TAKAO 599 MUSEUM

ขุมทรัพย์ของภูเขาทาคาโอะ

Plants

ความหลากหลายของแมลงที่อยู่อาศัยหลายพันชนิดที่ยังมีความทับซ้อนในทาคาโอะโดยอาศัยอยู่หลายพันชนิด สามารถนับและจัดอันดับในญี่ปุ่นได้เป็นสามลำดับที่อยู่อาศัยที่สำคัญ คือ มิโน่ (โอซาก้า) และคิบูเนะ (เกียวโต) เป็นเขตของแมลงที่มีการศึกษามาเป็นเวลานาน สายพันธุ์หลากหลายเหล่านี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในทาคาโอะยังแมลงจำนวนมากที่เป็นราชาและยังมีทากาโอะ คิลฟิช และนักฆ่าวาฬซึ่งในปัจจุบันนั้นชื่อของทาคาโอะก็ยังปรากฏอยู่

  • โอยาม่า ฮาโกเบ่ะ ตระกูลนาเดชิโก่ะ
    โอยาม่า ฮาโกเบ่ะ
    โอยาม่า ฮาโกเบ่ะ ตระกูลนาเดชิโก่ะ
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา ทั้งป่าร้อนชื้น และป่าดงดิบ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่แข็งแรง และรากที่หยั่งลึกลงไปในพื้นดิน แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือลำต้นที่อยู่ใต้ดิน และส่วนที่พ้นจากพื้นดิน ชื่อภาษาญี่ปุ่น Ooyama-hakobe แปลตามตัวอักษรว่า พืชพรรณที่เติบโตบนภูเขาสูง ซึ่งหมายถึง พืชที่สามารถเลื้อยพันขึ้นยังต้นไม้ขนาดใหญ่ได้ อย่างไม่มีข้อจำกัด และมักเจริญเติบโตได้ดีบนพื้นที่ภูเขา ก้านใบของพืชพรรณนี้จะแทงออกจากลำต้นในแต่ละข้อกิ่ง แบบสลับฟันปลาดูเป็นระเบียบ ดอกมีสีขาวขนาดเล็ก มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 มม. กลีบดอกมีทั้งสิ้น 5 กลีบรวบเข้าไว้ทำให้ดอกไม้มีความแน่นหนา และแต่ละโคนดอกจะมีดอกวางเรียงเป็นกลุ่มเป็นพุ่มเข้าด้วยกัน และห้อยเป็นตุ้มลงมา คล้ายง่ามกรรไกรของปู ใบเป็นรูปไข่ ยาว 5 - 10 ซม. มีสีเขียวอ่อน มีปลายแหลม และยาวกว่า กลีบดอก มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงที่หนา เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 40-80 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail3 ถึง 4 , Trail 6 เขาอุระ-ทาคาโอะ
  • คาวาระนะ เดชิโก่ะ ตระกูลนาเดชิโก่ะ
    คาวาระนะ เดชิโก่ะ
    คาวาระนะ เดชิโก่ะ ตระกูลนาเดชิโก่ะ
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา ทั้งป่าร้อนชื้น และป่าดงดิบที่มีแดดส่องถึง (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็นหนึ่งในเจ็ดของสมุนไพรฤดูใบไม้ร่วงที่มีชื่อเสียง มีดอกที่มีความงดงาม น่ารักน่าประทับใจให้กับผู้พบเห็น นอกจากจะพบในบนเนินเขาแล้ว ยังพบบริเวณใกล้ๆ แหล่งน้ำที่มีความชุ่มชื้นอีกด้วย จึงได้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่ง Kawara-Nadeshiko แปลว่า ผลนาเดชิโก่ะริมแม่น้ำ ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 - 5 ซม. มีกลีบดอกทั้งสิ้นห้ากลีบ สีของดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นสีแดง สีม่วง แต่ก็จะมีสีที่เปลี่ยนไปบ้างเมื่อมีแสงอาทิตย์สะท้อน ทำให้ดูงดงาม ในระหว่างกลีบดอกและกลีบเลี้ยง จะมีขนสั้น ๆ ขึ้นโดยรอบดอก คลุมไปถึงเกสรตัวผู้และตัวเมีย ใบมีความยาว 3-10 ซม. กว้างประมาณ 0.4 - 1 ซม. ใบมีปลายแหลมและมีแป้งสีขาวโรยอยู่ภายในเกสรตัวเมียรอบโคนดอก

    ●ฤดูกาล กลางเดือนกรกฎาคม ถึงกลางเดือนกันยายน
    ●ความสูง ประมาณ 30-80 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • ซาวาฮาโกเบ ตระกูลนาเดชิโก่ะ
    ซาวาฮาโกเบ
    ซาวาฮาโกเบ ตระกูลนาเดชิโก่ะ
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา ทั้งป่าร้อนชื้น และป่าดงดิบที่มีแดดส่องถึง (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ลำต้นจะเติบโตโดยการเลื้อยไปตามพื้นดิน มีลำต้นและรากที่แข็งแรงสามารถพยุงลำต้นให้มั่นคงได้ แต่ละกิ่งก้านสาขา จะแทงยอดออกมาจากลำต้นตั้งแต่ลำต้นส่วนล่างไล่ขึ้นมาบน สลับฟันปลาอย่างเป็นระเบียบ ดอกมีสีขาว ยาว 5 ซม. กลีบดอกมีทั้งสิ้น 5 กลีบ เหมือนกับพืชพรรณที่อยู่ในตระกูลนาเดชิโก่ะ ลักษณะใบจะเป็นใบกลม ปลายแหลมคล้าย ๆ รูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 2 - 4 ซม. จะเป็นลักษณะสองใบคู่ที่อยู่ตรงข้ามหันหน้าออกจากกัน มีขนสั้นที่ด้านหลังของใบ มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงที่หนา เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนพฤษภาคม ถึงต้นเดือนกรกฎาคม
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 30 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 6
  • มิโซโซบ่ะ (ผักแพวลายผีเสื้อ) ตระกูลผักแพว
    มิโซโซบ่ะ  (ผักแพวลายผีเสื้อ)
    มิโซโซบ่ะ (ผักแพวลายผีเสื้อ) ตระกูลผักแพว
    สมุนไพร ที่พบในบริเวณที่มีความชุ่มชื้นสูง ริมลำธาร บนส้นทาง นาข้าว ในภูเขา ลำต้นจะเติบโตไปตามระนาบพื้นดิน และมีเพียงลำต้นส่วนบนนั้นได้พยุงตัวรับแสงแดด และทำหน้าที่สร้างความเจริญเติบโตภายนอกให้กับโคนต้น กิ่ง ใบ และดอก ดอกไม้เวลาบานจะมีลักษณะหันหัวลง ยาวประมาณ 6 ถึง 8 มม. ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้วยดอกไม้ประมาณ 5 ดอกเข้ามารวบเป็นพวง เป็นตุ้มห้อยลงมาอย่างสวยงาม สีของดอกเป็นสีชมพูเรื่อ ๆ สีขาว และสีแดงอ่อน ๆ ใบยาวประมาณ 4-10 ซม. รูปร่างของใบมีรูปร่างเหมือน หัวหอก ที่มีปลายแหลมแบน ๆ ชื่อภาษาญี่ปุ่น มิโซะ-โซบะ แปลว่า พืชพรรณที่ใบเติบโตในท้องร่อง ซึ่งรูปร่างของต้นมิโซโซบ่ะ จะมีลักษณะคล้าย ใบของต้นหน้าวัว บางทีจะเรียกว่าเป็น อุชิโน-ฮิไต หรือที่แปลว่า หน้าผากวัว เนื่องจากใบมีลักษณะคล้าย ๆ กับใบของดอกหน้าวัว

    ● ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30-90 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 6 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • บานาน่าโน๊ะ โชคิลัง (ดอกลิลลี่แดง) ตระกูลกล้วยไม้
    บานาน่าโน๊ะ โชคิลัง  (ดอกลิลลี่แดง)
    บานาน่าโน๊ะ โชคิลัง (ดอกลิลลี่แดง) ตระกูลกล้วยไม้
    พืชไม้เลื้อยเช่นกล้วยไม้นี้ เติบโตได้ดีในดิน มีรากดูดน้ำดูดอาหาร เพื่อพยุงตัวให้มี การเจริญเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ พืชชนิดนี้จะใช้รากดูดอาหาร แต่จะปล่อยเชื้อราออกมาทำลายสารอาหาร และสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ พบอยู่ในที่ป่าชุ่มชื่น ที่ริมธารน้ำไหล และในเขตภูเขา ไม่สามารถสังเคราห์แสงเองได้ ไม่สามารถผลิตสารอาหารเองได้ มีการหาอาหาร และเติบโรเติบโต จากเชื้อรารอบ ๆ ราก ลำต้นจะถูกแบ่งเป็นสองส่วนคือ ลำต้นที่อยู่ใต้ดิน และลำต้นที่อยู่ด้านบน ก้านดอกหนา ดอกเวลาบาน จะมีสีเหลืองเข้มเหลือง สีน้ำตาล ดอกจะมีทิศทางโดย หันหน้าขึ้นไป ขนาดใบจะมีขนาดเล็ก มีดอกสีเหลือง ซึ่งเดิมทีจะพบที่ประเทศจีนก่อน แล้วจึงมานำเผยแพร่ไปยังที่ญี่ปุ่นภายหลัง ในประเพณีเดือนพฤษภาคม ของประเทศญี่ปุ่น ก็มีเทศกาลชื่อว่า คิบานาโน๊ะ-โชกิ แปลว่าเทศกาลดอกไม้เหลืองของกล้วยไม้ จึงกลายเป็นชื่อของดอกไม้นี้ ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ซม. มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงที่หนา เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ● ฤดูกาล กลางเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกรกฎาคม
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 50 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 3
  • คุโมคิริ ตระกูลกล้วยไม้
    คุโมคิริ
    คุโมคิริ ตระกูลกล้วยไม้
    เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าหิน สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (ไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ใน 1 ก้านใบจะประกอบด้วยใบอย่างน้อย 3 ใบ และใน 1ก้านดอก จะประกอบไปด้วยดอกไม้อย่างน้อย 5 ดอกรวมเป็น 1 กิ่ง กลีบดอกและก้านดอกเป็นหลอดผอมเหมือนขาของแมลง ดอกไม้มีสีเขียวอ่อน สีดำ หรือสีน้ำตาล กลีบดอกม้วนงอลงและเข้ารูปเป็นดอกอย่างลงตัว มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงที่หนา เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ ละอองเรณูจะมีสีเหลือง ใบเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 5 ถึง 12 ซม. รูปไข่ที่มีขอบใบหยัก คล้ายร่องฟัน ชื่อภาษาญี่ปุ่น คุโมะ คิริง แปลว่า พืชพรรณแมงมุม เหตุผลแท้จริงไม่ทราบแน่ เป็นแค่สันนิษฐานกันไปต่าง ๆ นานา แต่หนึ่งในนั้นคือ เป็นเพราะว่า ดอกไม้นี้ มีลักษณะคล้าย ๆ กับลูกแมงมุมเป็นเพราะดอกไม้คล้ายกับแมงมุมทารกและสามารถเติบโตในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหมอก ได้เป็นอย่างดี

