TAKAO 599 MUSEUM

ขุมทรัพย์ของภูเขาทาคาโอะ

Plants

ความหลากหลายของแมลงที่อยู่อาศัยหลายพันชนิดที่ยังมีความทับซ้อนในทาคาโอะโดยอาศัยอยู่หลายพันชนิด สามารถนับและจัดอันดับในญี่ปุ่นได้เป็นสามลำดับที่อยู่อาศัยที่สำคัญ คือ มิโน่ (โอซาก้า) และคิบูเนะ (เกียวโต) เป็นเขตของแมลงที่มีการศึกษามาเป็นเวลานาน สายพันธุ์หลากหลายเหล่านี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในทาคาโอะยังแมลงจำนวนมากที่เป็นราชาและยังมีทากาโอะ คิลฟิช และนักฆ่าวาฬซึ่งในปัจจุบันนั้นชื่อของทาคาโอะก็ยังปรากฏอยู่

  • โนซาซาเก่ะ ตระกูลถั่ว
    โนซาซาเก่ะ
    โนซาซาเก่ะ ตระกูลถั่ว
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีร้อนชื้น มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี มีเครือเถาสีดำ สีม่วง สามารถพันเครือเข้ากับต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตต่อไปได้ ดอกไม้ยาวประมาณ 1.5-2 ซม. ด้านบนช่อดอกจะมองคล้ายรูปผีเสื้ ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้วยดอกจำนวนประมาณ 3 ถึง 10 ดอก กลีบเลี้ยงจะห่อหุ้มดอกอย่างมิดชิด ดอกเป็นรูปทรงกระบอก มีสีเขียวมะนาว ใน 1 โคนกิ่งจะประกอบด้วยใบจำนวน 3 ใบ ใบมีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ รูปไข่ ยาวประมาณ 3-15 ซม. ด้านล่างของใบจะมีผงขาวเคลือบไว้ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดมีทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มม.

    ● ฤดูกาล ต้นเดือนสิงหาคม ถึงกลางเดือนกันยายน
    ● ความสูง เท่ากับความสูงของไม้ยืนต้น ที่จะสามารถพันเครือขึ้นไปได้
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 ถึง 2 , Trail 4-5 , ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • นันเทน ฮากิ ตระกูลถั่ว
    นันเทน ฮากิ
    นันเทน ฮากิ ตระกูลถั่ว
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี มีเถาเครือสำหรับในการพยุงต้นให้สามารถดำรงชีวิตได้ กับต้นไม้ยืนต้นอื่น ๆ ดอกมีความยาวประมาณ1.5 ซม. สีของดอกเป็นสีแดง สีม่วง และสีอื่น ๆ แล้วแต่สายพันธ์บานบน 2-4 ซม. ใน 1 กิ่งประกอบใบจำนวน 2 ใบ แต่ละใบยาว 3-7 ซม. ใบเป็นรูปไข่ มีขนดกและมีก้านใบสั้น ชื่อภาษาญี่ปุ่น Nanten-Hagi เป็นชื่อเพราะ รูปทรงของใบคล้ายกับ Nandina domestica (Nanten ในภาษาญี่ปุ่นและ Hagi เป็นไม้จำพวกถั่วเครือเถา) และนอกจากนี้จะมีชื่อเรียกอีกว่า Futaba-Hagi ซึ่งหมายถึง พืช 2 ใบ เนื่องจาก มองจากโคนกิ่ง จะมีใบคู่งอกขึ้นมาจากลำต้น เป็นใบที่หันหน้าเข้าหากัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดมีทรงกลม เมล็ดยาว 3 ซม. ในฤดูใบไม้ผลิจะเรียกต้นกล้าว่า Azukina ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดในปี นอกจากนี้พืชพรรณนี้นิยมนำมาปรุงอาหาร

    ●ฤดูกาล เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม
    ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
    ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • ยาบุมาเหม่ะ ตระกูลถั่ว
    ยาบุมาเหม่ะ
    ยาบุมาเหม่ะ ตระกูลถั่ว
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี เป็นพืชพรรณประเภทไม้เลื้อยคลานไปตามดิน หรือเครือพันไปกับต้นไม้ยืนต้นเพื่อให้ต้นพยุงอยู่ได้ ชื่อ ยาบุมาเหม่ะ หมายถึง ถั่วเถาเครือ ตามลักษณะของลำต้นที่พบเห็น ดอกไม้ยาวประมาณ 2 ซม. ด้านบนเป็นเหมือนรูปผีเสื้อสีขาว ขอบกลีบดอกเป็นสีม่วงเข้ม และช่อดอกที่มีกลีบบาง ๆ ก็จะมีสีอ่อนแซมมาด้วย ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่สายพันธ์ ลำต้นประกอบด้วยทั้งลำต้นใต้ดิน และลำต้นบนดิน ที่มีหน้าที่แตกต่างกันไป 1โคนกิ่ง ประกอบไปด้วยใบ 3 ใบใบมีรูปไข่ ยาวประมาณ 3 ถึง 6 ซม. เมื่อดอกแก่จัดจะเริ่มเหี่ยวลง และเมล็ดแก่จัดสีดำ ก็จะทำหน้าที่ขยายพันธ์ในโอกาสต่อไป

    ● ฤดูกาล เดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
    ● ความสูง เท่ากับความสูงของไม้ยืนต้น ที่จะสามารถพันเครือขึ้นไปได้
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 4-6 , ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • คุสะโบตัง ตระกูล Buttercup
    คุสะโบตัง
    คุสะโบตัง ตระกูล Buttercup
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี สามารถปรับตัวเข้ากับอากาศได้ดี ตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงฤดูหนาว ใบมีลักษณะคล้ายกับร่ม จึงได้ชื่อเป็น คิสะโบตัง แปลว่า พรรณไม้รูปร่ม ดอกเป็น รูปคล้ายระฆัง มีสี่ม่วง ยาวประมาณ 1 ถึง 2 ซม. มีกลีบดอกไม้ทั้งสิ้น 4 กลีบ ดอกมองจากด้านนอกจะเป็นสีม่วง . ในกลางโคนดอกจะมีเกสรตัวเมียอยู่ กลีบดอกมีลักษณะบางๆ เป็นกลีบสีขาวขนาดเล็กโอบอุ้มดอกไว้ ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปผสมเกสร เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป ใบจะมีรูปลักษณะคล้ายไข่ ยาวประมาณ 5 ถึง 10 ซม. เมล็ดยาวประมาณ 3-3.5 ซม.

    ● ฤดูกาล เดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 50 ซม. ถึง 1 เมตร
    ● สถานที่ ภูเขาอินาริ , อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ซาระชินะโชมะ ตระกูล Buttercup
    ซาระชินะโชมะ
    ซาระชินะโชมะ ตระกูล Buttercup
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี มีลำต้นแข็งแรง สามารถปรับสภาพได้ดีในทุกฤดูกาล 1 โคนดอกจะประกอบด้วยดอกไม้เล็ก ๆ รวมกันเป็นพุ่ม พุ่มละประมาณ 10 ถึง 30 ซม. ใน 1 พุ่มใหญ่ ๆ จะประกอบด้วยดอกเล็กๆรวมกันกว่า 150 ดอก โดยรวมแล้วจะมีลักษณะภายนอกพื้นฐานใกล้เคียงกับพืชพรรณที่อยู่ในตระกูล Buttercup เดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะ คล้าย Cimicifuga จาปอ ในกลุ่มเดียวกัน แต่สิ่งที่จะมีแตกต่างไปบ้างก็คือก็คือใบ จะแตกต่างตรงที่ใบเล็กกว่า และก้านดอกยาวเพียง 1 ซม. ใบประกอบด้วย 3 ใบ ลักษณะของใบจะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3-8 ซม. มีปลาย แหลม และมีขอบใบจะมีลักษณะคล้ายฟันของใบเลื่อย มีหนามที่ขอบและหยาบ ชื่อ ซาระชินะโซมะ หมายถึง ต้มใบสดยาจีน ซึ่งแต่เดิมได้ถูกนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรหม้อต้ม จึงได้ถูกเรียกชื่อนี้ โดยนำใบไปแช่น้ำไว้ แล้วนำไปต้มเพื่อเอาน้ำนั้นมาปรุงเป็นยาสมุนไพร หลังจากที่ดอกแก่จัด ภายในโคนดอกจะปรากฏเมล็ดพันธ์ที่แก่จัดเป็นสีดำ เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. ซึ่งเมล็ดพันธ์เหล่านี้จะนำไปขยายพันธ์ต่อไปห

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 60 ซม. ถึง 1.2 ม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 4-6 ,ภูเขาอินาริ , อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ยามาโต่ะ ริคาบุโต่ะ ตระกูล Buttercup
    ยามาโต่ะ ริคาบุโต่ะ
    ยามาโต่ะ ริคาบุโต่ะ ตระกูล Buttercup
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี มีลำต้นแข็งแรง สามารถปรับสภาพได้ดีในทุกฤดูกาล เป็นพืชตระกูลหญ้าที่รู้จักกันดีว่า ทุกส่วนของพืชนี้ มีพิษร้ายชื่อ aconitine ถึงตายได้ ถ้าหากเข้าใกล้หรือนำเข้าสู่ร่างกาย โดยไม่รู้จักวิธีการบำบัด อาจเป็นตะคริว และระคายเคือง เป็นพิษร้ายต่อระบบทางเดินหายใจ และนำไปสู่ความตาย ก้านดอกตั้งตรง และโน้มไปข้างหลัง รูปร่างของดอกมีลักษณะเหมือน ' Torikabuto ' ซึ่งหมายความว่า นกฟีนิกซ์จีน หัวรูปมงกุฎที่สวมรำที่ศาล จึงได้ชื่อนี้ ดอกไม้มีสีน้ำเงินสด ม่วงสด ยาวประมาณ 3 ซม. มีกลีบดอกทั้งสิ้น 5 กลีบ ใบมีความยาวประมาณ 6-20 ซม. ใน 1 โคนกิ่งจะประกอบด้วยใบประมาณ 3 ถึง 5 ใบ ขอบใบจะมีร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย ผิวขรุขระ และหยาบ หลังจากที่ดอกไม้เหี่ยวเฉา จะมีเมล็ดพันธ์ที่แก่สีดำ ไว้ในการขยายพันธ์ต่อไป ซึ่งใน 1 ดอกจะมีเมล็ดเพียง 3-5 เมล็ดเท่านั้น

