Others
ทาคาโอะที่นี่มีสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยป่าไม้ที่หนาวและภูมิอากาศที่อบอุ่นกระจาย กล่าวได้ว่าได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่มีที่อยู่อาศัยอยู่จำนวนมาก มีหลากหลายชนิดและก็มีพฤติกรรมการเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน จะขอกล่าวถึง แมงมุม " ซึ่งเป็นแมลงชนิดหนึ่งที่เป็นประโยชน์ที่กินศัตรูพืชกว่า 300ชนิดที่มีอยู่ มีทั้งชนิดที่หาได้ง่ายและที่หาไพบได้ยาก ซึ่งตามภูเขา เมาทน์ทาคาโอะ เป็นที่รู้จักกันในประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นสวรรค์ของภูเขาแมงมุมหลายชนิดของแมงมุมมากที่สุด"
-
พวกมันอาศัยอยู่ ในเขตภาคตะวันออกของญี่ปุ่น พื้นที่แถบโฮชุ ตั้งแต่โตเกียวไปถึงวากานามา ยกเว้นในคาบสมุทร ฮอกไกโดและ อิซุ ซึ่งคาดว่าพวกมันน่าจะเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับ Japnicus Plestiodon ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งในปี 2012 ได้พบว่าพวกมันเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน และมีชื่อว่า Plestiodon japonicas อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น (ชื่อใช้เรียกเหมือนกันในเขตตะวันตกของญี่ปุ่น ) พวกมันอาศัยอยู่ได้ทั่วไปทั้งในทุ่งหญ้าและป่าไม้ ภูเขา อยู่ได้ทุกระดับสูงหรือต่ำ และเรามักจะเห็นพวกมันนอนอาบแดดบนพื้นดิน และตามใหล่ภูเขา และบนเนินภูเขาทาคาโอะ ลำตัวจะมีสีสันสดใสเต็มไปด้วยสีเหลือง สีน้ำตาล และที่ลำตัวจะมีผิวสัมผัสที่เนียนเรียบ พวกมันมีหางยางมากจาก1ใน 5ของลำตัว เมื่อตัวยังไม่เจริญเต็มวัยลำตัวมีสีดำ และหางแต่งแต้มด้วยสีฟ้า ซึ่งทำให้ดูโดดเด่นมาก เคลื่อนไหวได้รวดเร็วว่องไวมาก และระวังภัยอยู่ตลอดเวลา และจะหลบอยู่ในเงามืดทันที่เมื่อพบสิ่งแปลกปลอม แต่เมื่อถูกศัตรูจับที่ลำตัว มันสามารถตัดหรือสลัดหางทิ้งไปแล้วงอกขึ้นมาใหม่ได้อีก ซึ่งเรียกว่า ' Jigiri ( ตัดหางตัวเองเพื่อรักษาชีวิต ) กินอาหาร เช่น แมลงเล็ก แมงมุม เดือนมิถุนายนเป็นช่วงวางไขและเลี้ยงลูกอ่อน
● ขนาดลำตัว ประมาณ 15-25 เซนติเมตร
● ฤดูกาล....พบได้ในช่วงเมษายน-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: .. พบมากในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะยากุ เกาะทาเนะงะ และเกาะนากาโน่ พบได้ในทุ่งหญ้าและพุ่มไม้ในเขตเมืองทั้งในระดับความสูงหรือต่ำ แม้กระทั่งรอบพื้นที่อยู่อาศัยของคน และมักจะ เห็นพวกมันนอนอาบแดดบน รั้วหิน และหินแต่งสวน มีชื่อญี่ปุ่นเรียกว่า Nihon-kana-Hebi หมายถึง งูน่ารักญี่ปุ่น แต่พวกมันจัดอยู่ในกลุ่มของ จิ้งจก งู ซึ่งไม่แตกต่างกันระหว่าง จิ้งเหลน คือมีผิวหยาบเป็นเกล็ด ออกหากินในช่วงกลางวัน และนอนหลับในช่วงเวลากลางคืนบนใบหญ้า ล่าเหยื่อจำพวกแมงมุมและ แมลงเป็นอาหาร มีหางยาวเป็น2เท่าของลำตัวสามารถที่จะตัดหางของตัวเองเพื่อเอาตัวรอดจากศัตรู ลำตัวมีสีน้ำตาลจากด้านหลังถึงด้านข้างช่องหน้าท้องเป็นสีขาว มีเส้นสีขาวจากใต้ ตายาวไปถึงช่องท้อง
● มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 16-27 เซนติเมตร
● ฤดูกาล...พบได้บ่อยช่วงเมษายน-ตุลาคม" -
ภูมิภาคหลัก: ....พบได้ในฮอกไกโด คิวชู เกาะคุนาชิริ เกาะซาโดะ และหมู่เกาะทั่วไปที่มีป่าและทุ่งหญ้า เขตเมืองบนภูเขาและยังอยู่ในเพดานของบ้าน เป็นงูที่รู้จักกันมากที่สุดในฮอนชู ที่ลำตัวมีสีน้ำตาลมะกอก จะแตกต่างกันตามแต่ละสายพันธุ์ ขนาดความยาวของลำตัวมีขนาดมากกว่า 2 เมตร แต่พวกมันชอบอยู่ในที่สงบและไม่มีพิษ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ปีนขึ้นต้นไม้ได้ดี แม้ว่าต้นไม้จะเป็นแนวตั้งหรือแนวเสาไฟฟ้า กินลูกนกหรือไข่ในรังของนกเป็นอาหาร สายพันธุ์นี้มีสีขาวที่เรียกว่า shirohebi หมายถึงงูสีขาว หรือเป็นพันธุ์เผือก เป็นงูเผือกที่อาศัยอยู่ในเมืองอิวะคุนิของจังหวัดยามากูชิและได้ถูกกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
●ความยาวลำตัวประมาณ 100-200 เซนติเมตร
●ฤดูกาล....พบได้ในช่วงเมษายน-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโดฮอนชูชิโกกุ เกาะคุนะชิริ เกาะซาโดะ และหมู่เกาะโอซุมิ พบได้ในทุ่งหญ้าริมแม่น้ำ และทุ่งหญ้าจากเมืองบนภูเขาที่มักจะพบพวกมันนอนอาบแสงอาทิตย์ เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่างูหนู "Ratsnake" และงูเสือ "Keelback" จะมีลำตัวที่แตกต่างกัน แต่ส่วนมากพวกมันจะมีสีดำสี่แถบ มีชื่อญี่ปุ่นว่า Shima-Hebi หมายถึงงูลาย บางชนิดมีลำตัวสีดำและเรียกว่า karasu-Hebi หมายถึงงูกา ออกหากินช่วงเวลากลางวันและล่ากบ หนู จิ้งจก ซาลาแมนเดอร์และไข่ของนกเป็นอาหาร นอกจากนี้ยังชอบกินงูด้วยกันอีก จะขดตัวเป็นรูปตัว S เมื่อมีภัยคุกคาม
●ความยาวลำตัวประมาณ 80-200 ซม.