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนมิถุนายน ถึงกลาเดือนกรกฎาคม
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 5 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • กล้วยไม้ทซึจิอาเคบิ ตระกูลกล้วยไม้
    กล้วยไม้ทซึจิอาเคบิ
    กล้วยไม้ทซึจิอาเคบิ ตระกูลกล้วยไม้
    เป็นไม้พรรณที่เจริญเติบโตในป่าดิบชื้น บนภูเขา ใน 1 ก้านใบจะประกอบด้วยใบอย่างน้อย 3 ใบ และใน 1ก้านดอก จะประกอบไปด้วยดอกไม้อย่างน้อย 5 ดอกรวมเป็น 1 กิ่ง กลีบดอกและก้านดอกเป็นหลอดผอมเหมือนขาของแมลง ดอกไม้มีสีเขียวอ่อน สีดำ หรือสีน้ำตาล กลีบดอกม้วนงอลงและเข้ารูปเป็นดอกอย่างลงตัว มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงที่หนา เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ ละอองเรณูจะมีสีเหลือง ใบเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 5 ถึง 12 ซม. รูปไข่ที่มีขอบใบหยัก คล้ายร่องฟัน

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนมิถุนายน ถึงปลายเดือนกรกฎาคม
    ●ความสูง ประมาณ 50 ซม. ถึง 1 เมตร
    ●สถานที่ Trail 1
  • เนจิ บานเนอร์ ตระกูลกล้วยไม้
    เนจิ บานเนอร์
    เนจิ บานเนอร์ ตระกูลกล้วยไม้
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา ทั้งป่าร้อนชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) พบในทุ่งหญ้าที่มีแดดส่องถึง ในบริเวณเชิงเขา และเส้นทางแคบ ๆ ตามทุ่งนา มีลำต้นที่แข็งแรง และมีรากที่สมบูรณ์สามารถหาอาหารมาเลี้ยงลำต้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งการหาอาหารจะใช้รากแขนงเปลือย รากจะจับยึดกับไม้ยืนต้นอื่น หรืออุปกรณ์จับยึดอย่างอื่นตามธรรมชาติได้อย่างมั่นคง ชื่อภาษาญี่ปุ่น Neji-Bana แปลว่า ไม้ดอกแบบเกลียว ซึ่งเปรียบกับกล้วยไม้พรรณนี้ ที่ใช้รากในการจัดยึด ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 4 ถึง 6 มม. เป็นดอกลักษณะทรงแหลมยาว มีสีชมพู ยาวประมาณ 5-15 ซม. ที่ขอบใบมีรอยหยักเหมือนฟันใบเลื่อย เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 4-8 มม. เป็นรูปไข่ ก้านดอกยาว เส้นผ่าศูนย์กลางของใบ 5-20 ซม. ยาว 0.3-1 ซม. มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงที่หนา เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์

    ● ฤดูกาล เดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 30 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 5 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ- ทาคาโอะ
  • กล้วยไม้ป่าเมียวรัง ตระกูลกล้วยไม้
    กล้วยไม้ป่าเมียวรัง
    กล้วยไม้ป่าเมียวรัง ตระกูลกล้วยไม้
    พืช saprophytic ( เติบโต ในดิน ใบและ เติบโตไปพร้อมกับ เชื้อรา จะทำลายลง สารอาหาร ) ที่พบ อยู่ใต้ต้นไม้ ที่เขียวชอุ่มตลอด ในพื้นที่ อากาศอบอุ่น . ปลูก ด้วยสารอาหาร จาก เชื้อรา . ไม่ได้ มี คลอโรฟิล และโรงงาน ทั้งหมด เป็นสีเหลือง น้ำตาล และดูเหมือน ดอกไม้ และ เสียชีวิต จะ ไม่น่าสนใจ . ใน ภูเขา ทาคาโอะ ที่พบใน ป่า ต้นโอ๊ก ในช่วงฤดูฝน .ชื่อ ภาษาญี่ปุ่น เป็น หมู่ ที่คุณ วิ่ง อักษรความหมาย ไม่มี กล้วยไม้ ใบและ เป็นรัฐ ชื่อที่ ใบ จะ เสื่อมโทรม และ มีเพียง ใบ ใหญ่ ( ใบ กลายเป็น ขนาดเล็ก ขนาด รูป ) . ดอกไม้เป็น 2 ถึง 3 ซม. ในเส้นผ่าศูนย์กลางและ ครึ่งเปิด . สี ของดอกไม้ที่เป็น แสงสีเหลือง สีขาวและ บุปผา ห้าถึงหก ดอกไม้ แบบสุ่มใน ดอก ลำต้น (ไม่รวม ใบ ) . ใบประดับ และ กลีบ เกือบ รูปร่างเดียวกัน และ ประมาณ 1 .. 5 ซม. ยาว . มี ส่วนที่ยื่นออก ผมสีเหลือง ด้านในของ กลีบโผล่ออกมา . หลังจาก ดอก แบก บาง ติด เช่นผลไม้ สีดำ

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนมิถุนายน ถึงต้นเดือนกรกฎาคม
    ● ความสูง ประมาณ30 ถึง 40 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 3
  • ไซไฮลัง (กล้วยไม้แมลงภู่) ตระกูลกล้วยไม้
    ไซไฮลัง  (กล้วยไม้แมลงภู่)
    ไซไฮลัง (กล้วยไม้แมลงภู่) ตระกูลกล้วยไม้
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าทั่วไป ป่าดงดิล รวมทั้งป่าใกล้ลำธารในภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ญี่ปุ่นชื่อ Saihai แปลว่า กระบองกล้วยไม้ เนืองจากมีดอกคล้ายกระบองที่ใช้ในการรบสหรัฐฯ ดอกไม้มีความยาว 3 ซม. ใน 1 ก้านดอกจะมีดอกเล็ก ๆ รวมอยู่เป็นพุ่มประมาณ 10 ถึง 20 ดอก และบานหันหน้าทิ้งตัวลงบนส่วนบนของลำต้นด้านล่าง สีของดอกไม้เป็นสีน้ำตาลอมชมพู สีแดงก็มีให้เห็นอยู่บ้าง กลีบดอกจะยื่นออกมาออกนอกโคนต้นที่ดูสวยงามมาก ในโคนดอก มีเกสรตัวผู้ที่เป็นแท่งโคนโน้มออกจากตัวดอก และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางของโคนดอก มีเกสรสีเหลือง ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาว 15-35 ซม. ดอกจะบานตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิจนถึงปลายฤดูหนาว ใบมีลักษณะพิเศษคือ จะมีใบขนาดใหญ่บาง ๆ คล้ายใบไผ่

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนมิถุนายน ถึงต้นเดือนกรกฎาคม
    ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 3 Trail 6 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • โอนิ โดโคโร่ะ (กลอยภูเขา) ตระกูลมันภูเขา
    โอนิ โดโคโร่ะ (กลอยภูเขา)
    โอนิ โดโคโร่ะ (กลอยภูเขา) ตระกูลมันภูเขา
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าทั่วไป ป่าดงดิบ รวมทั้งป่าใกล้ลำธารในภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ลักษณะลำต้นของพืชพรรณนี้ จะคล้ายกับตระกูลมัน และมีหน่อทำหน้าที่ในการเลี้ยงต้น ใบ ดอก และใช้ในการขยายพันธ์ ลำต้นที่อยู่ใต้ดินจะหนาและแข็งแรง มีเส้นใยอยู่มาก มักจะนำผลไปรับประทานเป็นของว่าง ใช้ในงานรื่นเริง ปีใหม่ ชื่อภาษาญี่ปุ่น Oni-dokoro แปลว่าผีปอบ เนื่องจากลักษณะรากของมันเป็นเหมือนรูปร่างคน หรือผีที่ดูน่ากลัว มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอก 5 มิลลิเมตร ดอกมีสีเหลือง สีเขียว เวลาดอกบานเต็มที่ หลาย ดอก ยาว ลำต้น (ไม่รวม ใบ ) มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงที่หนา เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์ ใบมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ ยาว 5 ถึง 12 ซม. เมื่อดอกได้รับการผสมพันธ์แล้ว จะกลายเป็นผลอยู่ที่โคนต้น