    ● ฤดูกาล ปลายเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 40 ซม. ถึง 1 เมตร
    ● สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • คังอาโออิ ตระกูลของ (ginger)
    คังอาโออิ
    คังอาโออิ ตระกูลของ (ginger)
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีชุ่มชื้น มีแดดร่มรำไร ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปีพวกเขา พืชพรรณที่มีใบเขียวชุ่มชื้นตลอดปี แม้ในฤดูหนาวที่จะมีคราบน้ำแข็งถมทับก็ตาม จึงได้ตั้งชื่อนี้ว่า คังอาโออิ แปลว่า พืชพรรณใบเชียวแห่งภูมิภาคคันโต ใบยาวเป็นรูปไข่ กว้าง 6 ถึง 10 ซม. ก้านดอกที่ยาวมีสีขาว ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 2 ซม. กลีบดอกประกอบด้วย 3 กลีบ มีลักษณะคล้ายรูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งถ้ามองไกล ๆ เหมือนกับว่าใบจะถูกแต่งเติมด้วยสีสีม่วงเข้มเนื่องจากแสงแดดสะท้อนไปที่ขนที่ใบ ในโคนดอกจะมีเกสรตัวผู้ตัวเมียที่ได้ผสมพันธ์กันแล้ว เมือดอกได้เหี่ยวลง ตรงกลางดอกจะมีเมล็ดพันธ์ที่แก่จัดเปลี่ยนเป็นสีดำ จะสามารถนำไปขยายพันธ์ต่อไป

    ● ฤดูกาล ประมาณเดือนตุลาคม ถึงเดือนเมษายน
    ● ความสูง ประมาณ 10 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 4 ภูเขาอินาริ, อุระ-ทาคาโอะ ,มินามิ-ทาคาโอะ
  • ฮิกัง บานะ ( ลิลลี่ แมงมุม สีแดง) ตระกูลดอกลิลลี่
    ฮิกัง บานะ ( ลิลลี่ แมงมุม สีแดง)
    ฮิกัง บานะ ( ลิลลี่ แมงมุม สีแดง) ตระกูลดอกลิลลี่
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี ซึ่งเป็นไม้มงคลที่เป็นความเชื่อของคนจีนในสมัยโบราณ ว่าในช่วงเวลาระหว่างฤดูใบไม้ร่วง เป็นเวลาที่กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน จะต้องปลูกดอกไม้สีแดงไว้เพื่อเป็นมงคลกับชีวิต และความเชื่อนี้ก็นำเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับพืชพรรณนี้ และยังมีชื่ออีกชื่อคือ'Lycoris radiata' ซึ่งหมายถึง ดอกไม้สีแดงด้วยแสงของธรรมในพระสูตร ซึ่งด้านบนของก้านดอกจะตั้งตรง ยามมีดอกบาน จะไม่เหลือใบ การขยายพันธ์โดยการแตกหน่อ ใช้เหง้าเป็นการแพร่พันธ์ ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้ว 5-7 ดอกบานสะพรั่ง กลีบดอกมี 6 กลีบ กลีบบาง ๆ ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ในโคนดอกจะมีเกสรตัวผู้ที่โน้มตัวออกจากดอก และเกสรตัวเมียทีอยู่กลางดอก เมือผสมพันธ์แล้ว หากดอกเหี่ยวลง เมล็ดพันธ์ภายในกลางดอกจะเปลี่ยนเป็นสีดำ และทำหน้าที่ขยายพันธ์ได้อีกทางหนึ่ง ใบเป็นแผ่นบาง และยาว ประมาณ 30 ถึง 60 ซม. กว้าง 6-8 มม. ใบมีสีเขียวเข้ม เป็นมันวาว สลับกับสี ขาว พืชพรรณนี้จะมีพิษอยู่ทั้งต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในลำต้น หากเข้าไปสัมผัสหรือนำเข้าร่างกายโดยไม่ตั้งใจ พิษร้ายจะทำให้เกิดอาการเช่น อาเจียน และท้องเสีย ในบางกรณีอาจนำไปสู่ความตายได้

    ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนกันยายน
    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • หญ้าจิจิมิซาซะ ตระกูลหญ้า
    หญ้าจิจิมิซาซะ
    หญ้าจิจิมิซาซะ ตระกูลหญ้า
    สมุนไพรยืนต้นที่พบตามเส้นทางในชายป่าที่มีแสงส่องถึง ตามริมลำธาร ดอกบานออกอย่างสวยงามที่หลากหลาย เป็นพืชพรรณที่อยู่เป็นพืชคลุมดิน และเป็นเถาพันไปยังต้นไม้ที่อยู่รอบข้าง เพื่อพยุงให้ดำรงเผ่าพันธ์อยู่ได้ ใบมีลักษณะบาง รูปวงรี ยาวประมาณ 3-7 ซม.กว้างประมาณ 1-1.5 ซม. เป็นต้นหญ้าที่สามารถปรับตัวเข้ากับอากาศได้ตลอดทั้งปี และเป็นต้นหญ้าที่มีใบเหมือนใบไผ่มาก แต่ที่ขอบใบจะมีรอยย่น ยับอยู่ จึงได้ตั้งชื่อพืชพรรณนี้ว่า หญ้าจิจิมิซาซะ แปลว่า หญ้าไผ่ขอบย่น ดอกจะออกดอกทั่วทั้งต้น ปกคลุมใบหญ้าทั้งหมด ใในฤดูใบไม้ผลิเวลาดอกบานอย่างเต็มที่ พืชจะทิ้งใบทั้งหมดเหลือแต่ดอก ความสูงของดอกที่เป็นพุ่มสูงประมาณ 10 ถึง 15 . ซม. ส่วนใหญ่จะพบเป็นดอกสีขาวที่ดูหนาตา ลักษณะของใบจะเป็นใบรูปรี คล้ายไข่ ยาวประมาณ 3 มม.และจะมีหนามทื่อ อยู่บ้าง ซึ่งเป็นปกติสำหรับหญ้าเมืองหนาวบนภูเขาง เมื่อเมล็ดสุกแก่จัด ภายในกลางดอกจะมีเมล็ดพันธ์แก่นั้นร่วงลงมา เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 30 ซม.
    ● สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • คายะ (ต้นจันทน์เทศ) ตระกูล Taxaceae
    คายะ (ต้นจันทน์เทศ)
    คายะ (ต้นจันทน์เทศ) ตระกูล Taxaceae
    เป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงมากกว่า 5 เมตร ที่มีใบ กิ่ง ลำต้นเขียวสด พบในบริเวณที่เปียกชื้น ใกล้ลำธารที่ไม่มีแดดจัด ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น มีต้นกล้าสีเทาอ่อน ๆ เมื่อผ่านไปหลายปี ต้นเริ่มที่จะมีสีที่เข้มมากขึ้น และมีเปลือกเนื้อไม้ที่เพิ่มชั้นมากขึ้น ลำต้นกว้างประมาณ 2 เมตร ได้นำมาใช้เป็นไม้แปรรูปทุกชนิด ดีกว่าไม้ที่มีอายุใกล้เคียงกัน เนื่องจากเป็นเนื้อแข็ง มีความทนทานสูง นิยมแพร่หลายสำหรับงานวัสดุก่อสร้าง ใบมีความยาวประมาณ 2 - 3 ซม. กว้างประมาณ 2 - 3 ซม การไสไม้หน้าผิวเรียบ จะประสพความยากลำบาก ในระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางดอก มีผงละอองที่ใช้ในการผสมเกสรกันอย่างธรรมชาติตามแรงลมเพื่อขยายพันธ์ ผลมีรูปวงรี ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร เมื่อผลแก่จัด เมล็ดที่อยู่ด้านในก็จะร่วงหล่น และเป็นการขยายพันธ์โดยธรรมชาติ ผล จะมีรสค่อนข้างฝาด เผ็ด แต่สามารถนำไปปรุงแต่งอาหารได้รสชาติดี อร่อย

    ● ความสูง ประมาณ 20 - 30 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 3 และ 4 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • อินุกะยา (จันทน์เทศน์) ตระกูลจันทน์เทศ
    อินุกะยา  (จันทน์เทศน์)
    อินุกะยา (จันทน์เทศน์) ตระกูลจันทน์เทศ
    ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นมีสีเขียว ใบมีลักษณะแบน เล็ก บางและยาว เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น ลำต้นจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม การแตกกิ่ง ตากใบ และดอกจะแตกออกจากลำต้นช่วงล่าง ขึ้นไปสู่ยอด ตามแนวตั้ง ใบยาวประมาณ 2 ถึง 5ซม. ในฤดูกาลที่ออกดอกนั้น พืชพรรณนี้จะเริ่มในเดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายนในโคนดอก มีเกสรตัวผู้ที่เป็นแท่งโคนโน้มออกจากตัวดอก และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางของโคนดอก มีเกสรสีเหลือง เมื่อเมล็ดแก่จัดแล้ว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงฤดูกาลต่อไป เมล็ดจะสุก กลายเป็นสีแดงสีดวง เมล็ดจะ สุก จะกลายเป็น สี แดง สีม่วง ซึ่งเป็นสีที่สดงดงาม เหมือนชื่อภาษาญี่ปุ่น อิยะกะนะ ซึ่งหมายถึง ต้นจันท์เทสขนาดเล็ก แต่ก็มีคล้ายคลึงกับพืชพรรณตระกูลจันทน์เทศน์ มากพอสมคว. นี้ พืช ต้นไม้ ขนาดเล็ก ที่มี ความคล้ายคลึงกับต้น กายะอย่างมาก แต่อินาย่า มีลำต้นเล็กกว่า จึงไม่ได้รับความนิยมเท่ากับ คายะ (จันทน์เทศ) นิยมนำเอาผลรับประทาน ซึ่งมีรสชาติที่ดี

