TAKAO 599 MUSEUM

ขุมทรัพย์ของภูเขาทาคาโอะ

Plants

ความหลากหลายของแมลงที่อยู่อาศัยหลายพันชนิดที่ยังมีความทับซ้อนในทาคาโอะโดยอาศัยอยู่หลายพันชนิด สามารถนับและจัดอันดับในญี่ปุ่นได้เป็นสามลำดับที่อยู่อาศัยที่สำคัญ คือ มิโน่ (โอซาก้า) และคิบูเนะ (เกียวโต) เป็นเขตของแมลงที่มีการศึกษามาเป็นเวลานาน สายพันธุ์หลากหลายเหล่านี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในทาคาโอะยังแมลงจำนวนมากที่เป็นราชาและยังมีทากาโอะ คิลฟิช และนักฆ่าวาฬซึ่งในปัจจุบันนั้นชื่อของทาคาโอะก็ยังปรากฏอยู่

  • จาเกทซึ บาร่ะ (ซีซัลพิเนียซี) ตระกูลถั่ว
    จาเกทซึ บาร่ะ (ซีซัลพิเนียซี)
    จาเกทซึ บาร่ะ (ซีซัลพิเนียซี) ตระกูลถั่ว
    ไม้เถายืนต้นผลัดใบ ที่พบในขอบป่า ริมธารน้ำ ในภูเขา มีเครือเถาวัลย์ที่ใหญ่ และมีหนามมากมาย ซึ่งการที่มีเถาวัลย์ระโยงระยางมากมายนี้ จึงได้ชื่อว่า จากเกทซึ-บาระ แปลว่า งูผูกหนาม ใบมีลักษณะเป็นรูปวงรี มีใบซ้อน ๆ กัน ใน 1 โคนใบจะมีอยู่ประมาณ 5 - 10 ใบ และมีความยาวประมาณ 20-40 cm. ฤดูออกดอกเป็นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน และมีช่อดอกยาว 20 ถึง 30 เซนติเมตร จะมองเห็นดอกไม้สีเหลืองเป็นพุ่มงดงามจำนวนมาก ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 3 ซม. มีกลีบใบจำนวน 5 กลีบ หนึ่งกลีบดอกมีจุดสีแดง ๆ ขนาดเล็ก ดอกมีความกว้าง 3 - 10 ซม. มีรูปทรงคล้ายเปลือกหอย เมื่อผลไม้สุกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ใน 1 ผลจะมีเมล็ดประมาณ10 เมล็ด เมล็ดมีรูปไข่ สีดำ ยาวประมาณ 1 ซม.

    ●ความสูง สูงเท่ากับเถาเครือที่สามารถพันขึ้นไปได้
    ●สถานที่ เทือเขายาทากิ
  • ฮาริเอนจุ (ตั้กแตนดำ) ตระกูลถั่ว
    ฮาริเอนจุ  (ตั้กแตนดำ)
    ฮาริเอนจุ (ตั้กแตนดำ) ตระกูลถั่ว
    เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ต้นไม้พื้นเมืองที่มีขนาดเล็ก ซึ่งนำเข้าจากทวีปอเมริกาเหนือที่นำเข้าประเทศญี่ปุ่นในระยะแรกของสมัยเมจิ ปลูกทั่วประเทศญี่ปุ่นและบางส่วนกลายเป็นพืชป่า ลำต้นขณะที่โตเต็มที่จะมีสีน้ำตาลอ่อน มีรอยแตกที่เปลือกผิว ชื่อภาษาญี่ปุ่นฮาริเอนจุ แปลว่า ต้นไม้เข็มเจดีย์ เนื่องจากพืชชนิดนี้คล้ายกับต้นเข็มเจดีย์ญี่ปุ่น หรืออีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกคือ นิเส่ะ-อะเคเชีย แปลว่า ต้นอาเคเซียปลอม เพราะพืชชนิดนี้เป็นต้นไม้ขนาดเล็ก แต่มีรูปร่างต้นคล้ายต้นอาเคเซียขนาดใหญ่ ใบรูปไข่ ยาว 2.5-5 ซม. มีลักษณะเป็นใบซ้อนกัน จะเป็นหนึ่งในชุด ยาว 12-25 ซม. ฤดูออกดอกเป็นพฤษภาคม-มิถุนายน และช่อดอกมีดอกสีขาวจำนวนมาก ดอกยาว 2 ซม. และมีกลิ่นหอมหวาน. ผลไม้เป็นรูปทรงเปลือกหอย ยาว 20 ซม. , กว้าง1.5-2 ซม. หากสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
    ●ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • ฟูจิ ตระกูลถั่ว
    ฟูจิ
    ฟูจิ ตระกูลถั่ว
    ไม้เถาขนาดเล็กผลัดใบ ที่พบในขอบป่าที่มีแดดส่องถึง ในภูเขา ลำต้นขนาดเล็กมีสีน้ำตาลแดง และเปลือกของลำต้นจะมีรอยแตกเล็กน้อย เมื่อต้นไม้แก่จัดแล้ว จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา สีน้ำตาล ใบมีรูปไข่ ซ้อนกันอยู่ในโคนใบเดียวกัน กว้างประมาณ 11-19 ซม. ยาวประมาณ 20-90 ซม. ดอกไม้เป็นสีม่วง บานสะพรั่ง ดอกจะยาวประมาณ 1.5-2 ซม. มีสีเหลือง มีขนสั้น ๆ นุ่ม ๆ คล้ายกำมะหยี่อยู่รอบ คล้าย ๆ กับกลุ่มดอกที่อัดอยู่หนาแน่นบนเปลือกหอย ผลยาวประมาณ 10 ถึง 20 เซนติเมตร จะสุกเต็มที่ในเดือนตุลาคม เมล็ดนิยมมาคั่วเพื่อใช้รับประทาน

    ●ความสูง สูงเท่ากับเถาเครือที่สามารถพันขึ้นไปได้
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • มามัทซึนากิ ตระกูลถั่ว
    มามัทซึนากิ
    มามัทซึนากิ ตระกูลถั่ว
    ไม้พุ่มผลัดใบ ที่พบในป่าทุ่งหญ้าชุ่มชื้น ในเนินเขา ริมแม่น้ำในทุ่งหญ้า และบริเวณริมถนนต่างๆ เป็นพืชที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก เนื่องจากมีรากที่แข็งแรงยึดกับพื้นดินไว้แน่นหนา และปรับสภาพได้ดีตลอดทั้งปี แม้จะดึงทั้งต้นออกไปแล้ว จะยังคงมีรากฝอยที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ จึงมีชื่อว่า โคมะ-ทซึนากิ แปลว่า หญ้าคอแผงม้า ใบมีรูปร่างยาวประมาณ 0.8-2 ซม. โคนใบจะประกอบด้วยใบประมาณ 9-11 ใบเป็นหนึ่งชุด ฤดูบานจากกรกฎาคม-สิงหาคม ดอกไม้มีสีแดงม่วง ดอกไม้ยาวประมาณ 5 มม. ผลไม้มีรูปทรงกระบอก ยาว 3 ซม. เมื่อสุกมาก ๆแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ และนิยมนำมาคั่วจนสุกแล้วรับประทาน