    ● ฤดูกาล เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม
    ● ความสูง เท่ากับความสูงของไม้ยืนต้นที่พันเครือ
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 6 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • ยามาโน๊ะ อิโหม่ะ (มันกลอยภูเขา) ตระกูลมันภูเขา
    ยามาโน๊ะ อิโหม่ะ (มันกลอยภูเขา)
    ยามาโน๊ะ อิโหม่ะ (มันกลอยภูเขา) ตระกูลมันภูเขา
    สมุนไพรไม้เถายืนต้น ซึ่งมีรากเป็นทรงกระบอก(เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ที่พบในเขตป่า ในภูเขา สามารถนำมาปรุงอาหาร นำมารับประทานได้ ชื่อภาษาญี่ปุ่น ยามาโน๊ะอิโต่ะ แปลว่า มันภูเขา (มันฝรั่ง) ซึ่งหมายถึงเป็นมันกลอยที่เจริญเติบโตได้ดีในบริเวณพื้นที่ภูเขา มีลักษณะคล้ายกับ ซาโต่ะอิโหม่ะ อย่างมาก จนแทบจะไม่สามารถแยกจากกันได้ นอกจากนี้พืชพรรณนี้ยังเติบโตในพื้นที่แถบชนบท และยังมีชื่อเรียกอีกว่าเป็น จิเนนโจ เนื่องจากว่า เป็นมันกลอย ที่มีถิ่นกำเนิดจากภูเขา ใบมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ มีปลายแหลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 ถึง 10 ซม.มีก้านใบที่ยาว สามารถนำไปปรุงแต่งอาหาร นำไปผัด แกง ไว้รับประทานได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์ ดอกมีสีขาว และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 มิลลิเมตร ดอกไม้ หญิง จะ ลดลง และ สุ่ม บาน 3 มิลลิเมตร ใน ​​ดอกสีขาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง

    ● ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงปลายเดือนกันยายน
    ● ความสูง สูงระดับหัวเข่า
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 4 Trail 6 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ- ทาคาโอะ
  • คิสึเน๊ะโน๊ะคามิ (ดอกลิลลี่แมงมุมแดง) ตระกูลดอกลิลลี่
    คิสึเน๊ะโน๊ะคามิ (ดอกลิลลี่แมงมุมแดง)
    คิสึเน๊ะโน๊ะคามิ (ดอกลิลลี่แมงมุมแดง) ตระกูลดอกลิลลี่
    สมุนไพรไม้ล้มลุก ซึ่งมีรากเป็นทรงกระบอก (เป็นไม้ล้มลุกที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโต) พบในพื้นที่ชายป่า ทุ่งหญ้า และบริเวณใกล้ริมลำธารในภูเขา เริ่มเจริญเติบโตในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ จนถึงปลายฤดูร้อนจากนั้นก็จะล้มตายลง และคงเหลือเพียงต้นกล้าเดิม เพื่อรอผลิดอกอกผลในฤดูกาลหน้าต่อไป ขณะดอกบาน ใน 1 โคนดอก จะประกอบด้วยดอกประมาณ 3 - 5 ดอก ใบยาว 30 - 40 ซม. และยังมีอีกชื่อเรียกอีกคือ Kitsuneno-kamisori แปลว่า มีดโกนของสุนัขจิ้งจอก คือลักษณะของใบจะบาง เหมือนกับการใช้มีดเจียรใบให้บางลง และกลีบดอกนั้นมีลักษณะบาง ๆ ยาว ๆ คล้ายมีดโกน ซึ่งเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 5 ถึง 7 ซม. และมีกลีบดอกอยู่ 6 กลีบ เวลาบานจะเงยหน้าขึ้น เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์ บและลำต้นมีสารที่เป็นพิษ เมื่อเราได้เผลอไปสัมผัส หรือนำเข้าไปในร่างกาย สารพิษจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนกันยายน
    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • โอบากิ โบชิ ตระกูลลิลลี่
    โอบากิ โบชิ
    โอบากิ โบชิ ตระกูลลิลลี่
    สมุนไพรไม้เถายืนต้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ที่พบในป่าดงดิบ ป่าทุ่งหญ้า ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ มีปลายแหลมนิดหน่อย ขนาดใหญ่ ยาว 20-30 ซม. ที่ด้านหลังของใบเส้นฝอยที่ก้านใบ และใบมีลักษณะบาง ๆ มีรสชาติอร่อย นิยมนำไปปรุงอาหาร ชุบแป้งเทมปุระทอด หรือทำการหมัก ได้รสชาติขมนิด ๆ แต่จะต้องระมัดระวัง ในการเลือกส่วนของลำต้นเข้ามาปรุงอาหาร เพราะบางส่วนของต้นจะมีส่วนที่เป็นพิษอยู่ ที่เรียกกว่า helleborine ถ้าหากบริโภคเข้าไป จะทำให้เกิดการอาเจียรได้ ดอกไม้มีลักษณะคล้ายทรัมเป็ต เหมือนท่อยาว ๆ ยาวประมาณ 4 ถึง 5 ซม. โคนดอกจะมีการแทงขึ้นจากโคนต้น ตั้งแต่ลำต้นส่วนล่าง จนถึงลำต้นส่วนบน มีใบประดับที่คลุมทั้งลำต้น เป็นใบขนาดใหญ่ เป็นเหมือนหมวกขนาดใหญ่ที่ปกปิดให้พ้นจากแสงแดดจ้าได้ ดังชือ โอบากิ โบชิ ซึ่งแปลว่า หมวกประดับยักษ์
    ● ฤดูกาล กลางเดือนกรกฎาคม ถึงปลายเดือนสิงหาคม
    ● ความสูง ประมาณ 50-90 เซนติเมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • โอบาชาโน ฮิเค่ะ ตระกูลลิลลี่
    โอบาชาโน ฮิเค่ะ
    โอบาชาโน ฮิเค่ะ ตระกูลลิลลี่
    สมุนไพรไม้เถายืนต้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ที่พบอยู่ใต้ต้นไม้ป่าดิบหรือพื้นที่ร่มรื่นในภูเขา เป็นลักษณะเถายาว เติบโตใต้ดิน ชื่อภาษาญี่ปุ่น Ooba-jyano-hige แปลว่า เคราของงูยักษ์ เนื่องจากว่ามีใบคล้ายเคราของงู และพืชชนิดนี้ปกติจะมีใบกว้างและหนา เมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่นในสายพันธ์ตระกูลเดียวกัน ใบงอกออกมาจากโคนต้น และมีความยาวประมาณ 20-40 ซม.มีพื้นผิวมันวาว แต่ขอบหยาบ ดอกยาวประมาณ 6-7 มม. มีสีขาวหรือสีม่วง หากในแถบเทือกเขาทาคาโอ่ะมักจะพบสีขาว เป็นส่วนใหญ่ ดอกมีลักษณะโค้งเล็กน้อย เวลาบานจะเชิดหน้าขึ้นดูสง่า เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกรกฎาคม
    ●ความสูง ประมาณ 15-25 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 2 、3, 5 , ภูเขาคิตะ-ทาคาโอะ
  • โนคันโซ ตระกูลลิลลี่
    โนคันโซ
    โนคันโซ ตระกูลลิลลี่
    สมุนไพรไม้เถายืนต้น ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต พบในพื้นที่เป็นป่าดิบชื้น ที่ไม่มีแดดจัด รวมถึงในคูนาข้าว มีดอกจำนวนมากทั่วทั้งต้น แทบจะมองไม่เห็นใบเลย ขณะดอกบานเต็มที่ เราจะมองเห็นดอกไม้เป็นสีส้ม สีแดง ซึ่งจะแตกต่างกันไปบ้างแล้วแต่สายพันธ์ ซึ่งเปรียบได้ว่าดอกที่มีสีแดง คือตัวแทนของความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ ที่เรียกว่าเบนิ-คันโซ ใน 1 ช่อดอกจะประกอบด้วยดอกเล็ก ๆ รวมกันเป็นกลุ่มประมาณ 6 ดอก มองดูคล้ายทรัมเป็ตดอกไม้ และดอกไม้จะบานสะพรั่งชั่วคราวในตอนเช้าและเหี่ยวเฉาในช่วงบ่าย ดอกไม้มีขนาดยาว 5 ถึง 7 ซม. ยาวยื่นออกมาจากใจกลางของโคนดอกทั้ง 6 ใบยาว 30 ถึง 60 เซนติเมตร กว้าง 1 -1.5 ซม. กว้างและเติบโตจากรากและโค้งงอนเหมือนลูกศร. มีลำต้นส่วนล่างที่มีเลื้อย ปกคลุมไปตามพื้นดิน ใบอ่อนมีรสหวาน และสามารถรับประทานเป็นต้มหรือเทมปุระ

    ●ฤดูกาล เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม
    ●ความสูง ประมาณ 50-70 เซนติเมตร
    ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ, มินามิ-ทาคาโอะ
  • ฮิเมยา บุรัง ตระกูลลิลลี่
    ฮิเมยา บุรัง
    ฮิเมยา บุรัง ตระกูลลิลลี่
    สมุนไพรไม้เถายืนต้น ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต ที่พบในทุ่งหญ้าแดดในภูเขา มีใบขนาดใหญ่ที่เด่นชัด ปกคลุมทั่วทั้งลำต้น ใบส่วนใหญ่จะงอกออกมาจากโคนต้นส่วนล่าง และจากราก ยาวประมาณ 10 ถึง 15 เซนติเมตร ดอกส่วนใหญ่จะมีสีม่วง หันโคนดอกขึ้นด้านบน มองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่บางสายพันธ์ที่สีขาวก็มีอยู่บ้าง เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 1 ซม. คล้ายรูปไข่ ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้วยดอกประมาณ 6 ดอก ใบมีความยาว 10 ถึง 20 เซนติเมตร กว้าง 2-3 มม. จะมีลักษณะคล้ายกับดอกลิลลี่ สายพันธ์อื่น ๆ ที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน แต่ใบจะเรียวและเล็กกว่า การขยายพันธ์นอกจากการใช้หน่อขยายแล้ว ยังมีวิธีการใช้เมล็ดด้วย โดยจะมีเมล็ดเล็ก ๆ คล้าย ๆ ผลงานทีอยู่ในโคนดอกเมื่อแก่จัด จะนำเมล็ดเหล่านี้ไปขยายพันธ์ต่อได้เช่นกัน ขนาดเมล็ดมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ถึง 6 มม. เมื่อแรกเริ่ม เมล็ดจะเป็นสีเขียว เมือแก่จัดจะเป็นเป็นสีดำสีม่วงในที่สุด

