TAKAO 599 MUSEUM

ทาคาโอะ(แอนดี้)เขามีเสน่ห์และความชอบธรรมยิ่งจะ encourage โต เบ็ดเตล็ดรวมถึงแนะนำที่ผมจะแนะนำการเดิน และเส้นทาง เดินป่าจี้ข้อมูลพื้นฐาน ภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ ความอยาก รู้ทางปัญญา เช่นเขมร กายวิภาคศาสตร์ของภูเขาทาคาโอะ(แอนดี้)ภูเขาใหม่ยังได้เข้าเยี่ยมชมครั้ง คุณเห็นควรที่คุณสามารถย่อมตอบสนองด้านหนึ่ง

Difficulty

  • EASY
  • NORMAL
  • HARD

Trail 1 Omotesando Trail

Distance

3.8km

  • ถ้าหากคุณใช้รถสายเคเบิล

    Time

    60min(up) 50min(down)

    Difficulty

  • หากคุณไม่ใช้รถสายเคเบิ้ล

    Time

    110min(up) 90min(down)

    Difficulty

เป็นเรื่องของ “ธรรมชาติและประวัติของภูเขา” ซึ่งสามารถเรียกว่าเป็นเส้นทางหลักในการไปถึงยอดเขาสูง ขอแนะนำให้ใช้รถสายเคเบิลสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเส้นทางภูเขาซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดิน ระหว่างทางจะเห็นลิงป่าอาศัยอยู่ในสวนกลางป่า บ้างก็อาศัยอยู่ตามต้นสน ต้นซีดาร์ มีดอกไม้ป่า และมีสถานที่ที่ให้หยุดพักผ่อนมีอาหารสำเร็จรูปจำหน่าย เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินและสามารถขึ้นเขาได้ตามที่ตั้งใจไว้แบบไม่ต้องรีบร้อน

  • กระเช้าไฟฟ้าสถานีคิโยทะคิ“Kiyotaki station”

    มีการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีโชวะ 2 สำหรับชื่อสถานีนั้นตั้งจากน้ำตกที่อยู่ข้างๆทางเข้าเส้นทางที่ 1 ชื่อคิโยทะคิ“Kiyotaki” ทางขึ้นรถกระเช้าจะอยู่ด้านซ้ายของอาคาร ส่วนสถานที่ขึ้นลิฟท์ด้านบนของสถานีคิโยทะคิ“Kiyotaki station”มีชื่อสถานีว่าซันโระคึ“Sanroku station” เนื่องจากด้านหน้าสถานีคิโยทะคิ“Kiyotaki station”เป็นลานกว้างจึงมีการจัดกิจกรรมต่างๆมากมาย กรณีที่จะเดินขึ้นจากซันโระคึสามารถเข้าทางด้านขวาของลานกว้างเพื่อเข้าสู่เส้นทางที่ 1 และเข้าทางด้านซ้ายสถานีคิโยทะคิ“Kiyotaki station”เพื่อเข้าสู่เส้นทางที่ 6 ที่เรียกว่าเส้นทางอินาริยามะ“Inariyama”ได้

  • กระเช้าไฟฟ้า

    กระเช้าไฟฟ้าที่ภูเขาทาคาโอะจะเรียกว่า “Tsurube type”โดยที่รถกระเช้าไฟฟ้ามีการผูกเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลและมีการบังคับผ่านห้องควบคุมการขับของสถานีทาคาโอะบนภูเขา มีด้านขึ้นด้านลง ตู้ที่มีเฉดสีเขียวเรียกว่า“เบอร์ อะโอะบะ”กับที่มีเฉดสีแดงเรียกว่า“เบอร์ โมมิจิ”ซึ่งมีการวิ่งอยู่ 2 ตู้ พื้นของรถกระเช้าไฟ้ฟ้ามีการลาดชั้นในระหว่างตู้ เนื่องจากมีการตั้งองศาอยู่ที่(สูงสุด31 องศา 18 นาที)จะเหมือนในรูปถ่ายซึ่งมีความลาดเอียงที่สถานีKiyotaki ขึ้นนั่งได้ทั้งหมด 135 คน โดยปกติขบวนใช้เวลาวิ่ง 15 นาที

  • ลิฟท์

    ลิฟท์มีความนิยมมากสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับอากาศของภูเขาโดยตรง เป็นแบบให้นั่ง 2 คน โดยที่ไม่มีอะไรกั้นรอบๆซึ่งเป็นการทำแบบเรียบง่าย ความยอดเยี่ยมของลิฟท์นี้คือ ให้ความรู้สึกสดชื่น เพราะว่าสามารถมองต้นไม้ที่อยู่สองข้างทางได้ในระยะใกล้ๆ วิ่งขาเดียวประมาณ 12 นาที นั้นคือเวลาที่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์

  • ศาลเจ้าโคนพีระได“Konpiradai”

    อยู่ทีมุมหักศอกของเส้นทางที่ 1 ตรงเส้นทางหักกลับ แต่เราไม่เลี้ยว เดินตรงไปจะเจอบันไดไม้ซึ่งข้างบนนั้นคือที่ตั้งศาลเจ้าโคนพีระไดตั้งอยู่ “สวนศาลเจ้าโคนพีระได”ซึ่งมีม้านั่งสามารถมาหยุดพักได้แต่ไม่มีห้องน้ำบริการ จากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวด้านตะวันออกของภูเขาได้อย่างกว้างๆได้และถ้าอากาศดีๆจะสามารถมองเห็นภูเขาทซึคึบะซัน พอมองไปด้านล่างจะเห็นต้นแปะก๊วยเรียงรายกันไปตามถนนโคชูไกโด ในฤดูใบไม้ร่วงก็จะสามารถมองเป็นสีเหลืองตามถนน

  • สวนคาซูมิได-Kasumidai Garden

    ทางด้านทิศตะวันตกของเนินสูงของลานเบียร์บนภูเขาทาคาโอะ(รูปถ่ายคือ ถ่ายจากมุมจุดสูงสุดมา) เมื่อเดินมาจากเส้นทางที่ 1 และคนที่ขึ้นรถกระเช้าไฟฟ้าออกมาจากช่องตรวจตั๋วออกมาบรรจบกัน จะรู้สึกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทันทีที่นี่เป็นจุดเชื่อมต่อกันเส้นทางที่ 2 ตรงทางแยกเมื่อเดินไปทางเหนือจะไปทางน้ำตกเฮบิทะคิ,เมื่อไปทางทิศใต้ตรงทางแยกจะไปทางน้ำตกบิวะทะคิและเดินผ่านไปเส้นทางที่ 6 ได้ มีม้านั่งบริการด้วย ซึ่งเหมาะสมสำหรับการวางแผนในการขึ้นเขาหลังจากนี้ได้

  • สวนลิง・สวนดอกไม้ป่า ทาคาโอะ

    ที่ภูเขาทาคาโอะมีลิงญี่ปุ่นป่าอาศัยอยู่ แต่โดยปกติแล้วผู้คนที่มาขึ้นเขานั้นแทบจะไม่เคยเจอ ที่สวนลิงมีทั้งหมดประมาณ 60 ตัวซึ่งมีการเลี้ยงลิงญี่ปุ่นอยู่ในพื้นที่ที่มีการกำหนดทำให้ผู้ขึ้นเขาสามารถมาเพลิดเพลินกับการดูลิงได้ตลอดเวลา ซึ่งผู้ที่มาเยี่ยมชนสามารถมองได้จากผนังที่เป็นกระจกและมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลสามารถให้คำตอบสำหรับทุกๆคำถามได้
    สวนดอกไม้ป่ามีพื้นที่ 2,800ตารางเมตร ในสวนมีการปลูกพืชที่มาจากภูเขาประมาณ 300 ชนิด ถึงแม้ว่าภูเขาทาคาโอะไม่ได้รับการกล่าวขานว่ามีธรรมชาติที่ล้ำค่า แต่พืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติก็มีหลายๆชนิดที่หาดูได้ยากในสมัยนี้ ดังนั้นในสวนนี้จะมีการปลูกในลักษณะที่เลียนแบบให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้เป็นการศึกษาพืชพันธ์ และในสวนนี้มีบ้านชมนก(Bird Watching House)สำหรับพักผ่อน สามารถดูนกและดูแมลงต่างๆได้
    เวลาเปิดบริการ:เดือน1、2、12 เวลา 9:30น.~16น.
    เดือน 3、4 เวลา 10น.~16น.
    เดือน 5、11 เวลา 9:30น.~16:30น.
    ติดต่อสอบถาม:042-661-2381

  • ต้นซีดาร์ปลาหมึก

    เป็นต้นซีดาร์ใหญ่ที่ได้มีการเรียกว่าอายุมากกว่า 450 ปี ซึ่งมีรากโค้งงอและในส่วนที่โผล่มามีรูเป็นเอกลักษณ์ของปลาหมึก เป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่าเมื่อสมัยก่อนรากยาวมาปิดซันโด และเท็งงุของภูเขา จึงมีความคิดว่าจะตัด ในขณะเดียวกันตันซีดาร์ก็หดรากขึ้นภูเขาโดยการงอไปงอมาภายในคืนเดียว ผู้คนจะมาขอพรโดยการสัมผัสผิวเบาๆ“เปิดทาง”เป็นส่วนมาก จึงกังวลว่าต้นไม้จะได้รับความเสียหายจึงมีการสร้างรั้วกัน แต่มีการแกะสลักหินให้ผู้คนสัมผัสกันได้อย่างอิสระเพื่อความเป็นสิริมงคล“ปลาหมึกนำพาโชคลาภ”

  • ประตูชำระจิตใจ“โจชินโมน”