    ●ความสูง ประมาณ 50-90 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • เนมุ โนกิ (ต้นผ้าไหม) ตระกูลถั่ว
    เนมุ โนกิ (ต้นผ้าไหม)
    เนมุ โนกิ (ต้นผ้าไหม) ตระกูลถั่ว
    ไม้ผลัดใบขนาดเล็ก ที่พบในป่าที่มีแดดส่องถึง มีกิ่ง ลำต้นที่มีเปลือกลักษณะหยาบ โคนต้นมีสีน้ำตาลอมเทา และสามารถสังเคราะห์แสง (ช่วยให้ก๊าซที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างอากาศและเนื้อเยื่อภายในของพืชได้ดี) ลำต้นกว้างประมาณ 30 ซม. และมีลักษณะที่เปลือกปิดลง ดูราวกับว่าต้นไม้กำลังจะนอน จึงชื่อญี่ปุ่นว่า Nemu-Noki แปลว่า ต้นไม้นอน ใน 1โคนกิ่ง จะประกอบด้วยใบประมาณ 30-60 ใบซ้อน ๆ กัน ใบหนา 1 -1.7 ซม. ยาว 4-6 มม. บานเต็มที่ในระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม กลีบดอกไม้ยาว 8 มม. โดดเด่นด้วยสีชมพูที่ในเกสร ดอกเมื่อบานเต็มที่จะยาวประมาณ 10 - 15 ซม. เป็นรูปทรงเปลือกหอย และผลเมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ใน1ผลจะประกอบด้วยเมล็ดจำนวน 10-18 เมล็ด

    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 10 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ, มินามิ-ทาคาโอะ
  • ยามา ฮากิ ตระกูลถั่ว
    ยามา ฮากิ
    ยามา ฮากิ ตระกูลถั่ว
    ไม้ผลัดใบขนาดเล็ก ที่พบในป่าที่มีแดดส่องถึง เป็นหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นสมุนไพร 7 ชนิดที่เป็นที่รู้จักดี เป็นพืชพรรณที่นำมาใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ได้มีลำต้นขนาดใหญ่ เนื่องจากลำต้นนั้นราบกับพื้นดิน และมีกิ่งก้านสาขาจำนวนมากลำต้นมีขนาดเล็ก ยาว โคนกิ่งจะประกอบด้วยใบ 3 ใบ ใบมีความยาว 2-4 ซม. ,มีลักษณะคล้ายรูปไข่ ปลายกลมและขนสีขาวที่ด้านหลังของใบ ดอกจะเริ่มบานในระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน ช่อดอกยาว เติบโตออกมาจากก้านใบ เมื่อบานเต็มที่ดอกจะยาวประมาณ 1.3-1.5 ซม. มีสีแดง สีม่วง กลีบเลี้ยงของดอกจะบานในลักษณะที่ห้อยดอกลงเป็นตุ้มเป็นพวง หลังจากดอกแบก 1-1.5 ซม. ผลไม้มีลักษณะเป็นรูปไข่ ทรงเปลือกหอย เมล็ดพันธ์จะแก่จัดสามารถนำไปขยายพันธ์ได้ในระหว่างเดือนตุลาคม

    ●ความสูง ประมาณ 1 ถึง 2 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ, มินามิ-ทาคาโอะ
  • มารุบ่ะ ฮากิ ตระกูลถั่ว
    มารุบ่ะ ฮากิ
    มารุบ่ะ ฮากิ ตระกูลถั่ว
    ไม้พุ่มผลัดใบที่พบในบริเวณเนินเขา บนภูเขาที่มีแดดจัด ลำต้นจะมีเปลือกไม้ที่เรียบ สีน้ำตาล (เปิดที่ช่วยให้ก๊าซที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างอากาศและเนื้อเยื่อภายในของพืช) ลำต้นเมื่อโตเต็มที่จะตั้งขึ้น ต่างจากพืชพรรณตระกูลถั่วทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะใบ จะเป็นลักษณะใบกลม ๆ จึงได้ชื่อว่า มารุบะ-ฮากิ ซื่งแปลว่า พืชใบกลม ๆ ใบมีรูปไข่ซ้อน ๆ กันหลายใบ แต่ละใบยาวประมาณ 2 ถึง 3 ซม. , และมีขนอ่อน ๆ สีขาว ฤดูออกดอกตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม และช่อดอก (ก้านดอก) งอกออกมาจากก้านใบ ดอกมีสีแดงสีม่วง ยาวประมาณ 1-1.5 ซม. ช่อดอกสั้นกว่าพืชชนิดอื่นในตระกูลเดียวกัน หลังจากที่ดอกบานเต็มที่ จะยาวประมาณ 6-7 มม. ผลไม้มีรูปร่างรูปไ เปลือกแบบยาว มีขนสีขาวสั้น ๆ ที่อยู่ภายใน และมีเมล็ดพันธุ์ที่ขยายพันธ์ได้ โดยจะแก่จัดประมาณเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน

    ●ความสูง ประมาณ 1-3 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ, มินามิ-ทาคาโอะ
  • คิฮากิ ตระกูลถั่ว
    คิฮากิ
    คิฮากิ ตระกูลถั่ว
    ไม้พุ่มผลัดใบที่พบในเนินป่าที่แดดส่องถึง จากภูเขาเนินจนถึงยอดเขา ลำต้นเป็นสีเทาและเป็นลำต้นที่ตั้งสูงขึ้น เมื่อลำต้นเริ่มโตเต็มที่ จะมีกิ่งก้านสาขาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง / สีดำ ลำต้นกว้าง 5 ซม. พืชชนิดนี้จะเป็นพืชที่มีกิ่งก้านมากที่สุดในตระกูลเดียวกัน จึงชื่อภาษาญี่ปุ่น คิฮากิ แปลว่า ต้นไม้สามใบพับ หมายถึงมีกิ่งก้านมากเป็น 3 เท่า ใบรูปไข่ กว้าง 3 - 4 ซม. ฤดูบานจากเดือนกรกฎาคม-กันยายน. ดอกเป็นดอกเดี่ยว เมื่อบานเต็มที่ ช่อดอกที่แทงยอดออกมาจะก้านใบ ดอกมีสีเป็นสีเหลืองอ่อน มีลายเส้นสีแดงสีม่วง ดอกเมื่องนเต็มที่จะมีเส้นผ่าศูนย์กลา 1-1.5 ซม. ผลไม้รูปไข่ มีขนสั้น ๆ ขึ้นโดยรอบ มีเมล็ด 1 เมล็ดข้างใน และเมื่อแก่จัดเต็มที่จะกลายเป็นสีน้ำตาล

