TAKAO 599 MUSEUM

ขุมทรัพย์ของภูเขาทาคาโอะ

Others

ทาคาโอะที่นี่มีสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยป่าไม้ที่หนาวและภูมิอากาศที่อบอุ่นกระจาย กล่าวได้ว่าได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่มีที่อยู่อาศัยอยู่จำนวนมาก มีหลากหลายชนิดและก็มีพฤติกรรมการเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน จะขอกล่าวถึง แมงมุม " ซึ่งเป็นแมลงชนิดหนึ่งที่เป็นประโยชน์ที่กินศัตรูพืชกว่า 300ชนิดที่มีอยู่ มีทั้งชนิดที่หาได้ง่ายและที่หาไพบได้ยาก ซึ่งตามภูเขา เมาทน์ทาคาโอะ เป็นที่รู้จักกันในประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นสวรรค์ของภูเขาแมงมุมหลายชนิดของแมงมุมมากที่สุด"

  • จิ้งจก Japonicas Plestiodon ตระกูล Scincidae
    จิ้งจก  Japonicas Plestiodon
    จิ้งจก Japonicas Plestiodon ตระกูล Scincidae
    พวกมันอาศัยอยู่ ในเขตภาคตะวันออกของญี่ปุ่น พื้นที่แถบโฮชุ ตั้งแต่โตเกียวไปถึงวากานามา ยกเว้นในคาบสมุทร ฮอกไกโดและ อิซุ ซึ่งคาดว่าพวกมันน่าจะเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับ Japnicus Plestiodon ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งในปี 2012 ได้พบว่าพวกมันเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน และมีชื่อว่า Plestiodon japonicas อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น (ชื่อใช้เรียกเหมือนกันในเขตตะวันตกของญี่ปุ่น ) พวกมันอาศัยอยู่ได้ทั่วไปทั้งในทุ่งหญ้าและป่าไม้ ภูเขา อยู่ได้ทุกระดับสูงหรือต่ำ และเรามักจะเห็นพวกมันนอนอาบแดดบนพื้นดิน และตามใหล่ภูเขา และบนเนินภูเขาทาคาโอะ ลำตัวจะมีสีสันสดใสเต็มไปด้วยสีเหลือง สีน้ำตาล และที่ลำตัวจะมีผิวสัมผัสที่เนียนเรียบ พวกมันมีหางยางมากจาก1ใน 5ของลำตัว เมื่อตัวยังไม่เจริญเต็มวัยลำตัวมีสีดำ และหางแต่งแต้มด้วยสีฟ้า ซึ่งทำให้ดูโดดเด่นมาก เคลื่อนไหวได้รวดเร็วว่องไวมาก และระวังภัยอยู่ตลอดเวลา และจะหลบอยู่ในเงามืดทันที่เมื่อพบสิ่งแปลกปลอม แต่เมื่อถูกศัตรูจับที่ลำตัว มันสามารถตัดหรือสลัดหางทิ้งไปแล้วงอกขึ้นมาใหม่ได้อีก ซึ่งเรียกว่า ' Jigiri ( ตัดหางตัวเองเพื่อรักษาชีวิต ) กินอาหาร เช่น แมลงเล็ก แมงมุม เดือนมิถุนายนเป็นช่วงวางไขและเลี้ยงลูกอ่อน

    ● ขนาดลำตัว ประมาณ 15-25 เซนติเมตร
    ● ฤดูกาล....พบได้ในช่วงเมษายน-ตุลาคม
  • จิ้งจกหญ้าญี่ปุ่น Tachydromoides Takydromus Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    จิ้งจกหญ้าญี่ปุ่น   Tachydromoides Takydromus
    จิ้งจกหญ้าญี่ปุ่น Tachydromoides Takydromus Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    ภูมิภาคหลัก: .. พบมากในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะยากุ เกาะทาเนะงะ และเกาะนากาโน่ พบได้ในทุ่งหญ้าและพุ่มไม้ในเขตเมืองทั้งในระดับความสูงหรือต่ำ แม้กระทั่งรอบพื้นที่อยู่อาศัยของคน และมักจะ เห็นพวกมันนอนอาบแดดบน รั้วหิน และหินแต่งสวน มีชื่อญี่ปุ่นเรียกว่า Nihon-kana-Hebi หมายถึง งูน่ารักญี่ปุ่น แต่พวกมันจัดอยู่ในกลุ่มของ จิ้งจก งู ซึ่งไม่แตกต่างกันระหว่าง จิ้งเหลน คือมีผิวหยาบเป็นเกล็ด ออกหากินในช่วงกลางวัน และนอนหลับในช่วงเวลากลางคืนบนใบหญ้า ล่าเหยื่อจำพวกแมงมุมและ แมลงเป็นอาหาร มีหางยาวเป็น2เท่าของลำตัวสามารถที่จะตัดหางของตัวเองเพื่อเอาตัวรอดจากศัตรู ลำตัวมีสีน้ำตาลจากด้านหลังถึงด้านข้างช่องหน้าท้องเป็นสีขาว มีเส้นสีขาวจากใต้ ตายาวไปถึงช่องท้อง

    ● มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 16-27 เซนติเมตร
    ● ฤดูกาล...พบได้บ่อยช่วงเมษายน-ตุลาคม"
  • งูหนูญี่ปุ่น Elaphe climacophora Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    งูหนูญี่ปุ่น   Elaphe climacophora
    งูหนูญี่ปุ่น Elaphe climacophora Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    ภูมิภาคหลัก: ....พบได้ในฮอกไกโด คิวชู เกาะคุนาชิริ เกาะซาโดะ และหมู่เกาะทั่วไปที่มีป่าและทุ่งหญ้า เขตเมืองบนภูเขาและยังอยู่ในเพดานของบ้าน เป็นงูที่รู้จักกันมากที่สุดในฮอนชู ที่ลำตัวมีสีน้ำตาลมะกอก จะแตกต่างกันตามแต่ละสายพันธุ์ ขนาดความยาวของลำตัวมีขนาดมากกว่า 2 เมตร แต่พวกมันชอบอยู่ในที่สงบและไม่มีพิษ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ปีนขึ้นต้นไม้ได้ดี แม้ว่าต้นไม้จะเป็นแนวตั้งหรือแนวเสาไฟฟ้า กินลูกนกหรือไข่ในรังของนกเป็นอาหาร สายพันธุ์นี้มีสีขาวที่เรียกว่า shirohebi หมายถึงงูสีขาว หรือเป็นพันธุ์เผือก เป็นงูเผือกที่อาศัยอยู่ในเมืองอิวะคุนิของจังหวัดยามากูชิและได้ถูกกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 100-200 เซนติเมตร
    ●ฤดูกาล....พบได้ในช่วงเมษายน-ตุลาคม
  • งูลายญี่ปุ่น Elaphe quadrivirgata Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    งูลายญี่ปุ่น   Elaphe quadrivirgata
    งูลายญี่ปุ่น Elaphe quadrivirgata Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโดฮอนชูชิโกกุ เกาะคุนะชิริ เกาะซาโดะ และหมู่เกาะโอซุมิ พบได้ในทุ่งหญ้าริมแม่น้ำ และทุ่งหญ้าจากเมืองบนภูเขาที่มักจะพบพวกมันนอนอาบแสงอาทิตย์ เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่างูหนู "Ratsnake" และงูเสือ "Keelback" จะมีลำตัวที่แตกต่างกัน แต่ส่วนมากพวกมันจะมีสีดำสี่แถบ มีชื่อญี่ปุ่นว่า Shima-Hebi หมายถึงงูลาย บางชนิดมีลำตัวสีดำและเรียกว่า karasu-Hebi หมายถึงงูกา ออกหากินช่วงเวลากลางวันและล่ากบ หนู จิ้งจก ซาลาแมนเดอร์และไข่ของนกเป็นอาหาร นอกจากนี้ยังชอบกินงูด้วยกันอีก จะขดตัวเป็นรูปตัว S เมื่อมีภัยคุกคาม