●ฤดูกาล...พบมากในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะคุนาชิริ เกาะอิซุ และเกาะทาเนงะ พบมากในพื้นที่ราบตามแนวทุ่งหญ้า ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่า มีหัวขนาดเล็กเหมาะสำหรับการใช้ชีวิตใต้ดิน มีชื่อญี่ปุ่นว่า Jimuguri ความหมายคืออยู่ใต้ดิน กินหนูใต้ดินและสัตว์ขนาดเล็ก มุดตามโพรงต่าง ๆเพื่อล่าเหยื่อที่อาศัยอยู่ในโพรง เป็นงูที่ชอบความสงบ ไม่มีพิษและไม่กัด จะกัดเฉพาะเมื่อมีการป้องกันตัวเองเท่านั้น เช่นมนุษย์ที่พยายามจะจับตัวมัน ขับถ่ายตามกอหน้า ช่วงฤดูหนาวมันจะจำศิลในโพรง หรือแม้แต่ฤดูร้อนมักอยู่ใต้ดินในขณะที่อากาศร้อนอบอ้าวก็ตาม
●ความยาวลำตัว ประมาณ 70-100 ซม.
●ฤดูกาล... พบได้ช่วงเมษายน-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะซาโดะ เกาะอิกิ เกาะโอกิ และเกาะโกโตะ เป็นงูขนาดเล็กที่พบได้ทั่วไปในป่า รวมทั้งทุ่งหญ้า ทุ่งนาและในพื้นที่ราบทั่วไป มีชื่อญี่ปุ่นว่า Hibakari เมื่อถูกกัดและพิษจะไม่รุนแรงมาก ชอบความสงบไม่มีพิษภัยและไม่กัด เมื่อมึภัยคุกคามเพืยงแค่ขู่และม้วนตัวเป็นรูปตัว S ออกหาอาหารกินตามพื้นดิน และว่ายน้ำได้ดีเมื่อเทียบกับงูชนิดอื่น อยู่ใต้น้ำเพื่อหาอาหารตามริมน้ำจำพวกกบขนาดเล็ก ลูกอ๊อด และปลาด้วย
● ความยาวลำตัวประมาณ 40 ถึง 65 เซนติเมตร
● ฤดูกาล...พบได้ในช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะซาโดะ เกาะโกโตะ เกาะยากุ เกาะทาเนงะ พบได้ตามที่ราบต่ำ และชอบอยู่ตามแอ่งน้ำในนาข้าว หรือในพื้นที่ที่เป็นแอ่งน้ำ กินกบจิ้งจกและปลาเป็นอาหาร แต่ชอบกบมากที่สุด หรือแม้กระทั่งคางคกที่ซึ่งงูชนิดอื่น ๆ ไม่สามารถกินได้ ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เมื่อเปรียบเทียบกับลำตัวที่มีขนาดใหญ่ แต่ที่เป็นอันตรายก็คือการถูกกัดเพราะมีพิษที่เขี้ยวอยู่ภายในซอกลึกของปาก แต่พิษที่ทำให้เสียชีวิตก็ขึ้นอยู่กับสภาพของร่างกายมนุษย์แต่ละคน นอกจากนี้ยังมีพิษที่ต่อมด้านหลังในลำคอเมื่อหลั่งออกมา โดยปกติแล้วงูประเภทนี้จะชอบความสงบและไม่กัด เว้นแต่มนุษย์พยายามที่จะสัมผัสหรือจับพวกมัน
●ความยาวลำตัว ประมาณ 70-150 ซม.
●ฤดูกาล...พบมากช่วงเมษายน-ตุลาคม -
พวกมันอาศัยอยู่กันอย่างแพร่หลายในฮอกไกโด แถบฮนชุ ชิโกกุ คิวชิว และเกาะโอซึมิ - โชโตะ หมู่เกาะแถบคาบสมุทรอิซุ
ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ ริมลำธาร เชิงเขา ในป่า และป่าเขตภูเขา แต่บางครั้งเราเห็นพวกมันอาศัยอยู่ในไร่การเกษตร พวกมันเป็นงูพิษที่มีพิษรุนแรงมาก และมีอัตราการเสียชีวิตสูงจากการถูกงูประเภทนี้กัด
ลำตัวจะถูกแต่งแต้มด้วยสีน้ำตาลอ่อนๆ จนถึงสีน้ำตาลแก่ และมีรูปวงรี มีแถบสีดำอยู่ตรงกลาง และบางตัวแต่งแต้มด้วยสีแดง แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสีดำ โดยทั่วไปพวกมันเป็นสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืนในช่วงเวลาที่อุณหภูมิลดต่ำลง หรือแม้แต่ในช่วงเวลากลางวันที่มีอากาศเย็น บางครั้งเราสามารถพบเห็นได้ในเขตภูเขาทาคาโอะ แต่เราจะไม่พบเจอมันตามเส้นทางเดินขึ้นภูเขา และหากเราพบเจอมันโดยบังเอิญ ควรปฎิบัติดังนี้คือ ให้ออกห่างจากมันในระยะ 1 เมตร และให้พวกมันเลื้อยผ่านไป โดยไม่ทำอันตรายกับเราเลย อาหารที่โปรดปรานคือ สัตว์ขนาดเล็ก แมลง หนู จิ้งจก กบ เป็นต้น โดยใช้ประสาทสัมผัสหรือ ที่เรียกว่า พิท ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับจมูก รับรู้ประสาทสัมผัสโดยผ่านอินฟราเรด เพื่อค้นหาเหยื่อ
( ตัวเมีย จะฟักไข่อยู่ภายในร่างกายของตัวเองแล้วออกลูกเป็นตัว )ออกลูกครั้งละประมาณ 10 ตัว ในช่วงฤดูร้อนจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ขนาดลำตัวยาวประมาณ 45-60 เซนติเมตร
ฤดูกาล...พบได้ในช่วงเมษายน-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: ในเขตคันโต (ยกเว้นจังหวัดกุนมะ ) และบางส่วนของจังหวัดฟูกูชิม่า พบได้ในป่าบนเนินเขาและริมน้ำในภูเขาและส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนพื้นราบ ยกเว้นฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งตัวอ่อนนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆกับตัวโตเต็มวัยทุกประการ หรือมีลักษณะเหมือนรุ่นเล็กของ Axolotl และอาศัยอยู่ใต้น้ำส่วนใหญ่ กินแมลงที่อาศัยอยู่บนพื้นดินรวมทั้งไส้เดือน แมงมุมและ สัตว์เล็กๆที่หากินกับซากพืชซากสัตว์ต่าง ๆ ลำตัวจะมีสีที่แตกต่างกันไปตามแต่ละชนิด แต่ส่วนใหญ่มีสีน้ำตาลเข้มมีจุดสีดำบนร่างกาย ออกหากินเฉพาะในเวลากลางคืน ไม่ออกหากินในช่วงกลางวันซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน และอยู่ใต้ก้อนหิน ออกล่าเหยื่อในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ล่าเหยื่อเพื่อเตรียมไว้สำหรับช่วงฤดูฤดูหนาว และช่วงฤดูผสมพันธุ์คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม และมักจะพบในน้ำนิ่งรวมทั้งบ่อหรือคูนาข้าว
●ความยาวลำตัวประมาณ 8 ถึง 13 ซม.