    ●ความสูง ประมาณ 2 ถึง 3 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 5
  • มิยามา ชิคิมิ ตระกูลส้ม
    มิยามา ชิคิมิ
    มิยามา ชิคิมิ ตระกูลส้ม
    ไม้พุ่มเขียวชอุ่ม ลำต้นสูงไม่เกิน 1 เมตร เจริญเติบโตได้ดีตลอดทั้งปี พบในเขตป่าในภูเขาทาคาโอ่ะ ส่วนมากจะพบในป่าต้นสน อยู่ใกล้เชิงเขา และที่อากาศหนาวเย็น ใบมีลักษณะคล้ายต้น skimmia จึงมีชื่อญี่ปุ่น Miyama - sikimi แปลว่า ต้นมิยามา สคิมเนีย ใบยาว 4-9 ซม.,กว้าง3-5 ซม. มีรูปไข่ ใบมีลักษณะมันวาว ออกดอกปีละ 1 ครั้ง ในระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมกลีบดอกจะยื่นออกมาออกนอกโคนต้นที่ดูสวยงามมาก ในโคนดอก มีเกสรตัวผู้ที่เป็นแท่งโคนโน้มออกจากตัวดอก และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางของโคนดอก มีเกสรสีเหลือง ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. มีสีขาว ยาว 5-8 มม. ผลไม้รูป ทรงกลม และมีเมล็ดพันธุ์ 1 เมล็ดอยู่ภายใน เมื่อแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่จะมีส่วนที่เป็นพิษ ที่เรียกว่า skimmianine และที่มีอยู่ในผลไม้มากที่สุด หารับประทานเข้าไป อาจทำให้เกิดการล้มป่วยลงได้

    ● ความสูง ประมาณ 1 ถึง 1.5 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย 1 - 3 - 4 ภูเขาอินาริ
  • อาคาเม่ะ คาชิว่า ตระกูล ยูฟอร์เบียซี (ไม้ประภาคาร)
    อาคาเม่ะ คาชิว่า
    อาคาเม่ะ คาชิว่า ตระกูล ยูฟอร์เบียซี (ไม้ประภาคาร)
    ไม้พุ่มผลัดใบ พบตามริมถนน เขตป่า เนินเขา บริเวณที่มีแดดส่องถึง ในป่าร้อนชื้น ตามภูเขา ในภูเขา ลำต้นมีขนาดเล็ก สีเทา สีน้ำตาล เมื่อเติบโตเต็มที่จะกว้างประมาณ 50 ซม. ใบมีลักษณะรูปไข่ ยาว 7-20 ซม. ใบอ่อนมีขนสีแดงอยู่หนาแน่น ใช้ในการห่ออาหาร ชื่อญี่ปุ่น Akame-gashiwa แปลว่า ไม้แดง ดอกไม้บาน ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้มีสีเหลือง ยาว7-20 ซม และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน ละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ ผลเป็นรูปไข่ ยาว 8 มม. ,และเมื่อสุกเต็มที่ จะกลายเป็นสีน้ำตาล ช่วงประมาณเดือนกันยายน

    ● ความสูง ประมาณ 5 ถึง 15 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1
  • ยามา อุรุชิ (ต้นรัก) ตระกูลมะปราง
    ยามา อุรุชิ (ต้นรัก)
    ยามา อุรุชิ (ต้นรัก) ตระกูลมะปราง
    เป็นต้นไม้ผลัดใบที่มีขนาดเล็ก หรือพุ่มที่ปลูกป่าใน ใกล้ริมลำธารของป่า บริเวณที่มีแดดส่องถึงในพื้นที่ภูเขา เป็นต้นไม้ที่ปรับสภาพได้ดีตลอดทั้งปี ลำต้นของต้นไม้จะเป็นสีเขียว และแต่งแต้มด้วยสีเทา ขาว และเมื่อต้นไม้เจริญเติบโตเต็มที่ เปลือกของลำต้นจะเริ่มเปลียนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ลำต้นกว้างประมาณ 5 ซม.ใบมีลักษณะเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใน 1 กิ่งจะประกอบด้วยใบประมาณ 9-17 ใบ มีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 5 - 12 ซม. กว้าง 3-6 ซม. ขอบใบมีรอยหยักคล้ายกับฟันของใบเลื่อย มีลักษณะหยาบกร้าน และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ออกดอกระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ช่อดอกยาวประมาณ 15-25 ซม.,ดอกสีเหลือง ขนาดเล็ก เมล็ดมีรูปร่างทรงกลม ยาวประมาณ 6 มม., เมื่อแก่จัดจะกลายเป็นสีน้ำตาลเหลือง ประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม และใบจะเริ่มเปลียนเป็นสีแดง

    ● ความสูง ประมาณ 3-8 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 - 2 ภูเขาอินาริ , มินามิ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • เอโรฮ่า โมมิจิ (เมเปิ้ล) ตระกูลโมมิจิ
    เอโรฮ่า โมมิจิ (เมเปิ้ล)
    เอโรฮ่า โมมิจิ (เมเปิ้ล) ตระกูลโมมิจิ
    เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในป่า บริเวณพื้นที่ลาดเอียงที่มีแดดส่องถึง บริเวณพื้นที่บนภูเขา บริเวณที่ชื้น และตามริมลำธาร นิยมนำมาประดับสวน เป็นไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือน บอนไซ จึงมีชื่อเรียก เอโรฮ่า โมมิจิ แปลว่าเมเปิ้ลจำลอง เมือลำต้นโตเต็มที่จะเริ่มเปลียนจากสีเขียวเป็นสีเทาเข้ม และลำต้นจะเริ่มตั้งสูงขึ้น ลำต้นกว้างประมาณ 60 ซม. 1โคนกิ่งจะประกอบด้วยใบประมาณ 5 - 7 ใบ เป็นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งใบของต้นไม้เมเปิ้ลแต่ละต้น แต่ละสายพันธ์ ก็จะจะมีสีที่แตกต่างกันไป เช่น สีแดง , สีเหลือง, สีส้มและ สีน้ำตาล ปลายขอบใบจะมองไกลๆ เหมือนสีแดง เนื่องจากแสงแดดส่องกระทบ จะออกดอกช่วงระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นไม้ใบที่มีความงดงามในโทนสีแดงจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วง