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 80-200 ซม.
    ●ฤดูกาล...พบมากในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม
  • งูป่าญี่ปุ่น Conspicillata Elaphe Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    งูป่าญี่ปุ่น   Conspicillata Elaphe
    งูป่าญี่ปุ่น Conspicillata Elaphe Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะคุนาชิริ เกาะอิซุ และเกาะทาเนงะ พบมากในพื้นที่ราบตามแนวทุ่งหญ้า ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่า มีหัวขนาดเล็กเหมาะสำหรับการใช้ชีวิตใต้ดิน มีชื่อญี่ปุ่นว่า Jimuguri ความหมายคืออยู่ใต้ดิน กินหนูใต้ดินและสัตว์ขนาดเล็ก มุดตามโพรงต่าง ๆเพื่อล่าเหยื่อที่อาศัยอยู่ในโพรง เป็นงูที่ชอบความสงบ ไม่มีพิษและไม่กัด จะกัดเฉพาะเมื่อมีการป้องกันตัวเองเท่านั้น เช่นมนุษย์ที่พยายามจะจับตัวมัน ขับถ่ายตามกอหน้า ช่วงฤดูหนาวมันจะจำศิลในโพรง หรือแม้แต่ฤดูร้อนมักอยู่ใต้ดินในขณะที่อากาศร้อนอบอ้าวก็ตาม

    ●ความยาวลำตัว ประมาณ 70-100 ซม.
    ●ฤดูกาล... พบได้ช่วงเมษายน-ตุลาคม
  • งูคีลแบ็ค keelback Amphiesma vibakari vibakari Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    งูคีลแบ็ค keelback      Amphiesma vibakari vibakari
    งูคีลแบ็ค keelback Amphiesma vibakari vibakari Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    ภูมิภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะซาโดะ เกาะอิกิ เกาะโอกิ และเกาะโกโตะ เป็นงูขนาดเล็กที่พบได้ทั่วไปในป่า รวมทั้งทุ่งหญ้า ทุ่งนาและในพื้นที่ราบทั่วไป มีชื่อญี่ปุ่นว่า Hibakari เมื่อถูกกัดและพิษจะไม่รุนแรงมาก ชอบความสงบไม่มีพิษภัยและไม่กัด เมื่อมึภัยคุกคามเพืยงแค่ขู่และม้วนตัวเป็นรูปตัว S ออกหาอาหารกินตามพื้นดิน และว่ายน้ำได้ดีเมื่อเทียบกับงูชนิดอื่น อยู่ใต้น้ำเพื่อหาอาหารตามริมน้ำจำพวกกบขนาดเล็ก ลูกอ๊อด และปลาด้วย

    ● ความยาวลำตัวประมาณ 40 ถึง 65 เซนติเมตร
    ● ฤดูกาล...พบได้ในช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม
  • งูคีลแบ็ค ไทเกอร์ Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    งูคีลแบ็ค  ไทเกอร์
    งูคีลแบ็ค ไทเกอร์ Rhabdophis tigrinus ( Keelback Tiger )
    ภูมิภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะซาโดะ เกาะโกโตะ เกาะยากุ เกาะทาเนงะ พบได้ตามที่ราบต่ำ และชอบอยู่ตามแอ่งน้ำในนาข้าว หรือในพื้นที่ที่เป็นแอ่งน้ำ กินกบจิ้งจกและปลาเป็นอาหาร แต่ชอบกบมากที่สุด หรือแม้กระทั่งคางคกที่ซึ่งงูชนิดอื่น ๆ ไม่สามารถกินได้ ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เมื่อเปรียบเทียบกับลำตัวที่มีขนาดใหญ่ แต่ที่เป็นอันตรายก็คือการถูกกัดเพราะมีพิษที่เขี้ยวอยู่ภายในซอกลึกของปาก แต่พิษที่ทำให้เสียชีวิตก็ขึ้นอยู่กับสภาพของร่างกายมนุษย์แต่ละคน นอกจากนี้ยังมีพิษที่ต่อมด้านหลังในลำคอเมื่อหลั่งออกมา โดยปกติแล้วงูประเภทนี้จะชอบความสงบและไม่กัด เว้นแต่มนุษย์พยายามที่จะสัมผัสหรือจับพวกมัน

    ●ความยาวลำตัว ประมาณ 70-150 ซม.
    ●ฤดูกาล...พบมากช่วงเมษายน-ตุลาคม
  • งู Gloydius blomhoffii ตระกูล Viperinae
    งู  Gloydius blomhoffii
    งู Gloydius blomhoffii ตระกูล Viperinae
    พวกมันอาศัยอยู่กันอย่างแพร่หลายในฮอกไกโด แถบฮนชุ ชิโกกุ คิวชิว และเกาะโอซึมิ - โชโตะ หมู่เกาะแถบคาบสมุทรอิซุ
    ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ ริมลำธาร เชิงเขา ในป่า และป่าเขตภูเขา แต่บางครั้งเราเห็นพวกมันอาศัยอยู่ในไร่การเกษตร พวกมันเป็นงูพิษที่มีพิษรุนแรงมาก และมีอัตราการเสียชีวิตสูงจากการถูกงูประเภทนี้กัด
    ลำตัวจะถูกแต่งแต้มด้วยสีน้ำตาลอ่อนๆ จนถึงสีน้ำตาลแก่ และมีรูปวงรี มีแถบสีดำอยู่ตรงกลาง และบางตัวแต่งแต้มด้วยสีแดง แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสีดำ โดยทั่วไปพวกมันเป็นสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืนในช่วงเวลาที่อุณหภูมิลดต่ำลง หรือแม้แต่ในช่วงเวลากลางวันที่มีอากาศเย็น บางครั้งเราสามารถพบเห็นได้ในเขตภูเขาทาคาโอะ แต่เราจะไม่พบเจอมันตามเส้นทางเดินขึ้นภูเขา และหากเราพบเจอมันโดยบังเอิญ ควรปฎิบัติดังนี้คือ ให้ออกห่างจากมันในระยะ 1 เมตร และให้พวกมันเลื้อยผ่านไป โดยไม่ทำอันตรายกับเราเลย อาหารที่โปรดปรานคือ สัตว์ขนาดเล็ก แมลง หนู จิ้งจก กบ เป็นต้น โดยใช้ประสาทสัมผัสหรือ ที่เรียกว่า พิท ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับจมูก รับรู้ประสาทสัมผัสโดยผ่านอินฟราเรด เพื่อค้นหาเหยื่อ
    ( ตัวเมีย จะฟักไข่อยู่ภายในร่างกายของตัวเองแล้วออกลูกเป็นตัว )ออกลูกครั้งละประมาณ 10 ตัว ในช่วงฤดูร้อนจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง

    ขนาดลำตัวยาวประมาณ 45-60 เซนติเมตร
    ฤดูกาล...พบได้ในช่วงเมษายน-ตุลาคม
  • ซาลาแมนเดอร์โตเกียว Hynobius tokyoensis Hynobius kimurae
    ซาลาแมนเดอร์โตเกียว   Hynobius tokyoensis
    ซาลาแมนเดอร์โตเกียว Hynobius tokyoensis Hynobius kimurae
    ภูมิภาคหลัก: ในเขตคันโต (ยกเว้นจังหวัดกุนมะ ) และบางส่วนของจังหวัดฟูกูชิม่า พบได้ในป่าบนเนินเขาและริมน้ำในภูเขาและส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนพื้นราบ ยกเว้นฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งตัวอ่อนนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆกับตัวโตเต็มวัยทุกประการ หรือมีลักษณะเหมือนรุ่นเล็กของ Axolotl และอาศัยอยู่ใต้น้ำส่วนใหญ่ กินแมลงที่อาศัยอยู่บนพื้นดินรวมทั้งไส้เดือน แมงมุมและ สัตว์เล็กๆที่หากินกับซากพืชซากสัตว์ต่าง ๆ ลำตัวจะมีสีที่แตกต่างกันไปตามแต่ละชนิด แต่ส่วนใหญ่มีสีน้ำตาลเข้มมีจุดสีดำบนร่างกาย ออกหากินเฉพาะในเวลากลางคืน ไม่ออกหากินในช่วงกลางวันซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน และอยู่ใต้ก้อนหิน ออกล่าเหยื่อในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ล่าเหยื่อเพื่อเตรียมไว้สำหรับช่วงฤดูฤดูหนาว และช่วงฤดูผสมพันธุ์คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม และมักจะพบในน้ำนิ่งรวมทั้งบ่อหรือคูนาข้าว

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 8 ถึง 13 ซม.
    ●ฤดูกาล...พบมากในเดือนเมษายน-ตุลาคม
  • ฮิดะซาลาแมนเดอร์ Hynobius kimurae Hynobius kimurae
    ฮิดะซาลาแมนเดอร์   Hynobius kimurae
    ฮิดะซาลาแมนเดอร์ Hynobius kimurae Hynobius kimurae
    ภูมิภาคหลัก: พื้นที่แถบคันโต พื้นที่ตอนกลางของประเทศ แถบตอนเหนือ และแถบคินกิ แถบชูโกกุ พบในพื้นที่ชื้นแชะของหุบเขาและลำธาร ในป่าภูเขา ลำตัวเป็นสีม่วงสีน้ำตาลมีจุดสีเหลืองเหมือนโรยทอง ออกหากินในเวลากลางคืนและในช่วงกลางวันที่ฝนตก และอาศัยหากินอยู่ใต้เงามืดตามซอกหินและใต้กองใบไม้ที่ร่วง อาหารคือไส้เดือน ทาก แมงมุมและแมลงขนาดเล็ก เมื่อโตเต็มวัยมักจะอาศัยอยู่บนพื้นดิน และย้ายไปอยู่ริมน้ำเพื่อวางไข่ในฤดูผสมพันธุ์ วางไข่ในลำธารที่ไหลเบาๆ และวางไข่ในถุงไข่บนพื้นหิน ถุงไข่จะเรืองแสงเป็นสีฟ้าสะดุดตา

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 10 ถึง 18 เซนติเมตร
    ●ฤดูกาล ตลอดทั้งปี
  • คางคกตะวันออกญี่ปุ่น Bufo japonicus ฟอร์มอซัส Bufo japonicus ฟอร์มอซัส
    คางคกตะวันออกญี่ปุ่น   Bufo japonicus ฟอร์มอซัส
    คางคกตะวันออกญี่ปุ่น Bufo japonicus ฟอร์มอซัส Bufo japonicus ฟอร์มอซัส
    ภูมิภาคหลัก: ในบางส่วนของฮอกไกโด (การกระจายอยู่ในแหล่งที่คนไม่พลุกพล่าน) ฮอนชู (จากภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปยังภูมิภาค แถบคินกิ ในทะเลญี่ปุ่น ทะเลทางตอนเหนือของพื้นที่ Sanin และส่วนหนึ่งของคาบสมุทรคิอิ ) พบในพื้นป่าที่ราบไปจนถึงบนภูเขาและยังพบอยู่ในวัดหรือที่พักอาศัยของคน เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางตั้งแต่สมัยโบราณว่า "กามา" ขนาดของลำตัวแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ที่มีขนาดเล็กจะอาศัยอยู่ในพื้นที่อากาศเย็นเช่นในภูมิภาคโตโฮกุและจะกลายเป็นขนาดใหญ่ขึ้นในสภาพภูมิอากาศที่อบอุ่น สีลำตัวก็เช่นเดียวกันจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค แต่ส่วนใหญ่พวกมันจะมีสีน้ำตาล แต่บางตัวมีสีแดงหรือสีออกโซนเหลือง แทบจะไม่เคยกระโดดเลย แค่เดินอย่างเดียว อาหารที่ล่าคือแมลง แมงมุมและไส้เดือนดิน ขับสารพิษสีขาวออกมาทางด้านหลัง มีพิษต่อสิ่งรอบข้างเมื่อสัมผัส

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 9 ถึง 17cm
    ●ฤดูกาล...พบได้ในช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม
  • กบน้ำตาล Montane Ornativentris Tagoi
    กบน้ำตาล Montane    Ornativentris
    กบน้ำตาล Montane Ornativentris Tagoi
    ภูมิภาคหลัก: ในฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะซาโดะ พบมากในนาข้าวในบ่อและหนองน้ำในพื้นที่ราบที่เป็นป่ากว้างราว 1,000 เมตร กบเป็นที่รู้จักกันทั่วไป สีลำตัวแตกต่างกันไปตามแต่ละชนิด แต่ส่วนใหญ่มีสีแดงชื่อญี่ปุ่นคือ Yama-aka-gaeru ความหมายคือกบภูเขาสีแดง ที่ด้านหลังมีสีแดงสีน้ำตาลถึงสีน้ำตาลเข้ม และด้านข้างถึงหน้าท้องป็นสีส้ม กระโดดด้วยขาหน้า กินไส้เดือนทากและแมลงขนาดเล็กเป็นอาหาร เอกลักษณ์ก็คืออยู่นิ่ง ๆ บางตัวซ่อนตัวใต้ดินเช่นเดียวกับกบอื่น ๆ แต่บางตัวซ่อนอยู่ใต้โคลนในหนองน้ำ และใช้ชีวิตในน้ำตลอดฤดูหนาว

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 4-8 เซนติเมตร
    ●ฤดูกาล...พบเจอได้ช่วงเดือนมีนาคม-ตุลาคม
  • Tago กบสีน้ำตาล Tagoi Tagoi
    Tago กบสีน้ำตาล     Tagoi
    Tago กบสีน้ำตาล Tagoi Tagoi
    ภูมิภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุ และคิวชู เกาะโกโตะ พบได้ตามป่าและลำธารในภูเขา สีลำตัวแตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ จากสีเหลืองเป็นสีแดงน้ำตาล กินแมลงแมงมุมและหอยเป็นอาหาร ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนพื้นดินตัวผู้มีถุงเสียง (เสียงสะท้อนในลำคอ) และสร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยเสียงทุ้มต่ำๆ ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ มันจะซ่อนตัวอยู่ซอกหินจึงหาตัวได้ยาก ซึ่งส่วนใหญเป็นสายพันธฺุ์ที่มีขนาดเล็ก ฤดูผสมพันธุ์คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมและจะมีไข่ที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับกบพันธ์อื่น ๆ ลูกอ๊อดจะฟักตัวออกมาจากไข่และอาศัยอยู่บนพื้นดินหลังจากที่โผล่ออกจนโตเต็มวัย ชื่อนี้ถูกตั้งตามชื่อของนักวิชาการที่ค้นพบคือ ศาสตราจารย์ Katsuya Tago