    เป็นประตูใหญ่ที่ทำจากไม้ตั้งขึ้นคร่อมทางเดินที่ลาดยาง เป็นสัญลักษณ์ว่าตั้งแต่จุดนี้เป็นต้นไปเป็นสถานที่ศักดิ์“ประตูชำระใจ-โจชินโมน”ของศาลเจ้ายะคึโอะ-อิน ถึงแม้ระยะทางยังห่างกันประตูภูเขา(ยะมะโมน) แต่สองข้างทางจะมีโคมไฟสีแดงเรียงรายกันทำให้ได้บรรยากาศว่ากำลังเดินบนถนนศักดิ์สิทธิ์ ทันทีที่เข้าจากประตูไปด้านซ้ายมีศาลพระโพธิสัตว์จีนเบง“Jinben-do”ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานบิดาแห่งผู้บำเพ็ญตบะ ด้านหน้าประตูเป็นทางแยกของเส้นทางที่ 2 เมื่อไปตามบันไดด้านทิศใต้จะเป็นจุดเชื่อมต่อของถนนเส้นที่ 2 กับเส้นที่ 3 และถนนเส้นทางทิศเหนือจะเชื่อมต่อกับเส้นที่ 2 กับเส้นที่ 4 และเมื่อขึ้นบันไดด้านขวาของประตูจะเป็นพื้นที่พัก บนนั้นมีอนุสาวรีย์สำนักงานป่าไม้ตั้งอยู่

  • โอะโตะโคะซะคะ(ทางชันผู้ชาย)・โอนนะซะกะ(ทางชันผู้หญิง)

    เดินตามทางราบที่มีต้นซีดาร์ใหญ่และโคมไฟสีแดงเรียงรายกันตามถนนไปเรื่อยๆจะเจอแผ่นหินศิลาจารึกอยู่ตรงกลางแยกถนนเป็น2ส่วน ด้านซ้ายเป็นบันไดหิน“โอะโตะโคะซะคะ”、ด้านขวาเป็นทางค่อยๆลาดชันอย่างต่อเนื่อง“โอนนะซะกะ”ปลายทางก็จะมาบรรจบเข้าด้วยกันอีกไม่ว่าจะไปทางไหนก็มุ่งไปสู่ศาลเจ้ายะคึโอะ-อินเหมือนกัน บันไดหินด้านโอะโตะโคะซะคะมีขั้นบันได 108 ขั้นเหมือนกับจำนวนกิเลศตัณหาที่ทำให้เกิดควาทุกข์ในทางพุทธศาสนา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในการที่ก้าวทีละก้าวและตัดกิเลศตัณหาทีละข้อ

  • เจดีย์

    จุดที่ทางโอะโตะโคะซะคะ(ทางชันผู้ชาย)และโอนนะซะกะ(ทางชันผู้หญิง)มาบรรจบกันตรงกลางจะมีทางชันเมื่อขึ้นไปจะเจอลานกว้างที่มีชื่อเรียกว่า สวนทาคาโอะ-ซัน อึคิเอน“Takaosan Uki en” ในปีโชวะ 31 มีการสร้างเจดีย์ที่เป็นหลักฐานสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยเพื่อเป็นเจดีย์สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ(พระบรมอัฐิขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า)

  • ศาลเจ้าทาคาโอะซัน ยะคึโอะ-อิน วัดออึคิ

    มีการก่อตั้งวัดในปีเทงเบียว ปี16(744)และเป็นวัดหนึ่งในไดโฮนซัน นิกายชินโกนชูจิซัน พระประฐานคือ เทพฟึโดเมียวโออวตารมาเป็นเทพ“อิทซึนะไดโกนเกน(Izunadaigongen)” มีหน้าที่เป็นบทบาทของผู้ปกครองซึ่งเป็นเท็งงุในการปกป้องรักษาภูเขาทั้งหมด และภูเขานี้เดิมทีเป็นสถานที่ในการปฏิบัติธรรมของนำกายชูเคนโดอยู่แล้ว หลังจากนั้นเทพนี้ได้รับหน้าที่ในการป้องกันผู้บัญชาการทหารที่มีอำนาจ มีความนิยมเป็นวัตถุมงคลแห่งความศรัทธาของคนทั่วไปตั้งแต่กลางสมัยเอโดะเป็นต้นมา จะมาถึงสมัยนี้เกิดเป็นการมาสักการะในยามว่าง ในขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่ทางศาสนากล้ายเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมที่มีคุณค่ามากได้และวัดเหล่านั้นจะถูกก่อสร้างเรียงอย่างชำนาญเพื่อให้ตรงกับภูมิประเทศที่ได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของเมือง และนอกจากนั้นก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นวัดที่มีการวางเข้ากับโทะริอิ(ประตูสีแดงที่เป็นทางเข้าของศาลเจ้า)ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างนิกายชินโตและพระพุทธศาสนา
    ที่วิหารใหญ่จะมีการทำพิธีโอะโกะมะชูเกียว(Ogomashugyo)ซึ่งบุคคลทั่งไปก็สามารถเข้าร่วมได้ ส่วนที่ไดโฮนโบะสามารถที่จะลิ้มรสอาหารเจได้(ต้องสั่งจอง)
    การติดต่อสั่งจองการเข้าพิธีกรรม・อาหารเจติดต่อได้ที่:042-661-1115

  • “เทพเจ้าฟึคึโทะคึ เบนซัยเทง ”กับ“ถนนฟึจิมิจิ”

    เมื่อเดินไปทางบันไดหินที่มุ่งหน้าสู่ประตูเทพนิโอะโมงและก็เดินผ่านระหว่างห้องโถงรรับรองแขกและไดโฮนโบะก็จะไปถึงถ้ำของเทพเจ้าฟึคึโทะคึ เบนซัยเทง และจากจุดนี้เดินไปเรื่อยๆจะไปทะลุกับเส้นทางที่ 3 ที่เรียกว่า 3 ถนนฟึจิมิจิ“Fujimichi”(ชื่อยอดนิยม)ระยะทางการเดินอาจจะไกลแต่จากเส้นที่ 1 มาเส้นนี้เป็นเส้นที่ 3 ซึ่งเรียกว่าถนนฟึจิมิจิ ไปตามเส้นที่ 3 เรื่อยจะถึงทางแยกให้ใช้ถนนเส้นที่ 5 ลงเขามาเพื่อให้ทะลุเส้นที่ 1 แล้วค่อยขึ้นเขาจะทำให้ไม่ต้องปีนบันไดก็สามารถไปถึงยอดเขาได้

  • ทางแยกที่ป่าอิโระฮะโนะโมะริ“Iroha no mori”

    เมื่อเดินไปตามถนนด้านขวาจะมีต้นไม้ที่เติบโตไปตามเส้นทาง มีชื่อว่าเส้นทางป่าอิโระฮะโนะโมะริ ซึ่งมีการตั้งชื่อจากอักษรตัวแรกของเพลงญี่ปุ่น และจะไปเชื่อมกับเส้นทางที่ 4 แล้วโผล่ไปแยกเข้าถนนฮิคะงะซะว่า รินโด เมื่อเดินตามทางไปเรื่อยๆจะถึงสถานีรถบัสฮิคะงะซะว่า

  • จุดทางแยกก่อนยอดเขา“ซันโจคะ”

    ถนนจะมีการลาดยางอีกครั้งตรงจุดที่เริ่มจะลาดชันจะมีชื่อที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “ซันโจคะ”ซึ่งที่นี่มีห้องพยาบาลและห้องน้ำขนาดใหญ่ด้วย เลยห้องน้ำไปจะเจอกันถนนที่เดินดูรอบๆยอดเขานั่นคือจุดที่เชื่อมต่อกับเส้นที่ 5 เมื่อลงเขาตามเส้นทาง 5 มาทางทิศใต้จะเชื่อมต่อกับเส้นที่3・6 ถ้าไปทางเหนือถนนด้านซ้ายเป็นเส้นที่ 5 ทางขวาเป็นเส้นที่ 4 ถ้าเดินตามความช้นตรงกลางไปจะถึงยอดเขาทาคาโอะซัน

  • ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว(Tokyo Takao Visitor Center)

    ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมีการจัดทำบอร์ดหรือโมเดลจำลองเกี่ยวกับประวัติของภูเขา สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติสิ่งมีชีวิตบนภูเขา เพื่ออธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น และผู้เชี่ยวชาญก็อยู่พร้อมที่จะเป็นไกด์อธิบายเกี่ยวธรรมชาติได้
    เวลาเปิดศูนย์:10น.~16น.
     ค่าบริการ:ฟรี
    ติดต่อสอบถาม:042-664-7872

  • ลานดูดาวยอดเขา

    จากลานดูดาวของยอดเขาจะสามารถมองเห็นภูเขาทานซะว่าทางทิศตะวันตกของภูเขาทาคาโอะเรียงรายกัน วันที่ท้องฟ้าโปร่งสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิสวยมาก มีการคัดเลือกว่า“คันโต โนะ ฟูจิมิ 100 เคอิ” พอเข้าเดือน 12 ใกล้ฤดูหนาวจะมีหลายวันที่พระอาทิตย์ตกที่ยอดภูเขาไฟฟูจิทำให้มีผู้คนจำนวนมากมาเพื่อถ่ายรูปเรียกว่าภาพเพชรฟูจิ“Diamond Fuji (ในกรณีที่ขึ้นเขาตอนเย็นหรือกลางคืน ต้องเตรียมไฟฉายและอุปกรณ์

Trail 2 Kasumidai Loop Trail

Distance

0.9km

Time

30min(up)

Difficulty

เรื่องคือ “ป่าไม้บนภูเขา” ระหว่างประตู โจชิน ถึง คาซึมิได มีสถานีของรถสายเคเบิล จัดขึ้นวนรอบภูเขาทาคาโอะ เพื่อชมธรรมชาติของป่าไม้ จะมองเห็นธรรมชาติของภูเขาทั้งหมดมีทั้งป่าผลัดใบของต้นบีชและป่าใบเขียวจำพวกต้นโอ้ก หรือหากต้องการเดินป่าบ้าง ก็มีจุดที่อยากแนะนำจะอยู่ห่างจากความแออัดจากถนนสายที่ 1 เล็กน้อย เหมาะในการเดินแบบสบาย ๆ