    ● ความสูง ประมาณ 6 ถึง 10 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสานยTrail 4 ภูเขามินามิ-ทาคาโอะ , คิตาะ-ทาคาโอะ
  • อาคามัทซึ (สนแดง / สนฉัตร) ตระกูลต้นสน
    อาคามัทซึ  (สนแดง  / สนฉัตร)
    อาคามัทซึ (สนแดง / สนฉัตร) ตระกูลต้นสน
    ไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็ก ลำต้นมีสีเขียว ใบมีลักษณะเหมือนเข็ม ลำต้นเริ่มเติบโตขึ้น ลำต้นจะกว้างประมาณ 1.2 เมตร มักจะปลูกต้นไม้นี้ไว้ในสวนเพื่อต้านลมมิให้เกิดความเสียหาย เป็นสนที่มีใบสีแดง จึงได้ชื่อว่า 'densiflora ' (Akamatsu ) แปลว่า สนแดง หรือสนฉัตร ลักษณะโดยรวมจะคล้ายกับพืชตระกูลสนเดียวกัน แต่มีใบที่บางและ อ่อนนุ่มกว่า จึงมีการเปรียบเปรยว่า kuromatsu (สนดำ) คือสนผู้ชาย และ Akamatsu (สนแดง) คือสนผู้หญิง สามารถเติบโตในเขตทุ่งหญ้าแห่งแล้งได้ดี รวมถึงเขตป่า ตามสันเขาของที่ราบสง สูงกว่า2,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เมื่อช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เราสามารถพบเห็นสนชนิดนี้ในภูเขาทาคาโอะ แต่ในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยจะเห็นอีกแล้วไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นมีสีเขียว ใบมีลักษณะแบน เล็ก บางและยาว เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น ลำต้นจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ดอกบานเต็มที่ในระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม จะมีเกสรตัวผู้มีสีเหลือง และละอองเกสรตัวเมียสีเขียว อยู่ในดอกเดียวกัน จะมีการผสมเกสร และเมื่อดอกได้แก่จัดจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ● ความสูง ประมาณ 25-40 เมตร
    ● สถานที่ ใกล้กับริมธารแหล่งน้ำ
  • สนโมมิ ตระกูลต้นสน
    สนโมมิ
    สนโมมิ ตระกูลต้นสน
    เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ลำต้นมีสีเขียว ลำต้นสูง เติบโตในป่ารอบ ๆ เนินเขา ลำต้นเป็นสีเถาเรียบ ๆ และเมื่อลำต้นเริ่มแก่ขึ้น ผิวเปลือกต้นไม้จะเริ่มเป็นสีเทาเข้นขึ้นเรื่อย ๆ และแตกเป็นสะเก็ด เป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เมื่อโตเต็มที่ ลำต้นจะกว้างประมาณ 1 เมตร นิยมปลูกในสวนต้นไม้ และนำไม้นี้มาใช้ในงานวัสดุก่อสร้างอาคาร ที่เป็นวัสดุในการทำโลงศพ งานตกแต่ง งานหัตถกรรมฝีมือต่าง ๆ ฯลฯ (เดิมทีตามหลักของพิธีทางพุทธศาสนา จะใช้ไม้สนในการทำโลงศพ และประกอบพิธีในหลุมฝังศพให้กับคนที่เสียชีวิตแล้ว) ใบยาว ประมาณ 2-3.5 ซม. มีลักษณะบาง เรียวยาว พื้นผิวใบจะมีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม เล็กน้อย ดอกจะบานประมาณเดือนพฤษภาคม ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้มีสีเหลือง และละอองเกสรตัวเมียสีเขียว อยู่ในดอกเดียวกัน จะมีการผสมเกสร และเมื่อดอกได้แก่จัดจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดวงกลม รูปทรงกระบอก เหมือนกับสนสายพันธ์ใกล้เคียง ยาวประมาณ 10 ถึง 15 ซม.

    ● ความสูง ประมาณ 25-40 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย 3 และ 4 ถนนสาย Iroha
  • ซือกิ (สนซีดาร์) ตระกูลสน
    ซือกิ  (สนซีดาร์)
    ซือกิ (สนซีดาร์) ตระกูลสน
    เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ลำต้นมีสีเขียว ลำต้นสูง เติบโตในป่ารอบ ๆ เนินเขา พบตามบริเวณที่มีความชุ่มชื้น ใกล้แหล่งลำธาร นิยมนำไม้สนชนิดนี้นำมาใช้ในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างอาคาร ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในเทือกเขาทาคาโอ่ะ ถนนสาย 5 'สนซีดาร์ เอกาว่า' ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า ผู้ที่ริเริ่มในการปลูกคือ นายเกงาว่า ทาโรซาเอม่อน ในยุคเอโดะ โคนต้นเป็นสีเขียวเข้ม และแซมด้วยสีน้ำตาลแดง สีจะเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุของต้นไม้ และจะมีเปลือกหนามากขึ้น ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่จะกว้างประมาณ 1 ถึง 2 เมตร ใบมีรอยบุ๋มนิดหน่อย มีลักษณะเรียวยาว ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ดอกจะบานประมาณเดือนมีนาคม ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้มีสีเหลือง และละอองเกสรตัวเมียสีเขียว อยู่ในดอกเดียวกัน จะมีการผสมเกสร และเมื่อดอกได้แก่จัดจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดมีรูปร่างทรงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ถึง 3 ซม.

    ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 40 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , เทือกเขาอินาริ , จาทากิ , อิโรหะ, อุระ-ทาคาโอ่ะ โอคุ- ทาคาโอะ , มินามิ-ทาคาโอะ , คิตะ-ทาคาโอะ
  • ฮิโนกิ (ไซปรัส) ตระกูลไซปรัส
    ฮิโนกิ  (ไซปรัส)
    ฮิโนกิ (ไซปรัส) ตระกูลไซปรัส
    เป็นไม้ป่าดิบที่เติบโตในป่า ในสถานที่แห้งแล้ง ตามหุบเขา พบในเขตอากาศเดียวกับต้นสนซีดาร์ญี่ปุ่นทั่ว ๆ ไป และนิยมปลูกในทั่วทุกมุมของทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำไปใช้เป็นทรัพยากร ใช้ในวัสดุก่อสร้างทั่วไป ลำต้นเป็นสีน้ำตาลแดง มีเปลือกค่อนข้างหนา ลำต้นเมื่อเติบโตอย่างเต็มที่แล้วจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 60 ซม. และมีกิ่งก้านสาขาที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ สาขาที่มีการขยายตัว ใบมีลักษณะที่บาง แต่มีจำนวนใบมาก เมื่อรวบเข้าด้วยกันทำให้มีใบที่หนาแน่นมาก ดอกจะบานประมาณเดือนเมษายน ดอกมีสีน้ำตาลอมม่วง เมล็ดมีลักษณะกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. เมล็ดพันธุ์เมื่อแก่จัด จะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมน้ำตาล ประมาณตุลาคม-พฤศจิกายน เมล็ดแก่จัดจะเริ่มร่วงหล่นลงพื้น เพื่อทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , เทือกเขาอินาริ , จาทากิ , อิโรหะ, อุระ-ทาคาโอ่ะ โอคุ- ทาคาโอะ , มินามิ-ทาคาโอะ , คิตะ-ทาคาโอะ
  • ซาหรุโทริ อิบาหร่ะ (กุหลาบรากสด) ตระกูลลิลลี่
    ซาหรุโทริ อิบาหร่ะ (กุหลาบรากสด)
    ซาหรุโทริ อิบาหร่ะ (กุหลาบรากสด) ตระกูลลิลลี่
    เถาไม้ยืนต้นผลัดใบ พบได้ที่ขอบป่าป่าไม้และทุ่งหญ้าในภูเขา และบริเวณที่มีอากาศชุ่มชื้น มีต้นไม้ใหญ่อยู่ใกล้เคียง ลำต้นมีลักษณะโค้งงอ มีหนามแหลม เมื่อลิงเข้าไปเก็บผลภายในต้น จะติดอยู่ในเถาไม้ที่รัดไว้ ตามชื่อญี่ปุ่น Saru-Tori-Ibara, หมายถึงต้นหนามจับลิง ใบยาวประมาณ 3 ถึง 12 ซม. ใบหนาเงางาม ลักษณะโค้งมน และมีปลายแหลม มีใบเป็นเถาที่แตกต่างจากพืชชนิดอื่น มีก้านใบสั้น มีกิ่งก้านเลื้อยสวยงาม ดอกจะบานในเดือนเมษายน ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้มีสีเหลือง และละอองเกสรตัวเมียสีเขียว อยู่ในดอกเดียวกัน ดอกจะมีสีเหลืองสีเขียวดอกเล็กๆ จำนวนมากในช่อดอกเดียวกัน ใน 1 ดอกจะมีกลีบดอก 6 กลีบ กลีบละ 6 มม. เป็นรูปไข่และขดออกไปด้านนอก ผลมีลักษณะทรงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7-9 มม. หากสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง

    ●ความสูง เท่ากับระยะที่เถาสามารถพันต้นไม้ใหญ่ได้
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 1 เทือกเขาทาคาโอะ
  • อาคาซิเด่ะ (loose-flowered hornbeam) ตระกูลฮาเซลนัท
    อาคาซิเด่ะ  (loose-flowered hornbeam)
    อาคาซิเด่ะ (loose-flowered hornbeam) ตระกูลฮาเซลนัท
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในป่าที่มีความชื้นและอุดมสมบูรณ์ พบตามแนว ลำธารที่มีน้ำไหล ในเขตที่ราบและในพื้นที่ภูเขา ลำต้นที่มีเปลือกผิวเรียบ สีเขียวและสีเทาเข้ม เมื่อลำต้นโตเต็มที่มีเส้นรอบวงที่ 30 ซม. เป็นต้นไม้เนื้ออ่อน ภายในลำต้นมีลักษณะเป็นโพลง กลวง ไม่หนาแน่นเหมือนไม้ยืนต้นทั่วไป ดอกและใบมีสีแดง และเด่นชัดมากในฤดูใบไม้ร่วง มองไปมีสีแดงที่งดงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วง จึงได้ชื่อว่า อาคาซิเด่ะ ' Carpinus laxiflora ( Aka - shide ) หมายถึง ใบเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3 ถึง 7 ซม. ขอบใบเป็นรอยหยักเหมือนฟันของใบเลื่อย ใบมีลักษณะบาง เหมือนกระดาษ เป็นไม้พรรณที่ออกดอกระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งมีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมีย จะอยู่ใบตรงกลางของดอกสวยงาม

    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail เพลส 3 และ 4 / ภูเขาอินาริ
  • อินุ ซิเด่ะ (Chonowski’s hornbeam) ตระกูลฮาเซลนัท
    อินุ ซิเด่ะ (Chonowski’s hornbeam)
    อินุ ซิเด่ะ (Chonowski’s hornbeam) ตระกูลฮาเซลนัท
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในป่า และสามารถพบเห็นได้พื้นที่ทั่วไป รวมถึงในพื้นที่ภูเขา ลำต้นเติบโตเต็มที่ กว้างประมาณ 30 ซม. และเมื่อสัมผัสผิวนอกของโคนต้นแล้วจะรู้สึกราบเรียบ ลำต้นมีสีเขียว สีเทาและน้ำตาล ในลำต้นจะเป็นที่เกาะติดของเชื้อรา และสาหร่าย แนบไปกับลำต้น ทำให้มองเห็นต้นไม้เหมือนสีเขียวลายขาว ซึ่งจะทำให้เราสามารถแยกแยะความแตกต่างออกจาก ฮาเซลนัทสายพันธุ์อื่น ๆ ได้ชัดเจน เมื่อหลายปีก่อน ผู้คนนิยมที่จะนำไม้ชนิดนี้ไปทำฟืนและถ่าน ใบมีลักษณะเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 4 ถึง 8 ซม. ใบมีลักษณะบาง เบา มันวาวเหมือนเคลือบด้วยสารเคลือบมันทั้งสองด้าน ขอบใบมีรอยหยักเหมือนฟันของใบเลื่อย ดอกจะบานระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งมีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมีย จะอยู่ใบตรงกลางของดอกสวยงาม เมล็ดจะมีลักษณะเป็นวงรีรูปไข่ ยาวประมาณ 5 มม. และมีสีเหลือง