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 3 ถึง 5 ซม.
    ●ฤดูกาลมีนาคม-ตุลาคม
  • กบกวาง Kajika Buergeria buergeri Rhacophorus schlegelii
    กบกวาง Kajika     Buergeria buergeri
    กบกวาง Kajika Buergeria buergeri Rhacophorus schlegelii
    ภูมิภาคหลัก: พบในฮอนชู ชิโกกุ และเกาะคิวชู พบได้ในลำธารและป่าไม้โดยรอบ ลำตัวมีสีเทาจนถึงสีน้ำตาล และมีจุดด่างดำ สามารถปรับเปลี่ยนสีต่างๆ ได้เพื่อพลางตัวป้องกันภัย และเป็นเรื่องยากที่จะพบพวกมันเมื่อมันพรางตัวอยู่บนโขดหินริมแม่น้ำ ขับเสียงร้องได้ไพเราะมาก เป็นที่นิยมจากผู้คนตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว "ฟิ ฟิฟ ฟิฟ ฟิฟ ฟิ " เสียงนี้คล้ายกับเสียงของกวางจึงเป็นที่มาของชื่อญี่ปุ่น Kajika-gaeru ความหมายคือกบกวาง และอีกนัยหนึ่งคือ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เรียกว่าตะกร้าหรือกระจาด Kajika ที่นิยมใช้สำหรับการทำไร่ไถนาในสมัยเอโดะ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกบ ซึ่งขนาดลำตัวของตัวเมียจะใหญ่กว่าตัวผู้เป็นสองเท่าตัว

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 5-7 เซนติเมตร
    ●ฤดูกาล...พบได้ในเดือนเมษายน-ตุลาคม
  • กบ Rhacophorus arboreus Rhacophorus schlegelii
    กบ Rhacophorus arboreus
    กบ Rhacophorus arboreus Rhacophorus schlegelii
    อาศัยอยู่กันอย่างแพร่หลายใน ฮอกไกโด แผ่นดินใหญ่ ฮอนชู ชิโกกุ คิวชิว เกาะโอซุมิ โชโตะ และคาบสมุทรอิซึ
    จากชื่อของพวกมันบ่งบอกให้เห็นว่าชอบอาศัยอยู่ในป่า เมื่อโตเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนต้นไม้ มีบ้างที่จะเห็นพวกมันอาศัยอยู่ตามวิหารของวัดป่าทางพุทธศาสนา และศาลเจ้า ชินโตก็มี อาศัยอยู่ในบ่อน้ำตามบ้านเรือน พวกมันถูกกำหนดให้เป็นสัตว์คุ้มครอง ลำตัวมีสีแต่งแต้มด้วยสีเขียว ถึง สีเขียวเข้ม มีบ้างที่มีสีเขียวอมน้ำตาลแดง พวกมันมีลักษณะคล้าย Rhacophorus schlegelii แต่ Rhacophorus arboreus จะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่กว่ามาก และมีสีแดงรอบดวงตา เป็นวิธีการที่จะแยกทั้งสองชนิดออกจากกัน เสียงของตัวผู้จะเป็น ' KO - KO - KO ' หรือ ' KA- KA- KA ' ช่วงฤดูผสมพันธ์และวางไข่คือช่วงปลายเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม ตัวเมียและตัวผู้จะช่วยกันวางไข่ของพวกมันบนกิ่งไม้ที่ยื่นออกมาเหนือน้ำ
    ไข่จะถูกฟักภายใน 7-10 วันถัดไปเปลี่ยนเป็นลูกอ๊อดและตกอยู่ในน้ำ

    ขนาด ตัวผู้ : ประมาณ 40-60 ซม. , ตัวเมีย : ประมาณ 50-75 เซนติเมตร
    ฤดูกาล....ในเดือนเมษายนถึง เดือนตุลาคม
  • กบชเลเกล Rhacophorus schlegelii Rhacophorus schlegelii
    กบชเลเกล     Rhacophorus schlegelii
    กบชเลเกล Rhacophorus schlegelii Rhacophorus schlegelii
    ภูมิภาคหลัก : ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะโกโตะ พบในหนองน้ำและริมน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นาข้าวจากพื้นที่ราบชานเมืองไปจนถึงเนินเขาเตี้ยๆ มีชื่อที่ไม่ซ้ำกันโดยได้รับการตั้งชื่อตามนักสัตววิทยาเยอรมันศาสตราจารย์แฮร์มันน์ เชเลเกล ที่เป็นหัวหน้าของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติในไลเดน เนเธอร์แลนด์ สีของลำตัวเป็นสีเหลืองเขียวสดใส ยกเว้นช่องท้อง มีใบหน้าที่คมชัดโดยไม่มีเส้นสีดำ การระบุชื่อสายพันธุ์นี้จากที่มันคล้ายกบต้นไม้ญี่ปุ่น ล่าแมงมุมและตะขาบเป็นอาหาร กบส่วนใหญ่วางไข่ในน้ำ แต่ชนิดนี้ขุดหลุมใกล้แหล่งน้ำและวางไข่ในดิน ไข่ถูกห่อหุ้มเป็นแพอย่างดี และจะฟักเป็นตัวเมื่อมีฝนตกลงมา

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 3 ถึง 5 ซม.
    ●ฤดูกาล...ช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม
  • กบต้นไม้ญี่ปุ่น Hyla japonica Hyla japonica
    กบต้นไม้ญี่ปุ่น   Hyla japonica
    กบต้นไม้ญี่ปุ่น Hyla japonica Hyla japonica
    ภูมิภาคหลัก : มีอยู่ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นและพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เกาะยากุ เป็นที่นิยมมากที่สุดและมีจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น พบที่ริมน้ำจากเมืองบนภูเขา คนส่วนใหญ่อาจจะได้เห็นพวกมันบ้างในนาข้าว มีสีเขียวสดใสที่ด้านหลัง แต่สามารถเปลี่ยนให้เป็นสีน้ำตาลหรือสีเทาสีน้ำตาลเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบ มีเสียงร้อง "โครก โครก โครก ... " เป็นเสียงที่เกิดจากการขยายถุงเสียงเหมือนลูกโป่ง กินแมลงและแมงมุมเป็นอาหาร พวกมันน่ารักดูดีทำให้เป็นที่ต้องการของผู้คน แต่ที่ผิวหนังจะมีพิษเมื่อสัมผัสโดนและไปขยี้ตาจะทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน (เป็นสายพันธุ์ทั่วไป) ลูกอ๊อดจะมีลูกตาห่างกันมากจึงเป็นข้อสังเกตุได้ง่าย

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 3-4 เซนติเมตร
    ●ฤดูกาล เมษายน-ตุลาคม
  • ปลาเดยส์ญี่ปุ่นหรือ ปลาตะเพียน Tribolodon hakonensis ( Dace) コイ科
    ปลาเดยส์ญี่ปุ่นหรือ ปลาตะเพียน  Tribolodon hakonensis ( Dace)
    ปลาเดยส์ญี่ปุ่นหรือ ปลาตะเพียน Tribolodon hakonensis ( Dace) コイ科
    ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด คิวชู พบได้หลากหลายของพื้นที่ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปากแม่น้ำทะเลสาบและบ่อน้ำ นอกจากนี้ยังอาศัยอยู่ในน้ำที่มีระดับความเป็นกรดสูง ซึ่งปลาทั่วไปไม่สามารถอยู่ได้ บางตัวอาศัยอยู่ในน้ำจืดและบางตัวชอบอาศัยในน้ำกร่อย นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ ขึ้นอยู่แต่ละภูมิภาคเช่น Akahara หรือไฮด้า แต่ Haya เป็นชื่อที่มักจะเรียกในโตเกียว กินไม่เลือก เช่นแมลงเล็กๆ กินตะไคร่น้ำบนพื้นน้ำและกินไข่ปลา สีของลำตัวจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใสสวยงามมีลายเส้นสีดำเมื่อถึงช่วงฤดู​​ผสมพันธุ์