  • ทางแยกตรงสวนคาซูมิได

    พอผ่านลานเบียร์มาเข้าข้างจุดหอดูดาวเพื่อไปที่ทางเข้าของเส้นทางที่ 2 ไปทางทิศใต้ที่มุ่งไปสู่น้ำตกบิวะทะคิ กรณีที่ลงมาจากทางออกรถกระเช้าไฟฟ้าและผ่านตรงพื้นที่ดอน ให้ระวังด้วยเพราะอาจจะไม่รู่ตัวและเดินเลยเทางเข้าไปได้ให้

  • เมื่อลงจากบันไดที่สูงชันก็จะเจอผิวถนนที่ขรุขระแลเดินไปอีกนิดหน่อยก็จะถึงจุดที่เป็นทางแยกไปน้ำตกบิวะทะคิ ซึ่งถนนเส้นที่ไปน้ำตกบิวะทะคินั้นจะมีส่วนที่ขึ้นๆลงๆเยอะมากมันเป็นเส้นทางสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์สูงแล้วและควรจะต้องใส่รองเท้าสำหรับเดินป่าดีกว่า

  • พอผ่านจุดทางแยกน้ำตกบิวะทะคิผิวถนนลาดเอียงก็จะน้อยลง และจะเข้าไปยังป่าเขียวชอุ่มของต้นไม้ใบกว้างไม่ผลัดใบแล้วจะเจอบันไดอีกครั้งพอขึ้นไปก็เป็นทางแยกของถนนเส้นที่ 3 และขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆจะเจอประตูชำระจิตใจ“โจชินโมน”

  • ทางแยกของเส้นที่2・4

    เดินไปทางทิศเหนือก่อนที่จะเข้าประตูชำระจิตใจ“โจชินโมน” จะเป็นทางแยกระหว่างเส้นทางที่ 2 กับเส้นที่ 4 ถนนเส้นที่ 2 คือเส้นที่มีบันไดไม้ซึ่งเมื่อลงไปแล้วก็จะเป็นทางเรียบ แต่เนื่องจากถนนแคบมากให้ย้ำก้าวด้วยความระมัดระวังด้วย

  • ทางแยกน้ำตกเฮบิ

    ลงบันไดที่ทิศเหนือของสวนคาซูมิไดก็จะเจอกับถนนที่แยกไปทางน้ำตกเฮบิทะคิ พอเดินไปก็จะเป็นถนนเดินเขาแคบมีความคดเคี้ยวกันระยะหนึ่งเมื่อเดินไปเรื่อยๆจะเจอศาลเจ้า

  • ทางแยกตรงสวนคาซูมิไดทางทิศเหนือ

    ทิศทางตรงกันข้ามของทางทิศใต้ของหอดูดาวในบริเวณส่วนคาซูมิไดจะมีทางเข้าสู่เส้นทางที่ 2 ด้านทิศเหนือ เนื่องจากบันไดค่อนข้างที่จะแคบอาจจะสังเกตยากหน่อย โดยปกติแล้วก็เป็นบันไดที่ชันที่อาจคิดไม่ถึงว่าจะเป็นถนน แต่เมื่อลงไปแล้วก็นเป็นถนนเรียบของภูเขา

Trail 3 Katsura Woods Trail

Distance

2.4km

Time

60min(up) 50min(down)

Difficulty

เรื่อง “พืชพันธ์ของทาคาโอะ” เป็นหลักสูตรที่นำพาขึ้นไปถึงยอดเขาสูงสุด จากด้านซ้ายของประตู โจชิน สามารถมองเห็นผืนป่าขนาดย่อมที่สวยงาม และมองเห็นสะพานไม้ข้ามระหว่างหุบเขาที่ถูกต้นไม้ล้อมรอบได้อย่างเด่นชัดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก เพลิดเพลินกับการเดินเท้าบนเส้นทางขนาดเล็กท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่มและดอกไม้ป่านานาชนิด มีนกป่า หรือหากมีสมาธิก็สามารถมองหาแมลงนานาชนิดได้เช่นกัน

  • เมื่อเดินลงจากเส้นทางที่ขวางก่อนหน้าประตูชำระจิตใจ“โจชินโมน”ก็จะเป็นทางแยกระหว่างเส้นที่ 2 ซึ่งจากจุดนี้เดินไปอีกนิดหนึ่งจะเข้าไปในป่า พื้นที่ขึ้นๆลงๆน้อย หินหรือรากไม้ที่จะเกี่ยวเท้าก็มีน้อย ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับการดูทัวทัศน์สองข้างทางได้

  • ถึงแม้พูดว่าเป็นถนนที่เดินง่าย แต่เนื่องจากเป็นถนนที่ตัดผ่านความลาดชัดของภูเขาดังนั้นมีบางพื้นที่ที่แคบมากต้องใส่ใจต่อแต่ละก้าวที่เดินด้วย

  • สำหรับเส้นทางที่ 3 มีสะพานข้ามหุบเขาเล็กหลายๆจุด เมื่อขามสะพานไม้แขวนและขึ้นบันไดที่มีความชันเล็กน้อยก็จะถึงพื้นที่สำหรับปิกนิก

  • พื้นที่สำหรับปิกนิก

    เมื่อขึ้นสะพานมาจะเจอพื้นที่สำหรับปิกนิก“Ka shiki-dai enchi”ซึ่งมีม้านั่งและพื้นที่ค่อนข้างกว้างรวมทั้งมีการเตรียมกิ่งไม้แห้งและต้นไม้แห้งด้วย เหมาะแก่การมาพักเพื่อดูพันธ์พืชหรือแมลง,เห็ดป่าเป็นต้น

  • ทางแยกถนนฟูจิ

    คือถนนเส้นที่เริ่มจากข้างๆวิหารใหญ่ของศาลเจ้าทาคาโอะซัน ยะคึโอะ-อินเรียกว่าเส้น“ถนนฟูจิ”และก็ไปเชื่อมกลางเส้นทางที่ 3

  • เส้นทางที่ 3 เรียกอีกชื่อว่า“เส้นทางคะทซึระบะยะชิ”เป็นต้นไม้ที่มีชื่อเสียงตอนต้นของสมัยโชวะ พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงใบไม้ที่ร่วงจะให้กลิ่มหอมหวานมาก

  • ทางแยกของเส้นที่ 5・6

    สำหรับเส้นทางขึ้นเขานั้นถือว่าเป็นเส้นที่ 3 จนกว่าจะถึงจุดทางแยกที่กล่าวนี้ จากจุดทางแยกนี้จะขึ้นไปยังยอดเขาต้องใช้หเส้นทางที่ 5 พอไปทางขวาจะเป็นเส้นที่ 1 ไปพื้นที่ก่อนยอดเขา เมื่อไปทางซ้ายจะเข้าเส้นทางอินะริยะมะ ถ้าจะลงเขาก็เขาเส้นที่ 6 ลงไปเล็กน้อยมีพื้นที่กว้างเป็นสถานที่พักผ่อน

Trail 4 Suspension Bridge Trail

Distance

1.5km

Time

50min(up) 40min(down)

Difficulty

เรื่อง “ป่าไม้และสัตว์ป่า” ในหลักสูตรของการเดินในป่า ตลอดเส้นทางเดินป่าจะได้ยินเสียงนกนานาชนิดร้องระงมดังเซ็งแซ่เป็นนกต่างสีสันมากมาย จะได้ยินทุกฤดูกาล มีสะพานแขวน “ สะพานมิยาม่า ” ในทาคาโอะ สะพานมีความสูงไม่แตกต่างกันมากนัก จึงเป็นอีกหลักสูตรหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ในภูเขามีต้นไม้ใบกว้างผลัดใบเช่นต้นบีชจึงทำให้รู้สึกว่าได้รับอากาศเย็นสบายและบริสุทธิ์มาก

  • เมื่อลงจากทิศเหนือของเส้นทางก่อนประตูชำระจิตใจ“โจชินโมน”จะเป็นทางแยกระหว่างเส้นที่2(มีบันได)จากจุดนี้ถึงสะพานแขวนถนนจะค่อยๆชันทำให้เดินง่ายเป็นป่าของต้นไม้ผลัดใบเช่น ต้นอินบึนะ

  • สะพานมิยะมะ

    ความยาวทั้งหมด36เมตร เป็นเพียงสะพานแขวนเพืยงแค่ที่เดียวของภูเขาทาคาโอะ ในฤดูใบไม้แตกอ่อนจะมีใบสีเขียวห้อมล้อมสะพานสวยมาก ที่ปลายสะพานมีเป็นถนนโค้งกว้างยังเป็นเส้นทางชันขึ้นไปอีกระยะหนึ่ง

  • จุดแยกกับเส้นทาง“ป่าอิโระฮะบะยาชิ”

    ที่ส้นเขาทางทิศเหนือตรงที่เป็นทางโค้งจะเชื่อมต่อกับเส้น“ป่าอิโระฮะบะยาชิ”ซึ่งเส้นทางที่ 4 กับเส้นป่าอิโระฮะบะยาชิจะเป็นการเชื่อมในลักษณะเฉียงจึงเป็นลักษณะที่เส้นทางรวมด้วยกันเป็นพื้นที่กว้างระยะหนึ่งและรอบๆนี้ก็มีม้านั่งด้วยสามารถเป็นพื้นที่ในการพักได้ และเนื่องจากพอเข้าไปในป่าแล้วจะไม่รู้ว่าเส้นไหนเป็นเส้นไหนดังนั้นก่อนไปให้ตรวจสอบป้ายบอกทางก่อนเดินไป

  • พอไปใกล้ๆยอดเขาถนนจะเป็นลักษณะบันไดเป็นระยะค่อนข้างยาวต่อๆเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชันแต่บางช่วงระยะทางยาวให้ระมัดระวังการก้าวเท้าด้วยเพื่อไม่ให้เหนื่อยเกินไป

