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระ- ทาคาโอะ โอคุ
  • หญ้าอุระชิมะโซ ตระกูลดอกหญ้า
    หญ้าอุระชิมะโซ
    หญ้าอุระชิมะโซ ตระกูลดอกหญ้า
    สมุนไพรยืนต้นที่พบในระดับที่สูง ตามชายเขา ที่โคนกิ่งมีกาบสีม่วงเข้ม มีดอกที่เติบโตจากก้านใบ ในโคนดอกจะมีละอองเกสรตัวผู้ตัวเมียอยู่ด้วยกัน ละอองเกสรตัวผู่จะมีท่อยาวโค้งสูง คล้าย ๆ ดอกหน้าวัว จากชื่อ Urashima (คือ ตัวละครหลักของเรื่องนางฟ้าในญี่ปุ่น Urashima ที่ถือคันเบ็ด) ซึ่งดอกไม้นี้ จะมีลักษณะความงามคล้าย อุรชิมา จึงได้กำหนดชื่อเรียกเป็นชื่อนี้ ก้านใบยาวประมาณ 50 ซม. ลำต้นหนา. มี 11-17 ใบต่อก้านใบ ที่โคนต้นและใบ มีสารพิษปนอยู่ นิยมที่จะนำไปสกัดทำเป็นยาสมุนไพร เช่น ซาโปนิน ต้องระวัง หากสัมผัสเข้าโดยตรงทั้งทางปาก หรือผิวหนังอาจทำให้ปวดแสบปวดร้อน และระคาดผิวได้

    ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 40-60 เซนติเมตร
    ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
※ใบเสนอราคาจากทาง app ภูเขาทาคาโอะ(แอนดี้)
もっと見る 閉じる