    ● ความสูง ประมาณ 20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 และ 2 เทือกเขาอินาริ
  • ทามาชิเด่ะ (Hornbeam) ตระกูลฮาเซลนัท
    ทามาชิเด่ะ  (Hornbeam)
    ทามาชิเด่ะ (Hornbeam) ตระกูลฮาเซลนัท
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในป่าตามแนวหุบเขาที่มีแดดส่องถึง ยังพบในพื้นที่ภูเขาทีมีอากาศหนาวเย็น ลำต้นแต่งแต้มด้วยสีน้ำตาล สีดำ เมี่อสำผัสกับผิวของลำต้นจะรู้สึกราบเรียบ เมื่อลำต้นโตเต็มที่แล้ว จะกว้างประมาณ 20 ซม. ลักษณะของต้นไม้ที่ปลูกยากที่สุด ในตระกูลของฮาเซลนัท ซึ่งนิยมมาใช้ในการทำเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ ใบจะมีรูปวงรี ยาวประมาณ 5 ถึง 10 ซม. ยาวกับด้านบน ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันหรือฟันของใบเลื่อย ดอกจะบานประมาณเดือนเมษายน ช่อของดอกที่ ยาวประมาณ 3 ถึง 5 ซม. ,มีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมีย จะอยู่ใบตรงกลางของดอกสวยงาม ครบกำหนด ในเดือนตุลาคม

    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 4 , เทือกเขาอินาริ
  • (Hazel) ตระกูลฮาเซลนัท
    (Hazel)
    (Hazel) ตระกูลฮาเซลนัท
    พวกเขาเป็น ไม้พุ่ม ผลัดใบ ที่เจริญเติบโต ในพื้นที่ ป่า ภูเขา. ลำต้นเติบโตขึ้น จะเกี่ยวกับ 10 ซม. กว้าง . Cortex ถูก แต่งแต้มด้วย สี เทา สีน้ำตาลและ เรียบเพื่อ สัมผัส . พวกเขามี ทั้ง Lenticel กลมและ ยาว ในแนวนอน Lenticel . ใบกว้าง egged รูป ประมาณ 3 ถึง 11 ซม. ยาวกับด้านบน คมชัด เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับฟันเลื่อย scraggly ประณีต ( ฟันเลื่อย : Kyoshi ขอบ หยัก เหมือน ขอบ เลื่อย หยัก ที่ปลาย ใบ) .ฤดูกาล ดอก กำลัง มีนาคม-พฤษภาคม . ในฐานะที่ พวกเขาเป็น พืช กระเทย , ดอกไม้บาน เร็วกว่า ใบยิง . แหลม ของดอกไม้ที่ ชาย ห้อย จากสาขา ที่ขยายตัว เมื่อปีที่แล้วและสีเหลือง เป็น สีน้ำตาลแดง ยาว ประมาณ 3 ถึง 13 ซม. . ดอกไม้ หญิง กล้า ที่สาขา บน กว่า ดอกตัวผู้ และพวกเขา เบ่งบาน ด้วยดอกไม้ สีแดง บางส่วน มารวมกันใน กลุ่ม . เมื่อ ดอกไม้เหี่ยวเฉา ดอกเพศเมีย เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นรูปร่าง รีด เพื่อเก็บ เมล็ดพันธุ์ ที่มีการ เจริญเติบโต หนาแน่น aculeus ทั้งหมด . ด้านบนเป็น รูปทรง ยาว ที่ไม่ซ้ำกัน เช่น การขยาย จะงอยปาก ประมาณ 3 ถึง 5 ซม. ยาว . ในเดือนตุลาคมได้รับ เมล็ด สุก จะ กินได้

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 3 เมตร
    ● 5 สถานที่ Trail
  • อาคากาชิ (ต้นโอ๊ค) ตระกูลฟากาซี
    อาคากาชิ  (ต้นโอ๊ค)
    อาคากาชิ (ต้นโอ๊ค) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ป่าดิบที่มีใบสีเขียวตลอดทั้งปี ลำต้นใหญ่มาก เมื่อโตเต็มที่จะมีลำต้นกว้างประมาณ 2.5 เมตร พบมากในป่าลึก ตามพื้นที่ในภูเขา และในปัจจุบัน นิยมนำเข้ามาเป็นไม้ประดับในสวน บ้านเรือน ให้ดูร่มรื่นในชุมชน ในศาลเจ้า ลำต้นจะมีสีเขียว สีเทา สีน้ำตาล พื้นผิวจะดูเหมือนว่าสกปรก เล็กน้อย เราจะนำมา ปอกเปลือกออก และนำไม้นั้นไปใช้ประโยชน์ในการทำเฟอร์นิเจอร์ และหัตถกรรมฝีมือต่าง ๆ ได้อย่างงดงาม นอกจากนี้ ที่มีชื่อเรียก' Aka - gashi นั่นก็คือ เนื้อไม้เมื่อได้ตกแต่งแล้ว จะมีเนื้อไม้สีแดงสด นำไปใช้สำหรับการก่อสร้างอาคาร สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ และ เครื่องใช้ วัสดุอื่น ๆ ใบมีรูปวงรี ยาวประมาณ 7-15 ซม. ก้านยาวประมาณ 2-4 ซม. ซึ่งดูเป็นประกายงดงามมาก ดอกจะบานในระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ช่อของดอกที่ ยาวประมาณ 3 ถึง 5 ซม. ,มีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมีย

    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 - 3
  • อาราคาชิ (สนสีน้ำเงิน) ตระกูลฟากาซี
    อาราคาชิ  (สนสีน้ำเงิน)
    อาราคาชิ (สนสีน้ำเงิน) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ป่าดิบที่เติบโตในป่า ในภูเขา ลำต้นเป็นสีเทาเข้ม สีเขียว เนื้อไม้จะเป็นโพรง และมีรอยแตกขนาดเล็ก ลำต้นเติบโตเต็มที่ ยาวประมาณ 60 ซม. เป็นไม้ที่ไม่ได้มีความแข็งมากนัก เนื้อในมีลักษณะเป็นโพรง ปัจจุบันมักจะนำไปเป็นไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือน ปลูกเป็นไม้สวน ส่วนไม้ นิยมนำมาเป็นวัสดุก่อสร้างอาคาร สำหรับเฟอร์นิเจอร์ และวัสดุเครื่องใช้ที่ทำจากไม้ดิบ ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 7-12 ซม. ขอบใบมีรอยหยักคล้ายขอบใบเลื่อย ส่วนด้านหลังของ ใบเป็นสีขาว หนาแน่น ประณีตฤดูกาล ดอก ประมาณ . เมษายน-พฤษภาคม ช่อของดอกที่ ยาวประมาณ 3 ถึง 5 ซม. ,มีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมีย เมล็ดเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร จะทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป

    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 - 3
  • อินุบุนะ (บีชญี่ปุ่น) ตระกูลฟากาซี
    อินุบุนะ  (บีชญี่ปุ่น)
    อินุบุนะ (บีชญี่ปุ่น) ตระกูลฟากาซี
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เป็นสัญลักษณ์ของพืชพรรณที่อยู่บนเทือกเขาทาคาโอะ ต้นบีชสายพันธ์นี้ ก็มีลักษณะเหมือนต้นบีชสายพันธ์อื่น ที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์ในการนำมาผลิตเป็นเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ทำจากไม้ ที่ใช้ชื่อว่า ' อินุ ( สุนัข) เพราะเป็นสายพันธ์บีช ทีดูจะด้อยคุณภาพกว่าในต้นบีชตระกูลเดียวกัน ซึ่งสายพันธ์อื่นจะมีเนื้อไม้ และกาบขาว ซึ่งเรียกว่า ' Shiro - buna ' ซึ่งอินุบุนะ นี้ จะเป็นต้นสายพันธ์บีช ที่มีสีดำ มักเรียกว่า Kuro-buna คุโรบุนะ หมายถึงต้นบีชสีดำ ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่ จะกว้าง 70 ซม. และยอดต้นกล้าใหม่ที่เรียกว่า ' Hikobae ' ( ตา จากฐานของ ต้นบีช) ใบจะมีรูปวงรี เรียวยาว ขอบใบมีรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย ขอบใบอ่อน ดอกจะบานในระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ช่อของดอกที่ ยาวประมาณ 3 ถึง 5 ซม. ,มีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมีย เมล็ด รูปสามเหลี่ยม และจะเริ่มแก่เต็มที่ในฤดูใบไม้ร่วง

    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 25 เมตร
    ● สถานที่ Trail 1 และ 2 , 4 Trail
  • อุระจิโร่ะ คาชิ (สนโอบาเหม่ะ) ตระกูลฟากาซี
    อุระจิโร่ะ คาชิ   (สนโอบาเหม่ะ)
    อุระจิโร่ะ คาชิ (สนโอบาเหม่ะ) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ป่าดิบ ที่เติบโตในป่า ในภูเขา เนื่องจากด้านหลังของใบเป็นสีขาว จึงได้ตั้งชื่อ ' Uraziro - gashi ( salicina ) ลำต้นด้านนอกเป็นสีเทาเข้ม และ มีผิวขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ เนื้อในของไม้จะเป็นโพรงเล็กน้อย ซึ่งเป็นลักษณะทั่ว ๆ ไปของไม้ตระกูลสน ลำต้นหากเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 80 ซม. จะมีการแตกกิ่งก้านสาขาอย่างรวดเร็ว ทำให้ดูเหมือนว่าต้นมีใบหนาแน่นมาก เนื้อไม้ที่สวยงามนี้ ยังถูกนำมาใช้เป็น วัสดุสำหรับการก่อสร้างอาคาร สำหรับเฟอร์นิเจอร์ และ เครื่องใช้วัสดุต่าง ๆ ใบมีรูปวงรี ยาวประมาณ 7 ถึง 11 เซนติเมตร เงามันมาก ๆ ส่วนขอบใบจะมีรอยหยักคล้ายขอบฟันของใบเลื่อย ที่ขอบใบอ่อนจะมีชนอ่อนนุ่มทั้งสองด้าน ฤดูดอกประมาณเดือนพฤษภาคม ช่อของดอกที่ ยาวประมาณ 3 ถึง 5 ซม. ,มีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมียเป็นละอองเกสรอยู่ตรงกลางดอก เมล็ดมีรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ซึ่งจะแก่จัดในฤดูใบไม้ร่วงของปีถัดไป