●ฤดูกาล...พบมากในเดือนเมษายน-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: พื้นที่แถบคันโต พื้นที่ตอนกลางของประเทศ แถบตอนเหนือ และแถบคินกิ แถบชูโกกุ พบในพื้นที่ชื้นแชะของหุบเขาและลำธาร ในป่าภูเขา ลำตัวเป็นสีม่วงสีน้ำตาลมีจุดสีเหลืองเหมือนโรยทอง ออกหากินในเวลากลางคืนและในช่วงกลางวันที่ฝนตก และอาศัยหากินอยู่ใต้เงามืดตามซอกหินและใต้กองใบไม้ที่ร่วง อาหารคือไส้เดือน ทาก แมงมุมและแมลงขนาดเล็ก เมื่อโตเต็มวัยมักจะอาศัยอยู่บนพื้นดิน และย้ายไปอยู่ริมน้ำเพื่อวางไข่ในฤดูผสมพันธุ์ วางไข่ในลำธารที่ไหลเบาๆ และวางไข่ในถุงไข่บนพื้นหิน ถุงไข่จะเรืองแสงเป็นสีฟ้าสะดุดตา
●ความยาวลำตัวประมาณ 10 ถึง 18 เซนติเมตร
●ฤดูกาล ตลอดทั้งปี -
ภูมิภาคหลัก: ในบางส่วนของฮอกไกโด (การกระจายอยู่ในแหล่งที่คนไม่พลุกพล่าน) ฮอนชู (จากภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปยังภูมิภาค แถบคินกิ ในทะเลญี่ปุ่น ทะเลทางตอนเหนือของพื้นที่ Sanin และส่วนหนึ่งของคาบสมุทรคิอิ ) พบในพื้นป่าที่ราบไปจนถึงบนภูเขาและยังพบอยู่ในวัดหรือที่พักอาศัยของคน เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางตั้งแต่สมัยโบราณว่า "กามา" ขนาดของลำตัวแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ที่มีขนาดเล็กจะอาศัยอยู่ในพื้นที่อากาศเย็นเช่นในภูมิภาคโตโฮกุและจะกลายเป็นขนาดใหญ่ขึ้นในสภาพภูมิอากาศที่อบอุ่น สีลำตัวก็เช่นเดียวกันจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค แต่ส่วนใหญ่พวกมันจะมีสีน้ำตาล แต่บางตัวมีสีแดงหรือสีออกโซนเหลือง แทบจะไม่เคยกระโดดเลย แค่เดินอย่างเดียว อาหารที่ล่าคือแมลง แมงมุมและไส้เดือนดิน ขับสารพิษสีขาวออกมาทางด้านหลัง มีพิษต่อสิ่งรอบข้างเมื่อสัมผัส
●ความยาวลำตัวประมาณ 9 ถึง 17cm
●ฤดูกาล...พบได้ในช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: ในฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะซาโดะ พบมากในนาข้าวในบ่อและหนองน้ำในพื้นที่ราบที่เป็นป่ากว้างราว 1,000 เมตร กบเป็นที่รู้จักกันทั่วไป สีลำตัวแตกต่างกันไปตามแต่ละชนิด แต่ส่วนใหญ่มีสีแดงชื่อญี่ปุ่นคือ Yama-aka-gaeru ความหมายคือกบภูเขาสีแดง ที่ด้านหลังมีสีแดงสีน้ำตาลถึงสีน้ำตาลเข้ม และด้านข้างถึงหน้าท้องป็นสีส้ม กระโดดด้วยขาหน้า กินไส้เดือนทากและแมลงขนาดเล็กเป็นอาหาร เอกลักษณ์ก็คืออยู่นิ่ง ๆ บางตัวซ่อนตัวใต้ดินเช่นเดียวกับกบอื่น ๆ แต่บางตัวซ่อนอยู่ใต้โคลนในหนองน้ำ และใช้ชีวิตในน้ำตลอดฤดูหนาว
●ความยาวลำตัวประมาณ 4-8 เซนติเมตร
●ฤดูกาล...พบเจอได้ช่วงเดือนมีนาคม-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุ และคิวชู เกาะโกโตะ พบได้ตามป่าและลำธารในภูเขา สีลำตัวแตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ จากสีเหลืองเป็นสีแดงน้ำตาล กินแมลงแมงมุมและหอยเป็นอาหาร ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนพื้นดินตัวผู้มีถุงเสียง (เสียงสะท้อนในลำคอ) และสร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยเสียงทุ้มต่ำๆ ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ มันจะซ่อนตัวอยู่ซอกหินจึงหาตัวได้ยาก ซึ่งส่วนใหญเป็นสายพันธฺุ์ที่มีขนาดเล็ก ฤดูผสมพันธุ์คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมและจะมีไข่ที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับกบพันธ์อื่น ๆ ลูกอ๊อดจะฟักตัวออกมาจากไข่และอาศัยอยู่บนพื้นดินหลังจากที่โผล่ออกจนโตเต็มวัย ชื่อนี้ถูกตั้งตามชื่อของนักวิชาการที่ค้นพบคือ ศาสตราจารย์ Katsuya Tago
●ความยาวลำตัวประมาณ 3 ถึง 5 ซม.