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 30 เซนติเมตร
    ●ฤดูกาล....พบเห็นได้ตลอดทั้งปี
  • ปลาแซลมอล Oncorhynchus masou masou Tribolodon hakonensis ( Dace)
    ปลาแซลมอล   Oncorhynchus masou masou
    ปลาแซลมอล Oncorhynchus masou masou Tribolodon hakonensis ( Dace)
    มีชื่อญี่ปุ่นว่า Yamame ไม่ได้เป็นชื่อสายพันธ์ แต่หมายถึงอยู่ในแม่น้ำ และไม่ได้เดินทางไปยังทะเล ภูมิภาคหลักคือฮอกไกโด ฮอนชู (ทางทิศเหนือของจังหวัดคานากาว่า) ชิโกกุ (ยกเว้นทะเลเซโตะ) ส่วนหนึ่งของคิวชู พบในน้ำจืดที่อุณหภูมิน้ำต่ำกว่า 20 องศา กินแมลงที่ร่วงตกลงในน้ำ กินกุ้งหอยและปลาเล็ก มีจุดสีแดงขนาดใหญ่ทั่วลำตัวประมาณ 6-12สวยงามมาก ( เรียกว่าPamaku ) เป็นปลาราชินีแห่งลำธารเพราะลำตัวของพวกมันที่มีความสวยงามมาก มีสีแดงอ่อนๆคล้าย ๆ ปลาเทราท์ในแม่น้ำที่มีจุดสีแดงสดใสแต่เป็นสายพันธุ์แตกต่างกัน

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 30 เซนติเมตร
    ●ฤดูกาล...พบได่ตลอดทั้งปี
  • แมงมุมขนาดเล็ก Argiope minuta Koganegumo ตระกูลAraneidae
    แมงมุมขนาดเล็ก  Argiope minuta  Koganegumo
    แมงมุมขนาดเล็ก Argiope minuta Koganegumo ตระกูลAraneidae
    ภูมิภาคหลัก: ... อาศัยอยู่ในแถบ เกาะฮอนชู ชิโกกุ และคิวชู เกาะนันเซอิมักพบในป่า และพื้นที่สีเขียว ตั้งแต่พื้นที่ราบไปจนถึงบนภูเขา ช่วงอก และขาเป็นสีน้ำตาล และตรงปลายช่องท้องเป็นสีเหลืองและสีน้ำตาล และมีแถบสีขาว มีจุดสีขาวบนแถบสีน้ำตาล คล้ายกับแมงมุมสายพันธ์Argiope amoena แต่ขนาดลำตัวเล็กกว่า มีชื่อญี่ปุ่นว่า Kogata - koganegumo ตัวเมียและตัวผู้ มีขนาดเดียวกัน สร้างรังเป็นตาข่ายอยู่ระหว่างต้นไม้ และทำตาข่ายเป็นรูปตัว X (บางครั้งสร้างไว้ไม่สมบูรณ์นัก ) และกางขาออกเพื่อช่วยให้สามารถโน้มตัวเพื่อลงมาข้างล่างได้ เป็น แมงมุมขี้อาย เมื่อพบเจอสิ่งที่เป็นอันตรายจะกระโดดออกจากรังและซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นหญ้า

    ● ความยาว ตัวเมีย ประมาณ 8 ถึง 12 มม. /ตัวผู้ ประมาณ 4 ถึง 5 มม.
    ● ฤดูผสมพันธุ์ เดือนกรกฎาคมถึง เดือนตุลาคม
  • แมงมุมสวน Araneus uyemurai ตระกูลAraneidae
    แมงมุมสวน   Araneus uyemurai
    แมงมุมสวน Araneus uyemurai ตระกูลAraneidae
    ภาคหลัก: ... ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบได้ในป่าและพื้นที่สีเขียวจากพื้นที่ราบไปยังภูเขาสูง สีลำตัวเป็นสีน้ำตาลเข้มมีจุดสีน้ำตาลและสีขาวที่ไ​​ม่ซ้ำกัน ที่ช่องท้องด้านบนรูปไข่มีปลายแหลม ขามีสีขาวและสีดำสลับกัน เป็นสายพันธุ์เดียวกันกับ Araneus มีนิสัยชอบอยู่ตามภูเขา จะมีชื่อที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า Oni-yamagumo ความหมายคือ แมงมุมยักษ์ ในภูเขาทาคาโอะจะพบได้ในช่วงฤดู​​ร้อนกับฤดูใบไม้ร่วง รอบเส้นทางป่าและพื้นที่เขตใกล้ป่า สร้างใยขนาดใหญ่ระหว่างต้นไม้ มีขนาดกว่า 2 เมตรและกินแมลงขนาดใหญ่เช่นจั๊กจั่น บางครั้งนอกจากสร้างรังบนต้นไม้แล้วยังทำรังซ่อนอยู่ในรากของต้นไม้หรือในพุ่มหญ้า

    ●ความยาว ตัวเมีย ประมาณ 17 ถึง 20มม. /ตัวผู้ ประมาณ 8 ถึง 13 มม.
    ●ฤดูกาลโตเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน
  • แมงมุมขน Neoscona mellotteei ตระกูลAraneidae
    แมงมุมขน   Neoscona mellotteei
    แมงมุมขน Neoscona mellotteei ตระกูลAraneidae
    ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะนันเซอิ พบในป่าพื้นที่สีเขียวและสวนจากชุมชนไปจนถึงบนภูเขา สีด้านหลังถึงช่องท้องเป็นสีเหลืองเขียว และรูปร่างตัวผู้เป็นรูปไข่ และตัวเมียเป็นรูปวงกลม เป็นสายพันธุ์เดียวกันกับ Scylloides neoscona หรือที่ชื่อญี่ปุ่นเรียกกันว่า Satsumanomi-damashi มีลักษณะคล้ายผลของซัสซุ ( ผลไม้ชนิดนี้มีมากในจังหวัดฟุกุอิและโตเกียว) สายพันธุ์นี้มีชื่อญี่ปุ่นว่า Wakiguro-satsumanomi-damashi ด้านข้างของช่องท้องเป็นสีน้ำตาลเข้มที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างใยหรือรังระหว่างต้นไม้ ออกล่าเหยื่อในเวลากลางคืน และหลบซ่อนอยู่ใต้ใบไม้หรือรังในช่วงกลางวัน

    ●ความยาว ตัวเมีย ประมาณ 7 ถึง 10 มม. /ตัวผู้ ประมาณ 6-8 มม.
    ●ฤดูกาลโตเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน"
  • แมงมุมNephila clavata ตระกูล Nephilidae
    แมงมุมNephila clavata
    แมงมุมNephila clavata ตระกูล Nephilidae
    ภาคหลัก: .. ในฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะนันเซอิ พบในป่าและพื้นที่สีเขียวจากพื้นราบไปถึงภูเขาและในย่านที่มีคนอยู่อาศัย และ
    ในสวนสาธารณะ ตัวเมียมักมีสีเหลือง และที่หน้าท้องมีแถบสีน้ำเงินเข้ม และปลายของช่องท้องสำหรับตัวเต็มวัยเป็นสีแดง ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าตัวเมียมากและลำตัวเป็นสีน้ำตาลแดง ตัวเมียมีสีที่โดดเด่นกว่า
    และจากชื่อที่ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีพิษ แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายมนุษย์มากนัก สร้างใยกางแผ่ขยายออกระหว่างช่องว่างของต้นไม้ ชักใยจากด้านในสุดออกมาด้านนอก ซึ่งเวลาเดินผ่านอาจมองไม่เห็น เมื่อตัวโตเต็มวัยตัวเมียจะสร้างใยเพื่อดึงดูดตัวผู้มาเยี่ยมชมและบางครั้งอาจพบว่าพวกมันอยู่ในรังเดียวกัน