    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 - 3
  • คุริ (เกาลัดญี่ปุ่น) (Chestnut) ตระกูลฟากาซี
    คุริ  (เกาลัดญี่ปุ่น)  (Chestnut)
    คุริ (เกาลัดญี่ปุ่น) (Chestnut) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในพื้นที่ป่า ภูเขาและ เนินเขา หรือยังพบในบริเวณในเขตเมืองด้วยเช่นกัน เมล็ดสามารถกินได้ ปัจจุบันนิยมที่จะนำมาปลูกในเขตชุมชน เพื่อเป็นไม้ประดับ ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ลำต้นด้านนอกเป็นสีเทา ดำ เมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 1 เมตร และถูกนำมาใช้ ผลิตเป็นสำหรับวัสดุเครื่องนอน สำหรับการสร้างบ้าน ไม้แกะสลักสำหรับการตกแต่งใบมีลักษณะบาง เป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 7-15 ซม. ขอบใบจะมีรอยหยักคล้ายขอบฟันของใบเลื่อย ที่ขอบใบอ่อนจะมีชนอ่อนนุ่มทั้งสองด้าน ดอกจะบานประมาณเดือนมิถุนายน เข็มยาว ประมาณ 15 ซม. มีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมียเป็นละอองเกสรอยู่ตรงกลางดอก ต้นกล้าเมือสุกเต็มที่ จะมีสีน้ำตาลเข้ม ดอกจะบานในฤดูใบไม้ร่วง ของปีถัดไป

    ● ความสูง 15 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาโอคุ -ทาคาโอะ
  • โค๊ะนารา(โอ๊คนารา) ตระกูลฟากาซี
    โค๊ะนารา(โอ๊คนารา)
    โค๊ะนารา(โอ๊คนารา) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในพื้นที่ป่า ภูเขาและ เนินเขา หรือยังพบในบริเวณในเขตเมืองด้วยเช่นกัน เมล็ดสามารถกินได้ ปัจจุบันนิยมที่จะนำมาปลูกในเขตชุมชน เพื่อเป็นไม้ประดับ ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ลำต้นด้านนอกเป็นสีเทา ดำ เมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 1 เมตร ไม้นี้มีเนื้อไม้ค่อนข้างแข็ง และสามารถมีอายุการใช้งานได้นาน จึงนำมาใช้ในการผลิตในวัสดุการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน เฟอร์นิเจอร์ ไม้แกะสลัก ใบมีลักษณะบาง เรียวรูปไข่ ยาวประมาณ 7-15 ซม. ขอบใบมีลักษณะที่เป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย ดอจะบานประมาณเดือนมิถุนายน เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในพื้นที่ป่า ภูเขาและ เนินเขา หรือยังพบในบริเวณในเขตเมืองด้วยเช่นกัน เมล็ดสามารถกินได้ ปัจจุบันนิยมที่จะนำมาปลูกในเขตชุมชน เพื่อเป็นไม้ประดับ ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ลำต้นด้านนอกเป็นสีเทา ดำ เมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 1 เมตร ลำต้นมักถูกปกคลุมไปด้วยหนาม ลำต้นมีสีน้ำตาลเข้ม ดอกจะบานในฤดูใบไม้ร่วงของปีถัดไป

    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาโอคุ - ทาคาโอะ
  • ชิระ คาชิ (สนใบไผ่) ตระกูลฟากาซี
    ชิระ คาชิ   (สนใบไผ่)
    ชิระ คาชิ (สนใบไผ่) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง ที่เติบโตในป่า บริเวณพื้นที่ภูเขา ลำต้นด้านนอก เป็นสีดำ สีเขียว เมื่อสัมผัสที่ผิวเนื้อไม้จะราบเรียบ ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 80 ซม. ปัจจุบันมักจะมีการนำมาใช้เป็นไม้สวน ไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือน ตามริมถนนหนทาง และในด้านประโยชน์ใช้สอยจากเนื้อไม้ เช่นเดียวกับที่ ถูกนำมาใช้ กับวัสดุสำหรับการก่อสร้างอาคาร สำหรับอุปกรณ์ ดนตรีและ วัสดุ เครื่องดนตรี ใบเป็นรูปบวงรี ยาวประมาณ 7-14 ซม. คมชัด ที่ขอบใบมีร่องฟัน และคล้ายกับฟันของใบเลื่อย ที่ด้านหลังใบน แต่งแต้มด้วยสีขาว ดอกบานประมาณเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในพื้นที่ป่า ภูเขาและ เนินเขา หรือยังพบในบริเวณในเขตเมืองด้วยเช่นกัน เมล็ดสามารถกินได้ ปัจจุบันนิยมที่จะนำมาปลูกในเขตชุมชน เพื่อเป็นไม้ประดับ ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ลำต้นด้านนอกเป็นสีเทา ดำ เมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 1 เมตร เมล็ดมีรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5 ซม. และจะแก่จัดในฤดูใบไม้ร่วง ในฤดูกาลต่อไปต่อไป

    ● ความสูง ประมาณ 15 to20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 ถึง 3
  • สุดาจี (chinquapin) ตระกูลฟากาซี
    สุดาจี  (chinquapin)
    สุดาจี (chinquapin) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตดีในป่า บนพื้นที่ภูเขา ซึ่งเรียกว่า ' ต้นบีช ประเภท Castanopsis โดยทั่วไป ลำต้นด้านนอกเป็นสีดำ สีน้ำตาล และหากโตเต็มที่แล้วลำต้นจะกว้างประมาณ 1 เมตร เป็นไม้พรรณที่ใช้ปลูกในสวน และเป็นต้นไม้ที่ใช้ป้องกันลมได้เป็นอย่างดี และประโยชน์อีกทางคือ มักจะนำไปผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์เครื่องมือที่ทำจากไม้ เฟอร์นิเจอร์ และ เครื่องใช้ วัสดุอื่น ๆ ใบมีลักษณะเป็นรูปวงรี กว้างประมาณ 6-15 ซม. ขอบใบเป็นร่องหยักคล้ายฟันเลื่อย ดอกบานระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ขณะที่ดอกไม้บาน ใบอ่อนที่มีสีเหลือง ขึ้นมาอย่างหนาตา กลิ่นหอมจากดอกหอมรุนแรง เมล็ดพันธ์จะเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร จะเริ่มแก่จัดในฤดูใบไม้ร่วงปีต่อไป และสามารถกินได้ด้วย

    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail ที่ 1 - 3
  • ซิกุบาเน่ะกาชิ (ต้นโอ๊ค) ตระกูลฟากาซี
    ซิกุบาเน่ะกาชิ  (ต้นโอ๊ค)
    ซิกุบาเน่ะกาชิ (ต้นโอ๊ค) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง ที่เติบโตในป่า บริเวณพื้นที่ภูเขา ลำต้นด้านนอก เป็นสีดำ สีน้ำตาล เมื่อสัมผัสที่ผิวเนื้อไม้จะราบเรียบ ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 60 ซม. ใบมีลักษณะที่อ่อนนุ่มเหมือนขนของลูกไก่ จึงเป็นที่มาของชื่อญี่ปุ่น ชิกุบาเน่ะกาชิ ซึ่งแปลว่า ต้นสนลูกขนไก่ ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 5 ถึง 10 ซม. เมื่อสัมผัสดูแล้วจะรู้สึกราบเรียบ พื้นผิวของใบเป็นมันเงา ในขณะที่ด้านหลัง เป็นสีเขียวอ่อน ขอบใบจะมีลักษณะเป็นรอยหยัก คล้ายร่องฟันของใบเลื่อย ออกดอกในระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง ที่เติบโตในป่า บริเวณพื้นที่ภูเขา ลำต้นด้านนอก เป็นสีดำ สีเขียว เมื่อสัมผัสที่ผิวเนื้อไม้จะราบเรียบ ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ ยาวประมาณ 5-7 เซนติเมตร เมล็ดมีรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร

    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 - 3
  • เคยากิ (ต้นเอล์ม) ตระกูลอัลมัส
    เคยากิ   (ต้นเอล์ม)
    เคยากิ (ต้นเอล์ม) ตระกูลอัลมัส
    เป็นต้นไม้ป่าดิบ ที่เติบโตในป่า รอบ ๆ ชานเมือง บนเนินเขาและพื้นที่ภูเขาระดับต่ำ เปลือกของลำต้นภายนอก จะมีสีขาว สีเทาเคลือบอยู่ เมื่อลองสัมผัสดูจะรู้สึกถึงความราบเรียบ เนื่องจากมีเปลือกที่บาง ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่จะกว้างประมาณ 1.5 เมตร ลำต้นโดยรวมจะแต้มด้วย สีน้ำตาลเข้ม ที่ประณีต เนื้อไม้มีลายไม้ที่สวยงาม งดงามกว่าหลาย ๆ ไม้ และนิยมนำมาใช้ประโยชน์ในงานก่อสร้าง อาคารบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย วัดและศาลเจ้า ฯลฯ ใบมีลักษณะบาง ยาวประมาณ 3-7 เซนติเมตร กว้างประมาณ 1-2.5 ซม. ด้านบนของขอบใบ จะเป็นรอยหยักคล้ายเป็นร่องฟันของใบเลื่อย ใบมีลักษณะเงามัน ออกดอกประมาณ เดือนเมษายน เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง ที่เติบโตในป่า บริเวณพื้นที่ภูเขา ลำต้นด้านนอก เป็นสีดำ สีเขียว เมื่อสัมผัสที่ผิวเนื้อไม้จะราบเรียบ ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ เมล็ดมีรูปร่างบิดเบี้ยวบ้าง ทรงกลมบ้าง ยาวประมาณ 4 ถึง 5 มม. และจะแก่จัดในเดือนตุลาคม ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม

    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 -4 , Trail 6 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • ฟุสะซากุระ ตระกูลซากุระ
    ฟุสะซากุระ
    ฟุสะซากุระ ตระกูลซากุระ
    ต้นไม้ผลัดใบขนาดเล็กที่พบในบริเวณที่เปียกชื้น รวมทั้ง ในภูเขา.ลำต้นด้านนอกเป็นสีน้ำตาลสดและผิวของลำต้นค่อนข้างเรียบเนียน ลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 30 ซม. ซึ่งจะไม่โตขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับต้นไม้ขณะยังเป็นต้นกล้าอยู่ พื้นผิวของต้นไม้จะมีรอยแตกเล็ก ๆ เพื่อเปิดที่ช่วยให้ก๊าซที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างอากาศและเนื้อเยื่อภายในของพืช คล้ายกับต้นในตระกูลดอกซากุระ แต่ถือได้ว่า ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ใบมีความยาว 6 - 12 ซม. ดอกบานตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน และใน 1 โคนดอก จะมีดอกบานประมาณ 5-12 ดอก โดยมีสีแดงเข้ม ไม่มีกลีบดอกกลีบเลี้ยงและหรือเกสรตัวผู้จำนวนมาก แต่สามารถกระจายพันธ์ ขยายพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว ผลไม้เมล็ด หากได้รับการผสม เมล็ดเกสรตัวผู้ตัวเมียที่อยู่ภายในดอก จะ เปิดสีเหลืองในฤดูใบไม้ร่วงและเมล็ดจะบินตามลม