●ฤดูกาลมีนาคม-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: พบในฮอนชู ชิโกกุ และเกาะคิวชู พบได้ในลำธารและป่าไม้โดยรอบ ลำตัวมีสีเทาจนถึงสีน้ำตาล และมีจุดด่างดำ สามารถปรับเปลี่ยนสีต่างๆ ได้เพื่อพลางตัวป้องกันภัย และเป็นเรื่องยากที่จะพบพวกมันเมื่อมันพรางตัวอยู่บนโขดหินริมแม่น้ำ ขับเสียงร้องได้ไพเราะมาก เป็นที่นิยมจากผู้คนตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว "ฟิ ฟิฟ ฟิฟ ฟิฟ ฟิ " เสียงนี้คล้ายกับเสียงของกวางจึงเป็นที่มาของชื่อญี่ปุ่น Kajika-gaeru ความหมายคือกบกวาง และอีกนัยหนึ่งคือ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เรียกว่าตะกร้าหรือกระจาด Kajika ที่นิยมใช้สำหรับการทำไร่ไถนาในสมัยเอโดะ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกบ ซึ่งขนาดลำตัวของตัวเมียจะใหญ่กว่าตัวผู้เป็นสองเท่าตัว
●ความยาวลำตัวประมาณ 5-7 เซนติเมตร
●ฤดูกาล...พบได้ในเดือนเมษายน-ตุลาคม -
อาศัยอยู่กันอย่างแพร่หลายใน ฮอกไกโด แผ่นดินใหญ่ ฮอนชู ชิโกกุ คิวชิว เกาะโอซุมิ โชโตะ และคาบสมุทรอิซึ
จากชื่อของพวกมันบ่งบอกให้เห็นว่าชอบอาศัยอยู่ในป่า เมื่อโตเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนต้นไม้ มีบ้างที่จะเห็นพวกมันอาศัยอยู่ตามวิหารของวัดป่าทางพุทธศาสนา และศาลเจ้า ชินโตก็มี อาศัยอยู่ในบ่อน้ำตามบ้านเรือน พวกมันถูกกำหนดให้เป็นสัตว์คุ้มครอง ลำตัวมีสีแต่งแต้มด้วยสีเขียว ถึง สีเขียวเข้ม มีบ้างที่มีสีเขียวอมน้ำตาลแดง พวกมันมีลักษณะคล้าย Rhacophorus schlegelii แต่ Rhacophorus arboreus จะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่กว่ามาก และมีสีแดงรอบดวงตา เป็นวิธีการที่จะแยกทั้งสองชนิดออกจากกัน เสียงของตัวผู้จะเป็น ' KO - KO - KO ' หรือ ' KA- KA- KA ' ช่วงฤดูผสมพันธ์และวางไข่คือช่วงปลายเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม ตัวเมียและตัวผู้จะช่วยกันวางไข่ของพวกมันบนกิ่งไม้ที่ยื่นออกมาเหนือน้ำ
ไข่จะถูกฟักภายใน 7-10 วันถัดไปเปลี่ยนเป็นลูกอ๊อดและตกอยู่ในน้ำ
ขนาด ตัวผู้ : ประมาณ 40-60 ซม. , ตัวเมีย : ประมาณ 50-75 เซนติเมตร
ฤดูกาล....ในเดือนเมษายนถึง เดือนตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก : ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะโกโตะ พบในหนองน้ำและริมน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นาข้าวจากพื้นที่ราบชานเมืองไปจนถึงเนินเขาเตี้ยๆ มีชื่อที่ไม่ซ้ำกันโดยได้รับการตั้งชื่อตามนักสัตววิทยาเยอรมันศาสตราจารย์แฮร์มันน์ เชเลเกล ที่เป็นหัวหน้าของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติในไลเดน เนเธอร์แลนด์ สีของลำตัวเป็นสีเหลืองเขียวสดใส ยกเว้นช่องท้อง มีใบหน้าที่คมชัดโดยไม่มีเส้นสีดำ การระบุชื่อสายพันธุ์นี้จากที่มันคล้ายกบต้นไม้ญี่ปุ่น ล่าแมงมุมและตะขาบเป็นอาหาร กบส่วนใหญ่วางไข่ในน้ำ แต่ชนิดนี้ขุดหลุมใกล้แหล่งน้ำและวางไข่ในดิน ไข่ถูกห่อหุ้มเป็นแพอย่างดี และจะฟักเป็นตัวเมื่อมีฝนตกลงมา
●ความยาวลำตัวประมาณ 3 ถึง 5 ซม.
●ฤดูกาล...ช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก : มีอยู่ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นและพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เกาะยากุ เป็นที่นิยมมากที่สุดและมีจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น พบที่ริมน้ำจากเมืองบนภูเขา คนส่วนใหญ่อาจจะได้เห็นพวกมันบ้างในนาข้าว มีสีเขียวสดใสที่ด้านหลัง แต่สามารถเปลี่ยนให้เป็นสีน้ำตาลหรือสีเทาสีน้ำตาลเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบ มีเสียงร้อง "โครก โครก โครก ... " เป็นเสียงที่เกิดจากการขยายถุงเสียงเหมือนลูกโป่ง กินแมลงและแมงมุมเป็นอาหาร พวกมันน่ารักดูดีทำให้เป็นที่ต้องการของผู้คน แต่ที่ผิวหนังจะมีพิษเมื่อสัมผัสโดนและไปขยี้ตาจะทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน (เป็นสายพันธุ์ทั่วไป) ลูกอ๊อดจะมีลูกตาห่างกันมากจึงเป็นข้อสังเกตุได้ง่าย
●ความยาวลำตัวประมาณ 3-4 เซนติเมตร
●ฤดูกาล เมษายน-ตุลาคม -
ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด คิวชู พบได้หลากหลายของพื้นที่ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปากแม่น้ำทะเลสาบและบ่อน้ำ นอกจากนี้ยังอาศัยอยู่ในน้ำที่มีระดับความเป็นกรดสูง ซึ่งปลาทั่วไปไม่สามารถอยู่ได้ บางตัวอาศัยอยู่ในน้ำจืดและบางตัวชอบอาศัยในน้ำกร่อย นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ ขึ้นอยู่แต่ละภูมิภาคเช่น Akahara หรือไฮด้า แต่ Haya เป็นชื่อที่มักจะเรียกในโตเกียว กินไม่เลือก เช่นแมลงเล็กๆ กินตะไคร่น้ำบนพื้นน้ำและกินไข่ปลา สีของลำตัวจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใสสวยงามมีลายเส้นสีดำเมื่อถึงช่วงฤดูผสมพันธุ์