  • เส้นทางแยกก่อนถึงยอดเขา

    จะเชื่อมต่อกับเส้นที่ 1 ก่อนถึงยอดเขาและเชื่อมต่อกับเส้นที่ 5

Trail 5 Mt. Takao Peak Loop Trail

Distance

0.9km

Time

30min

Difficulty

เรื่อง “มนุษย์กับธรรมชาติ” หลักสูตรนี้คือการเดินแบบวนรอบเป็นวงกลมจากข่างล่างขึ้นไปบนยอดเขาสูงของทาคาโอะ ซึ่งมีระดับความสูงเกินกว่า 500 เมตร พื้นถนนมีกว้างบ้างแคบบ้างตามพื้นที่ระดับความชันที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังเพลิดเพลินสถานที่ชมวิวมีทั้งหมด 9 แห่งจากทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเหมาะแก่การเดินเล่นผ่อนคลายสบาย ๆ ชมดอกไม้นานาชนิดผลิบานเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนและนิยมมากันช่วงนี้

  • จุดเชื่อมต่อก่อนถึงยอดเขา

    สำหรับเส้นทางที่ 1 มีจุดตัดกันก่อนขึ้นยอดเขาและด้านขวาก็เชื่อมต่อกับเส้นที่ 4 ,เมื่อเดินตามถนนที่ลาดยางมาทางทิศใต้จะเชื่อมกันเส้นที่ 3 และเส้นที่ 6

  • ในปลายสมัยเอโดะ ท่านEgawa Tarozaemonซึ่งเป็นผู้พิพากษา Izu nirayama เห็นว่ามีความจำเป็นต้องปลูกจึงมีการปลูกไว้ สำหรับที่ภูเขาทาคาโอะนี้ถือว่าเป็นต้นไม้ปลูกที่เก่าแก่ที่สุด อายุประมาณ 150 ปี มีต้นซีดาร์มากกว่า 50ต้น และต้นที่ใหญ่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร

  • ทางแยกไปยังทิศทางโคะโบะโตะแคะชิโระยะมะ

    เส้นทางที่จะไปทางโคะบึโตะแคะชิโรยะมะจากยอดเขาทาคาโอะนั้นมีทางเชื่อมเมื่อลงจากบันไดที่ยอดเขามาซึ่งจากจุดนี้ถนนเส้นที่ 5 มีการแบ่งเป็นด้านทิศเหนือและทิศใต้ บรรยากาศและความสว่างก็ค่อนข้างจะแปลกๆ

  • ทางแยกเส้นทางอินะริยะมะ

    จุดเชื่อมต่อกับเส้นทางอินะริยะมะเป็นตำแหน่งที่อยู่ใต้สุดของถนนเส้นที่ 5 ก่อนที่จะถึงบันไดชันขึ้นยอดเขาจะมีพื้นที่พักกว้างๆ

  • ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ทางเรียบอย่างเดียว ยังมีสะพานไม้ข้ามหุบเขาด้วยเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย

  • ทางแยกเส้นที่ 3・6

    ถนนทั้งเส้นที่ 3และเส้นที่ 6 นั้น มีการจัดตั้งให้มาจบที่การเชื่อมต่อกับเส้นที่ 5 เท่านั้น ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อลักษณะรูปตัว“K” อาจจะทำให้หลงเส้นทางได้ง่าย แต่ให้จำไว่ว่าให้เดินตามถนนเส้นที่ 5 ที่มีการลาดยางมาเพื่อให้เจอเส้นที่ 1 ก็จะสามารถลงเขาได้

Trail 6 Biwa Waterfall Trail

Distance

3.3km

Time

90min(up) 60min(down)

Difficulty

เรื่อง “ป่าและน้ำ”. เป็นคอร์สที่เดินไปตามลำธารจะรู้สึกอากาศเย็นแม้อยู่ในช่วงฤดูร้อน บริเวณโดยรอบเป็นป่าพรุทางเดินเป็นหินท่ามกลางลำธาร “น้ำตกบิวะทากิ” มีลักษรณะมีหินอยู่ตรงกลางน้ำเหมาะสำหรับนักพรตหรือผู้บำเพ็ญเพียรแม้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาวก็ตาม “คอร์สทางน้ำ” เป็นที่รู้จักกันดีและนิยมมาปีนเขามีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงชัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินป่าเพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดด

  • วิธีการที่จะไปในเส้นทางที่ 6 ก่อนอื่นเป็นถนนที่มีการลาดยางตรงสถานีรถกระเช้าไฟฟ้าคิโยะทะคิ“Kiyotaki Station”ให้เดินไปตามถนนริมหนองน้ำด้านซ้ายซึ่งจุดนี้มีบ้านเรือนของชาวบ้านอยู่ทำให้มีรถยนต์วิ่งกันเยอะให้รักษามารยาทการใช้ถนนด้วย

  • เทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้ง 7“Senshin shichifukujin”

    พอเริ่มเดินจะมีรูปเทพเจ้าแกะสลักอยู่ด้านซ้ายมือ ซึ่งมีการพูดกันว่าที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า、“เซนชิน จินอิน”มีเทพฟึโดมิวโอ,จูอิจิเมนาคังนง เป็นต้น และรูปหินแกะสลักเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้ง 7 เพื่อเป็นการคุ้มครองผู่ที่จะขึ้นเขา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเพราะ ณ จุดนี้ที่เดียวสามารถจะไหว้เทพได้ทั้ง 7

  • ทางเข้าเส้นทางที่ 6

    เมื่อเห็นโรงพยาบาลโตเกียวทาคาโอะ ก็จะเห็นสะพานเล็กๆชื่อมิวโองบะชิ ซึ่งทางเข้าถนนเส้นทางที่ 6 อยู่ข้างหน้าสะพานนั้น ตอนแรกๆจะเป็นทางเรียบแต่จะค่อยๆมีก้อนหินหรือรากไม้โผล่มาทำให้สัมผัสได้ถึงการขึ้นเขาอย่างเต็มตัวโดยที่เส้นทางเป็นถนนภูเขา

  • เทพเจ้าอิวะไดชิ“Iwaya Daishi”

    เป็นตำนานเล่าต่อกันมาว่าเทพโคโบไดชิ(คึคัย)กลับมาจากการปฏิบัติธรรมบนภูเขา แม่ลูกติดอยู่ในพายุทำให้เทพได้หันหน้าไปทางหน้าผาและสวมมนต์ทำให้หน้าผามีการยุบเป็นหลุมให้แม่ลูกไปหลบฝนได้

  • น้ำตกบิวะทะค

    เมื่อเดินตามถนนที่แยกตรงฟึทะแทะและเดินไปเรื่อยๆจะถึงน้ำตกบิวะทะคิ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นสถานที่บำเพ็ญตบะทางน้ำเหมือนกันน้ำตกเฮบิทะคิ มีเรื่องเล่าว่านานมาแล้วมีกวางตัวหนึ่งมานำทางพระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์สูงรูปหนึ่งเดินเข้าไปในป่าของภูเขาทาคาโอะ และได้พบเจอชายชราผมขาวคนหนึ่งเล่นกีตาร์(บิวะ)และได้รับคำสอนต่างๆจากชายชรา และหลังจากนั้นร่างของชายชราก็หายไปกลายเป็นน้ำตกที่ขาวเหมือนผมของชายชรา ดังนั้นน้ำตกนี้จึงกลายเป็นสถานที่สำหรับการบำเพ็ญตบะ และบุคคลธรรมดาก็สามารถมาสัมผัสประสบการณ์การบำเพ็ญตบะได้ และเมื่อเดินขึ้นบันไดตามข้างศาลเจ้าไปจะมาออกที่ถนนเส้นที่ 1ที่ลานคะซึมิได ถ้าจะเดินต่อไปตามเส้นที่ 6 เมื่อถึงทางแยกที่เป็นสองง่ามให้กลับมา
    ติดต่อสอบถามการจองเพื่อสัมผัสประสบการบำเพ็ญตบะ:สถานที่บำเพ็ญตบะทางน้ำของน้ำตกเฮบิทะคิ (042-667-9982)

  • เมื่อเดินเลยน้ำตกบิวะถนนส่วนที่เป็นทางเรียบจะน้อย บางจุดก็จะแคบมากทำให้การเดินสวนทางลำบาก (ในช่วงที่ผู้คนคับคั่งมีการกำหนดให้ขึ้นขาเดียวเท่านั้น) และเนื่องจากความชื้นสูงทำให้มีมอสขึ้นบนโขดหินจะต้องย้ำก้าวด้วยความระมัดระวังให้มาก

  • เมื่อผ่านจุดที่ยากๆ ไปแล้วจะเป็นถนนที่เดินง่าย จุดที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีม้านั่งให้พักเหนื่อยได้ด้วย

  • ที่ใกล้ๆสะพานโอยะมะบะชิของหนองน้ำจะมีพื้นที่กว้างสำหรับพักผ่อนได้ เวลาที่ไม่เร่งรีบสามารถเอามือแช่ลงไปในน้ำทำให้สดชื่นขึ้นมาได้ หรือว่าจะพลิกหินที่อยู่ในบึงเพื่อหาแมลงที่ซ่อนอยู่ก็สนุกอีกแบบหนึ่ง

  • ทางแยกเส้นทางอินะริยะมะ

    เมื่อข้ามสะพานไม้ข้ามหนองน้ำเล็กเสร็จก็จะเจอทางลัดสู่เส้นทางอินะริยะมะ หลังจากจุดนี้จะเป็นการเอาก้อนหินที่อยู่ในหนองน้ำมาเรียงเป็นทางเดิน สำหรับเส้นทางที่ 6 สุดเส้นทางจะมีบันไดยาวอยู่ ถ้าคนไหนไม่มีความมั่นใจในกำลังของตัวเองก็ให้เปลี่ยนไปที่เส้นทางอินะริยะมะ