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนกันยายน
    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 15 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 5 ภูเขาอินาริ , โอคุ-ทาคาโอะ
  • ยาบุกันโซ (ดอกลิลลี่ภูเขา) ตระกูลลิลลี่
    ยาบุกันโซ   (ดอกลิลลี่ภูเขา)
    ยาบุกันโซ (ดอกลิลลี่ภูเขา) ตระกูลลิลลี่
    สมุนไพรไม้เยืนต้น ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต ที่พบในขอบป่าริมถนนและริมฝั่งแม่น้ำในภูเขา โดยมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนในสมัยโบราณ ลำต้นมีลักษณะยาว มีใบที่หนา และมีดอกไม้บานสะพรั่งด้วยสีส้มครอบคลุมทั้งลำต้น ดูสวยงาม ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 ซม. ดอกมีลักษณะโค้งเล็กน้อย เวลาบานจะเชิดหน้าขึ้นดูสง่า เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ มีลักษณะเป็นกลีบดอกคู่ประกบหันหน้าเข้าหากัน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชพรรณชนิดนี้ มีใบงอกออกมาจากราก จากโคนต้นส่วนล่าง ใบยาว 40-60 ซม. ,กว้าง 2.5 - 4 ซม. ต้นกล้าในฤดูใบไม้ผลินั้นเมื่อเติบโตเต็มที่ นิยมที่จะนำมาปรุงเป็นอาหาร สามารถรับประทานหมักหรือทอดกับแป้งเทมปุระได้ แต่ต้องนำไปแช่น้ำค้างคืนไว้เสียก่อน

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนกรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม
    ●ความสูง ประมาณ 80 ซม. ถึง 1 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 6 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ยาบุลัง ตระกูลลิลลี่
    ยาบุลัง
    ยาบุลัง ตระกูลลิลลี่
    สมุนไพรไม้เถายืนต้น ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต ที่พบในขอบป่าดงดิบป่าร้อนชื้น ที่มีร่มเงาในป่าภูเขา ซึ่งปัจจุบันยังนิมยมใช้เป็นพืชคลุมดินที่สวนสาธารณะและสวน ใบมีจำนวนมากที่งอกออกจากรากหรือลำต้นส่วนล่าง และกลายเป็นขนาดใหญ่ ใช้เหง้าในการขยายพันธ์ มีดอกขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 8-12 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 8 มิลลิเมตร โคนดอกจะประกอบด้วยดอกจำนวนมาก ประมาณ 6 ดอก มารวมกันเป็นช่อดอก ดอกมีสีม่วง มีเกสรตัวผู้ที่มีลักษณะคล้ายเดือยท่อ ที่โผล่พ้นดอกออกมา และมีเกสรตัวเมียที่อยู่กลางโคนดอกเป็นสีเหลือง ขนาดของใบยาวประมาณ 30 ถึง 50 ซม. กว้าง 0.8 - 1 ซม. เจริญเติบโตได้ดีในป่าที่มีร่ม มีใบคล้ายกล้วยไม้ จึงชื่อญี่ปุ่นชื่อว่า ยาบุรัง แปลว่า กล้วยไม้ทีมีลักษณะเป็นพุ่ม การขยายพันธ์นอกจากการใช้หน่อขยายแล้ว ยังมีวิธีการใช้เมล็ดด้วย โดยจะมีเมล็ดเล็ก ๆ คล้าย ๆ ผลงานทีอยู่ในโคนดอกเมื่อแก่จัด จะนำเมล็ดเหล่านี้ไปขยายพันธ์ต่อได้เช่นกัน ขนาดเมล็ดมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ถึง 6 มม. เมื่อแรกเริ่ม เมล็ดจะเป็นสีเขียว เมือแก่จัดจะเป็นเป็นสีดำสีม่วงในปลายฤดูใบไม้ร่วงในที่สุด

    ●ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม
    ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 2 Trail 5 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • ยามาโฮโต่ะ คิสึ (ลิลลี่นกคัดคูเล็ก) ตระกูลลิลลี่
    ยามาโฮโต่ะ คิสึ  (ลิลลี่นกคัดคูเล็ก)
    ยามาโฮโต่ะ คิสึ (ลิลลี่นกคัดคูเล็ก) ตระกูลลิลลี่
    สมุนไพรไม้เถายืนต้น ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต ที่พบในขอบป่าและในป่าลึกใกล้กับภูเขา ขณะที่ดอกไม้บานสะพรั่ง จะทิ้งใบทั้งหมด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชพรรณชนิดนี้ ลำต้นแข็งแรง มีก้านใบ กิ่งที่แทงยอดออกมาจากโคนลำต้นจากด้านล่างขึ้นมาถึงลำต้นช่วงบน ดอกบานจะหันหน้าขึ้นไปข้างบน ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. และในกลางโคนดอกจะมีจุดสีม่วงอยู่ และมีกลีบดอกสีขาวประปรายอยู่ด้านใน ซึ่งลักษณะแบบนี้จะมีส่วนที่คล้ายคลึงกับลักษณะของของหน้าอกของนกกาเหว่า จึงมีชื่อญี่ปุ่นว่า Yama-hototogisu แปลว่า นกกาเหว่าน้อยในภูเขา ลักษณะเกสรตัวผู้จะเป็นท่อโค้งที่พ้นจากโคนดอกออกมา ส่วนเกสรตัวเมียจะอยู่ตรงส่วนกลางของกลีบดอกทั้ง 6 กลีบ ม้วนงอลงอย่างสวยงาม ใบมีความยาวประมาณ 8-13 ซม. มีลักษณะเป็นรูปไข่ที่มีปลายแหลม ลำต้นมีขนสั้น ๆ ประปราย ซึ่งจะแตกต่างกันไปบ้างแล้วแต่สายพันธ์ หลังจากออกดอกแล้ว จะเกิดผลซึ่งมีความยาว 3 ซม. และเมล็ดรูปไข่ ที่อยู่ในผลนั้นเมื่อแก่จัด จะทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป

    ●ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม
    ●ความสูง ประมาณ 40-70 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสาย 2 - 4 - 6 ภูเขา-ทาคาโอะ
  • ยามะยูริ (ดอกลิลลี่ภูเขา) ตระกูลลิลลี่
    ยามะยูริ   (ดอกลิลลี่ภูเขา)
    ยามะยูริ (ดอกลิลลี่ภูเขา) ตระกูลลิลลี่
    เป็นสมุนไพรยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) นอกจากนี้ยังพบในขอบป่า และทุ่งหญ้า ในภูเขาทั่วไป ลำต้นมีขนาดใหญ่ลำต้นตรง ดอกไม้จะบานสะพรั่ง ซึ่งใน 1โคนดอกจะประกอบด้วยดอกมากว่า 10 ดอก เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 22-24 ซม. มีกลิ่นที่หอมรุนแรงจากกลีบดอกทั้ง 6 ที่อยู่รายรอบดอก กลีบดอกทั้ง 6 กลีบจะมีลักษณะม้วนงอ พร้อมกับเกสรตัวผู้เป็นเส้นสีเหลือง และเกสรตัวเมียอยู่ในกลางดอกในศูนย์ที่มีจุดสีแดง โดยใช้หลักของแรงลมพัดนำพาละอองเรณูเกสร ไปยังดอกอื่น หรือผสมเกสรโดยแมลงที่มาตาอม ทำให้เกิดการผสมพันธ์ แล้วจะกลายเป็นผล และเมล็ดแก่จัดที่จะนำไปขยายพันธ์ ดอกประเภทนี้ละอองเกสรนั้นเมื่อติดกับเสื้อผ้า จะลบออกได้ยากพอสมควร เนื่องจากได้ค้นพบในพื้นที่ภูเขา จึงมีชื่อญี่ปุ่นว่า Yamayuri ซึ่งแปลว่า ลิลลี่ภูเขา ใบ มีความยาว 10 ถึง 15 เมตร ก้านใบสั้น ลำต้นสั้น ใบและดอกของพืชพรรณนี้สามาระนำไปปรุงอาหารรับประทานได้ ผลมีรูปทรงกระบอก ยาว 5 ซม.

    ● ฤดูกาล กลางเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม
    ● ความสูง ประมาณ 1-1.5 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 , ภูเขาอินาริ , อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ-ทาคาโอะ
  • ทซึยุคุสะ (หญ้าน้ำค้าง) ตระกูลหญ้าน้ำค้าง
    ทซึยุคุสะ  (หญ้าน้ำค้าง)
    ทซึยุคุสะ (หญ้าน้ำค้าง) ตระกูลหญ้าน้ำค้าง
    สมุนไพรที่พบในทุ่งหญ้าทั่วไป และริมถนน ส่วนล่างของลำต้นเจริญเติบโต โดยเลื้อยคลุมไปตามพื้นดิน ดอกไม้จะไม่บานตลอด จะบานเฉพาะยามได้รับแสงแดดเท่านั้น หลังจากตอนบ่ายดอกจะหุบลง ดังชื่อเรียกภาษาญี่ปุ่น Tsuyukusa แปล่า หญ้าน้ำค้าง หรือ หญ้าสี เนื่องจากดอกหญ้าชนิดนี้สามารถนำไปใช้ในการย้อมผ้าได้ และบานในเฉพาะยามเช้าเท่านั้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอก 1.5 ซม. ดอกมีสีฟ้าสด มีกลีบดอกทั้งสิ้น 3 กลีบ พร้อมกับเกสรตัวผู้เป็นเส้นสีเหลือง และเกสรตัวเมียอยู่ในกลางดอกในศูนย์ที่มีจุดสีแดง โดยใช้หลักของแรงลมพัดนำพาละอองเรณูเกสร ไปยังดอกอื่น หรือผสมเกสรโดยแมลงที่มาตาอม ทำให้เกิดการผสมพันธ์ แล้วจะกลายเป็นผล และเมล็ดแก่จัดที่จะนำไปขยายพันธ์ ใบจะมีลักษณะบางและยาวเรียวคล้ายใบไผ่ ยาวประมาณ 5-6 ซม. และใบจะทำหน้าที่ปกคลุมลำต้นไว้