    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 ถึง 4
  • อุระคิเอเด่ะ (เมเปิ้ลแคระ) ตระกูลโมมิจิ
    อุระคิเอเด่ะ  (เมเปิ้ลแคระ)
    อุระคิเอเด่ะ (เมเปิ้ลแคระ) ตระกูลโมมิจิ
    เป็นไม้ผลัดใบ ที่มีขนาดเล็ก หรือไม้พุ่มที่พบมากในป่า ในสถานที่แห้งแล้ง ที่ที่มีแดดจัด เช่น บนเนินเขา ลำต้นมีสีเขียว เนื่องจากเป็นต้นที่มีขนาดเล็กนี้เอง จึงมีชื่อว่า อุระคิเอเด่ะ แปลว่า เมเปิ้ลแคระ ซึ่งเป็นสายพันธ์ที่เล็กที่สุด มีใบขาดเล็กที่สุดในกลุ่มเมเปืล ยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร ออกดอกระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์ ดอกไม้มีสีเหลือง ดอกยาวประมาณ 8 มม. เมื่อดอกแก่จัด ในโคนดอกจะมีเมล็ดอยู่ภายใน ซึ่งเป็นเมล็ดที่มีขนอ่อน ๆ สามารถลอยไปตามลมได้ เรียกว่า ซามาระ ซึ่งรูปร่างของเมล็ดจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับด้ามพัด (อูจิวะ) เมล็ดพันธ์จะมีสีแดง และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ที่มีรูปทรง ( Uchiwa )เป็นเมล็ดสีแดง ใบของเมเปิ้ลเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดงเช่นกัน

    ● ความสูง ประมาณ 6-8 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย 2 - 4 ภูเขามินามิ-ทาคาโอะ
  • โอโมมิจิ (โมมิจิยักษ์) ตระกูลโมมิจิ
    โอโมมิจิ   (โมมิจิยักษ์)
    โอโมมิจิ (โมมิจิยักษ์) ตระกูลโมมิจิ
    เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในป่า บริเวณที่มีแดดจัด บนเนินเขาพื้นที่ลาดเอียง และที่ที่มีความชื้น ลำต้นเมื่อเริ่มเป็นต้นอ่อนจะมีสีเขียว และเมื่อแก่ตัวลงจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาสีน้ำตาล ลำต้นจะเริ่มตั้งสูงขึ้น ลำต้นกว้างประมาณ 60 ซม. ใบจะมีขนาดใหญ่เป็นเอกลัษณ์ จึงได้มีชื่อว่า โอโมมิจิ แปลว่า โมมิจิยักษ์ ใบยาว ประมาณ 7-11 ซม. ใน 1 โคนกิ่งจะประกอบด้วยใบประมาณ 5-9 ใบ ซึ่งคล้าย ๆกับต้นปาล์ม ขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย ออกดอกประมาณเดือนเมษายน เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์ ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้วยดอกเล็ก ๆ ประมาณ15 ถึง 30 ดอก ใน 1 ดอกจะประกอบด้วยดอกประมาณ 5 กลีบ แต่งแต้มด้วยสีเหลืองอ่อน หรือม่วง เมล็ดจะมีลักษณะเป็นปีกนก และมีขนอ่อน ๆ สีขาว สามารถลอยไปตามลมไปตกในที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการขยายพันธ์ต่อไป และจะออกดอกประมาณเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน

    ● ความสูง ประมาณ 10-13 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 ถึง 4
  • จิโดนิ โน๊ะกิ ตระกูลโมมิจิ
    จิโดนิ โน๊ะกิ
    จิโดนิ โน๊ะกิ ตระกูลโมมิจิ
    เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในป่า สถานที่ชื้นเล็กน้อย เช่น ในหุบเขาใกล้ ๆ กับริมลำธารที่มีความชื้น ลำต้นประมาณ 15 ซม. ลำต้นเป็นสีเขียวแต่งแต้มด้วยสีเทา เมื่อต้นแก่เต็มที่ จะมีเริ่มมีเปลือกที่ลำต้นค่อนข้างหนา และลำต้นจะเริ่มตั้งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 7-15 ซม. กว้างประมาณ 3-7 ซม. ขอบใบมีลัษณะเป็นฟันคล้าย ๆ กับฟันของใบเลื่อย มีลักษณะหยาบ ต่างจากต้นเมเปิ้บในสายพันธ์อื่น ๆ ที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน ออกดอกประมาณเดือนพฤษภาคม ใบยาวประมาณ 8 ซม. ดอกมีสีเหลืองอ่อน ที่มีขนาดเล็กยาวประมาณ 1 ซม. เมล็ดจะมีลักษณะมีขนรอบ ๆ และมีปีกคล้ายปีกนก เพื่อช่วยให้สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปตกในที่ต่าง ๆ ในการขยายพันธ์ได้ ประมาณเดือนสิงหาคม-ตุลาคม

    ● ความสูง ประมาณ 8 ถึง 10 เมตร
    ● สถานที่ ถนนายTrail 1 และ 2 , 4 , 6 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • อาเคบิ ตระกูลอาเคเบีย
    อาเคบิ
    อาเคบิ ตระกูลอาเคเบีย
    พบในภูเขาและทุ่งหญ้า เป็นที่รู้จักสำหรับผลไม้ที่กินได้และผลไม้ผิวดี ชื่อ Akebi แปลว่า ผลไม้ที่แกะกินเมื่อสุกงอม ซึ่งหมายถึงผลไม้ที่จะเริ่มสุก ดอกจะเริ่มบานเมื่อต้นฤดูใบไม้ผลิ พร้อมกับบานดอกสีม่วงอ่อนบนก้านดอกไม้ที่ดูงดงาม เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์ เกสรตัวเมียยาว 3 ซม. ยาวและยาวเป็น 2 เท่าของขนาดของเกสรตัวผู้ 1 โคนกิ่งจะประกอบด้วยใบประมาณ 5 ใบ ซึ่งเป็นลักษณะรูปไข่ขนาดเล็กอยู่บนก้านใบ ผลไม้ยาว 5 ถึง 10 เซนติเมตรยาวและขนาดเล็กรูปไข่ จะเริ่มสุกในเดือนกันยายน ผลเริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง และพร้อมจะยากออกจากกิ่ง ผลไม้ที่จะเริ่มทานได้ตั้งแต่ยังอ่อนอยู่ ซึ่งทานแล้วทำให้ผิวดี และให้ความร้อนกับแต่ขอแนะนำให้ความอบอุ่นกับผิวได้ดี

    ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 8 ฟุต
    ●สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • คาทซึระ ตระกูลคาทซึระ
    คาทซึระ
    คาทซึระ ตระกูลคาทซึระ
    เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง พบป่าตามแนวหุบเขาที่มีความชื้น บริเวณเนินเขา ลำต้นจะมีสีเขียว แต่งแต้มด้วยสีน้ำตาลแดง และเมื่อต้นไม้ได้เริ่มแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็น สีดำสีเทาสีน้ำตาล ลำต้นกว้างประมาณ 2 เมตร เปลือกของลำต้นจะเริ่มหนาขึ้นเรื่อย ๆ และลอกออก ใบลักษณะคล้ายรูปหัวใจ เส้นรอบวงประมาณ 3 ถึง 8 ซม. ขอบใบเป็นรอยหยักเหมือนฟันของใบเลื่อย และมีลักษณะคล้าย ๆ แป้งอยู่ด้านล่างของใบ ออกดอกช่วงประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม มีกลีบดอก และกลีบเลี้ยงล้อมรอบอย่างงดงาม เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ ดอกมีสีแดง สีม่วง แต่งแต้มด้วยสีชมพูอ่อนฉูดฉาด เมล็ดมีรูปร่างคล้ายกล้วย ยาวประมาณ 1.5 ซม. เมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ สีม่วง ในฤดูใบไม้ร่วง

    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 - 4 , Trail 6 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • ซาคากิ ตระกูลทซึบากิ
    ซาคากิ
    ซาคากิ ตระกูลทซึบากิ
    เป็นไม้ป่าดิบ ที่เติบโตในป่าบนพื้นที่ภูเขา เนินเขา ลำต้นจะเป็นสีเขียวอมแดง และสีน้ำตาลเข้ม ใบมีลักษณะกลม ขนาดเล็กจำนวนมาก ลำต้นยาวประมาณ 30 เซนติเมตร เริ่มแตกกิ่งก้านตั้งแต่ช่วงฤดูหนาว ใบถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมของลัทธิชินโต ถือว่าเป็นต้นไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยนำใบประดับในแท่นบูชา ซึ่งมีความเชื่อนี้มาตั้งแต่อดีตกาล ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 8 ถึง 10 ซม. กว้างประมาณ 2-4 ซม. หนา​​และเงางาม ฤดูกาลอกกดอกประมาณช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ใน 1 โคนกิ่งจะประกอบด้วยดอก 1-3ดอก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 ซม. มีกลีบดอกไม้ 5 กลีบ ที่เริ่มเป็นขาวในตอนแรก และจากนั้นต่อมาก็จะเริ่มมีสีเหลืองมาแซม เมล็ดมีรูทรงกลม ยาวประมาณ 7 มม. กสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ และเริ่มแก่เต็มที่ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ซึ่งจะเปลียนเป็นสีดำ สีม่วง

    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 12 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 ถึง 3
  • ฮิซาคากิ ตระกูลทซึบากิ
    ฮิซาคากิ
    ฮิซาคากิ ตระกูลทซึบากิ
    เป็นต้นไม้ขนาดเล็ก ไม้พุ่มผลัดใบ ที่พบในพื้นที่ป่า เนินเขา ลำต้นจะมีสีเขียวอมเทา หรือน้ำตาล ดำ ดูเรียบและงดงาม ลำต้นเมื่อโตเต็มที่แล้ว จะกว้างประมาณ 20 ซม. นิยมมามาปลูกเป็นพืชสวน จัดสวน เป็นไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือน และไม้ยังนำไปใช้เป็นเครื่องมือ วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ของพวกเขา ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 3-8 ซม. กว้างประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร ขอบใบมีรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย ใบจะหนาและเงางาม ออกดอกในระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ดอกจะเป็นรูปทรงระฆัง มีชนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 - 6 มม. ใน 1 โคนกิ่งจะประกอบด้วยดอกไม้ประมาณ 1 - 3 ดอก ดอกตัวผู้ ดจะถูก แต่งแต้มด้ว สีเหลือง สีขาว และมีกลิ่นเฉพาะ เมล็ดมีรูปร่างทรงกลมกว้างประมาณ 4 ถึง 5 มม. , และจะแก่จัดในระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ซึ่งจะเปลี่ยนเนสีดำ สีม่วง

    ● ความสูง ประมาณ 3-7 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail ที่ 1 ถึง 3
  • ยาบุทซึบากิ ตระกูลทซึบากิ
    ยาบุทซึบากิ
    ยาบุทซึบากิ ตระกูลทซึบากิ
    เป็นต้นไม้ ที่เติบโตในป่าดงดิบ ที่เจริญเติบโตในป่า เนินป่าเนินเขาและพื้นที่ภูเขาที่ไม่สูงมากนัก ลักษณะใบกว้าง ด้านนอกจะเป็นสีเทา สีน้ำตาล รอบ ๆใบจะมีเชื้อรา หรือสาหร่ายเกาะเคลือบติดอยู่เสมอ มักจะนำพืชพรรณนี้ไปใช้ในการประดับไม้สวน ตามอาคารบ้านเรื่อง เป็นหย่อมๆ ดูงดงาม ลำต้นมีสีเขียว และสีขาวแซม ลำต้นกว้างประมาณ 30 ถึง 40 ซม. เมื่อลำต้นโตเต็มที จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แดง และนำไม้นี้มาใช้ในการทำวัสดุไม้ สถาปัตยกรรมและ ประติมากรรมไม้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังนำเมล็ดไปทำการสกัดเอาน้ำมัน จากดอกเคมีเลีย ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 5-10 ซม. กว้างประมาณ 3-6 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องคล้ายร่องฟันของใบเลื่อย ใบจะหนา ออกดอกประมาณเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ใน 1 โคนกิ่งจะประกอบด้วยดอกไม้ประมาณ 1 ถึง 2 ดอก ซึ่งมีสีแดง ขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 ซม. กลีบดอกไม้มี 5 กลีบเมล็ดมีรูปทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-2.5 ซม. และเมื่อผลแต่จัดจะเริ่มเปลี่ยนมาเป็นสีน้ำตาล สีแดง