  • ก้อนหินสำหรับเท้าเหยียบ

    เมื่อผ่านสะพานที่ไปสู่เส้นทางอินะริยะมะ จะเป็นการเหยียบไปบนหิน เป็นหินที่นำมาเรียงเป็นทางเดิน ดังนั้นเวลาเหยียบอาจลื่นได้ ถ้าเป็นรองเท้าสำหรับขึ้นเขาก็จะดีกว่า

  • เมื่อสุดทางที่เป็นก้อนหินจะมีระยะทางแค่สั้นๆเท่านั้นที่เป็นทางเรียบ และก็จะเห็นบันไดไม้เรียงกันยาว และเนื่องจากระยะของบันไดนี้ค่อนข้างยาวทำให้เห็นบางท่านหยุดและก็นวดน่องของตนเอง

  • เมื่อขึ้นมาจากบันไดจะมีพื้นที่กว้างสำหรับพักเหนื่อย และผ่านจากจุดนี้ไปก็จะเป็นทางแยกเข้าเส้นที่ 3 และเส้นที่ 5 และเมื่อเดินตามเส้นที่ 5 มาทางขวาจะมาเจอเส้นที่ 1 สำหรับไปที่ยอดเขาได้ แต่ถ้าไปทางซ้ายจะเจอกับด้านล่างจุดเชื่อมต่อเส้นทางอินะริยะมะและถ้าคิดว่าบนยอดเขามีคนเยอะให้พักที่นี่ก่อนเดินต่อก็ดี

Inariyama Trail

Distance

3.2km

Time

90min(up) 60min(down)

Difficulty

เรื่อง “ สี่ฤดูกาล ” คอร์สปีนเขาผ่านเนินเขาอินาริ ที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของภูเขาทาคาโอะ ไปจนสุดยอดเขาสูง จะพบกับดอกลิลลี่ และดอกไฮเดรนเยีย บานตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของภูเขาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สัมผัสกับประสบการณ์ในสี่ฤดูกาลรอบภูเขาทาคาโอะ ที่คุณก็สามารถทำได้ เดินตามถนนบนสันเขาจะมองเห็นวิวทิวทัศในวันที่มีแสงแดดจัดซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่ง

  • ทางเข้า

    ที่ด้านซ้ายของสถานีรถกระเช้าไฟฟ้าคิโยะทะคิ“Kiyotaki Station”มีแม่น้ำเล็กเมื่อข้ามสะพานไปจะเป็นทางเข้าเส้นทางอินะริยะมะ

  • ก่อนจะถึงถนนตรงสันเขาจะมีบันไดชันๆเล็กๆต่อเนื่อง ซึ่งยากต่อการแซงหรือสวนทาง ทำให้ช่วงฤดูท่องเที่ยวจะเห็นเรียงแถวกันยาว

  • อาซาฮิอินะริ

    ในระหว่างทางที่เป็นบันไดด้านซ้ายจะมีศาลเจ้าของอาซาฮินะริ จากจุดนี้ความชันจะค่อยน้อยลง

  • พอมาถึงเส้นทางบนสันเขาทางก็เกือบจะเป็นทางเรียบ แต่รากของต้นไม้หรือหินขรุขระเยอะให้ระมัดระวังในการเดินด้วย

  • อินะริยะมะ

    เมื่อถึงถนนสองง่ามขึ้นบันไดหินด้านขวาจะเจอชื่อภูเขาอินะริยะมะที่ยอดเขา(ที่ความสูง 396 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล)จะเป็นลานดูดาวและศาลาไม้,มีห้องน้ำด้วย ส่วนเส้นทางด้านซ้ายจะไม่แวะภูเขาอินะริยะมะและเดินต่อๆไป

  • สามารถจะเดินผ่านระหว่างห้องน้ำและลานดูดาวกับศาลาไม้ไปเรื่อยๆได้ ซึ่งจากจุดนี้ถนนจะไม่ค่อยชันเป็นระยะสั้นๆตามสันเขา

  • และก็เป็นบันได้ไม้ และจากจุดนี้เป็นผิวถนนที่มีรากไม้โผล่

  • หลังจากถนนค่อยชันขึ้น ถนนจะมีจุดที่กว้าง มีม้านั่งหลายๆชุด สำหรับการพักเหนื่อย

  • ทางแยกเข้าเส้นทางที่ 6

    เมื่อผ่านถนนที่เป็นไม้ ด้านขวาไปตามหุบเขาก็เชื่อมต่อกับเส้นที่ 6 จะเห็นเส้นทางเล็กๆ จากจุดนี้เลี้ยวไปทางขวาจะโผล่ที่หนองน้ำที่มีหินให้เหยียบ ก่อนที่จะถึงทางแยกมีม้านั่ง

  • ทางสี่แยกตัดกับเส้นที่ 5

    จากจุดที่เป็นสี่แยกตัดกับเส้นที่ 5 จะมีบันได 200 ขั้น อีกนิดหน่อยก็จะถึงยอดเขาทาคาโอะ แต่ถ้าไม่มีความมั่นใจในกำลังขาให้เลี้ยวขวาเดินตามเส้นที่ 5 มายังเส้นที่ 1จะไปโผล่ใต้ยอดเขาได้

Iroha
no Mori
Trail

Distance

1.5km

Time

70min(up) 50min(down)

Difficulty

เรือง “เดินเล่นกลางป่า” คอร์สนี้เป็นคอร์สที่เชื่อมต่อจากยอดเขาใต้ร่มเงา ทาเทะฟุดะ วะกะ “เบื้องต้น” มีป้ายตัวอักษรทั้งหมด 48 ป้ายเพื่อแสดงชื่อต้นไม้หรือชื่อย่อหรือโพสต์ข้อความเพื่อให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นและให้ความรู้ไปในตัว คอร์สนี้เส้นทางมีลักษณะลาดชันมากบางแห่งมีบันไดไม้เพื่อให้เดินได้ง่ายขึ้น

  • เส้นทาง“ป่าอิโระฮะโมริ”

    “ป่าอิโระฮะโมริ”คือ ตั้งชื่อมาจากต้นไม้ที่ขึ้นตามข้างทาง ชื่อคือ“อิโระฮะนิโฮะแฮะโทะ”จากอักษร48ตัว และเลือกตัวที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งต้นไม้แต่ละชนิดก็มีการนั้นไปแต่งบทกวีอธิบาย ถึงแม้ว่าเป็นชนิดเดียวกันแต่ในสมัยโบราณหรือว่าพื้นที่เปลี่ยนไปก็จะเรียกต่างกันไป ทำให้เวลาขึ้นเขาก็จะได้สัมผัสกับความสนุกของการศึกษาวัฒนธรรมของธรรมาชาติที่มีการพัฒนาตามแต่ละช่วงสมัย เส้นทางที่ 4 จะไปเชื่อมต่อกับเส้นทางที่ 1

  • เส้นทาง“ป่าอิโระฮะโมริ”คือ เหมือนกับชื่อเส้นทางเลยเพราะว่าตลอดเส้นทางเดินในป่าเท่านั้น พื้นที่ชันสูงหรือว่าบันไดก็มีเยอะแต่มีการเตรียมม้านั่งไว้เป็นที่ๆให้หยุดพักเป็นที่ๆและสนุกกับการอ่านบทกวีไปตามต้นไม้ก็เป็นเรื่องที่สนุก

Jyataki
Waterfall
Trail

Distance

1.5km

Time

60min(up) 40min(down)

Difficulty

เรื่อง “ช่องเย็นภูเขาทาคาโอะ” จากทางเข้าน้ำตกงู หรือน้ำตกเฮบิทากิ เป็นเส้นทางน้ำมีทางเดินเรียบลำธาร “น้ำตกเฮบิทากิ” เป็นคอร์สที่ขึ้นรถสายเคเบิลที่สถานีทาคาโอะ หรือจะเดินไปตามลำธารเย็นๆ ในอดีตที่ผ่านมาต้องใช้วิธีเดินขึ้นเท่านั้น ซึ่งนับเป็นเส้นทางที่เงียบสงบมากจะได้ยินเสียงนกร้องตลอดทางเดิน หรือโชคดีอาจจะพบสัตว์ป่าหรือพันธ์ไม้ที่หายาก ซึ่งนับเป็นเส้นเส้นที่ดีที่สุดและหลีกเลี่ยงเส้นทางหลักที่แออัด

  • น้ำตกเฮบิทะคิ

    เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่บำเพ็ญตบะทางน้ำของศาจเจ้ายะคึโอะ-อินเหมือนกันน้ำตกที่เลียบเส้นทางที่ 6 มีศาลเจ้าชื่อ เซเรียวโดตั้งอยู่ด้านบนบันไดหิน และมีเทพเจ้าน้ำ เซเรียวไดโกนเกนประดิษฐานอยู่ มีเรื่องเล่ากันว่านานมาแล้วมีพระสงฆ์รูปหนึ่งต้องการหาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เจองูสีขาวมาปรากฏอยู่ที่น้ำตกนี้ ซึ่งร่างจริงๆของงูขาวคือเทพซเรียวไดโกนเกน โดยปกติแล้วเป็นสถานที่บำเพ็ญตบะของนิกายชินโต แต่บุคคลธรรมดาก็สามารถจองเพื่อมาสัมผัสประสบการณ์การบำเพ็ญตบะได้
    ติดต่อสอบถามการจองเพื่อสัมผัสประสบการบำเพ็ญตบะ:สถานที่บำเพ็ญตบะทางน้ำของน้ำตกเฮบิทะคิ (042-665-7313)