    ●ฤดูกาล กลางเดือนกรกฎาคม ถึงกลางเดือนกันยายน
    ●ความสูง ประมาณ 20 ถึง 40 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 3-4, Trail 6 ภูเขาอินาริ, จาทากิ, อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ, คิตะ-ทาคาโอะ
  • ยาบุเมียวกะ (หญ้าน้ำค้างสีม่วง) ตระกูลหญ้าน้ำค้าง
    ยาบุเมียวกะ  (หญ้าน้ำค้างสีม่วง)
    ยาบุเมียวกะ (หญ้าน้ำค้างสีม่วง) ตระกูลหญ้าน้ำค้าง
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) ยังพบในขอบป่า ใกล้ริมลำธาร และป่าดิบชื้น ก้านใบ กิ่งก้านสาขา งอกออกมาจากโคนลำต้นโดยตรง ยามดอกบานสะพรั่ง จะมองเห็นกลุ่มดอกเล็ก ๆ สีขาวเป็นพวง เป็นตุ้มย้อยลงมาจากโคนต้นด้านบนงดงาม ตามลำต้นจะมีขนสั้นๆ ดก รายรอบ และผิวของลำต้นมีลักษณะเป็นเนื้อหยาบ ลำต้นจะเลื้อยคลุมไปตามพื้นดิน มองดูแล้วขาวไปหมด เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 6-8 ซม. มีกลีบดอกอยู่ประมาณ 5 -6 กลีบ ดอกจะบานสะพรั่งวันต่อวัน ในช่วงที่มีแสงแดดเท่านั้น ตกเย็นดอกจะหุบกลับไปเหมือนเดิม เกสรตัวผู้เป็นเส้นสีเหลือง และเกสรตัวเมียอยู่ในกลางดอกในศูนย์ที่มีจุดสีแดง โดยใช้หลักของแรงลมพัดนำพาละอองเรณูเกสร ไปยังดอกอื่น หรือผสมเกสรโดยแมลงที่มาตาอม ทำให้เกิดการผสมพันธ์ แล้วจะกลายเป็นผล และเมล็ดแก่จัดที่จะนำไปขยายพันธ์ ใบเป็นรูปไข่ ยาว15 ถึง 30 ซม. ใน 1 กิ่ง จะประกอบด้วยใบประมาณ 6 - 7 ใบ ชื่อภาษาญี่ปุ่น ยาบุ เมียวกะ แปลว่า พุ่มไม้ของดอกหญ้า เนื่องจากมีใบและโคนต้นที่ใหญ่ และสามารถคลุมทั้งต้นไว้ได้อย่างมิดชิด ผลมีลักษณะทรงกลม ยาวประมาณ 5 มม.เมื่อผลอ่อนจะมีสีขาว และจะกลายเป็นสีฟ้า ครามในที่สุด ในฤดูใบไม้ร่วง

    ● ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงกลางเดือนกันยายน
    ● ความสูง ประมาณ 50 ซม. ถึง 1 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 - 2 - 4- 6 , ภูเขาอินาริ , จาทากิ , อุระ- ทาคาโอะ
  • อาซึมะ ยามาอะซามิ (แอสเตอร์จิ๋ว) ตระกูลดอกเบญจมาศ
    อาซึมะ ยามาอะซามิ (แอสเตอร์จิ๋ว)
    อาซึมะ ยามาอะซามิ (แอสเตอร์จิ๋ว) ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณที่เปียกชื้นใกล้ลำธารที่ ไม่มีแดดจัด ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธารต่าง ๆ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) พืชพรรณนี้ ได้พบเห็นครั้งแรกในเกาะคิวชู และชิโกกุ และในอดีตกาลที่พบมากอีกที่หนึ่งคือในเขตคันโตะ ชื่อภาษาญี่ปุ่น (อาซึมะ แปลว่า โบราณ) จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก ชื่อเต็ม อาซึมะ ยามาอะซามิ จึงแปลว่า ดอกแอสเตอร์จิ๋วโบราณ ดอกไม้ดอกเล็กพรรณนี้ จะมีจำนวนดอกที่หนาแน่นมากเมื่อเทียบกับในตระกูลแอสเตอร์ด้วยกัน ดอกไม้จะเป็นรูปทรงกรม สีแดง สีม่วง และหลากหลายสี และก้านดอกจะเป็นท่อหลอดยาว ๆ ที่มีขนบาง ๆ สีขาวโดยรอบ ก้านดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 มม. ค่อนข้างเหนียวและชูดอกได้อย่างแข็งแรง ใบจะแทงยอดออกจากลำต้นโดยตรง ยาวประมาณ 20 ซม. กลีบดอกจะเป็นลักษณะเป็นกลีบบาง เรียวยาวมนตรงปลาย เหมือนปีกนกมาเรียงกัน พืชพรรณนี้จะมีความคงทนต่อสภาพอากาศได้ดี จะเจริญเติบโตเต็มที่และผลิดอกมากที่สุดในฤดูใบไม้ผลิ ตลอดยาวนานจนถึงฤดูหนาวของฤดูกาลต่อไป สีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและหายากที่สุดคือสีขาว ภายในโคนดอก จะมีละอองเกสรอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แมลงเป็นผู้ผสมเกสรให้ รวมถึงลมที่พัดตามหลักธรรมชาติ ซึ่งใน 1 ดอก จะมีละอองเกสรดอกไม้ทั้งเกสรตัวผู้เกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน เพื่อที่จะเป็นการขยายพันธ์ได้

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 1.5-2 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 และ 2 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • โอคุโมมิจิ ฮากุมะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    โอคุโมมิจิ ฮากุมะ
    โอคุโมมิจิ ฮากุมะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณที่ร่มรื่นในป่า บนภูเขา ที่ไม่มีแดดจัด (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อภาษาญี่ปุ่น โอคุโมมิจิ ฮากุมะ แปลว่า จามรีแห่งฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งในสมัยก่อน จามรีเป็นผู้ถูกสังเวยต่อแท่นบูชาในลัทธิความเชื่อเดิม และพืชพรรณชนิดนี้ก็เป็นหนึ่งที่ใช้ในแท่นพิธีบูชาในสมัยก่อนด้วยเช่นกัน ใบมีความยาวประมาณ 6 - 12 ซม. ใน 1 ก้านใบจะมีใบปราณ 4 - 7 ใบที่ออกมาจากโคนต้นe และจะมีจำนวนก้านใบขึ้นอยู่จำนวนหนาแน่นมาก ลักษณะใบจะเป็นกลีบบาง ๆ มีขนสั้น ๆ โดยรอบ และขอบใบจะมีรอยหยักเหมือนฟันของใบเลื่อย และมีขนสั้น ๆ เหมือนรากสั้น ๆ บริเวณรอบขอบใบ และมีผิวหยาบนิด ๆ ก้านดอกจะเป็นท่อเล็ก ๆ ยาว ๆ ที่โผล่ขึ้นจากโคนต้น และจะไม่มีใบในโคนดอกนี้เลย มีเฉพาะดอกเท่านั้น ใน 1โคนดอกจะประกอบด้วยดอกประมาณ 3 ดอก ดอกมีขนาดเล็ก ประมาณ 1.5-1.8 ซม กลีบ ดอกจะมีจำนวนประมาณ 5 กลีบปลายม้วนงอ ซึ่งดูคล้ายกับปลายริบบิ้นที่ถูกม้วนขึ้นเป็นริ้ว ที่โคนดอกจะมีเกสรตัวผู้ตัวเมียที่ทากรผสมเกสร และเมื่อดอกเหี่ยวเฉาลง ตรงกลางโคนดอกจะมีเมล็ดพันธ์ที่แก่จัด พร้อมที่จะทำการขยายพันธ์ต่อไป

    ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงกลางเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 40-70 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย 1 , 4 และ 5 , ภูเขาอินาริ , อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • โอเคระ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    โอเคระ
    โอเคระ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ดอกไม้ที่โดดเด่นที่สวยงาม และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ก้านดอกที่เป็นท่อยาว ๆ มีขนสั้น ๆ นุ่ม ๆ สีขาว ชื่อเดิมชื่อว่า อุเคระ แปลว่า ดอกไม้แห่งเทพเจ้า ตั้งแต่ศตวรรตที่ 8 ต่อมาเริ่มเพี้ยนไปเป็นคำว่า โอเคระ ต่อมาจนถึงทุกวันนี้ ก้านดอกเป็นท่อหลอดยาว ๆ ประกอบด้วยดอกเล็ก ๆ ในก้านเดียวกัน ดอกมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 2 ซม. ท่อดอกจะมีขนสั้น ๆ สีขาวขึ้นโดยรอบ หากสะท้อนจากแสงแดดจะทำให้มองเห็นเป็นสีชมพูเรื่อ ๆ ไม่ฉูดฉาดมากนัก ใบมีลักษณะเป็นกลีบบาง ๆ ปลายกลมมน ยาวประมาณ 5-6 ซม. ใน 1 ก้านจะประกอบด้วยใบประมาณ 3 - 5 ใบ ขอบใบมีรอยหยักเหมือนขอบใบเลื่อย ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป ใบอ่อนนิยมนำมาเป็นอาหารโดยการต้ม หรือทอดกับแป้งเทมปุระ รากนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร

    ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงกลางเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30-80 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย 2 , 5 , ภูเขาอินาริ , โอคุ-ทาคาโอะ, มินามิ-ทาคาโอะ
  • คาชิวา บาฮากุมะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    คาชิวา บาฮากุมะ
    คาชิวา บาฮากุมะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่แข็งแรง และรากหยั่งลงพื้นดินอย่างแน่นหนา มีจุดเด่นที่ดอกมีความสวยงามโดดเด่น ก้านดอกประกอบไปด้วย ท่อขนาดเล็ก เหนียว โดยมีดอกประกอบอยู่ประมาณ 5 - 6 ดอกในก้านดอกเดียวกัน ส่วนบนของก้านดอกจะถูกแต่งแต้มด้วยสีขาว ดอกไม้ยาวประมาณ 1.7-2.7 ซม. ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดยาวประมาณ 1.4 ซม. มีขนสั้นๆโดยรอบ เจริญเติบโตเต็มที่ในช่วงฤดูหนาว และมักจะมองเห็นดอกที่ถูกเคลือบด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ' Shimobashira ' ซึ่งแปลว่า (ดอกไม้น้ำแข็ง)

    ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30-70 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย trail 1 , 6 , ภูเขาอินาริ , จาทากิ ,อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ชูบุงโซ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ชูบุงโซ
    ชูบุงโซ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีความโดดเด่นทีความงามของดอกไม้ เติบโตในที่เขตสูง บนภูเขา และเติบโตโดยใช้เวลาที่ยาวนานข้ามฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงจนึงฤดูหนาวในปีถัดไป จึงเป็นที่มาของชื่อญี่ปุ่น ชูบุงโซ ลำต้นสูง 1 เมตร และมีการขยายพันธ์โดยใช้หน่อ เหง้า ดอกไม้มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับลำต้น ก้านดอกสั้น ดอกจะประกอบไปด้วย ก้านดอกที่มีลักษณะคล้าย ๆ ท่อกลม ๆ ยาว ๆ มีขนสั้น ๆ สีขาวโดยรอบ ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มม. แต่งแต้มด้วยสีเหลืองอ่อน สีเขียว ในกลางโคนดอกจะมีเกสรตัวเมียอยู่ กลีบดอกมีลักษณะบางๆ เป็นกลีบสีขาวขนาดเล็กโอบอุ้มดอกไว้ ใบมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ เรียวยาว ยาวประมาณ 7-15 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 ถึง 3 ซม. หากสัมผัสจะรู้สึกสาก ๆ หยาบกร้าน ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ด ยาว ประมาณ 2.5 มิลลิเมตร

    ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 50-90 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , ภูเขาอินาริ , จาทากิ , อุระ-ทาคาโอะ
  • ชิรายามา คิกุ (แอสเตอร์ภูเขา) ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ชิรายามา คิกุ  (แอสเตอร์ภูเขา)
    ชิรายามา คิกุ (แอสเตอร์ภูเขา) ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ดอกไม้จะประกอบด้วย ก้านดอกที่เป็นท่อขนาดเล็ก ชูดอกให้สง่าสวยงาม ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2 ซม. ก้านดอกมีขาว สีเหลือง เช่นเดียวกับชื่อภาษาญี่ปุ่น ชิรายามา คิกุ ที่แปลว่า ดอกแอสเตอร์จากภูเขาชิรายามา ภูเขาที่ขาวพรวนด้วยหิมะ ใบเป็นกลีบบาง ๆ ยาวประมาณ 9 - 24 ซม. กว้างประมาณ 6-18 ซม.ขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายฟันของใบเลื่อย หยาบ เ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ● ฤดูกาล เดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 1-1.5 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 5 ภูเขาอินาริ , อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ชิโรโยนาเม่ะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ชิโรโยนาเม่ะ
    ชิโรโยนาเม่ะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่แข็งแรง ก้านดอก ก้านใบ งอกออกตรงจากลำต้น ก้านใบมีสีขาว ประกอบด้วยใบที่ดูหนาตา ส่วนของดอกประกอบด้วย ก้านดอกที่มีลักษณะคล้ายท่อกลม ๆ เหนียว มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2 ซม. เป็นก้านสั้น ๆ และใน 1 ก้านดอกจะประกอบไปด้วยดอกจำนวนมาก และใน 1 ดอกจะมีกลีบดอกอยู่ประมาณ 8 ถึง 13 กลีบดอกไม้มีสีขาว ตามชื่อเรียกภาษาญี่ปุ่น ชิโรโยนาเม่ะ (ดอกแอสเตอร์สีขาว) ดอกยาวประมาณ 4 มม. มีลักษณะคล้าย ๆ กับดอกในตระกูลเดียวกัน ใบเป็น วงรี กว้างประมาณ 10 ถึง 15 ซม. ในกลางโคนดอกจะมีเกสรตัวเมียอยู่ กลีบดอกมีลักษณะบางๆ เป็นกลีบสีขาวขนาดเล็กโอบอุ้มดอกไว้ ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ● ฤดูกาล เดือนสิงหาคมถึง พฤศจิกายน
    ● ความสูง ประมาณ 30 ซม. ถึง 1 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 3-6 , ภูเขาอินาริ ,อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ทาคาโอ่ะ ฮิโกไท ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ทาคาโอ่ะ ฮิโกไท
    ทาคาโอ่ะ ฮิโกไท ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ถูกค้นพบครั้งแรกที่ภูเขาทาคาโอะ ในปี 1909 จัดอยู่ในกลุ่มของดอกเบญจมาศ ดอกไม้ประกอบด้วย ก้านดอกที่มีลักษณะเป็นท่อกลมยาว ที่มีเส้าผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ดอกมีสีม่วง สีแดง แล้วแต่สายพันธ์ ดอกมีลักษณะเป็นรูปทรง ระฆัง ยาว 1.8 ซม. ลำต้นใหญ่แข็งแรง และก้านดอก ก้านใบจะงอกออกมาจากโคนต้นโดยตรง ใบจะมีลักษณะรูปไข่ กว้างประมาณ 7 ถึง 11 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน ละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 40-80 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 4 เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • โทเนอาซามิ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    โทเนอาซามิ
    โทเนอาซามิ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ถิ่นกำเนิดในภาคกลางของประเทศ หรือเกาะฮอนชู ภูมิภาคคันโต ชื่อญี่ปุ่น โทเนอาซามิ หมายถึง ผักที่มีหนามขนาดใหญ่ ดอกมีสีม่วง สีแดง ดอกไม้จะประกอบด้วย ก้านดอกไม้ ที่มีลักษณะคล้ายท่อกลม ขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.5 - 3ซม. ดอกมีลักษณะเป็นรูประฆัง ใบเป็นแผ่นบางและยาวประมาณ 20 ถึง 30 ซม. ปลายเป็นรูปวงรี อบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดยาว 2 มิลลิเมตร มีสีน้ำตาลอ่อน

    ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 60 ซม. ถึง 1.5 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 2 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ฮิกังคุบิ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ฮิกังคุบิ
    ฮิกังคุบิ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเตามสันเขา ทุ่งหญ้าแห้งแล้ง และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่แข็งแรง ก้านดอก ก้านใบ งอกออกตรงจากลำต้น ในโคนดอกจะประกอบไปด้วย ก้านดอกที่มีลักษณะคล้ายท่อกลม ๆ ยาว ๆ สีเหลือง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มม. มีขนาดเล็กที่สุดในตระกูลเบญจมาศ ดอกเป็นรูปทรงระฆัง ยาวประมาณ 6.5 มม. ใบยาวประมาณ 6-15 ซม. ในกลางโคนดอกจะมีเกสรตัวเมียอยู่ กลีบดอกมีลักษณะบางๆ เป็นกลีบสีขาวขนาดเล็กโอบอุ้มดอกไว้ ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดยาวประมาณ 3.5 มม.

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 15-45 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , ภูเขาอินาริ , จาทากิ, อิโรฮา ,อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ ,มินามิ-ทาคาโอะ , คิตะ-ทาคาโอะ
  • ฮิโยโดริบานะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ฮิโยโดริบานะ
    ฮิโยโดริบานะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเตามสันเขา ทุ่งหญ้าที่มีแดดส่องถึง และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อ ฮิโยโดริบานะ แปลว่า ดอกไม้ที่เคียงคู่กับนกปรอดสีน้ำตาลเต้นระบำ ต้นมีรากที่แข็งแรง และก้านใบจะงอกออกมาจากโคนต้นโดยตรง ขอบใบมีร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อยที่ไม่สม่ำเสมอ ขอบใบมีปลายแหลม ดอกไม้ประกอบด้วย ก้านดอกคล้ายท่อกลม ๆ ขนาดเล็ก ซึ่งใน 1 ก้านดอกส่วนใหญ่แล้วจะมีดอกประมาณ 5 ดอก ใน 1 ดอกจะประกอบด้วยกลีบดอกประมาณ 5 กลีบ กลีบกว้างประมาณ 5 มม. มีสีขาว สีแดง หรือสีอ่อน ๆ แล้วแต่สายพันธ์ ละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เม็ดตรงกลางจะทำหน้าที่ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ● ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 1 ถึง 2 เมตร
    ● สถานที่ ภูขาอุระ-ทาคาโอ
  • ยาบุ ทาบาโก่ะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ยาบุ ทาบาโก่ะ
    ยาบุ ทาบาโก่ะ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    สมุนไพรล้มลุก พบในบริเวณป่าดงดิบชื้น บริเวณป่าทึบที่ไม่มีแดดส่องถึง ในภูเขา และในพื้นที่ที่ชุ่มชื้นมาก รวมถึงใกล้ ๆ กับป่าริมลำธาร ริมถนนหนทางทั่วไป ปรกติจะมองเห็นเป็นพุ่มไม้ขนาดใหญ่ ใบมีลักษณะยับย่น คล้ายใบสูบแบบสมัยโบราณ จึงมีชื่อเรียกภาษาญี่ปุ่น ยาบะทาบาโก่ะ แปลว่า ต้นยาเส้น ลำต้นใหญ่ หนา สูงประมาณ 1 เมตร โคนกิ่งโคนใบงอกออกมาจากโคนต้นโดยตรง ในส่วนล่างของลำต้นกว้างประมาณ 25-30 ซม. ยาว 10-15 ซม. ใบมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นรูปไข่ มีขนสั้นรอบทั้งสองด้าน มีใบที่ขนาดเล็กที่สุดในตระกูลเดียวกัน เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 1 ซม. ก้านดอกมีลักษณะคล้ายท่อเล็ก ๆ กลม ๆ มีสีเหลือง ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน เมื่อดอกแก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3.5 มม.