●ความยาวลำตัวประมาณ 30 เซนติเมตร
●ฤดูกาล....พบเห็นได้ตลอดทั้งปี -
มีชื่อญี่ปุ่นว่า Yamame ไม่ได้เป็นชื่อสายพันธ์ แต่หมายถึงอยู่ในแม่น้ำ และไม่ได้เดินทางไปยังทะเล ภูมิภาคหลักคือฮอกไกโด ฮอนชู (ทางทิศเหนือของจังหวัดคานากาว่า) ชิโกกุ (ยกเว้นทะเลเซโตะ) ส่วนหนึ่งของคิวชู พบในน้ำจืดที่อุณหภูมิน้ำต่ำกว่า 20 องศา กินแมลงที่ร่วงตกลงในน้ำ กินกุ้งหอยและปลาเล็ก มีจุดสีแดงขนาดใหญ่ทั่วลำตัวประมาณ 6-12สวยงามมาก ( เรียกว่าPamaku ) เป็นปลาราชินีแห่งลำธารเพราะลำตัวของพวกมันที่มีความสวยงามมาก มีสีแดงอ่อนๆคล้าย ๆ ปลาเทราท์ในแม่น้ำที่มีจุดสีแดงสดใสแต่เป็นสายพันธุ์แตกต่างกัน
●ความยาวลำตัวประมาณ 30 เซนติเมตร
●ฤดูกาล...พบได่ตลอดทั้งปี -
ภูมิภาคหลัก: ... อาศัยอยู่ในแถบ เกาะฮอนชู ชิโกกุ และคิวชู เกาะนันเซอิมักพบในป่า และพื้นที่สีเขียว ตั้งแต่พื้นที่ราบไปจนถึงบนภูเขา ช่วงอก และขาเป็นสีน้ำตาล และตรงปลายช่องท้องเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาล และมีแถบสีขาว มีจุดสีขาวบนแถบสีน้ำตาล คล้ายกับแมงมุมสายพันธ์Argiope amoena แต่ขนาดลำตัวเล็กกว่า มีชื่อญี่ปุ่นว่า Kogata - koganegumo ตัวเมียและตัวผู้ มีขนาดเดียวกัน สร้างรังเป็นตาข่ายอยู่ระหว่างต้นไม้ และทำตาข่ายเป็นรูปตัว X (บางครั้งสร้างไว้ไม่สมบูรณ์นัก ) และกางขาออกเพื่อช่วยให้สามารถโน้มตัวเพื่อลงมาข้างล่างได้ เป็น แมงมุมขี้อาย เมื่อพบเจอสิ่งที่เป็นอันตรายจะกระโดดออกจากรังและซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นหญ้า
● ความยาว ตัวเมีย ประมาณ 8 ถึง 12 มม. /ตัวผู้ ประมาณ 4 ถึง 5 มม.
● ฤดูผสมพันธุ์ เดือนกรกฎาคมถึง เดือนตุลาคม -
ภาคหลัก: ... ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบได้ในป่าและพื้นที่สีเขียวจากพื้นที่ราบไปยังภูเขาสูง สีลำตัวเป็นสีน้ำตาลเข้มมีจุดสีน้ำตาลและสีขาวที่ไม่ซ้ำกัน ที่ช่องท้องด้านบนรูปไข่มีปลายแหลม ขามีสีขาวและสีดำสลับกัน เป็นสายพันธุ์เดียวกันกับ Araneus มีนิสัยชอบอยู่ตามภูเขา จะมีชื่อที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า Oni-yamagumo ความหมายคือ แมงมุมยักษ์ ในภูเขาทาคาโอะจะพบได้ในช่วงฤดูร้อนกับฤดูใบไม้ร่วง รอบเส้นทางป่าและพื้นที่เขตใกล้ป่า สร้างใยขนาดใหญ่ระหว่างต้นไม้ มีขนาดกว่า 2 เมตรและกินแมลงขนาดใหญ่เช่นจั๊กจั่น บางครั้งนอกจากสร้างรังบนต้นไม้แล้วยังทำรังซ่อนอยู่ในรากของต้นไม้หรือในพุ่มหญ้า
●ความยาว ตัวเมีย ประมาณ 17 ถึง 20มม. /ตัวผู้ ประมาณ 8 ถึง 13 มม.
●ฤดูกาลโตเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน -
ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะนันเซอิ พบในป่าพื้นที่สีเขียวและสวนจากชุมชนไปจนถึงบนภูเขา สีด้านหลังถึงช่องท้องเป็นสีเหลืองเขียว และรูปร่างตัวผู้เป็นรูปไข่ และตัวเมียเป็นรูปวงกลม เป็นสายพันธุ์เดียวกันกับ Scylloides neoscona หรือที่ชื่อญี่ปุ่นเรียกกันว่า Satsumanomi-damashi มีลักษณะคล้ายผลของซัสซุ ( ผลไม้ชนิดนี้มีมากในจังหวัดฟุกุอิและโตเกียว) สายพันธุ์นี้มีชื่อญี่ปุ่นว่า Wakiguro-satsumanomi-damashi ด้านข้างของช่องท้องเป็นสีน้ำตาลเข้มที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างใยหรือรังระหว่างต้นไม้ ออกล่าเหยื่อในเวลากลางคืน และหลบซ่อนอยู่ใต้ใบไม้หรือรังในช่วงกลางวัน
●ความยาว ตัวเมีย ประมาณ 7 ถึง 10 มม. /ตัวผู้ ประมาณ 6-8 มม.
●ฤดูกาลโตเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน" -
ภาคหลัก: .. ในฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะนันเซอิ พบในป่าและพื้นที่สีเขียวจากพื้นราบไปถึงภูเขาและในย่านที่มีคนอยู่อาศัย และ
ในสวนสาธารณะ ตัวเมียมักมีสีเหลือง และที่หน้าท้องมีแถบสีน้ำเงินเข้ม และปลายของช่องท้องสำหรับตัวเต็มวัยเป็นสีแดง ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าตัวเมียมากและลำตัวเป็นสีน้ำตาลแดง ตัวเมียมีสีที่โดดเด่นกว่า
และจากชื่อที่ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีพิษ แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมนุษย์มากนัก สร้างใยกางแผ่ขยายออกระหว่างช่องว่างของต้นไม้ ชักใยจากด้านในสุดออกมาด้านนอก ซึ่งเวลาเดินผ่านอาจมองไม่เห็น เมื่อตัวโตเต็มวัยตัวเมียจะสร้างใยเพื่อดึงดูดตัวผู้มาเยี่ยมชมและบางครั้งอาจพบว่าพวกมันอยู่ในรังเดียวกัน
●ความยาวเพศเมียประมาณ 20 ถึง 30 มม./เพศผู้ประมาณ 6 ถึง 10 มม.