    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 15 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 4 จาทากิ, เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • มาทาทาบิ (Silver vine) ตระกูลองุ่นขาว
    มาทาทาบิ  (Silver vine)
    มาทาทาบิ (Silver vine) ตระกูลองุ่นขาว
    เถาไม้ยืนต้นผลัดใบ ที่พบในขอบป่าจากเนินเขาไปยอดเขา เป็นลักษณะเถาเครือที่อาศัยต้นไม้ใหญ่ พันได้สูงประมาณ 2 - 5 เมตร โคนต้นเป็นสีน้ำตาล , ใบเป็นรูปไข่รวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก ใบสามารถทำการสังเคราะห์แสง ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างอากาศ และเนื้อเยื่อภายในของพืช เพื่อเกิดความสมดุลย์) ใบมีความยาว 6-10 ซม มีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมียเป็นละอองเกสรอยู่ตรงกลางดอก เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2 ซม. ดอกสีขาวมี 5 กลีบ ผลไม้มีรูปไข่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-2.5 ซม. ในผลจะมีเมล็ดจำนวนมากภายใน เมล็ดสีเขียว สีส้ม และจะแก่จัดในเดือนตุลาคม ชื่อภาษาญี่ปุ่น Matatabi มาจากคำว่า ( Mata - tabi - ga - dekiru) แปลว่า พบกันทุกครั้งทุกปี และอีกทฤษฎีหนึ่ง ที่มีการแพร่กระจายกว้างว่าถูกตั้งชื่อตามคำในภาษาไอนุ Matatabu

    ●ควมสูง เท่ากับความสูงของเถาไม้เลื้อยที่จะพันรอบต้นไม้ใหญ่ได้
    ●สถานที่ ถนนสาย trail 1 4 6 จาทากิ ,เทือกเขาอุระ - ทาคาโอะ
  • โกบุชิ (แม๊กโนเลีย โคบุส) ตระกุลแมกโนเลียซี
    โกบุชิ  (แม๊กโนเลีย โคบุส)
    โกบุชิ (แม๊กโนเลีย โคบุส) ตระกุลแมกโนเลียซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เจริญเติบโตรอบๆ บริเวณที่เป็นเนิน ในเขตชายป่า จนถึงบนยอดภูเขา เมื่อสัมผัสกับเปลือกของลำต้นจะรู้สึกราบเรียบ ลำต้นจะมีสีเขียวอมเทา และมีบางส่วนเป็นริ้วสีขาว ลำต้นเติบโตเต็มที่จะกว้างประมาณ 20 ถึง 30 ซม. หากเป็นกิ่งอ่อน จะเป็นสีเขียว สีม่วง ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ กว้างประมาณ 6-15 ซม. ยาวประมาณ 3-6 ซม. ดอกบานเต็มที่ในเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม , ดอกไม้มีสีขาว และมีกลิ่นหอมหวาน กลีบดอกในขณะที่เป็นดอกตูมอยู่นั้น จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 ถึง 10 ซม. ส่วนที่รากของดอกไม้จะถูกแต่งแต้มด้วยสีแดง ใน 1 กลุ่มดอก จะประกอบด้วยดอกขนาดเล็ก เติบโต จากด้านล่างรวมกัน และในแต่ละ 1 ผล จะประกอบด้วยเมล็ดหลายรวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งโคนดอกจะมีลักษณะคล้าย ๆ กำปั้น จึงได้ชื่อมาว่า โกบุชิ เมื่อ เมล็ดแก่จัดแล้ว ในระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม เมล็ดพันธ์เหล่านี้จะได้ทำหน้าที่ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • โฮโอโนกิ ตระกุลแมกโนเลียซี
    โฮโอโนกิ
    โฮโอโนกิ ตระกุลแมกโนเลียซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในป่า รอบๆ เนินเขา รวมไปถึงพื้นที่บนภูเขา เมื่อสัมผัสกับลำต้น จะรู้สึกราบเรียบ ลำต้นสีเทา ที่มีขนาดเล็กมีกิ่งจำนวนมาก ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่จะกว้างประมาณ 1 เมตร เป็นไม้ยืนต้นที่นิยมนำมาตกแต่งบ้าน นำมาตกแต่งสวนเพื่อได้บรรยากาศสวยงาม ใบมีขนาดใหญ่ ยาว ประมาณ 20 ถึง 40 ซม. กว้างประมาณ 10-25 ซม. ใบเป็นรูปวงรี และหนา ซึ่งจุดเด่นที่มีใบหนาขนาดใหญ่นี่เอง จึงกลายเป็นเป็นชื่อเรียก โฮโอโนกิ ซึ่งแปลว่า ต้นไม้ใบยักษ์ จะพบมาในแถบฮิดะ เทือกเขาทาคายามะ จังหวัดไอจิ ) และผู้คนได้ใช้ประโยชน์ ในการนำใบมาห่ออาหาร และเป็นที่ใส่อาหาร แทนจานข้าว หลายสิบปีที่ผ่านมา ดอกไม้ก็มีขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 15 ซม. ดอกสีขาว แต่งแต้มด้วยสีเหลือง ดอกจะบานเต็มที่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน. เป็นลักษณะวงรี รูปไข่ ยาวประมาณ 10 ถึง 15 เซนติเมตร เมื่อเมล็ดแก่จัด จะสามารถทำหน้าที่เป็นเมล็ดพันธ์เพื่อที่จะขยายพันธ์ต่อไป

    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 4 เทือกเขาอินาริ, เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • อาบุราจัน (ไม้หอมญี่ปุ่น) ตระกูลลอราซี
    อาบุราจัน  (ไม้หอมญี่ปุ่น)
    อาบุราจัน (ไม้หอมญี่ปุ่น) ตระกูลลอราซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ที่มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นไม้พุ่ม มีถิ่นกำเนิดในป่า ในภูเขาลึก ซึ่งเรามักจะพบเห็นดอกเป็นพวง สวยงามเป็นสัญลักษณ์ของดอกอาบุราจันได้ในบริเวณที่มีความชื้นตามภูเขา ลำต้นมีสีเขียว แต่งแต้มด้วย สีเทา น้ำตาล ขนาดเล็ก ลำต้นข็งแรง ดังนั้นคนก็นำไปใช้ประโยชน์ โดยใช้ในการขึงตาข่ายแทนไม้ไผ่ ในการล้อมรั้ว และอื่น ๆ อีกมากมาย ' อาบุราจัน ' หมายถึง ' ต้นไม้สกัดน้ำมันจากธรรมชาติ ทำให้มองให้เห็นว่า ในสมัยโบราณ คนเราใช้น้ำมันจากการสกัดจากเมล็ดของผลไม้ชนิดนี้ เป็นวิธีการทางธรรมชาติ ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 4-9 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2-4 ซม. ดอกจะบานเต็มที่ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ใน 1 โคนดอกจะมีดอกเล็ก ๆ อยู่ประมาณ 3-5 ดอก มี 6 กลีบ ความยาว 2 มม. มีสีเหลืองสวยงาม มีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมียเป็นละอองเกสรอยู่ตรงกลางดอก เมล็ดทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 ซม. ผลเมื่อแก่จัดจะเป็นสีน้ำตาล เหลือง ในเดือนกันยายน

    ● ความสูง ประมาณ 3 ถึง 6 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 3-6 , เทือกเขาอินาริ, เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ ,มินามิ-ทาคาโอะ
  • คุโรโมจิ ตระกูลลอราซี
    คุโรโมจิ
    คุโรโมจิ ตระกูลลอราซี
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เจริญเติบโตในป่า เนินเขา ลำต้นเป็นสีเขียวแต่งแต้มด้วย สีเทา สีน้ำตาล เมื่อสัมผัสกับเปลือกของลำต้นจะรู้สึกราบเรียบ ลำต้นเติบโตเต็มที่ กว้าง 10 ซม.ขณะที่ลำต้นยังอ่อนอยู่ จะมีสีเขียวเข้ม ที่มีลวดลายสีดำ ซึ่งจะถูกเรียกว่า คุโรโมจิ แปลว่า ต้นจุดสีดำ ซึ่งไม้ดังกล่าวจะมีกลิ่นหอม จึงมีผู้นิยมนำไปใช้ทำไม้จิ้มฟัน ใบจะมีลักษณะเป็นวงรี ยาวประมาณ 4-9 เซนติเมตร กว้าง 1.5-3 ซม. ที่ด้านล่างของใบจะมีขนสีขาวอ่อนนุ่มขึ้นตอนแรก หลังจากที่ใบเริ่มแก่ขึ้น ขนนั้นจะเริ่มหายไป และใบก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็น สีเหลือง ในฤดูใบไม้ร่วง. ฤดูกาลที่ดอกเริ่มบานประมาณ เดือนมีนาคม ขนาดของดอกจะมีความยาวประมาณ 6 มม. เมล็ดมีรูปทรงกรม มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มิลลิเมตร และเมื่อดอกแก่จัด จะเปลี่ยนเป็นสีดำ ในระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 6 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 3-6 , ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • Lindera obtusiloba ตระกูลลอราซี
    Lindera obtusiloba
    Lindera obtusiloba ตระกูลลอราซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบที่มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นพุ่มไม้ที่เติบโตในป่า ใกล้แหล่งลำธารในป่าดงดิบ ป่าชื้น และเนินเขาทั่ว ๆ ไป ลำต้นเป็นสีเขียว และแต่งแต้มด้วย สีเทา ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่ กว้าง 18 ซม. ในขณะที่ต้นยังอ่อนอยู่ จะมีสีเลืองอมเขียว มีเปลือกที่หนานุ่ม แต่ต่อมาเมื่อต้นเริ่มแก่ลง ขนที่ขึ้นรอบโคนต้นจะเริ่มหายไป จะกลายเป็นสีเหลือง สีน้ำตาลในที่สุด ใบเป็นรูปใข่ กว้างประมาณ 5 ถึง 15 ซม. ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดในฤดูใบไม้ร่วง ดอกจะเริ่มบานประมาณเดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่า ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีดอกไม้สีเหลือง จะบาน พร้อมกับกลิ่นที่หอมฟุ้งกระจายในช่วงต้น ฤดูใบไม้ผลิ ที่ภูเขาทาคาโอะ นอกจากนี้ยังมีชื่ออื่นให้เรียกอีก ตามสีของดอก; คือดอกกำยาน เมล็ดมีรูปทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 มม. ขณะเมล็ดอ่อนอยู่จะมีสีแดง เมื่อแก่จัดแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ในเดือนกันยายน-ตุลาคม