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนกันยายน ถึงกลางเดือนตุลาคม
    ● ความสูง 50 ซม. ถึง 1 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 3 Trail 6 ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • ริวโนคิขุ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ริวโนคิขุ
    ริวโนคิขุ ตระกูลดอกเบญจมาศ
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นบางๆ ที่มีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นของพิมเสนเป็นเอกลักษณ์ จีงได้นำไปสกัดเป็นยาดมแก้วิงเวียน จึงเป็นที่มาในการใช้ชื่อญี่ปุ่น ริวโนคิขุ ที่แปลว่า ดอกแอสเทอร์สมองมังกร เส้นผ่าศูนย์กลางของกลีบดอกประมาณ 2.5 ซม. มีสีขาวหรือสีอ่อนแล้วแต่สายพันธ์ ส่วนกลางดอกจะมีสีแดง เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 7 มม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ด ยาว ประมาณ 2.5 มิลลิเมตร

    ● ฤดูกาล กลางเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
    ● ความสูง ประมาณ 40-80 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ภูเขาอินาริ ,จาทากิ ,อิโรฮา, อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ทซึรุนินจิน ตระกูลบัลลูนฟลาวเวอร์
    ทซึรุนินจิน
    ทซึรุนินจิน ตระกูลบัลลูนฟลาวเวอร์
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) จุดเด่นของพืชพรรณชนิดนี้ก็คือ มีลำต้นใต้ดินขนาดใหญ่ มีรากขนาดใหญ่คล้ายโสม จึงรับการตั้งชื่อว่า ทซึรุนินจิน แปลว่า โสมนกกระเรียน ดอกไม้มีลักษณะรูปทรงเป็นรูประฆัง ยาวประมาณ 2.5-3 เซนติเมตร มีสีขาว สีเขียวแล้วแต่สายพันธ์ แต่งแต้มด้วยกลีบดอกสีม่วง ใน 1 ดอกจะประกอบด้วยกลีบดอกจำนวน 5 กลีบ ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3 ถึง 10 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน ละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดมีรูปดาว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม.

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนกันยายน ถึงกลางเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ระดับหัวเข่า
    ● สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • Phtheirospermum japonicum ตระกูลโสม
    Phtheirospermum japonicum
    Phtheirospermum japonicum ตระกูลโสม
    เทือกเขาด้านที่แดดส่องของถนนและหญ้าที่จะเติบโตสมุนไพรประจำปี (มีการบรรลุผลงอกจากภายในหนึ่งปีและเหี่ยวเฉาหญ้า) ตัวเองที่จะทำให้สารอาหารจากการสังเคราะห์แสงใน แต่เติบโตได้สารอาหารที่ขยายรากในเวลาเดียวกันพืชอื่น ๆ หญ้า trichomes ต่อมนุ่มทั้งหมดมีความหนาแน่นสูงในและเหนียวที่จะสัมผัสออกเมือก ดอกมีรูปร่างเหมือนริมฝีปากที่เป็นสีซีดสีแดงสีม่วงประมาณ 1.5-2 เซนติเมตรยาว, ใส่หนึ่งในแต่ละด้านของใบบนกิ่งไม้ กลีบด้านบนมีการตัดเล็ก ๆ ที่ปลายผมวิปริต ด้านล่างนี้จะแบ่งออกเป็นสามตื้นแพร่กระจายอย่างมีนัยสำคัญ ใบความยาวประมาณ 3-5 ซม. มีความกว้างประมาณ 2-3.5 ซม. ของสามเหลี่ยมปลาแซลมอนในขนนกเหมือนลึกมีขอบหยัก เมื่อดอกไม้เสร็จแล้วใส่ผลไม้รูปไข่ปลายแหลมประมาณ 1 ซม. ความยาว เสาดอกยาวพักผ่อนจริงๆมีที่ใส่เมล็ดและแตกสุกเป็น

    ● ฤดูกาล เดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30-60 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • อาคิโน๊ะทามุรัง (โมมิจิแห่งฤดูใบไม้ร่วง) ตระกูลมิ้นท์
    อาคิโน๊ะทามุรัง  (โมมิจิแห่งฤดูใบไม้ร่วง)
    อาคิโน๊ะทามุรัง (โมมิจิแห่งฤดูใบไม้ร่วง) ตระกูลมิ้นท์
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็นพืชพรรณที่ใคร ๆ ต่างรู้จัก ในฐานะสัญญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ร่วง โคนต้นขนาดใหญ่ สูง มีรากหยั่งพื้นดินที่มั่นคงแน่นหนา ดอกมีสีม่วง ดอกไม้มีความยาว 1-1.3 เซนติเมตร กลีบดอกไม้มีทั้งกลีบบน และกลีบด้านล่างห่อหุ้มดอกอย่างสวยงาม มีกลีบสีขาว ใน 1 โคนกิ่ง จะประกอบด้วยใบประมาณ 3-7 ใบ ใบมีรูปร่างที่โค้งมน ยาว 2-5 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ที่เรียกกันว่า โมมิจิแห่งฤดูใบไม้ร่วง

    ● ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 50 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , ภูเขาอินาริ ,จาทากิ , อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ชิโมบาชิระ ตระกูลมิ้นท์
    ชิโมบาชิระ
    ชิโมบาชิระ ตระกูลมิ้นท์
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ในฤดูหนาวที่มีความชื้นมาก ๆ กิ่งก้านและโคนต้นจะถูกแช่ด้วยเกล็ดน้ำแข็ง และต้นไม้จะหยุดการเจริญเติบโตไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนผ่านช่วงฤดูหนาวไปแล้ว ลำต้น กิ่งใบจะปริออกมา และแผ่กิ่งก้านขึ้นมาอีกครั้ง จึงเป็นชื่อญี่ปุ่นว่า ' Shimobashira แปลว่า เสาไม้ที่ยังคงมีชีวิต ก้านของดอกยาวประมาณ 10 ถึง 20 ซม. และใน 1 กิ่งจะมีดอกไม้จำนวนมาก เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 7-8 มม. ใบเป็น รูปวงรี ยาวประมาณ 8 ถึง 20 ซม. กว้าง 3-5.5 ซม. ในกลางโคนดอกจะมีเกสรตัวเมียอยู่ กลีบดอกมีลักษณะบางๆ เป็นกลีบสีขาวขนาดเล็กโอบอุ้มดอกไว้ ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ● ซีซั่น ในช่วงต้น เดือนกันยายนถึงเดือน ตุลาคม ประมาณ กลาง
    ● ความสูง ประมาณ 50-70 เซนติเมตร
    ● สถานที่ Trail 1 Trail 5 Mt.Inari , Ura - ทาคาโอะ Oku - ทาคาโอะ , Minami- ทาคาโอะ
  • นากินาทะโกชุ ตระกูลมิ้นท์
    นากินาทะโกชุ
    นากินาทะโกชุ ตระกูลมิ้นท์
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขาที่มีแดดส่องถึง ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารบนภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ลำต้นโตแข็งแรง รากหยั่งพื้นดินแน่นหนา ปรับตัวเข้ากับสภาวะอากาศได้ดีตลอดทั้งปี ดอกมีสีม่วง ก้านดอกยาวประมาณ 10 ถึง 15 ซม. ความยาวดอกประมาณ 5 มม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก ใบมีลักษณะคล้ายรูปไข่ ยาวประมาณ 3-9 ซม.กว้าง ประมาณ 1-4 ซม. ในกลางโคนดอกจะมีเกสรตัวเมียอยู่ กลีบดอกมีลักษณะบางๆ เป็นกลีบสีขาวขนาดเล็กโอบอุ้มดอกไว้ ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , ภูเขาอินาริ , จาทากิ , อุระ-ทาคาโอะ
  • ฮิกิโอโคชิ (ราเมียซี) ตระกูลมิ้นท์
    ฮิกิโอโคชิ (ราเมียซี)
    ฮิกิโอโคชิ (ราเมียซี) ตระกูลมิ้นท์
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ลำต้นที่แข็งแรง และปรับเข้ากับสภาวะอากาศตลอดทั้งปีได้ดี ต้นราเมียซี เป็นความเชื่อตั้งแต่อดีตว่า หากปลูกต้นนี้ไว้ จะทำให้เกิดสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง นอกจากนี้ทางด้านตำราสมุนไพร ยังบอกว่าสามารถนำไปปรุงยา โดยนำไปสกัดเป็นผง แก้เรื่องการระบายท้อง ปัญหาเรื่องการปวดท้อง กระเพราะอาหารปั่นป่วนได้เป็นอย่างดี ดอกยาวประมาณ 5 ถึง 7 มม. มีสีขาว สีม่วง แล้วแต่สายพันธ์ ใบเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 6-15 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนกันยายน ถึงกลางเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 50 ซม. ถึง 1 เมตร
    ● สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • ยามาฮักกะ (มิ้นท์ภูเขา) ตระกูลมิ้นท์
    ยามาฮักกะ  (มิ้นท์ภูเขา)
    ยามาฮักกะ (มิ้นท์ภูเขา) ตระกูลมิ้นท์
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขาที่มีแดดส่องถึง ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารบนภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ลำต้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ลำต้นใต้ดิน และลำต้นบนดิน ลำต้นใต้ดินถือเป็นหลักของต้นไม้ มีการงอกกิ่งก้าน และก้านใบออกมาจากโคนต้นโดยตรง ดอกมีสีฟ้า สีคราม สีม่วงแล้วแต่สายพันธ์ ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ส่วนใบเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3 ถึง 6 ซม. กว้าง 2-4 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ● ฤดูกาล เดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 40-80 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 3-6 ,ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ...
  • เลม่อน เอโกมา (เพริล) ตระกูลมิ้นท์
    เลม่อน เอโกมา (เพริล)
    เลม่อน เอโกมา (เพริล) ตระกูลมิ้นท์
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) นี้เป็นพืชที่ถูกค้นพบครั้งแรกในภูเขาทาคาโอะ ในปี คศ.1913 ดอกมีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 ถึง 15 ซม. สีม่วงแกม มีกลิ่นคล้ายผลมะนาว จึงมีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า เลม่อน เอโกม่า หมายถึง เพริลกลิ่นมะนาว ดอกเป็นสีชมพูอ่อนฉูดฉาดประมาณ 5 มิลลิเมตรยาวและดอกบนช่อดอก ก้านดอกยาวประมาณ 10 ถึง 18 ซม. ใบมีลักษณะคล้ายรูปใข่ ยาวประมาณ 7 -12 ซม. กว้าง 5-8 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน ละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดมีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางของเมล็ด ประมาณ 6-7 มิลลิเมตร