  • ทางเข้าน้ำตกเฮบิทะคิ

    ขึ้นรถบัสที่สถานีทาคาโอะที่ประตูทิศเหนือเป็นรถบัสที่จะไปโคะบึทซึและมาลงที่ป้ายจอดรถบัส、“ทางเข้าน้ำตกเฮบิทาคิ”และก็เดินไปตามทิศทางของโคะบึทซึเมื่อไปได้เล็กน้อยจะเห็นป้ายแสดงว่าทางเข้าสถานที่บำเพ็ญตบะทางน้ำของน้ำตกเฮบิทะคิ และเลี้ยวเข้าตรงจุดนี้เข้าข้างๆศูนย์บ้านพักคนชรา และขึ้นไปที่เส้นทางขึ้นเขา น้ำตกเฮบิทะคิจะอยู่ตรงปลายเส้นทางนี้ ถนนมีการลาดยางตั้งแต่ป้ายรถบัสจนถึงน้ำตก

Ura-Takao Trail

Distance

4.6km

Time

70min

Difficulty

เรื่อง “กลิ่นหอมทาคาโอะ” อุระทาคาโอะมีบริเวณโดยรอบรวม Koshu Kaido ด้านทิศเหนือไปด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ภูเขาทาคาโอะทางทิศตะวันออกยาวไปทางทิศตะวันตก เป็นป่าพลัมมีทั้งต้นขนาดใหญ่และต้นขนาดเล็กกระจายกินบริเวณระยะทางยาว 5 กม. จากทางเข้าถนนหลวงมีป้ายรถเมลตรงพระพูทธรูปขนาดเล็กพอดี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสิ่งดึงดูดและน่าสนใจคือมีต้นพลัมของประมาณ 1 ล้านต้น ดอกพลัมจะบานปีละ 2-3 ครั้งมีกลิ่นหอมมาก ซึ่งช่วงที่ดอกบานจะอัดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว

  • โคโบโทะเขะ เซกิโช

    ทาคาโอะ ไบโกะ (พื้นที่ขนาดใหญ่มีต้นบ๊วยมากมายทั่วทุกมุมในพื้นที่ทาคาโอะ)
    จำนวนของพลัมสีต่างๆ ดอกจะเต็มบานสะพรั่งนับหมื่น เต็มพื้นที่ตลอดทางเดินระยะทาง 5กิโลเมตร ริมทางเดินจนถึงคิว โคชูไดโดะ (อดีตคือถนน * โคชู-ไคโดะ ) ที่มี เซะกิโช ไบริน (พลัมดง) เทนจิน ไบริน, ยุโนะฮานา ไบริน , เคโอโรชิซาว่า ไบริน เมื่อเข้าถึงโคโบโทเคะ ในฤดูใบไม้ผลิสามารถเดินและเพลิดเพลินกับภูมิทัศน์ของหมู่บ้านอันเงียบสงบมีดอกพลัมที่มีสีแดงและสีขาว โดยส่วนใหญ่จะเป็นพลัมสีแดง? จะบานเต็มที่จากกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 'เทศกาลดอกพลัมจะจัดขึ้นประมาณทุกวันที่10 มีนาคมของทุกปี รายละเอียดช่วงเวลา (อธิบายไว้ก่อนหน้า) มีการจัดบูธเทศกาลไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งใหลเข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก

    ติดต่อ:
    โทรศัพท์: 080-6758-1187
    สถานที่: อุระตะคาโอ มะจิ
    การเดินทางไป : เส้นที่ 1 นั่งรถบัส 15 นาที ไปทางโคโบโทะเขะ จากสถานีรถเจอาร์ ทาคาโอะ/ สาย เคโอะ เส้นที่ 2 เดินทางลงที่ป้ายรถประจำทางโอชิโมะ แล้วเดินต่อไปอีก 3 5 นาที ถึง (โคะเงะซาว่า - ไบริน : ไบริน หมายถึง พลัมดง)
    ที่จอดรถ: ไม่ม

  • ทาคาโอะ-โคะมางิโนะ -เทเอ็น

    ใช้เวลาในการชื่นชมกับทัศนียภาพและทิวทัศน์อันงดงามของอาคารที่มีคุณค่าและภูมิทัศน์สวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม:ที่มองเห็นสิงโตเช่น 'คาเรซันซุย ', สวนภูมิทัศน์แบบจีนหรือญี่ปุ่น (พระราชพิธี) โรงน้ำชา, มีปลาคาร์พหลากสีสัน ทั้งสีทอง มากมาย ' ต้นบอนไซ (ต้นไม้แคระในกระถาง) และดอกไม้ตามฤดูกาลต่างๆ ภายในของอาคารที่เปิดให้บริการฟรี เพื่อเยี่ยมชมและพักผ่อน

    ติดต่อ:
    โทรศัพท์: 042-663-3611
    เปิด 9: 00-18: 00 (ในเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม ถึงเวลา17: 00 ในเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมมันจะถึงเวลา 16:00)
    ปิดทำการ: ไม่มีวันหยุด
    ค่าธรรมเนียม: ฟรี
    สถานที่: 268-1 อุระทากาโอะ มะจิ ฮะชิโอจิโตเกียว 193-0841
    วิธีที่จะไป: เดิน 15 นาทีจากสถานีทาคาโอะ เจอาร์ / สายเลโอะ
    ที่จอดรถ: 8 คัน

  • โคโบโทะเขะ เซกิโช

    ไปเป็นนักเดินทางเพื่อย้อนกลับไปในยุคเอโดะ:
    เริ่มต้นของ โคโบโทะเขะ เซกิโช ได้รับการจัดตั้งขึ้นโดยโฮะโจะ อุหยิเทะอิรุ ที่ก่อสร้างปราาท ฮะชิโอจิโจ ( ตระกูลครอบครัวโฮะโจ เป็นผู้นำกองกำลังขนาดใหญ่ของซามูไรซึ่งควบคุมเกือบทั้งหมดของภาคใต้ของพื้นที่คันโตในช่วง เซ็งโกขุ ที่ต่อสู้สงครามตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น , ประมาณ. คริสต์ศักราช 1467-1568 ) และย้ายมาอยู่ในสถานที่ปัจจุบัน ปัจจุบันมียังคงตั้งอนุสาวรีย์หิน เทะงาตะ-อิชิสโตน' ไว้ และมีหินโบราณขนาดพกพา 'เทะงาตะ(เป็นเหมือนสิ่งที่แสดงว่าได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วมีในช่วงสมัยเอโดะยุค)

    ติดต่อ:
    โทรศัพท์: 042-643-3115 ( สมาคมนักท่องเที่ยวฮะชิโอจิ)
    เปิดให้บริการฟรีสำหรับทุกที่ทุกเวลา
    สถานที่: 419 อุระทากาโอะ มะจิ
    การเดินทางไป: 5 นาทีโดยรถบัสไปทาง โคโบโทเขะ จากสถานีรถเจอาร์ ทาคาโอะ สายเคโอ แล้วลงที่ป้ายรถเมล์ โคะมางิโนะ ก็ถึง.
    ที่จอดรถ: ไม่มี

กฎของภูเขาทาคาโอะ

  • วางแผนเตรียมการและเตรียมความพร้อมให้รอบคอบ

  • ขยะที่คุณนำมาต้องนำกลับไปด้วย

  • เดินบนเส้นทางที่กำหนดให้เท่านั้น ห้ามออกนอกเส้นทาง

  • โปรดช่วยกันดูแลต้นพืชและสัตว์

  • ไม่ควรจุดไฟที่ก่อให้เกิดไฟไหม้

  • โปรดช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดสาธารณูปโภคส่วนรวม

  • ให้นำสัตว์เลี้ยงไปผูกไว้ในที่ที่จัดเตรียมไว้ให้

  • ห้ามขับรถเข้าไปในบริเวณภูเขา เช่นจักรยานเสือภูเขา

  • ห้ามให้อาหารสัตว์

  • แนวทางการทำงาน

ความลับของเขา

  • แหล่งกำเนิดของ

    ภูเขาทาคาโอะในช่วงต้นฤดูร้อน คุณอาจจะเห็นใบไม้ที่มีลักษณะม้วนเป็นรูปทรงกระบอกล่วงหล่นเลื่อนกลาดรอบ ๆ โคนต้น หรือบริเวณท้องถนน ซึ่งข้างในจะมีไข่ของแมลง Attelabidae ถูกวางไข่ไว้ข้างในม้วนใบไม้นี้ รอจนกว่าจะฟักเป็นตัว “เป็นการฟักตัวของ Otoshibumi”
    ตัวเมียทำรังโดยม้วนใบอ่อนของใบไม้และวางไข่ข้างในในช่วงต้นฤดูร้อน แมลง Attelabidae มีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีวิธีการวางไข่ที่แตกต่างกัน
    ว่ากันว่าชื่อ Otoshibumi มีความหมายว่า “การทิ้งหรือวาง” มีลักษณะเหมือนจดหมายที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ (ในสมัยเอโดะหรือก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึง จดหมายรักฉบับหนึ่งที่ถูกนำมาวางไว้ในเส้นทางเดินของคนที่คุณต้องการจะบอกรักและเก็บจดหมายฉบับนั้นไป)

  • เด็กทำความสะอาด

    ภูเขาทาคาโอะได้มีการรณรงค์ให้มีการนำขยะที่ถือติดมาและนำกลับออกไปด้วย มีป้ายแสดงสัญลักษณ์ “Cleansing Boy” ติดไว้ที่หน้าสถานี Kiyotaki Station Square ตรงประตูทางเข้า บนภูเขาทาคาโอะจึงไม่มีถังขยะตั้งไว้ เพื่อเป็นการอนุรักษณ์ให้คนรุ่นหลังได้ชมกับธรรมชาติที่แท้จริงเราจึงควรใส่ใจในเรื่องนี้ ขยะที่ท่านนำขึ้นมาจึงขอให้ถือติดมือกลับลงไปด้วย