    ●ความยาวเพศเมียประมาณ 20 ถึง 30 มม./เพศผู้ประมาณ 6 ถึง 10 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน
  • แมงมุม Octonoba sybotides ตระกูล Uloboridae
    แมงมุม  Octonoba sybotides
    แมงมุม Octonoba sybotides ตระกูล Uloboridae
    ภาคหลัก: ... พบในฮอกไกโด ฮอนชูชิ โกกุและคิวชู มักพบในป่าและพื้นที่สีเขียวจากพื้นที่ราบ ไปสู่บนภูเขา และในสวนสาธารณะในเมือง เป็นแมงมุมขนาดเล็กประมาณ 5 มม. และชอบป่าร่มรื่นและเป็นสีเดียวกับตัวสิ่งแวดล้อม ใต้ท้องเป็นสีน้ำตาลมีจุดสีขาว พบเห็นได้จากช่วงต้นฤดูร้อนและสร้างเใยเป็นมุมเอียงระหว่างต้นพืช ใยเป็นสีขาวรูปแบบเกลียว (Stabilimentum) เพื่อช่วยให้แมงมุมสามารถที่จะทอดตัวลงมาข้างล่าง ชนิดนี้ในภาษาญี่ปุ่นคือ Uloboridae เป็นสายพันธ์เดียวกันกับ Uzugumo หมายถึงแมงมุมเกลียว

    ●ความยาวตัวเต็มวัยประมาณ 4-6 มม. / ตัวผู้ประมาณ 4 ถึง 5 มม.
    ●ฤดูกาล เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม
  • แมงมุม Heteropoda forcipata สายพันธ์ Sparassidae
    แมงมุม Heteropoda forcipata
    แมงมุม Heteropoda forcipata สายพันธ์ Sparassidae
    ภาคหลัก: ... ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู Sado สึชิม่า และหมู่เกาะยาคูลท์ พบได้ในป่า หน้าผาและในถ้ำจากพื้นราบไปจนถึงภูเขา เป็นหนึ่งในสายพันธุ์พื้นเมืองของญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่สีลำตัวเป็นสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้มมีรูปสามเหลี่ยมสีขาวหรือสีเหลืองตรงปลายของช่องท้อง มีแปดขามีจุดสีดำกับสีขาวตรงกลาง มีลักษณะนิสัยคล้ายกับแมงมุม Venatoria heteropoda คือจะอาศัยอยู่ภายในบ้าน แต่สายพันธุ์นี้ชอบที่จะอยู่ข้างนอกด้วย (เพราะพวกมันล่าแมลงที่มาเล่นแสงไฟ ) ในช่วงกลางวันจะหลบซ่อนตัวในมุมมืดหรือตามซอกหิน และออกหาอาหารในเวลากลางคืน ล่าผีเสื้อและแมลงสาบ ใช้วิธีการเดินเพื่อหาอาหารตามที่ต่างๆโดยไม่ต้องสร้างใยแต่อย่างใด

    ●ความยาวตัวเมีย ประมาณ 20 ถึง 25 มม./ตัวผู้ประมาณ 16 ถึง 20 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย ทั้งปี
  • แมงมุม Dolomedes ตระกูลPisauridae
    แมงมุม Dolomedes
    แมงมุม Dolomedes ตระกูลPisauridae
    ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบมากในป่าและทุ่งหญ้าจากที่ราบลุ่มสู่ที่ราบสูงบนภูเขาและตามหน้าผาและนาข้าว ตัวเต็มวัยตัวเมียมีขนาดใหญ่เป็นสายพันธุ์แมงมุมพื้นเมืองของญี่ปุ่นและมีลำตัวเป็นสีน้ำตาลเข้มอมน้ำเงิน ปลายของช่องท้องเป็นสีน้ำตาลอ่อนมีจุดขาวโดยรอบ และล่าแมลงโดยไม่ต้องสร้างรัง สามารถซุ่มโจมตีบนพื้นดินหรือจับเหยื่อที่เดินเข้ามาใกล้ ตัวเมียห่อเหยื่อไว้ตรงไข่ใต้ท้องของมัน

    ●ความยาวของตัวเต็มวัยตัวเมีย 22-27 มม./ตัวผู้ประมาณ 12 ถึง 15 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน
  • แมงมุม Dolomedes ตระกูลPisauridae
    แมงมุม Dolomedes
    แมงมุม Dolomedes ตระกูลPisauridae
    ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบได้ในพื้นที่สีเขียวป่าไม้ธรรมชาติ จากที่ราบไปถึงบนภูเขา และทุ่งหญ้าจากเมืองบนภูเขาและหน้าผาและนาข้าว ตัวเต็มวัยตัวเมียมีขนาดใหญ่ เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองของญี่ปุ่น และลำตัวเป็นสีน้ำตาลเข้ม และมีแถบคาดขนาดใหญ่หนาสีขาวขอบน้ำตาลอ่อนลากยาวจนถึงช่องท้อง มีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นชื่อ Suji-aka-Hashiri-gumo มีความหมายคือแมงมุมแถบลายสีแดง เดินออกล่าแมลงโดยไม่ต้องสร้างรัง แต่สามารถซุ่มโจมตีบนพื้นดินหรือบนต้นวัชพืชและจับเหยื่ออย่างรวดเร็ว ตัวเมียอมไข่ไว้ในปาก หลังจากที่ไข่ฟักจะสร้างรังให้อยู่ในนั้น และคอยดูแลลูกๆของมัน

    ● ความยาว ตัวเมียประมาณ 11 ถึง 15 มม. / ตัวผู้ประมาณ 10 ถึง 11 มม.
    ● ตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึง เดือนตุลาคม
  • แมงมุม Ariamnes cylindrogaster ตระกูล Theridiidae
    แมงมุม Ariamnes cylindrogaster
    แมงมุม Ariamnes cylindrogaster ตระกูล Theridiidae
    ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะนันเซอิ พบในพื้นที่สีเขียว ในป่าจากพื้นราบระดับต่ำไปยังภูเขา ลำตัวผอมแตกต่างจากแมงมุมทั่วไปและมีช่องท้องที่ยาวออกมาจากลำตัวมาก จะเห็นได้ในต้นฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนใน ผู้ที่พบเห็นแถบจะมองไม่ออกว่ามันคือแมงมุม ขาจะยืดออกจากลำตัวเพื่อการทรงตัว ยืดขาในแนวตรงได้ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับแมงมุมที่ทำได้เช่นนี้ ที่ขามักจะเข้าใจผิดคิดว่ามีแมลงเกาะ สีผิวมี 2สี คือสีเขียวและสีน้ำตาล พฤติกรรมที่แตกต่างจากแมงมุมส่วนใหญ่ คือจะสร้างรังแบบง่ายๆ เป็นด้ายเดินคู่และพร้อมจะโจมตีเหยื่อและแมงมุมอื่น ๆ ทันทีที่มาใกล้รัง