    ●ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนตุลาคม
    ●ความสูง ประมาณ 20-70 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • เนนาชิ คาสุระ (ดอกก้ามปูนา) Convolvulaceae
    เนนาชิ คาสุระ (ดอกก้ามปูนา)
    เนนาชิ คาสุระ (ดอกก้ามปูนา) Convolvulaceae
    ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น เป็นพืชที่ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ดีตลอดปี เป็นการเอาชนะธรรมชาติเพื่อดำรงเผ่าพันธ์ต่อไป ซึ่งการมีรากใต้ดินในการหาอาหารเลี้ยงตัวเอง แต่เนื่องจากพืชพรรณนี้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงด้วยตัวเองได้ ไม่สามารถสร้างคลอโรฟิลด์ได้ จึงจำเป็นต้องเริ่มปรสิตร่วมกับพืชชนิดอื่น การต่อสู้เพื่อที่จะดำรงเผ่าพันธ์ต่อไปได้นั้น จึงได้ตั้งชื่อว่า เนนาชิ คาสุระ หมายถึง ผู้อยู่เหนือธรรมชาติ ใบยาวประมาณ 2 มม. ก้านดอกหนาประมาณ 1.5 มม. ดอกมีขนาดเล็ก มีสีเหลือง และมีหนามแหลม ขยายพันธ์โดยการแตกหน่อจากเหล้า ดอกมีรูปทรงระฆัง ยาวประมาณ 4 มม. ปลาย ใน 1 ดอกจะมีกลีบดอกประมาณ 5 กลีบ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 4 มม. เมื่อสุก เมล็ดจะแตกออกจากด้านข้างของดอก สีของเมล็ดในเริ่มแรกจะมีสีเขียว เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีดำ

    ● ฤดูกาล กันยายน
    ● ความสูง ระดับหัวเข่า
    ● สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • เซงบุริ ตระกูลเจนเทียน (ดีมังกร)
    เซงบุริ
    เซงบุริ ตระกูลเจนเทียน (ดีมังกร)
    ไม้ล้มลุกที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น เริ่มเติบโตระว่างฤดูใบไม้ร่วงจนถึงปลายฤดูหนาว ซึ่งดอกจะผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิในฤดูกาลต่อไป ก้านดอกเป็นเหมือนท่อกลมยาว ๆ เป็นสีเขียวแต่มีขนสั้น เมื่อสะท้อนกับแสงแดดจะมองเห็นเป็นสีม่วง กลายเป็นสัญญลักษณ์แห่งยาสมุนไพรที่นำมาปรุง มาชงเพื่อใช้ในการบำบัดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โดยจะมีรสขมเฝื่อน มีชื่อญี่ปุ่นว่า เซงบุริ หมายถึง ยาที่นำไปบดและชงดื่ม ดอกมีสีขาว และมีกลีบเลี้ยงสีม่วงอ่อน ที่แต่งแต้มให้ดอกสวยงาม เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 1.5 ซม. กลีบดอกจะมี 5 กลีบประกอบกันเป็นรูปดาว ใบจะมีลักษณะบาง และคล้ายรูปไข่ ยาวประมาณ 2 ถึง 4 ซม. มองจากภายนอกแล้ว จะโดดเด่นที่มองเห็นดอกเป็นสีม่วง เมื่อสะท้อนกับแสงแดดอ่อน ๆ

    ● ฤดูกาล กลางเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 5 ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • เจนเทียน ตระกูลเจนเทียน (ดีมังกร)
    เจนเทียน
    เจนเทียน ตระกูลเจนเทียน (ดีมังกร)
    ไม้ล้มลุกที่เจริญเติบโต ในทุ่งหญ้าในป่า พื้นที่ภูเขา และในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่าบริเวณที่มีแดดจัด เริ่มเติบโตระว่างฤดูใบไม้ร่วงจนถึงปลายฤดูหนาว ซึ่งดอกจะผลิบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิในฤดูกาลต่อไป ก้านดอกเป็นเหมือนท่อกลมยาว ๆ เป็นสีเขียวแต่มีขนสั้น เมื่อสะท้อนกับแสงแดดจะมองเห็นเป็นสีม่วง เจนเทียน เป็นชื่อที่มาจากภาษาจีน เป็นชื่อที่ติดหูในฐานะที่นำรากเหง้ามาปรุงแต่งเป็นสมุนไพรรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร มีรสขม ลักษณะดอกเป็นรรูปทรงระฆัง ยาวประมาณ 4 ถึง 5 ซม.มีกลีบดอก 5 กลีบเป็นเหมือนรูปดาว ดอกไม้มีสีน้ำตาลเข้ม ใบบาง เป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร ใน 1 โคนกิ่งจะประกอบด้วย 3 ใบ และในใบจะมีเส้นทางเดินอาหารเหมือนเป็นเส้นเลือดที่นูนออกมาสูงชัดเจ จับดูรู้สึกสาก ๆ มือ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์

    ● ฤดูกาล กลางเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 80 ซม.
    ● สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • ชิราเน เซนคิว ตระกูลเชอรรี่
    ชิราเน เซนคิว
    ชิราเน เซนคิว ตระกูลเชอรรี่
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร อยู่ตามที่ร่มที่พ้นจากแสงแดดจัด (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ลำต้นใหญ่แข็งแรง ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ตลอดทั้งปี พบครั้งแรกที่ เป็นครั้งแรก ที่ ภูเขาชิราเน๊ะ เมืองนิกโก จึงเป็นชือของพืชพรรณนี้ เซลิก้า เป็นพืชสมุนไพรพื้นเมืองที่ใช้ทางการแพทย์ นำมาจากประเทศจีน ลำต้นแข็งแรง มีรากขนาดใหญ่ ขยายพันธ์ด้วยรากเหง้า ดอกมีขนาดเล็ก มีสีขาว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-9 ซม. กว้างประมาณ 5 มม.กลีบดอกมีทั้งสิ้น 5 กลีบ าเกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป รูปทรงใบเป็นรูปไข่ มีขนาดเล็ก ยาวประมาณ 3-6 ซม. มีปลายแหลม และขอบใบมีรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย ใบมีลักษณะบางและไม่เงา ด้านหลังใบจะมีแป้งสีขาวเคลือบไว้

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 80 ซม. ถึง 1.5 ม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 4 Trail 6 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • โนดาเก่ะ (ต้นเกย ตังกุย) ตระกูลเชอรรี่
    โนดาเก่ะ (ต้นเกย  ตังกุย)
    โนดาเก่ะ (ต้นเกย ตังกุย) ตระกูลเชอรรี่
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าทั่วไป ป่าดงดิบ รวมทั้งป่าใกล้ลำธารในภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่แข็งแรง รากหยั่งถึงพื้นได้แน่น ทานทนต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปตลอดปีเป็นอย่างดี ลำต้นส่วนใหญ่จะอยู่ใต้พื้นดิน เป็นสีม่วงเข้ม และมีลำต้นที่โผล่พ้นจากพื้นดินเช่นกัน มีสีเขียวอมขาว และจะมีใบและกิ่งงอกออกมาอย่างสมส่วน ดอกไม้มีสีขาว เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2 มม. มีกลีบดอกจำนวน 5 กลีบ ล้อมดอกไว้ และดอกจะหุ้มไว้เป็นดอกตูมเสมอ จนกว่าจะเจอแสงแดดจึงจะบานออก ด้านในมเกสรตัวผู้เป็นท่อยาวโผล่พ้นดอกออกมา และมีเกสรตัวเมียอยู่โคนกลางดอกใบเป็นรูปวงรี ใน1 ด้านดอกจะประกอบด้วยใบจำนวน 3 ใบ ยาวประมาณ 3 ถึง 6 ซม. ขอบใบที่จะมีรอยหยักเหมือนฟันของใบเลื่อย ผิวขรุขระ ด้านหลังใบจะมีแป้งสีขาวเคลือบไว้ เมล็ดพันธุ์ที่แก่จัด จะเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 6 ซม. และมีกลิ่นฉุน

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 80 ซม. ถึง 1.5 ม.
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 5 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ฮิคาเงะ มิทซึบะ ตระกูลเชอรรี่
    ฮิคาเงะ มิทซึบะ
    ฮิคาเงะ มิทซึบะ ตระกูลเชอรรี่
    สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าทั่วไป ป่าดงดิบ รวมทั้งป่าใกล้ลำธารในภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) จะสามารถพบเห็นได้เฉาะเทือกเขาทาคาโอ่ะเท่านั้น ลำต้นแข็งแรง ตั้งตรง เจริญเติบโตได้ดีในที่ร่ม และมีความชื้นสูงในแถบภูเขาเท่านั้น ใบมีรูปร่างเป็นวงรี เหมือนพืชพรรณในตะกูลเซลิก้า ดอกเป็นสีขาว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 มม. ใน 1 กิ่งจะมีใบทั้งสิ้น 3 ใบ และเป็นทีมาของชื่อ ฮิคาเง มิทซึบ่ะ แปลว่า พืชพรรณที่มี 3 ใบ ใน 1 ก้านดอกจะประกอบด้วยดอกไม้ประมาณ 10 ดอก และมีกลีบดอก 5 กลีบ .ขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายฟันของใบเลื่อย หยาบ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป. ใบเป็นรูปวงรี ยาว 2-10 ซม. ลักษณะของ ใบเป็นบางนุ่มน่าสัมผัส

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 30-80 เซนติเมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
※ใบเสนอราคาจากทาง app ภูเขาทาคาโอะ(แอนดี้)
もっと見る 閉じる