  • Tengu

    ในประเทศญี่ปุ่นมีเรื่องเล่าของสิ่งมีชีวิตในตำนานที่อาศัยอยู่ในป่าลึกเข้าไปในภูเขา Tengu เป็นเรื่องเล่าสืบต่อ ๆ กันมา ว่ามีลักษณะใบหน้าสีแดงมีจมูกโด่งยาวมีปีกอยู่ที่หลังถืออาวุธเป็นดาบอยู่ในมือ
    Tengu ที่อาศัยอยู่ในภูเขาทาคาโอะ เรียกว่า Tsukishitagai ที่วัดใหญ่ทาคาโอะ นำมาเป็นวัตถุมงคลเพื่อบูชา เป็นเครื่องลางที่ใช้ปัดความชั่วร้าย มีภาพ Tengu ใน Meshinawa Gongendo มีจมูกยาวและมีขนาดใหญ่ มีจงอยปากเหมือนนก ซึ่งเราจะสามารถเห็นได้ตามประตูทางเข้าสถานีทาคาโอะ หรือแม้แต่มี รูป Tengu ปรากฎอยู่ในตั๋วด้วย ที่สถานีทาคาโอะจะมีร้านขายของที่ระลึกจำหน่ายด้วย

  • ต้นเชอร์รี่บุปผาบานสองฤดู

    เป็นดอกเชอร์รี่ที่เรียกว่า 'เชอร์รี่เดือนตุลาคม' พบเจอได้ในสถานี Kiyotaki เป็นเส้นทางรถสายที่จะเข้าถนนสาย 1 (เส้นทาง Omotesando ) อยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์ Takaosan Yakuo เป็นต้นเชอร์รี่ที่ดอกจะบานปีละสองครั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและ ฤดูใบไม้ร่วง และช่วงที่ดอกบานดูสีสันสวยงามมากที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง

  • อันดับหนึ่งในญี่ปุ่น

    เมื่อพูดถึงรถเคเบิ้ลในญี่ปุ่นที่สูงเป็นอันดับ 1คือรถเคเบิ้ลของภูเขาทาคาโอะที่มีลักษณะเป็นเนินที่สูงชัน รถเคเบิ้ลที่ใช้อยู่จะวิ่งระหว่างสถานี Kiyotaki (ระดับความสูง 201m) และสถานีTakaosan (ระดับความสูง 472m) (ตำแหน่งที่18ฟิลิบดา เส้นละติจูดที่ 31 ) ดำเนินการโดย บริษัทการรถไฟ Takaotozan รถเคเบิลที่ใช้วิ่นบนภูเขาสูงชั้นเป็นรถเคเบิ้ลที่ว่าด้วยกฎหมายธุรกิจการรถไฟ

  • บีช

    เป็นพันธ์ไม้บีชที่มีชื่อเสียงที่มีอยู่บนเทือกเขา Shirakami เป็นทรัพยากรทางธรรมชาติพบเจอได้บนภูเขาทาคาโอะ ที่ระยะทางห่างจากกรุงโตเกียวประมาณ 50km มีมากบนยอดเขาสูงและ เป็นที่รู้จักกันดี เนื่องจากสามารถพบเจอได้หลายสิบต้น บริเวณสถานีทาคาโอะ ของบริษัท Takaotozan Raiway บริเวณปริมณฑลโดยรอบโตเกียวพบเจอได้ยาก เติบโตได้ดีในแถบอุณภูมิต่ำ จึงไม่ค่อยพบเจอแถบชานเมืองของโตเกียว
    ต้นบีชบนภูเขาทาคาโอะมีอายุเก่าแก่มากกว่า 200-300 ปี สาเหตุที่เรายังสามารถพบเห็นต้นบีชที่มีอายุยืนยาวนานเนื่องมาจากในสมัยเอโดะเมื่อ 200-300 ปีที่ผ่านมาเป็นยุคน้ำแข็งมีอากาศเย็นจึงเหมาะแก่การปลูกต้นกล้าบีช ในปัจุบันภูมิอากาศร้อนขึ้นและเปลี่ยนไปจึงเป็นเรื่องยากที่ต้นกล้าบีชจะเพาะเป็นต้นกล้าได้

  • พืชที่อาศัยอยู่บน ต้นไม้

    บนภูเขาทาคาโอะมีพืชบางชนิดที่อาศัยอยู่ตามกิ่งไม้ของต้นไม้ชนิดอื่น เรียกว่า “Epiphytes” มีชื่อเรียกทั่วไปคือ หวาย “เป็นกล้วยไม้ตระกูลหวาย” ชอบอยู่บนกิ่งของต้นสนซีดาณ์ พบเห็นได้บนถนนสาย 6 ตลอดแนวเส้นทางจะเห็นออกดอกสีชมพู สีขาว จะออกดอกในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อน

  • ขุมทรัพย์แห่งพันธ์พืช

    ว่ากันว่ารอบ ๆ ภูเขาทาคาโอะได้ค้นพบพืชประมาณ 1,600 ชนิด และบริเวณโดยรอบ ซึ่งเป็นเขตที่อุดมสมบูรณ์มากเมื่อเทียบกับจำนวนทั้งหมดที่มีในประเทศอังกฤษที่ผมอาศัยอยู่ ด้วยเหตุนี้ภูเขาทาคาโอะจึงกลายเป็นแหล่งศึกษาของนักวิจัยหลายคนมาเป็นเวลานานมากแล้ว และได้มีการค้นพบพืชสายพันธ์ใหม่ๆ และประกาศเป็นแหล่งที่ค้นพบครั้งแรกที่ภูเขาแห่งนี้มากกว่า 60 ชนิดเลยทีเดียว และได้ตั้งชื่อสายพันธ์พืชตามชื่อของผู้ค้นพบเช่น Takaosumire, Takaohigodai และอื่น ๆ อีกมากมาย
    มีเหตผลในการแบ่งสายพันธ์ที่หลากหลายที่มีความเกี่ยวโยงกันกับภูเขาทาคาโอะอยู่ 2 เหตผล คือ
    1. เพราะภูเขาทาคาโอะตั้งอยู่ในพื้นที่ภูมิอากาศที่เย็นกำลังดีเหมาะแก่การเจริญเติบโตของพันธ์พืช
    2. เพราะเป็นภูเขาที่ได้รับความคุ้มครองจากความเชื่อตั้งแต่ยุคนาราโบราณว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์, และได้รับการคุ้มครองจากฝ่ายปกครองเมืองในเวลานั้น ในสมัยเอโดะ คือตระกูล Hojo เป็นช่วงเวลาที่เกิดสงครามรบกับสหรัฐฯ ตามที่ระบุไว้ใน ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ประมาณปี 1467-1568 ปัจจุบันได้กำหนดให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติที่ได้รับความคุ้มครองให้เป็นธรรมชาติที่สุด

  • เนินปราสาท

    ในบริเวณใกล้เคียงกับภูเขาทาคาโอะมีภูเขาที่เชื่อมกันเป็นภูเขาขนาดเล็กชื่อว่า Shiroyama เป็นภูเขา Shiroyama มีด้วยกันทั้งหมดหกลูกด้วยกัน แต่ละลูกมีชื่อเดียวกับชื่อน้ำตก ชื่อปราสาทที่สร้างขึ้นเช่นชื่อปราสาท Hachiojijo และ ปราสาท Takiyamajo เป็นปราสาทในยุคกลางช่วงสงคราม ซึ่งปราสาทเหล่านี้เป็นที่ตั้งของเหล่าทหารและที่เก็บอาวุธในสมัยนั้นและเป็นเส้นทางที่ใช้ตัดผ่านเพื่อขนส่งอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงเป็นภูเขาที่มีความสำคัญกับทหารในสมัยนั้นอย่างมาก

  • จุดชมวิว

    ภูเขาไฟฟูจิที่มองเห็นจากด้านบนของภูเขาทาคาโอะที่เป็นที่นิยมมาก และยังสามารถมองเห็นตึกสกายทรีที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
    ยิ่งในวันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นตึกสกายทรีได้ชัดเจนมาก หรือแม้กระทั้งสามารถมองเห็นโตเกียวทาวเวอร์อาคารสูงในชินจูกุรวมทั้งอาคาร Tokyo Metropolitan Government ในระยะทางที่อยู่ใกลออกไปมาก
    หรือแม้กระทั่งในเวลากลางคืนยังสามารถมองเห็นความสวยงามของแสงไฟในเมือง ซึ่งบนภูเขาทาคาโอะนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในกรุงโตเกียวว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุด
    นอกจากนี้ในฤดูหนาวหลังเดือนธันวาคมมองจากบนภูเขาทาคาโอะ ช่วงพระอาทิตย์ตกดินจะมองดูเหมือนกำลังจมลงบนยอดภูเขาไฟฟูจิ เหมือนแสงเพชรที่กำลังเปล่งแสงเจิดจ้าสวยงามมาก เรียกว่า “เพชรฟูจิ”

  • แหล่งของแมลงที่ใหญ่เป็นอันดับสามที่อาศัยในญี่ปุ่น

    ว่ากันว่าในภูเขาทาคาโอะมีแมลงมากกว่า 4,000 ชนิด อาศัยอยู่ซึ่งเรียกได้ว่ามากเป็นอันดับสามของญี่ปุ่น และอาศัยกระจายอยู่ในภูเขา Kibune ในโตเกียว และภูเขามิโนโอะที่โอซาก้า
    ภูเขาทาคาโอะมีแมลงอาศัยอยู่หลากหลายจึงเป็นแหล่งเรียนรู้และวิจัยสายพันธ์แมลงชนิดต่าง ๆและตั้งอยู่ไม่ใกลจากโตเกียวมากนัก เรียกว่า “ ปราสาทกีฎวิทยา ” และได้กลายเป็นศูนย์วิจัยและศึกษาแมลงเป็นเวลานาน มีสายพันธ์ที่ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในภูเขาทาคาโอะแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่แมลงบางชนิด เช่น แมล Takaokiriga,Pseudopanolis, Hiradonta takaonis, Stenhomalus takaonus และมีอื่น ๆ อีกมากมาย ในบรรดาแมลงต่าง ๆ นี้ มี Mukashi Tonbo ( แมลงปอยุคเดียวกับที่พบในฟอสซิลของญี่ปุ่น ) และ Asagimadara ( ผีเสี้อเกาลัด ) ทาคาโอะหอกนักฆ่าวาฬและทาคาโอะ medaka ด้วงชื่อของทาคาโอะมาถึง “superstes Epiophlebia”, “เสือเกาลัดผีเสื้อ” ยังมีแมลงที่ขึ้นชื่ออีกหลายสายพันธ์