    ●ความยาวตัวเมีย ประมาณ 20 ถึง 30 มม. / ชายประมาณ 12-25 มม.
    ●ตัวเต็มวัย ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม
  • แมงมุม Oxytate striatipes ตระกูล Thomisidae
    แมงมุม Oxytate striatipes
    แมงมุม Oxytate striatipes ตระกูล Thomisidae
    ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบในบริเวณพื้นที่สีเขียว ตามป่าจากพื้นราบไปจนถึงภูเขา และยังพบเจอในเขตเมือง สีของลำตัวเป็นสีเขียวสดใสเหมือนใบไม้อ่อน มีชื่อญี่ปุ่นว่า Wakaba-gumo ความหมายคือแมงมุมยอดใบอ่อน ราวกับว่าอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนเข้าฤดูกาลใบไม้อ่อนนั่นเอง ตัวผู้จะมีสีแดงตรงส่วนหน้าและส่วนฐานของขาของเมื่อโตเต็มวัย ส่วนตัวเมียจะเป็นสีเขียวตลอดทั้งลำตัว ในช่วงกลางวันจะดักซุ่มอยู่บนต้นไม้หรือใบไม้คอยจับแมลงขนาดเล็กรวมทั้งแมลงวัน และแมลงกินที่ใบไม้ ขาที่หนึ่งและขาที่สอง จะมีลักษณะที่ยาวเป็นพิเศษ คือขาสามารถยืดไปทางซ้ายหรือขวาได้เหมือนปู เป็นลักษณะพิเศษของสายพันธุ์ thomisidae มากที่สุด มีช่วงท้องกลม ในขณะที่สายพันธุ์อื่นมีช่วงท้องยาวรี

    ●ความยาวตัวเมีย ประมาณ 9-12 มม. / ตัวผู้ประมาณ 7 ถึง 11 มม.
    ●ตัวเต็มวัย เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม
  • แมงมุม Carrhotus xanthogramma ตระกูล Salticidae
    แมงมุม Carrhotus xanthogramma
    แมงมุม Carrhotus xanthogramma ตระกูล Salticidae
    ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบในป่าและพื้นที่สีเขียวจากที่ราบ ไปที่ถึงบนภูเขาที่ระดับความสูงไม่มากนัก และอยู่ตามที่อยู่อาศัยของคน และสวนสาธารณะในเมือง สถานที่จอดรถ เพื่อเข้ามาหาอาหาร ความยาวลำตัวไม่เกินกว่า 1 มม. ตัวผู้ตรงช่วงหน้าอกเป็นสีดำ และตรงช่วงหน้าท้องมีสีน้ำตาลลายดำ ส่วนตัวเมียจะมีขนสีน้ำตาลอ่อนปกคลุม เดินออกล่าเหยื่อบนพื้นดินและพื้นหญ้า จำพวกแมลง และ ไม่ได้สร้างรัง แต่ชักใยเพื่อโรยตัวจากที่สูงลงสู่พื้นดินในขณะที่อยู่ในที่สูง มีชื่อญี่ปุ่นว่า Neko-haetori หมายถึงแมวบินจับเหยื่อ เนื่องจากพวกมันสามารถจับแมลงขนาดเล็ก รวมทั้งแมลงวันได้นั่นเอง

    ●ความยาวตัวเต็มวัยตัวผู้ และตัวเมีย ประมาณ 7-8 มิลลิเมตร
    ●ตัวเต็มวัย เดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม
  • แมงมุมมด Myrmarachne japonica ตระกูล Salticidae
    แมงมุมมด   Myrmarachne japonica
    แมงมุมมด Myrmarachne japonica ตระกูล Salticidae
    ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะนันเซอิ พบในป่าไม้และพื้นที่สีเขียวจากพื้นราบไปจนถึงบนภูเขา ลำตัวเป็นสีดำน้ำตาลหรือสีน้ำตาลแดง วิธีการเคลื่อนไหวนั้นจะดูคล้ายกับมด จึงมีชื่อเรียกว่า แมงมุมมด หรือ Arigumo ในภาษาญี่ปุ่น เมื่อมองใกล้ ๆ จะเห็นมีขาสามคู่ ซึ่งจริงๆแล้วสายพันธุ์นี้มีขาสี่คู่ และใช้ขาคู่หน้าเลียนแบบหนวดของมดจึงมักเข้าใจผิด ไม่ชักใยดักจับอาหารแตใช้วิธีเดินตามต้นไม้ต่างๆ หรือวัชพืช เพื่อล่าแมลงเล็ก เมื่อพบเจออันตรายจะกระโดดออกจากต้นไม้หรือใบไม้ และซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มไม้ ขากรรไกรบนของตัวผู้ จะพัฒนาตามอายุและยื่นออกมาข้างหน้า ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างจากตัวเมียมาก ทำรังด้านหลังของใบไม้ และวางไข่

    ●ความยาวตัวเมีย ประมาณ 7-8 มม. / ตัวผู้ประมาณ 5 ถึง 6 มม.
    ●ตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม
  • แมงมุม Nelima genufusca ตระกูล Sclerosomatidae
    แมงมุม Nelima genufusca
    แมงมุม Nelima genufusca ตระกูล Sclerosomatidae
    ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบในที่พื้นราบลุ่มถึงระดับภูเขาสูง และจะพบได้ทั่วไป มีขนาดลำตัวเล็ก ลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว มีแปดขายาวมาก อาจไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของแมงมุม เนื่องจากรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไป และช่องท้องไม่ชักใย (ลำตัวมีท่อนเดียว) และมีสองตา เมื่อกางขาออกจะมีลำตัวมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของผู้ใหญ่ และลำตัวจะเป็นสีดำยกเว้นส่วนท้องมีแถบสีขาว ในภูเขาทาคาโอะมีแมงมุมชนิดนี้กระจายอยู่ทั่วไปบนต้นไม้และต้นหญ้า ในปลายฤดูใบไม้ร่วงมักจะเห็นตัวผู้และตัวเมียอยู่ด้วยกัน หรือเดินอยู่บนพื้นดินเพื่อหาอาหาร กินแมลงขนาดเล็กและไส้เดือนดินและซากผลไม้ที่ล่วงหล่นบนพื้นดิน จะพบเห็นได้มากในพื้นที่มีความชื้นมาก

    ●ความยาว ประมาณ 6 ถึง 12 มิลลิเมตร
    ●ตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน
  • แมงมุม Gagrellula ferruginea ตระกูล Sclerosomatidae
    แมงมุม Gagrellula ferruginea
    แมงมุม Gagrellula ferruginea ตระกูล Sclerosomatidae
    ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะยาคุ พบได้ในป่าจากพื้นราบลุ่มไปยังภูเขา มีสีลำตัวที่แตกต่างกันตามแหล่งถูมิภาค ส่วนที่พบในแถบคันโต รวมถึงเขตโซนภูเขาทาคาโอะ จะมีลักษณะลำตัวมีสีสนิมแดงและมีสีปุ่มแหลมเหมือนเข็มอยู่ตรงกลางลำตัวเมื่อตัวโตเต็มวัย เราสามาถพบเห็นมันได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม และจะพบเห็นมันเดินไต่อยู่บนต้นไม้และต้นหญ้าในช่วงที่มีอากาสร้อน ส่วนอีกลักษณะที่พบอยู่ในภูเขาทาคาโอะ จะมีสีดำนูนเหมือนกระดูกสันหลังที่ด้านหลัง มีขนาดลำตัวประมาณ 7 ถึง 10 มม. ลำตัวผอมบางมีสีดำและมีขาใหญ่หนาและสั้น ซึ่งจะแตกต่างจากสายพันธุ์นี้ สำหรับทั้งสองชนิดนี้เมื่อเป็นตัวอ่อนจะไม่มีกระดูกสันหลังที่ด้านหลัง