    ● ความสูง ประมาณ 5 ถึง 15 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 3 , จากทากิ
  • คิบุชิ ตระกูลคิบูชิ
    คิบุชิ
    คิบุชิ ตระกูลคิบูชิ
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เจริญเติบโตในป่าลึก เนินเขา ลำต้นแต่งแต้มด้วยสีน้ำตาลและ สีดำ และเมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่แล้วลำต้นจะเริ่มตั้งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใบรูปไข่ ยาวประมาณ 6 ถึง 12 ซม. กว้างประมาณ 3-6 ซม. ขอบเป็นรอยหยักคล้ายเป็นร่องฟันของใบเลื่อย ฤดูกาลออกดอกในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ดอกมีลักษณะเป็นลักษณะคล้ายรูประฆังคว่ำ กว้างประมาณ 4 ถึง 10 ซม. โดยห้อยหัวลงมาเป็นตุ้ม มีสีขาว เกสรตัวผู้ยาว 8 มม.มีสีเหลือง และเกสรตัวเมียมีสีเขียวอมเหลือง เมล็ดรูปวงรีและทรงกลม ยาวประมาณ 8 มม. เมล็ดเมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีเขียว ซึ่งประมาณช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม เหตุผลที่ใช้ชื่อ คิบุชิ เนื่องจาก นิยมใช้เมล็ดพันธุ์เหล่านี้เป็นแทนสมอดีงูชนิดหนึ่งได้ จึงได้ใช้ชื่อนี้สืบมา

    ● ความสูง ประมาณ 3 ถึง 5 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 5 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ-ทาคาโอะ
  • อุริโนกิ ตระกูลอุริโนกิ
    อุริโนกิ
    อุริโนกิ ตระกูลอุริโนกิ

    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เติบโตในพุ่มไม้ในพื้นที่ภูเขา เนินเขา รูปทรงของใบจะมีความคล้ายคลึงกับพืชพรรณในตระกูลแตง ลำต้นมีสีเทาอมเขียว มีขนสั้นโดยรอบ ใบมีความยาว 10 ถึง 20 ซม. ใน1 โคนกิ่งจะมีใบประมาณ 3 - 5 ใบ ใบมีลักษณะบาง และมีขอบที่คม ออกดอกประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ดอกมีสีขาว มีความยาวประมาณ 3 - 3.5 ซม. มีกลีบดอก 6 กลีบ พวกเขามี 12 เกสร กสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ ละอองเรณูจะมีสีเหลือง เมล็ดมีรูปทรงกลมหรือวงรี เมื่อสุกเต็มที่จะกลายเป็นสีฟ้า คราม ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในฤดูใบไม้ร่วง


    ● ความสูง ประมาณ 3-4 เมตร

    ● สถานที่ ถนนสายTrail 2 และ 3 - ที่ 5 และ 6 , ภูเขาอินาริ

  • อาโอกิ ตระกูลมิซูกิ
    อาโอกิ
    อาโอกิ ตระกูลมิซูกิ
    เป็นไม้พุ่มป่าดิบ ที่เติบโตในป่าในชนบท โคนต้นเป็นสี เขียว มันวาว มีลายเส้นสีเทาสีน้ำตาลบางๆ และต้นจะตั้งตรงเป็นแนวยาว และเมื่อลำต้นแก่เต็มที่ยิ่งจะเริ่มตั้งสูงขึ้นไปเรื่อย และลำต้นจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาสีน้ำตาล เมล็ดจะมีสีแดง จะเติบโตเต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ได้รับความนิยมจากการที่นำต้นดังกล่าวนี้มาประดับเป็นไม้สวน ไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือน พบครั้งแรกในภูเขาทาคาโอ่ะ และได้ตั้งชื่อนี้ อาโอกิ ตั้งแต่ปี 1908 ใบมีรูปวงรี กว้างประมาณ 8 ถึง 20 ซม. ขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายกับฟันของใบเลื่อย ฤดูกาลที่ออกดอกประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ดอกไม้มีสีม่วง เป็นดอกขนาดเล็ก รวมกันเป็นช่อดอก เมล็ดเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 2 ซม. โดยเมล็ดจะแก่จัดและพร้อมที่จะขยายพันธ์ต่อไปได้อยู่ในระหว่างเดือนธันวาคม-พฤษภาคม

    ● ความสูง ประมาณ 2 - 3 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , ภูเขาอินาริ , โอคุ-ทาคาโอะ
  • ฮานะอิคาดะ ตระกูลมิซูกิ
    ฮานะอิคาดะ
    ฮานะอิคาดะ ตระกูลมิซูกิ
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เจริญเติบโตในป่า เนินเขา และในบริเวณที่มีความชื้น เช่นใกล้กับริมธารบนภูเขา ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม มันเงา ลักษณะของดอกเป็นเอกลักษณะ เป็นดอกไม้ขนาดเล็ก ซึ่งดอกจะบานอยู่ตรงกลางโคนใบ ซึ่งใบจะมีลักษณะเป็นใบที่กว้างมาก ที่มองเห็นได้ชัดเจนและสวยงามมาก จึงได้รับการตั้งชื่อว่า ฮานะอิคาดะ แปลว่า ดอกไม้ใบกว้าง ใบเป็นรูปวงรี กว้าง 6 ถึง 12 ซม. ขอบใบเป็นรอยหยักเหมือนฟันของใบเลื่อย ฤดูกาลของดอกที่บานในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เป็นดอกไม้ที่มี สีเขียวอ่อน , ยาวประมาณ 5 มม. เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ เมล็ดมีรูปร่าง ทรงกลม ในเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.7-1 ซม.เมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ สีม่วง ในเดือน สิงหาคม-ตุลาคม . เมล็ดมีรสหวาน และใบอ่อนนำมาปรุงอาหารรับประทาน ทอดกับแป้งเทมปุระ และใบสามารถนำไปต้ม ประกอบอาหารได้