●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน -
ภาคหลัก: ... พบในฮอกไกโด ฮอนชูชิ โกกุและคิวชู มักพบในป่าและพื้นที่สีเขียวจากพื้นที่ราบ ไปสู่บนภูเขา และในสวนสาธารณะในเมือง เป็นแมงมุมขนาดเล็กประมาณ 5 มม. และชอบป่าร่มรื่นและเป็นสีเดียวกับตัวสิ่งแวดล้อม ใต้ท้องเป็นสีน้ำตาลมีจุดสีขาว พบเห็นได้จากช่วงต้นฤดูร้อนและสร้างเใยเป็นมุมเอียงระหว่างต้นพืช ใยเป็นสีขาวรูปแบบเกลียว (Stabilimentum) เพื่อช่วยให้แมงมุมสามารถที่จะทอดตัวลงมาข้างล่าง ชนิดนี้ในภาษาญี่ปุ่นคือ Uloboridae เป็นสายพันธ์เดียวกันกับ Uzugumo หมายถึงแมงมุมเกลียว
●ความยาวตัวเต็มวัยประมาณ 4-6 มม. / ตัวผู้ประมาณ 4 ถึง 5 มม.
●ฤดูกาล เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม -
ภาคหลัก: ... ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู Sado สึชิม่า และหมู่เกาะยาคูลท์ พบได้ในป่า หน้าผาและในถ้ำจากพื้นราบไปจนถึงภูเขา เป็นหนึ่งในสายพันธุ์พื้นเมืองของญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่สีลำตัวเป็นสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้มมีรูปสามเหลี่ยมสีขาวหรือสีเหลืองตรงปลายของช่องท้อง มีแปดขามีจุดสีดำกับสีขาวตรงกลาง มีลักษณะนิสัยคล้ายกับแมงมุม Venatoria heteropoda คือจะอาศัยอยู่ภายในบ้าน แต่สายพันธุ์นี้ชอบที่จะอยู่ข้างนอกด้วย (เพราะพวกมันล่าแมลงที่มาเล่นแสงไฟ ) ในช่วงกลางวันจะหลบซ่อนตัวในมุมมืดหรือตามซอกหิน และออกหาอาหารในเวลากลางคืน ล่าผีเสื้อและแมลงสาบ ใช้วิธีการเดินเพื่อหาอาหารตามที่ต่างๆโดยไม่ต้องสร้างใยแต่อย่างใด
●ความยาวตัวเมีย ประมาณ 20 ถึง 25 มม./ตัวผู้ประมาณ 16 ถึง 20 มม.
●ฤดูกาลตัวเต็มวัย ทั้งปี -
ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบมากในป่าและทุ่งหญ้าจากที่ราบลุ่มสู่ที่ราบสูงบนภูเขาและตามหน้าผาและนาข้าว ตัวเต็มวัยตัวเมียมีขนาดใหญ่เป็นสายพันธุ์แมงมุมพื้นเมืองของญี่ปุ่นและมีลำตัวเป็นสีน้ำตาลเข้มอมน้ำเงิน ปลายของช่องท้องเป็นสีน้ำตาลอ่อนมีจุดขาวโดยรอบ และล่าแมลงโดยไม่ต้องสร้างรัง สามารถซุ่มโจมตีบนพื้นดินหรือจับเหยื่อที่เดินเข้ามาใกล้ ตัวเมียห่อเหยื่อไว้ตรงไข่ใต้ท้องของมัน
●ความยาวของตัวเต็มวัยตัวเมีย 22-27 มม./ตัวผู้ประมาณ 12 ถึง 15 มม.
●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน -
ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบได้ในพื้นที่สีเขียวป่าไม้ธรรมชาติ จากที่ราบไปถึงบนภูเขา และทุ่งหญ้าจากเมืองบนภูเขาและหน้าผาและนาข้าว ตัวเต็มวัยตัวเมียมีขนาดใหญ่ เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองของญี่ปุ่น และลำตัวเป็นสีน้ำตาลเข้ม และมีแถบคาดขนาดใหญ่หนาสีขาวขอบน้ำตาลอ่อนลากยาวจนถึงช่องท้อง มีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นชื่อ Suji-aka-Hashiri-gumo มีความหมายคือแมงมุมแถบลายสีแดง เดินออกล่าแมลงโดยไม่ต้องสร้างรัง แต่สามารถซุ่มโจมตีบนพื้นดินหรือบนต้นวัชพืชและจับเหยื่ออย่างรวดเร็ว ตัวเมียอมไข่ไว้ในปาก หลังจากที่ไข่ฟักจะสร้างรังให้อยู่ในนั้น และคอยดูแลลูกๆของมัน
● ความยาว ตัวเมียประมาณ 11 ถึง 15 มม. / ตัวผู้ประมาณ 10 ถึง 11 มม.
● ตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึง เดือนตุลาคม -
ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะนันเซอิ พบในพื้นที่สีเขียว ในป่าจากพื้นราบระดับต่ำไปยังภูเขา ลำตัวผอมแตกต่างจากแมงมุมทั่วไปและมีช่องท้องที่ยาวออกมาจากลำตัวมาก จะเห็นได้ในต้นฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนใน ผู้ที่พบเห็นแถบจะมองไม่ออกว่ามันคือแมงมุม ขาจะยืดออกจากลำตัวเพื่อการทรงตัว ยืดขาในแนวตรงได้ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับแมงมุมที่ทำได้เช่นนี้ ที่ขามักจะเข้าใจผิดคิดว่ามีแมลงเกาะ สีผิวมี 2สี คือสีเขียวและสีน้ำตาล พฤติกรรมที่แตกต่างจากแมงมุมส่วนใหญ่ คือจะสร้างรังแบบง่ายๆ เป็นด้ายเดินคู่และพร้อมจะโจมตีเหยื่อและแมงมุมอื่น ๆ ทันทีที่มาใกล้รัง
●ความยาวตัวเมีย ประมาณ 20 ถึง 30 มม. / ชายประมาณ 12-25 มม.