    ●ความยาวประมาณ 4-6 มม.
    ●ตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม
  • แมงมุม Japonicum Leiobunum ตระกูล Sclerosomatidae
    แมงมุม Japonicum Leiobunum
    แมงมุม Japonicum Leiobunum ตระกูล Sclerosomatidae
    ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบได้ในป่าโปร่ง และทุ่งหญ้าและต้นไผ่ ในพื้นที่ทุ่งหญ้าจากที่ราบไปจนถึงบนภูเขา ลักษณะลำตัวเหมือนถูกออกแบบให้ทนทานในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งเมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่น ๆ จึงมักจะพบได้ในป่าที่ไม่แน่นมากนักเป็นป่าโปร่ง รูปร่างลำตัวกลมและมีสีสันสวยงามมากมีสีเหลืองสลับสีเขียว (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Moegi-Iro ) ค่อยๆกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนเมื่อมีอายุมากขึ้น ขาเป็นสีน้ำตาลเข้มและสีขาว ส่วนสีขาวจะเห็นเด่นชัดมากเมื่อเดินใต้ร่มเงา บางชนิดลำตัวมีกระดูกสันหลัง เช่นในสายพันธุ์ Genufusca nelima และ Gagrellula ferruginea ส่วนในสายพันธ์ Clerosomatidae มีขายาวมาก จะปรากฏให้เห็นปีละครั้งและวางไข่ใต้ดินตลอดฤดูหนาว และฟักตัวอ่อนออกมาบนพื้นดินในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ยากที่จะหาเจอเพราะส่วนใหญ่ พวกมันจะไต่อยู่ตามต้นไม้และไต่ตามพื้นหญ้า และบนภูเขา

    ●ความยาวประมาณ 3 ถึง 4 มิลลิเมตร
    ●ตัวเต็มวัย เดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน
  • ตะขาบ Scolopendra subspinipes ตระกูล Scolopendridae
    ตะขาบ Scolopendra subspinipes
    ตะขาบ Scolopendra subspinipes ตระกูล Scolopendridae
    ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบในป่าร่มรื่นและพื้นที่สีเขียวจากพื้นที่ราบไปจนถึงบนภูเขา และยังพบได้ทั่วพื้นที่อยู่อาศัยและบางครั้งเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน มีลำตัวเป็นสีเขียวเข้มและหัวและลำตัวเกือบจะเป็นสีเดียวกัน ขามีสีเหลืองสีน้ำตาลสีแดงและสีเขียวสลับกัน ในช่วงกลางวันส่วนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นไม้ที่ล้ม หรือในพื้นดินที่ร่มรื่น และเต็มไปด้วยหญ้าปกคลุม หรือบางครั้งจะพบอยู่บนใบไม้หรือกิ่งไม้ จะออกหากินเวลากลางคืนและล่าแมลงเป็นอาหาร รวมทั้งแมลงสาบและแมงมุม ที่ปากมีเขี้ยวคมมาก มีพิษต่อมนุษย์และผิวหนังเมื่อถูกกัดจะบวมมาก บางครั้งมันจะอยู่ใต้พื้นดิน ตัวเมียจะเก็บไข่เอาไว้ใต้ลำตัวและปกป้องลูกของมันจนฟักเป็นตัวอ่อนและดูแลจนกว่าออกหาอาหารเองได้

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 75-100 มม.
    ●ฤดูกาลสำหรับตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน
  • กิ้งกือ Hyleoglomeris sp. ตระกูล Glomeridae
    กิ้งกือ   Hyleoglomeris sp.
    กิ้งกือ Hyleoglomeris sp. ตระกูล Glomeridae
    ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู พบได้ในป่าร่มรื่นและพื้นที่สีเขียวจากที่ราบไปถึงบนภูเขา ชอบอยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น เช่นใต้ซากต้นไม้ หรือกองเศษซากใบไม้ และยังพบเจอได้ในสวน และพื้นดินทั่วไปในเมือง ซึ่งหากไม่รู้จักดีมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นแมลงที่ชอนไชต้นไม้เท่านั้น สีลำตัวเป็นสีดำเงาออกสีน้ำตาลและมีลายสีขาว เมื่อถูกศัตรูโจมตีจะขดเป็นลูกวงกลมซ่อนหัวอยู่ข้างใน ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Dango-mushi ความหมายคือ ลูกแมลงชนิดขดเป็นลูก แต่ส่วนใหญ่เรียกว่าเหาไม้ แต่เหาไม้ขณะขดจะไม่ซ่อนหัว สายพันธุ์นี้ในขาแต่ละคู่จะมีสี่ขารวมกัน ในภูเขาทาคาโอะมักจะพบในพื้นที่ที่ป่าผลัดใบ

    ● ความยาวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร
    ● ผู้ใหญ่ฤดูกาลเที่ยวบินมีนาคมถึงพฤศจิกายน
  • ปูน้ำจืด Geothelphusa dehaani ตระกูล Potamidae
    ปูน้ำจืด  Geothelphusa dehaani
    ปูน้ำจืด Geothelphusa dehaani ตระกูล Potamidae
    ภาคหลัก: พบในฮอนชู ชิโกกุ คิวชู ซาโดะ เกาะโอกิเกาะ เกาะทาเนกะ เกาะยาคุ พบในหุบเขาภูเขา ลำธาร หนองน้ำที่มีโขดหินจำนวนมากและต้นไม้ผลัดใบ จากพื้นราบระดับต่ำไปยังภูเขา เป็นปูน้ำจืดที่ชอบน้ำใสตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงกลางแม่น้ำและชอบอยู่ใต้ร่มเงา และหลบใต้ต้นไม้ล้มในน้ำ แต่ละตัวมีสีแตกต่างกันไปเช่น สีม่วงดำ สีน้ำตาลแดงและสีเทาฟ้า จะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ส่วนที่พบในภูเขาทาคาโอะมีกระดองเป็นสีน้ำตาลอมเหลือง ออกหากินในเวลากลางคืน แต่บางครั้งจะพบเห็นได้บนเส้นทางขึ้นภูเขาในช่วงกลางวันในวันที่ฝนตกหรือมีเมฆมาก กินแมลงขนาดเล็กหอยทากไส้เดือนดินและพืชเป็นอาหาร ตัวเมียวางไข่ประมาณ 50 ฟอง และเก็บไข่ใต้ฝาหน้าท้องจนกว่าจะฟักเป็นตัวอ่อน เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวจะหลบซ่อนตัวในโขดหิน

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 20 ถึง 30 มม. (ความกว้างของกระดอง)
    ●ตัวเต็มวัย มีนาคมถึงพฤศจิกายน
  • ทาก Orobdella octonaria ตระกูล Orobdellidae
    ทาก  Orobdella octonaria
    ทาก Orobdella octonaria ตระกูล Orobdellidae
    ภาคหลัก: ฮอนชู พบในป่าใกล้ริมน้ำจากที่ราบไปจนถึงบนภูเขา มันจัดอยู่ในกลุ่มของปลิงพื้นดิน แต่มีขนาดใหญ่กว่า 40 ซม. เมื่อยืดลำตัวออก มีชื่อญี่ปุ่นว่า Yatsuwa-KUGA-Biru, KUGA หมายถึงพื้นดิน และ Yatsuwa หมายถึงการแบ่งลำตัวออกเป็นแปดส่วน ด้านหลังมีลักษณะลายเป็นริ้วๆ สีของลำตัวนั้นจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค แต่สายพันธุ์ที่พบในภูเขาทาคาโอะเป็นสีเหลืองส้มที่มีลวดลายสีดำอยู่ตรงกลางของด้านหลัง ชอบสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นและอยู่ใต้โขดหินตามริมน้ำและซากใบไม้ เมื่อฝนตกพื้นดินเปียกแฉะจะออกมาบนพื้นดืนกระจายทั่วไปในป่า และสร้างความประหลาดใจต่อนักปีนเขาภูเขา ถือได้ว่าเป็นนักล่าและกินไส้เดือนโดยกลืนไส้เดือนดินที่มีขนาดใหญ่กว่าลำตัวของมันเอง ซึ่งแตกต่างจากทากทั่วไป ซึ่งชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เพราะพวกมันไม่ดูดเลือด

    ●ความยาวลำตัวประมาณ 10 ถึง 40 ซม.
    ●ตัวเต็มวัย ทั้งปี
もっと見る 閉じる