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 6 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 5 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ- ทาคาโอะ
  • คาขุอุทซิกิ (เถาวัลย์เปรียงไฮเดรนเยีย) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    คาขุอุทซิกิ  (เถาวัลย์เปรียงไฮเดรนเยีย)
    คาขุอุทซิกิ (เถาวัลย์เปรียงไฮเดรนเยีย) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    พุ่มไม้ผลัดใบที่พบอยู่บนเนินเขาและที่ขอบป่า รวมถึงใกล้กับแหล่งลำธาร มีกิ่งก้านสาขาจำนวนมาก ลำต้นเป็นสีเขียวอมเทา และมีเปลือกต้นไม้ค่อนข้างเรียบ ขณะที่ลำต้นอ่อนอยู่ จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม อมดำ แต่จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาสีขาวในปีต่อไป คล้ายดอกไฮเดรนเยีย และเนื่องจากมีลำต้นคล้ายกับต้น deutzia crenata, ด้วยเหตุนี้ จึงมีชื่อของญี่ปุ่น Gaku-Utsugi แปลว่า ไฮเดรนเยีย ใบมีลักษณะรูปไข่ ยาว 4-7 ซม. ใบมีสีเขียวเป็นเงางาม และขอบใบจะมีรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย ดอกไม้ขณะที่บาน จะมีความยาวประมาณ 7 ถึง 10 ซม. ดอกจะเริ่มบานระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ดอกเป็นสีขาว และมีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2.5-3 ซม. โคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ●ความสูง ประมาณ 1-1.5 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 4, 6 Trail
  • มารุบะ อุทซึกิ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    มารุบะ อุทซึกิ
    มารุบะ อุทซึกิ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    พุ่มไม้ผลัดใบที่พบในบริเวณที่มีแดดจัด และเนินเขาที่ร้อนชื่น จนถึงยอดเขาเขตร้อน ลำต้นจะมีสีเทา สีน้ำตาล และมีเปลือกหนา ภายในเนื้อไม้จะเป็นไม้ที่มีโพรง ภายในกลวง ไม้เมื่อยังอ่อน จะมีสีเขียวอมน้ำตาล หรืออมดำ ใบมีลักษณะเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 4-7 ซม. ใบที่อยู่ส่วนล่างของลำต้น จะยาวลงมาคลุมลำต้น ที่ล่างของใบ จะมีขนเล็ก ๆ อ่อนขึ้นทั้งแผ่น และขอบใบจะมีรอยหยักคล้ายฟันของใบเลื่อย ชื่อภาษาญี่ปุ่น Maruba-Utsugi แปลว่า ไม้ใบกลม ซึ่งพืชชนิดนี้จะมีใบกลมนั่นเอง ใบเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง สีน้ำตาลในที่สุด ออกดอกเดือนพฤษภาคม ขณะที่ดอกบานนั้น จะมองเห็นสีขาวได้ชัดเจน ดอกสีขาวจะหันหน้าขึ้นไปด้านบนของช่อดอก ดอกไม้จะมี 5 กลีบ และกลีบด้านในจะเป็นสีเหลืองนวล มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 1.5 ซม. และจะมีขนอ่อน ยาวประมาณ 3 มม. ทั่วทั้งใบ

    ●ความสูง ประมาณ 1-1.5 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 5 และ 6
  • โคอะ จิไซ (ไฮเดรนเยียร์ เล็ก) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    โคอะ จิไซ   (ไฮเดรนเยียร์ เล็ก)
    โคอะ จิไซ (ไฮเดรนเยียร์ เล็ก) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    พุ่มไม้ผลัดใบที่พบในป่าจากเนินเขาไปยังภูเขา เติบโตโดยการขยายสาขา. ชื่อญี่ปุ่น โคอะ-จิไซ หมายถึงไฮเดรนเยียขนาดเล็ก ใบมีลักษณะรูปไข่ยาว 5-8 ซม. , ที่โคนใบด้านบนมีปลายแหลม มีขนทั้งสองด้าน และขอบใบจะรอยหยักคล้ายร่องฟันของใบเลื่อย ในช่วงในฤดูใบไม้ร่วงใบจะเริ่มเป็นสีเหลือง ออกดอกในเดือนมิถุนายน ดอกบานเต็มที่จะวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 5 ซม. ช่อดอกจะแทงยอดออกจากก้านใบ แต่ละดอกยาว 5 มม. โคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป ผลเป็นรูปไข่ มีความยาว 3 มม.

    ●ความสูง ประมาณ 1-1.5 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • ทามาอาจิไซ (ไฮเดรนเยีย ดอกกลม) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    ทามาอาจิไซ (ไฮเดรนเยีย ดอกกลม)
    ทามาอาจิไซ (ไฮเดรนเยีย ดอกกลม) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    ไม้พุ่มผลัดใบ ที่พบในป่าใกล้แหล่งน้ำ และในป่าเปียกชื้น ในเนินเขา มีการขยายกิ่งก้านสาขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เป็นต้นอ่อนอยู่จะมีขนขึ้นตามลำต้น ใบมีรูปไข่ ความยาวประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ที่ขอบใบมีรอยหยักคล้ายเป็นร่องฟันใบเลื่อย นอกจากนี้ยัง มีขนหยาบขึ้นรอบใบทั้งสองด้าน ชื่อญี่ปุ่น ทามาอาจิไซ แปลว่า ไฮเดรนเยียทรงกลม เป็นชื่อเพราะ โคนใบมีลักษณะทรงกลม ออกดอกในระหว่างเดือนเมษายนถึง เดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้ต้นไฮเดรนเยียนี้ โดดเด่นสวยงามมาก ช่อดอกมีลักษณะทรงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม คล้ายกับแผ่นดิสค์ครอบดอกไว้ ดอกมีขนาดเล็กและมีกลีบดอกชั้นในสีขาว 3 - 5 กลีบประดับอยู่ ( ช่อดอก โดยรอบจะไม่มี เกสรตัวผู้ มีเฉพาะละอองเกสรตัวเมียเท่านั้น) ผลเป็นรูปไข่ ยาว 3.5 มม.

    ● ความสูง ประมาณ 1 ถึง 2 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 -2 / 4-6 , เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ ,มินามิ-ทาคาโอะ
  • ยาม่ะ ซากูระ (ซากูระ ป่า) ตระกูลเชอรรี่
    ยาม่ะ ซากูระ   (ซากูระ ป่า)
    ยาม่ะ ซากูระ (ซากูระ ป่า) ตระกูลเชอรรี่
    เป็นต้นไม้ป่าดิบ ที่เติบโตในป่า เนินเขาเตี้ยๆ มีแดดจัด เป็นที่พูดกันติดหูว่า คือพันธ์ซากูระป่า ซึ่งซากุระป่า จะเบ่งบานเล็กน้อย และบานช้ากว่าซากูระในตระกูลเดียวกัน ใบจะเริ่มผลิออกมาในเดือนเมษายน ใบด้านนอกจะเป็นสีเข้ม ใบมีลักษณะเป็นวงรี เรียวยาว เมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 60 ซม. ต้นไม้นี้นิยมนำมาปลูกเป็นไม่สวน ไม้ประดับ ตกแต่งตามอาคารบ้านเรือน และไม้นำมาใช้สำหรับวัสดุก่อสร้าง เครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ เนื่อจากเนื้อไม้มีกลิ่นหอม ใบมีรูปวงรี ยาวประมาณ 8 ถึง 12 ซม. กว้าง 3-5 ซม. และขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายร่องฟันของคมใบเลื่อย ในฤดูใบไม้ร่วงใบจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสี เหลืองหรือสีส้ม ในโคนดอก 1 กิ่ง จะประกอบด้วยดอกประมาณ 2 ถึง 5 ดอก ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.5-3.5 ซม. มีกลีบดอกประมาณ 5 กลีบต่อ 1 ดอก ซึ่งมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อนฉูดฉาด เมล็ดมีรูปทรงกลม
    ยาวประมาณ 8 มม. , และเมื่อสุกแก่จัดแล้ว จะเปลี่ยนไปสีดำ สีม่วง ประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน

    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 25 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 5 ภูเขาอินาริ , มินามิ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • ยามา บุกิ ตระกูลเชอรรี่
    ยามา บุกิ
    ยามา บุกิ ตระกูลเชอรรี่
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เจริญเติบโตในป่า ในสถานที่มีอากาศหนาวชื้น และใกล้ ๆ รมลำธารในภูเขา เป็นต้นไม้ที่มีการปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ดีตลอดทั้งปี ใบอ่อนของต้นไม้มีสีเขียวสด และเรียบเนียนเมื่อสัมผัสดู หลังจากที่ต้นไม้เริ่มโตเต็มที่แล้ว สีจะเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีเขียวเข้มอมน้ำตาล ใบมีรูปวงรี ยาวประมาณ 4 ถึง 8 ซม. กว้าง 2-4 ซม. ขอบใบด้านบนจะมีลักษณะแหลมยาวขึ้นไป และมีรอยหยักเป็นฟันคล้ายกับฟันของใบเลื่อย ประณีตงดงามมาก ใบมีลักษณะบาง และมีเส้นรากที่นูนออกมานอกผิวใบ และมีขนบาง ๆ สั้น ๆ อยู่รอบ ๆ ใบทั้ง 2 ด้าน ออกดอกระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ใน 1 ดอกจะประกอบด้วยกลีบดอกจำนวน 5 กลีบ มีสีเหลือง มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 3-5 เซนติเมตร เมล็ดมีลักษณะรูปวงรี ยาวประมาณ 4 มม. เมื่อผลยังอ่อนอยู่ จะมีสีเขียว หลังจากที่ได้แก่จัดแล้ว จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ประมาณเดือนกันยายน