  • Suzuriishi

    'Clayslate' หรือหินชนวนประกอบด้วยชั้นหินของภูเขาทาคาโอะที่ทับถมกันเป็นชั้นๆ ของหินตะกอนที่เป็นดินโคลนและทรายเป็นเวลานาน ซึ่ง Clayslate มีลักษณะเป็นสีดำหยาบจึงเป็นเรื่องยากที่จะขัดให้เรียบมัน ใช้ทำเป็นกระดานชนวน “ Inkstone ” ที่หลาย ๆ คนอาจเคยได้สัมผัส หรือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เล่นเกมส์ “ ไป ”.
    เราสามารถพบเห็นหินลักษณะนี้ได้ที่ถนนเส้นที่ 6 ( ถนนสายน้ำตกบิวะ )

  • กระรอกบิน

    ที่ภูเขาทาคาโอะจะอัดแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมากในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งแสดงให้เห็นความแตกต่างกันมากในเวลากลางคืนที่มืดและสงบ ท่ามกลางความมืดจะมีกระรอก Musasami บินไปมาระหว่างต้นไม้เหมือนเครื่องร่อน
    ในภูเขาทาคาโอะมีกระรอกบินมีจำนวนมากอาศัยอยู่รอบ ๆ ภูเขา ช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดินได้ประมาณ 30 นาที จะเห็นกระรอกเหล่านี้บินออกจากรังมีเป็นจำนวนมาก

  • รอยแผลบนก้านใบไม้ในฤดูหนาว

    คุณจะห็นช่วงที่กิ่งไม้ผลัดใบออกไปจนหมดหลงเหลือร่องรอย ที่เรียกว่ารอยแผลเป็นของก้านใบไม้ที่เป็นท่อลำเลียงอาหารไปเลี้ยงในส่วนของใบ ( เป็นเส้นใยของเนื้อเยื่อที่เป็นท่อส่งสารอาหารและน้ำที่มีอยู่ในต้นพืช) จะปรากฏให้เห็นในรูปแบบต่าง ๆ เช่นใบหน้าของสัตว์ที่มองเห็นและจินตนาการได้ ตัวอย่างเช่นเห็นเป็นหน้าลิงบนรอยแผลเป็นของก้านใบของ Juglans หรือเห็นเป็นใบหน้าของแกะที่รอยแผลเป็นก้านใบของต้น Zanthoxylum ซึ่งรอยแผลเป็นของก้านใบลักษณะนี้สร้างความบันเทิงสนุกสนานมาก จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเดินเที่ยวภูเขาทาคาโอะในช่วงฤดูหนาว

  • สวรรค์ของนกป่า

    จำนวนของนกป่าที่ได้รับการยืนยันบนภูเขาทาคาโอะมีมากกว่า150 ชนิด มีจำนวนเท่ากับประมาณหนึ่งในสามของสายพันธ์นกที่ได้รับการระบุในประเทศญี่ปุ่น (ทั้งหมดประมาณ 550 ชนิด) มีการระบุไว้ในภูเขาทาคาโอะ
    ดังนั้นจึงเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นจุดดูนกทั่วไปในโตเกียว

  • ป่า A-Z

    เป็นต้นไม้ที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร A ถึง Z ที่เชื่อมต่อจากยอดเขาทาคาโอะลงมาถึงพื้นที่ราบ โดยเริ่มต้นตัวอักษร 48 ตัว เป็นชื่ออักษรตัวหน้าของต้นไม้ ได้แต่งเป็นบทกวีที่เก่าแก่มากโดยนักแต่งที่มีชื่อเสียงชื่อว่า Manyosho ในสมัยนั้น และไ้ด้มีการนำมาจัดแสดงให้ผู้คนเข้าชมกัน และได้อธิบายถึงที่มาที่ไปด้วย

  • ระดับสามดาว

    ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของภูเขาทาคาโอะได้รับการยอมรับไปทั่วทุกมุมโลกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติชอบเข้าชมมากที่สุด
    หนังสือMichelin Bowaiyaje Pula ( Michelin Voyager Pratique Japon ) สำนักพิมพ์ภาษาฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไว้ในหนังสือให้กับชาวต่างชาติได้รู้จักถูกตีพิมพ์ในปี 2007 กล่าวถึงการเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ในหนังสือแนะนำสำหรับชาวต่างชาติ ในปี 2009 ได้มีการจัดอันดับภูเขาทาคาโอะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ในระดับ 3 ดาว พร้อมกับภูเขาฟูจิ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในเขตชานเมืองโตเกียว จึงเป็นเหตุผลที่ได้รับการคัดเลือก

  • Top hundred best

    ภูเขาทาคาโอะได้รับการประเมินและถูกเลือกว่าเป็นภูเขาที่ดีทีสุดในมุมมองความเป็นธรรมชาติและมีทัศนียภาพที่สวยงาม
    ได้รับการเสนอชื่อว่าเป็น “Japan 's Best Hundred View” และ “100 Mt. Fuji views in Kanto district” และเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มีดอกไม้ที่สวยงามมากที่สุดด้วย “100 Forests in Janpan for Forest Bathing”

ชั้น

กลุ่มนักธรณีวิทยาของภูเขาทาคาโอะเรียกว่า ' กลุ่มนักธรณีวิทยา Kobotoke เป็นฝั่งธรณีวิทยาทางด้านตะวันตกของภูเขาทาคาโอะได้ถูกตั้งชื่อตาม Kobotoke-Toge ซึ่งมีความหนาและกระจายอยู่รอบ ๆ ภูเขาทาคาโอะไปทางตะวันตกจนถึงเมืองคานากาว่า และเมืองยามานาชิ
เดินไปตามลำธารริมภูเขาทาคาโอะจะพบกับชั้นหินที่มีหินทราย clayslate และหินถูกทับถมสลับกันเป็นชั้น ๆ บางสถานที่มีปรากฎอยู่่ในแผนภูมิ มีการขุดค้นพบหอยฟอสซิลที่มีอายุยาวนานมาก หอยชนิดนี้ถูกค้นพบและขุดขึ้นมาโดยกลุ่ม Kobotoke ในเขตเมือง ยามานาชิ คาดว่าหอยฟอสซิลนี้มีอายุร้อยล้านปีมาแล้ว
หมู่เกาะญี่ปุ่นเขตตะวันออกที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินของประเทศจีนมาตั้งแต่ในช่วงกลางของยุคหิน Mesozoic จนถึงช่วงเริ่มต้นของยุคหิน Cenozoic และฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกเขตตะวันตกของญี่ปุ่นและศูนย์กลางของฮอกไกโดอยู่ในระดับน้ำทะเลเดียวกัน
ส่วนทางทิศตะวันตกของกรุงโตเกียวเป็นอ่าวเปิดกว้างขนาดใหญ่หันหน้าไปทางทิศใต้ที่ก้นทะเลจะมีหินมีลักษณะเป็นชั้น ๆ ของหินทรายเป็นแท่นแผ่นใหญ่ clayslate เกิดขึ้นที่ก้นทะเลซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับที่เจอบนภูเขาทาคาโอะและ Kobotoke Toge
เกิดการทับซ้อนกันมาตั้งแต่ในช่วงยุคหิน ซึ่งเคยอยู่ใต้น้ำมาก่อนที่จะถูกยกขึ้นมาเหนือพื้นน้ำกลายเป็นภูเขาทาคาโอะ ในปัจจุบัน

สภาพภูมิอากาศ

ความแตกต่างของสภาพภูมิประเทศและพืชพรรณไม้ต่างๆ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และลักษณะการกระจายตัวของภูเขาลูกย่อย ๆ , ไหล่เขาและยอดเขาหรือเกิดจากความลาดชันไม่เท่ากันของฝั่งใต้และฝั่งเหนือ หรือป่าไม้โอ๊ค และป่า Japonica Fagus ในภูเขาทาคาโอะ
ตัวอย่างเช่นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิในตอนเช้าของฤดูหนาวทั่วๆ ไปมีอุณภูมิเท่ากัน ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าเราปีนขึ้นไปบนยอดเขาทาคาโอะแล้วจะเจออุณภูมิต่ำกว่า เป็นลักษณะภูมิประเทศอย่างหนึ่งของภูเขาทาคาโอะ ซึ่งบางจุดในบนเชิงเขามีอุณหภูมิสูง (อบอุ่น) และบางจุดในภูเขาลูกย่อย ๆ มีอุณหภูมิต่ำสุด (เย็น) และอุณภูมิยังต่ำไปตามแนวสันเขาด้านบน นี้เป็นเพราะมวลอากาศที่เย็นลงในช่วงกลางคืนลาดลงไปยังภูเขาลูกย่อย ๆ จะเป็นเหมือนทะเลหมอกอากาศเย็นจะส่งผลให้อุณหภูมิบริเวณรอบ ๆ เกิดมวลอากาศอบอุ่นขึ้นที่ลาดเชิงเขา มวลอากาศอบอุ่นที่เกิดขึ้นตามไหล่เขานี้มีโอกาศเกิดขึ้นได้เมื่อสภาพอากาศเหมาะสมและท้องฟ้าสดใส หรืออาจจะเกิดขึ้นได้ในฤดูอื่น ๆ ในวันที่สดใสด้วย

もっと見る 閉じる