●ตัวเต็มวัย ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม -
ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบในบริเวณพื้นที่สีเขียว ตามป่าจากพื้นราบไปจนถึงภูเขา และยังพบเจอในเขตเมือง สีของลำตัวเป็นสีเขียวสดใสเหมือนใบไม้อ่อน มีชื่อญี่ปุ่นว่า Wakaba-gumo ความหมายคือแมงมุมยอดใบอ่อน ราวกับว่าอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนเข้าฤดูกาลใบไม้อ่อนนั่นเอง ตัวผู้จะมีสีแดงตรงส่วนหน้าและส่วนฐานของขาของเมื่อโตเต็มวัย ส่วนตัวเมียจะเป็นสีเขียวตลอดทั้งลำตัว ในช่วงกลางวันจะดักซุ่มอยู่บนต้นไม้หรือใบไม้คอยจับแมลงขนาดเล็กรวมทั้งแมลงวัน และแมลงกินที่ใบไม้ ขาที่หนึ่งและขาที่สอง จะมีลักษณะที่ยาวเป็นพิเศษ คือขาสามารถยืดไปทางซ้ายหรือขวาได้เหมือนปู เป็นลักษณะพิเศษของสายพันธุ์ thomisidae มากที่สุด มีช่วงท้องกลม ในขณะที่สายพันธุ์อื่นมีช่วงท้องยาวรี
●ความยาวตัวเมีย ประมาณ 9-12 มม. / ตัวผู้ประมาณ 7 ถึง 11 มม.
●ตัวเต็มวัย เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม -
ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบในป่าและพื้นที่สีเขียวจากที่ราบ ไปที่ถึงบนภูเขาที่ระดับความสูงไม่มากนัก และอยู่ตามที่อยู่อาศัยของคน และสวนสาธารณะในเมือง สถานที่จอดรถ เพื่อเข้ามาหาอาหาร ความยาวลำตัวไม่เกินกว่า 1 มม. ตัวผู้ตรงช่วงหน้าอกเป็นสีดำ และตรงช่วงหน้าท้องมีสีน้ำตาลลายดำ ส่วนตัวเมียจะมีขนสีน้ำตาลอ่อนปกคลุม เดินออกล่าเหยื่อบนพื้นดินและพื้นหญ้า จำพวกแมลง และ ไม่ได้สร้างรัง แต่ชักใยเพื่อโรยตัวจากที่สูงลงสู่พื้นดินในขณะที่อยู่ในที่สูง มีชื่อญี่ปุ่นว่า Neko-haetori หมายถึงแมวบินจับเหยื่อ เนื่องจากพวกมันสามารถจับแมลงขนาดเล็ก รวมทั้งแมลงวันได้นั่นเอง
●ความยาวตัวเต็มวัยตัวผู้ และตัวเมีย ประมาณ 7-8 มิลลิเมตร
●ตัวเต็มวัย เดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม -
ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะนันเซอิ พบในป่าไม้และพื้นที่สีเขียวจากพื้นราบไปจนถึงบนภูเขา ลำตัวเป็นสีดำน้ำตาลหรือสีน้ำตาลแดง วิธีการเคลื่อนไหวนั้นจะดูคล้ายกับมด จึงมีชื่อเรียกว่า แมงมุมมด หรือ Arigumo ในภาษาญี่ปุ่น เมื่อมองใกล้ ๆ จะเห็นมีขาสามคู่ ซึ่งจริงๆแล้วสายพันธุ์นี้มีขาสี่คู่ และใช้ขาคู่หน้าเลียนแบบหนวดของมดจึงมักเข้าใจผิด ไม่ชักใยดักจับอาหารแตใช้วิธีเดินตามต้นไม้ต่างๆ หรือวัชพืช เพื่อล่าแมลงเล็ก เมื่อพบเจออันตรายจะกระโดดออกจากต้นไม้หรือใบไม้ และซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มไม้ ขากรรไกรบนของตัวผู้ จะพัฒนาตามอายุและยื่นออกมาข้างหน้า ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างจากตัวเมียมาก ทำรังด้านหลังของใบไม้ และวางไข่
●ความยาวตัวเมีย ประมาณ 7-8 มม. / ตัวผู้ประมาณ 5 ถึง 6 มม.
●ตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม -
ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบในที่พื้นราบลุ่มถึงระดับภูเขาสูง และจะพบได้ทั่วไป มีขนาดลำตัวเล็ก ลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว มีแปดขายาวมาก อาจไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของแมงมุม เนื่องจากรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไป และช่องท้องไม่ชักใย (ลำตัวมีท่อนเดียว) และมีสองตา เมื่อกางขาออกจะมีลำตัวมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของผู้ใหญ่ และลำตัวจะเป็นสีดำยกเว้นส่วนท้องมีแถบสีขาว ในภูเขาทาคาโอะมีแมงมุมชนิดนี้กระจายอยู่ทั่วไปบนต้นไม้และต้นหญ้า ในปลายฤดูใบไม้ร่วงมักจะเห็นตัวผู้และตัวเมียอยู่ด้วยกัน หรือเดินอยู่บนพื้นดินเพื่อหาอาหาร กินแมลงขนาดเล็กและไส้เดือนดินและซากผลไม้ที่ล่วงหล่นบนพื้นดิน จะพบเห็นได้มากในพื้นที่มีความชื้นมาก
●ความยาว ประมาณ 6 ถึง 12 มิลลิเมตร
●ตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน -
ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะยาคุ พบได้ในป่าจากพื้นราบลุ่มไปยังภูเขา มีสีลำตัวที่แตกต่างกันตามแหล่งถูมิภาค ส่วนที่พบในแถบคันโต รวมถึงเขตโซนภูเขาทาคาโอะ จะมีลักษณะลำตัวมีสีสนิมแดงและมีสีปุ่มแหลมเหมือนเข็มอยู่ตรงกลางลำตัวเมื่อตัวโตเต็มวัย เราสามาถพบเห็นมันได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม และจะพบเห็นมันเดินไต่อยู่บนต้นไม้และต้นหญ้าในช่วงที่มีอากาสร้อน ส่วนอีกลักษณะที่พบอยู่ในภูเขาทาคาโอะ จะมีสีดำนูนเหมือนกระดูกสันหลังที่ด้านหลัง มีขนาดลำตัวประมาณ 7 ถึง 10 มม. ลำตัวผอมบางมีสีดำและมีขาใหญ่หนาและสั้น ซึ่งจะแตกต่างจากสายพันธุ์นี้ สำหรับทั้งสองชนิดนี้เมื่อเป็นตัวอ่อนจะไม่มีกระดูกสันหลังที่ด้านหลัง
●ความยาวประมาณ 4-6 มม.
●ตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม -
ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบได้ในป่าโปร่ง และทุ่งหญ้าและต้นไผ่ ในพื้นที่ทุ่งหญ้าจากที่ราบไปจนถึงบนภูเขา ลักษณะลำตัวเหมือนถูกออกแบบให้ทนทานในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งเมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่น ๆ จึงมักจะพบได้ในป่าที่ไม่แน่นมากนักเป็นป่าโปร่ง รูปร่างลำตัวกลมและมีสีสันสวยงามมากมีสีเหลืองสลับสีเขียว (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Moegi-Iro ) ค่อยๆกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนเมื่อมีอายุมากขึ้น ขาเป็นสีน้ำตาลเข้มและสีขาว ส่วนสีขาวจะเห็นเด่นชัดมากเมื่อเดินใต้ร่มเงา บางชนิดลำตัวมีกระดูกสันหลัง เช่นในสายพันธุ์ Genufusca nelima และ Gagrellula ferruginea ส่วนในสายพันธ์ Clerosomatidae มีขายาวมาก จะปรากฏให้เห็นปีละครั้งและวางไข่ใต้ดินตลอดฤดูหนาว และฟักตัวอ่อนออกมาบนพื้นดินในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ยากที่จะหาเจอเพราะส่วนใหญ่ พวกมันจะไต่อยู่ตามต้นไม้และไต่ตามพื้นหญ้า และบนภูเขา
●ความยาวประมาณ 3 ถึง 4 มิลลิเมตร
●ตัวเต็มวัย เดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน -
ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบในป่าร่มรื่นและพื้นที่สีเขียวจากพื้นที่ราบไปจนถึงบนภูเขา และยังพบได้ทั่วพื้นที่อยู่อาศัยและบางครั้งเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน มีลำตัวเป็นสีเขียวเข้มและหัวและลำตัวเกือบจะเป็นสีเดียวกัน ขามีสีเหลืองสีน้ำตาลสีแดงและสีเขียวสลับกัน ในช่วงกลางวันส่วนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นไม้ที่ล้ม หรือในพื้นดินที่ร่มรื่น และเต็มไปด้วยหญ้าปกคลุม หรือบางครั้งจะพบอยู่บนใบไม้หรือกิ่งไม้ จะออกหากินเวลากลางคืนและล่าแมลงเป็นอาหาร รวมทั้งแมลงสาบและแมงมุม ที่ปากมีเขี้ยวคมมาก มีพิษต่อมนุษย์และผิวหนังเมื่อถูกกัดจะบวมมาก บางครั้งมันจะอยู่ใต้พื้นดิน ตัวเมียจะเก็บไข่เอาไว้ใต้ลำตัวและปกป้องลูกของมันจนฟักเป็นตัวอ่อนและดูแลจนกว่าออกหาอาหารเองได้
●ความยาวลำตัวประมาณ 75-100 มม.
●ฤดูกาลสำหรับตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน -
ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบได้ในป่าร่มรื่นและพื้นที่สีเขียวจากที่ราบไปถึงบนภูเขา ชอบอยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น เช่นใต้ซากต้นไม้ หรือกองเศษซากใบไม้ และยังพบเจอได้ในสวน และพื้นดินทั่วไปในเมือง ซึ่งหากไม่รู้จักดีมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นแมลงที่ชอนไชต้นไม้เท่านั้น สีลำตัวเป็นสีดำเงาออกสีน้ำตาลและมีลายสีขาว เมื่อถูกศัตรูโจมตีจะขดเป็นลูกวงกลมซ่อนหัวอยู่ข้างใน ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Dango-mushi ความหมายคือ ลูกแมลงชนิดขดเป็นลูก แต่ส่วนใหญ่เรียกว่าเหาไม้ แต่เหาไม้ขณะขดจะไม่ซ่อนหัว สายพันธุ์นี้ในขาแต่ละคู่จะมีสี่ขารวมกัน ในภูเขาทาคาโอะมักจะพบในพื้นที่ที่ป่าผลัดใบ
● ความยาวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร
● ผู้ใหญ่ฤดูกาลเที่ยวบินมีนาคมถึงพฤศจิกายน -
ภาคหลัก: พบในฮอนชู ชิโกกุ คิวชู ซาโดะ เกาะโอกิเกาะ เกาะทาเนกะ เกาะยาคุ พบในหุบเขาภูเขา ลำธาร หนองน้ำที่มีโขดหินจำนวนมากและต้นไม้ผลัดใบ จากพื้นราบระดับต่ำไปยังภูเขา เป็นปูน้ำจืดที่ชอบน้ำใสตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงกลางแม่น้ำและชอบอยู่ใต้ร่มเงา และหลบใต้ต้นไม้ล้มในน้ำ แต่ละตัวมีสีแตกต่างกันไปเช่น สีม่วงดำ สีน้ำตาลแดงและสีเทาฟ้า จะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ส่วนที่พบในภูเขาทาคาโอะมีกระดองเป็นสีน้ำตาลอมเหลือง ออกหากินในเวลากลางคืน แต่บางครั้งจะพบเห็นได้บนเส้นทางขึ้นภูเขาในช่วงกลางวันในวันที่ฝนตกหรือมีเมฆมาก กินแมลงขนาดเล็กหอยทากไส้เดือนดินและพืชเป็นอาหาร ตัวเมียวางไข่ประมาณ 50 ฟอง และเก็บไข่ใต้ฝาหน้าท้องจนกว่าจะฟักเป็นตัวอ่อน เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวจะหลบซ่อนตัวในโขดหิน
●ความยาวลำตัวประมาณ 20 ถึง 30 มม. (ความกว้างของกระดอง)
●ตัวเต็มวัย มีนาคมถึงพฤศจิกายน -
ภาคหลัก: ฮอนชู พบในป่าใกล้ริมน้ำจากที่ราบไปจนถึงบนภูเขา มันจัดอยู่ในกลุ่มของปลิงพื้นดิน แต่มีขนาดใหญ่กว่า 40 ซม. เมื่อยืดลำตัวออก มีชื่อญี่ปุ่นว่า Yatsuwa-KUGA-Biru, KUGA หมายถึงพื้นดิน และ Yatsuwa หมายถึงการแบ่งลำตัวออกเป็นแปดส่วน ด้านหลังมีลักษณะลายเป็นริ้วๆ สีของลำตัวนั้นจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค แต่สายพันธุ์ที่พบในภูเขาทาคาโอะเป็นสีเหลืองส้มที่มีลวดลายสีดำอยู่ตรงกลางของด้านหลัง ชอบสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นและอยู่ใต้โขดหินตามริมน้ำและซากใบไม้ เมื่อฝนตกพื้นดินเปียกแฉะจะออกมาบนพื้นดืนกระจายทั่วไปในป่า และสร้างความประหลาดใจต่อนักปีนเขาภูเขา ถือได้ว่าเป็นนักล่าและกินไส้เดือนโดยกลืนไส้เดือนดินที่มีขนาดใหญ่กว่าลำตัวของมันเอง ซึ่งแตกต่างจากทากทั่วไป ซึ่งชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เพราะพวกมันไม่ดูดเลือด
●ความยาวลำตัวประมาณ 10 ถึง 40 ซม.
●ตัวเต็มวัย ทั้งปี