    ● ความสูง ประมาณ 1 ถึง 2 เมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • อุวะซือมิ ซากูระ ตระกูลเชอรรี่
    อุวะซือมิ ซากูระ
    อุวะซือมิ ซากูระ ตระกูลเชอรรี่
    เป็นต้นไม้ป่าดิบ ที่เติบโตในป่า บนเนินเขา ป่าที่มีแดดส่องถึง ตามริมธารในภูเขา เมื่อลำต้นได้เติบโตเต็มที่แล้ว กว้าง 60 ซม. ลำต้นจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม กิ่งก้านสาขาจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งกิ่งที่ออกมาใหม่ จะมีสีสีดำ สีม่วง มีเงามัน ใบรูปวงรี ยาวประมาณ 8 ถึง 11 ซม. และด้านบนของใบมีรอยหยักคล้ายกับฟันของใบเลื่อย ดอกจะเริ่มบานเต็มที่ในระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม ดอกมีลักษณะเป็นดอกตูมสวยงาม สีขาว และมีเหมือนขนแปรงรอบ ๆ ดอกจำนวนมาก ใน 1 ดอกจะมีกลีบดอก 5 กลีบ กว้างประมาณ 6 มม. เกสรตัวผู้มีลักษณะเป็นท่อยาว ๆ และเมื่อมีการผสมพันธ์ในดอกแล้ว จะมีเมล็ดพันธ์เกิดขึ้น มีรูปวงรี ยาวประมาณ 8 มม. แต่งแต้มด้วยสีแดง และเมื่อได้แก่จัดแล้ว สีของเมล็ดจะเปลี่ยนจากสีแดงมาเป็นสีดำ ในเดือนสิงหาคม ถึงกันยายน ยังคนในจังหวัดนิอิกาตะ นิยมรับประทานเมล็ดของซากูระประเภทนี้เป็น ในจังหวัดนีงะตะ จะเรียกว่า '- ningo '

    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 เมตร
    ● สถานที่ ภูเขาอินาริ , โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ-ทาคาโอะ
  • คุสะ อิจิโก่ะ ( ราสเบอร์รี่ ) ตระกูลเชอรรี่
    คุสะ อิจิโก่ะ ( ราสเบอร์รี่ )
    คุสะ อิจิโก่ะ ( ราสเบอร์รี่ ) ตระกูลเชอรรี่
    ไม้พุ่มผลัดใบ พบได้บริเวณชายป่า ขอบภูเขา และริมถนนทั่วไป ชื่อญี่ปุ่น คุสะ- อิจิโกะ หมายถึงราสเบอรรี่ เป็นต้นที่ไม่สูงมากนัก มีขนนุ่ม หนาแน่นบนลำต้น กิ่งก้านและใบ เป็นพืชที่มีการสามารถปรับตัวเข้ากับอากาศได้ดีตลอดทั้งปี ใน 1โคนกิ่งจะประกอบด้วยใบ 3 - 5 ใบ ซ้อนกันอยู่เป็น 1 ชุด คล้ายแผ่นพับ ใขจะมีรูปไข่ ยาวประมาณ 3-7 เซนติเมตร ขอบใบด้านบนจะเป็นรอยหยักคล้ายกับฟันของใบเลื่อย ใบจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงในฤดูใบไม้ร่วง ออกดอกในระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 4 ซม. มีกลีบดอก 1-2 ดอก บานสะพรั่งบน รูปทรงกลมสีขาว ผลมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. และจะมีสีแดงประมาณปลายเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน กิ่งมีขนาดเล็ก และมีปลายกิ่งที่สั้น มีขนอ่อนสั้น ๆ ขึ้นรอบ ๆ กิ่งและใบ ผลไม้มีรสหวาน และ กลิ่นหอม ดี

    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 50 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสาย 2 - 4 จากทากิ , ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • คุสะโบเก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    คุสะโบเก่ะ
    คุสะโบเก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    พุ่มไม้ผลัดใบที่พบในแม่นํ้าแดดในภูเขา. ส่วนล่างของลำต้นเจริญเติบโตในแนวนอนและมีหนามจำนวนมากที่สุดในตระกูลเดียวกัน ใบเป็นรูปไข่ ยาว 2-5 ซม.ขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายฟันของใบเลือย ฤดูออกดอกเป็นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม มีเกสรตัวผู้ที่เป็นแท่งโคนโน้มออกจากตัวดอก และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางของโคนดอก มีเกสรสีเหลือง (เกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมียอยู่ร่วมกันในหนึ่งดอก) ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.5 ซม. กลีบดอกมีห้ากลีบ ผลมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. เมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง คล้ายลูกแพร์ มีกลิ่นหอม ไม่หวานมาก เหมาะสำหรับการรับประทานกับอาหารในขณะที่ยังอ่อน ๆ อยู่ และยังนิยมทำเป็นผลไม้ดอง ที่เรียกว่า Shidomi ซึ่งมาทำเป็นเหล้าหมักไวน์ได้อีกทางหนึ่ง

    ●ความสูง ประมาณ 30 ซม. ถึง 1 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • โคโกเม่ะอุทซึกิ ตระกูลเชอรรี่
    โคโกเม่ะอุทซึกิ
    โคโกเม่ะอุทซึกิ ตระกูลเชอรรี่
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เติบโตป่า ใกล้ ๆ กับแหล่งน้ำ เนินป่า และบนรอบ ๆ ถนน เป็นต้นที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ตลอดทั้งปี ลำต้น กิ่ง ขณะที่ยังอ่อน จะมีสีน้ำตาลแดง ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว เหมือนกับดอกของต้นเชอรรี่ในตระกูลเดียวกัน ใบรูปไข่ ยาวประมาณ 2-6 ซม. กว้างประมาณ 1.5-3.5 ซม. ใบมีลักษณะก้านสั้น ด้านบนของขอบใบมีรอยหยักคล้ายกับฟันของใบเลื่อย พร้อมกับขนที่อ่อนนุ่มทั้งสองด้าน ฤดูออกดอกประมาณเดือนพฤษภาคม ที่โคนลำต้นมีกิ่งออกมามากไม้ แข็งแรง และโคนดอกจะสามารถแบกรับ ดอกไม้ได้อย่างลงตัว ดอกประกอบด้วยกลีบดอกจำนวน 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีลักษณะคล้ายรูปไข่สีขาว มีเกสรตัวผู้ที่เป็นแท่งโคนโน้มออกจากตัวดอก และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางของโคนดอก มีเกสรสีเหลือง เมื่อดอกไม้เหี่ยวเฉา โคนดอกยังมีลักษณะทรงกลม หุ้มด้วยกลีบเลี้ยงที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ถึง 3 มิลลิเมตร

    ● ความสูง ประมาณ 1 - 2 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 5 ภูเขาอินาริ , โอคุ-ทาคาโอะ
  • นาวาชิโร อิจิโก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    นาวาชิโร อิจิโก่ะ
    นาวาชิโร อิจิโก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    ไม้พุ่มผลัดใบ ที่พบในบริเวณแดดจัด ริมถนน ริมแม่น้ำในภูเขา ลำต้นเจริญเติบโตบนพื้นดินแบบราบไปกับพื้น เหมือนเถาองุ่น ชื่อภาษาญี่ปุ่น Nawashiro-Ichigo แปลว่า ข้าวต้นกล้าสตรอเบอร์รี่ เป็นชื่อเพราะ ผลไม้จะสุกประมาณเดือนมิถุนายน ช่วงที่ต้นกล้าข้าวเริ่มลงในนาข้าว โคนใบประกอบด้วยใบประมาณ 3 - 5 ใบ ใบมีลักษณะเป็นใบบาง ๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ถึง 4 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นรอยหยักคล้ายกับฟันของใบเลื่อย มีขนสีขาวขึ้นรอบ ๆ ใบ โดยเฉพาะด้านหลังของใบ ดอกจะบานในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ดอกไม้มีสีแดง สีม่วง บานสะพรั่งสวยงาม เส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 1 ถึง 2 ซม. กลีบดอกมีห้ากลีบ ผลไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 ซม. เมื่อผลไม้สุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง สามารถนำมารับประทานดิบ ๆ ได้ ทำเป็นแยม หรือนำไปหมักเหล้า

    ●ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 ซม.
    ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • นิกะ อิจิโก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    นิกะ อิจิโก่ะ
    นิกะ อิจิโก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    ไม้พุ่มผลัดใบ พบในบริเวณที่แดดส่องถึง เนินเขา และพื้นที่เสื่อมโทรมในภูเขา. ขยายพุ่มไม้จำนวนมากและมีหนามแหลมมากในส่วนบนของลำต้น. ผลไม้หวานและกินได้ แต่ให้รสขมเมื่อทุบเมล็ดจึงชื่อญี่ปุ่น Niga-Ichigo อักษรความหมายสตรอเบอร์รี่ที่มีรสขม . ใบที่ 2 ถึง 5 ซม. ในเส้นผ่าศูนย์กลางวงรีรูปทรงและสำรอง. ห้อยเป็นตุ้มตื้นในสามมีอัตรากำไรฟัน (ขอบใบเป็นเหมือนฟันของเลื่อย) และแป้งสีขาวที่ด้านหลัง. ฤดูออกดอกเป็นเดือนเมษายน ดอกขณะบานจะมี 1-2ดอก คู่กัน โคนดอกสีขาวจะหันหน้าขึ้นไป กลีบดอกมีทั้งสิ้น 5 กลีบ มีลักษณะบางและยับย่นด้วยเกสรตัวผู้จำนวนมาก กลีบเลี้ยงมีห้ากลีบ ผลมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. ผลไม้เมื่อสุกเต็มที จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ประมาณช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม

    ●ความสูง ประมาณ 30-90 เซนติเมตร
    ●สถานที่ Trail 4 และ 5 Mt.Inari, Oku-ทาคาโอะ
  • โมมิจิ อิจิโก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    โมมิจิ อิจิโก่ะ
    โมมิจิ อิจิโก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    ไม้พุ่มผลัดใบ ที่พบในบริเวณแดดจัด ริมถนน ริมแม่น้ำในภูเขาทางตะวันออกของญี่ปุ่น ลำต้นขนาดเล็กมีสีเขียวสด และเมื่อลำต้นแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล มีครีบบนกิ่งและก้านใบ ลำต้นสวยงดงาม ชื่อภาษาญี่ปุ่น โมมิจิ-อิจิโกะ หมายถึงสตรอเบอร์รี่เมเปิ้ล เป็นเพราะ สตรอเบอรรี่ที่มีใบคล้ายใบเมเปิ้ล ใบมี เส้นผ่าศูนย์กลาง 7-15 ซม. ในหนึ่งก้านใบ จะประกอบด้วยใบประมาณ 3 - 5 ใบ คล้าย ๆกับต้นปาล์ม ก้านใบมีลักษณะยาว และขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายร่องฟันของใบเลื่อย ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูออกดอกเป็นตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ใบจะมีลักษณะคล้ายรูปไข่ มีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีปลายคม ผลไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 ซม. เมื่อผลสุกเต็มที่ จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมและสามารถนำมารับประทานได้

    ●ความสูง ประมาณ 1 ถึง 2 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 3-6, ภูเขาอินาริ , มินามิ-ทาคาโอะ
※ใบเสนอราคาจากทาง app ภูเขาทาคาโอะ(แอนดี้)
もっと見る 閉じる