    ● ความสูง ประมาณ 1-3 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 4 Trail 6 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • มิซูกิ ตระกูลมิซูกิ
    มิซูกิ
    มิซูกิ ตระกูลมิซูกิ
    เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง ปกติพบในป่า ในพื้นที่ภูเขา เนินเขาและเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในบริเวณที่มีความชื้นสูง ตามริมลำธาร ลำต้นเติบโตกว้าง 40 ถึง 50 ซม. มีกิ่งก้านสาขาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ด และปรับสภาพกับอากาศได้ดีตลอดทั้งปี เมื่อลำต้นโตเต็มที่ ผิวเปลือกไม้ของลำต้นจะเปลี่ยนเป็นสีดำเทา และมีความสูงเพิ่มเรื่อย ๆ เนื้อไม้เป็นสีขาว และนำมาใช้ทำวัสดุ หัตถกรรม และวัสดุที่ใช้ในครัวเรือนที่ทำได้จากไม้ งานฝีมือ พื้นบ้าน เช่น Kokeshi ( ไม้ ตุ๊กตา ) ใบเป็นรูปวงรี กว้างประมาณ 6-15 ซม. ใบเป็นมันเงา และด้านหลังเป็นสีขาวเหมือนเคลือบด้วยแป้งทั่วใบ ฤดูกาลออกดอกระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ดอกสีขาวขนาดเล็ก ยาวประมาณ 7 มม. เมล็ดมีรูปร่างทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7 มม. เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีดำ สีม่วง ระหว่างเดือน มิถุนายน

    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 และ 2 , 4 , 6 ภูเขาอินาริ , อุระ-ทาคาโอะ
  • คุมาโน มิซูกิ ตระกูลมิซูกิ
    คุมาโน มิซูกิ
    คุมาโน มิซูกิ ตระกูลมิซูกิ
    ไม้ผลัดใบขนาดเล็ก ที่พบในเนินเขาชุ่มชื้นสูง และหุบเขา เนินเขา ลำต้นมีสีเขียวและสีเทาเข้ม เมื่อลำต้นโตเต็มที่ลำต้นจะเริ่มตั้งสูงขึ้น กว้างประมาณ 30 ซม. ชื่อภาษาญี่ปุ่น Kumano-misuki เป็นชื่อนี้เนื่องจากว่า พืชเจริญเติบโตได้ในพื้นที่เมืองมิเอะ จังหวัดคุมาโน่ ใบมีขนาดหน้าแคบ แต่มีการบานนานมาก 1 ดอกบานนานกว่า 1 เดือน นานกว่าพืชพรรณอื่นในตระกูลเดียวกัน เจริญเติบโตเต็มที่ประมาณเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม. ใบเป็นรูปไข่ มีความยาว 6-15 ซม. ,กว้าง 3-7 ซม. มีขนสั้นสีขาว. ดอกเมื่อบานเต็มที่จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางได้เท่ากับ 7-8 มม. ดอกสีเหลืองสีขาวหนาแน่น ดอกจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางขณะบานเต็มที่ 5 มม. และมีผลเป็นสีดำอมม่วง ในขณะที่ผลได้แก่จัดแล้วประมาณช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม

    ●ความสูง ประมาณ 8 ถึง 12 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 5 ภูเขาอินาริ
  • ยาม่ะโบชิ ตระกูลมิซูกิ
    ยาม่ะโบชิ
    ยาม่ะโบชิ ตระกูลมิซูกิ
    ต้นไม้ผลัดใบขนาดเล็กที่พบในบริเวณที่มีความชื้นสูง ในป่า ทุ่งหญ้า เนินเขา ฯลฯ ลำต้นเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาล ผิวลำต้นราบเรียบ เมื่อต้นไม้แก่เต็มที่ จะเริ่มมีเปลือกของต้นไม้แล้วแตกออก ใบเป็นรูปไข่ มีความยาว 4-12 ซม. จะมีเส้นหล่อเลี้ยงอยู่ที่ด้านหลังของใบ เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ใบจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม. ใน 1โคนดอก จะประกอบไปด้วยดอกไม้เล็ก ๆ มากกว่า 20 - 30 ดอกชื่อภาษาญี่ปุ่น Yama-boushi เป็นชื่อเพราะรูปร่างของดอกคล้ายพระด้วยหมวกสีขาวครอบอยู่ ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 ซม. ผลไม้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ประมาณเดือนกันยายน และผลไม้สามารถนำไปรับประทานได้

    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 10 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail1, ภูเขาอินาริ
  • มิทซึบะ ทซึทซึจิ ตระกูลทซึทซึจิ
    มิทซึบะ ทซึทซึจิ
    มิทซึบะ ทซึทซึจิ ตระกูลทซึทซึจิ
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เติบโตในป่าลึก เนินป่า ตามโขดหิน และในป่าที่มีความชื้นมาก ๆ ลำต้นเป็นสีเขียวอมเทาและดำ ผิวของเปลือกของลำต้นดูเรียบเนียน เปลือกบาง เมื่อลำต้นแก่เต็มที่จะเริ่มเปลี่ยนมาเป็นสีเขียวอมม่วงและแดง ใบหนา หน้ากว้าง มีความยาวประมาณ 4-7 ซม. รูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน กว้างประมาณ 2.5-5 ซม. ใบอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน และขอบใบจะงอโค้งขึ้นทั้งสองด้าน เมื่อใบแล้วแก่แล้ว จะเปลี่ยนเป็นสีแดงในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูกาลออกดอกเป็นเดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายน ดอกบานส่วยงามเป็นสีแดง สีม่วง ดอกซึ่งมีสวยงามและมีความโดดเด่นอย่างมาก ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ถึง 4 ซม. กลีบดอกจะมีประมาณ 5 กลีบ เมล็ดคล้ายทรงกระบอก ยาวระมาณ 0.7-1.2 เซนติเมตร แก่จัดเต็มที่ประมาณเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน และเมล็ดพันธ์ก็จะทำหน้าที่ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 3 เมตร
    ● สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • ยาม่า ทซึทซึจิ ตระกูลทซึทซึจิ
    ยาม่า ทซึทซึจิ
    ยาม่า ทซึทซึจิ ตระกูลทซึทซึจิ
    เป็นไม้พุ่ม กึ่งป่าดิบกึ่งป่าชุ่มชื้น ที่เติบโตในป่าลึก เนินเขา และใกล้แหล่งน้ำ ริมธาร ฯลฯ เจริญเติบโตได้ดีระหว่างในฤดูใบไม้ผลิ - ฤดูใบไม้ร่วง จนถึงฤดูหนาว มีการปรับตัวเข้าได้ทุกฤดู ลำต้นเป็นสีเขียวแต่งแต้มด้วยสีดำสีเทา ผิวเปลือกของลำต้นราบเรียบ เปลือกบางไม่หนามากนัก ใบรูปวงรี ยาวประมาณ 3 ถึง 5 ซม.กว้างประมาณ 1-3 ซม. ใบมีลักษณะบาง และหน้าแคบ แต่มีผิวพอง เนื้อหยาบ ฤดูร้อนใบจะมีขนาดเล็กกว่า ใบในฤดูใบไม้ผลิ ยาวประมาณ 1 ถึง 2 ซม. ยาว ออกดอกระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน ดอกมีสีแดงบน มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ถึง 5 ซม. กลีบดอกมีทั้งสิ้น 5 กลีบมีสีเข้ม กลีบดอกด้านในจะมีสีขาวขุ่น เมล็ดรูปวงรี ยาวประมาณ 8 ถึง 13 มม.เป็นสีน้ำตา และจะแก่เต็มที่ในระหว่างเดือนสิงหาคม เดือนตุลาคมถึง เมล็ดจะเริ่มแตกออกและทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป

    ● ความสูง ประมาณ 1-4 เมตร
    ● สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • มารุบา อาโอดาโม่ ตระกูลโมกุเค
    มารุบา อาโอดาโม่
    มารุบา อาโอดาโม่ ตระกูลโมกุเค
    ต้นไม้ผลัดใบขนาดเล็กที่พบในขอบป่าแห้งในภูเขา ลำต้นเป็นสีเทาและมีผิวเปลือกค่อนข้างราบเรียบ ลำต้นอ่อนมีสีเขียวเข้ม และมีขนเป็นสีเทา ใบยาวประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ใน 1 ก้านใบจะมีใบทั้งสิ้น 5-7 พับซ้อนกันอยู่ ใบกว้าง 5-12 ซม. เป็นรูปไข่ที่มีขอบใบหยักคล้าย ๆกับร่องฟันของใบเลื่อย ฤ ดูออกดอกเป็นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ ดอกไม้จะห้อยเป็นพวงเล็ก ๆ ดอกยาว 6-7 มม. กว้าง 4-5 มม.ผลมีสีแดงและลักษณะแบน และทำหน้าทีในการขยายพันธ์ต่อไป

    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 15 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาคิตะ-ทาคาโอะ...
  • เทคะ คาสึระ (มะลิดาว) ตระกูลดอกโมก
    เทคะ คาสึระ  (มะลิดาว)
    เทคะ คาสึระ (มะลิดาว) ตระกูลดอกโมก
    ไม้เครือเถาที่พบในป่าในภูเขา ชายป่า และบริเวณที่อากาศชุ่มชื้น
    ลำต้นยาว เติบโตโดยการขยายรากแก้ว มีการปรับตัวได้ดีทุกสภาพอากาศและเติบโตได้ดีตลอดทั้งปี สามารถพันเครือเข้ากับต้นไม้ใหญ่ได้
    ลำต้นมีขนาดเล็ก ใบมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 8 ซม. ใบยาว 3-7 ซม. มีรูปไข่, และใบมีลักษณะผิวมันวาว
    ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 - 5 ซม. มีกลิ่นหอมมาก ดอกไม้มีลักษณะเล็กเป็นพวง ใน 1 พวงดอกจะประกอบด้วยดอกไม้เล็ก ๆ ประมาณ 5 ดอกขึ้นไป และกลีบดอกจะมีลักษณะหนาพอสมควร ทำให้ดอกอวบและมีความโดดเด่น
    สีของดอกเป็นสีขาวในตอนแรก แต่ค่อยๆเปลี่ยนสีเหลือง เมือดอกบานเต็มที่ แล้วก็จะถึงฤดูกาลการออกผล ผลจะยาว 15 ~ 25 ซม. และเมื่อสุกแล้วจะมีขนสีขาวและมีปีก เพื่อให้เมล็ดนั้นลอยไปตามลม เพื่อทำการขยายพันธ์ได้
    ชื่อญี่ปุ่น Teika-Kazura ถูกตั้งชื่อตามชื่อของกวี นักประพันธ์ นักวิจารณ์ด้านศิลปะท่านหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุ่น

    ●ฤดูกาล เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน
    ●ความสูง ประมาณ 25 - 30 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 4, ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • มูราซากิ ชิกิบุ คุมะ ทซึจิระ
    มูราซากิ ชิกิบุ
    มูราซากิ ชิกิบุ คุมะ ทซึจิระ
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เติบโตในป่า เนินเขา บริเวณที่มีความชื้น แหล่มริมธาร หรือสามารถพบเห็นได้ตามป่าทั่ว ๆ ไป ลำต้นมีสีเขียวถูกแต่งแต้มด้วยสีเทาอ่อน และผิวเปลือกของลำต้นนั้นราบเรียบ ลำต้นจะตั้งตรงสวยงาม นิยมที่จะนำไม้พรรณนี้นำมาเป็นไม้ประดับในสวนหย่อม ประดับตามอาคารบ้านเรือน ซึ่งถือได้ว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 6-13 ซม. ขอบใบคมชัดสวยงาม และขอบใบด้านบนยังเป็นรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย ฤดูกาล ออกดอกระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ดอกไม้มีสีม่วง เส้นผ่าศูนย์กลางดอกไม้ประมาณ 4 มิลลิเมตร กออกเป็น 4 จะแบน เปิดเป็น 4 เกสร เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ ละอองเรณูจะมีสีเหลือง และสามารถขยายพันธ์ได้อย่างง่าย

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 3 เมตร
    ● สถานที่ ภูเขาอินาริ , โอคุ-ทาคาโอะ
  • อุควิสุกะ คุระ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    อุควิสุกะ คุระ
    อุควิสุกะ คุระ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    เเป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เติบโตในป่า เนินเขา บริเวณที่มีความชื้น แหล่มริมธาร หรือสามารถพบเห็นได้ตามป่าทั่ว ๆ ไป ลำต้นมีสีเขียวถูกแต่งแต้มด้วยดำ และผิวเปลือกของลำต้นนั้นราบเรียบ ลำต้นจะตั้งตรงสวยงาม เมื่อลำต้นโตเต็มที่ จะเป็นสีเขียวอมแดงเรื่อ ๆ นิด ใบเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3-6 ซม. กว้างประมาณ 2-4 ซม. แตกหน่อจากด้านข้าง ด้านหลังของใบเป็นผิวบาง ๆ แต่งแต้มด้วยสีขาวฤดูกาลออกดอกประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม ดอกเป็นสีชมพูอ่อนฉูดฉาด กลีบดอกมีบาง รูปทรงกระบอก มีรูปร่างเหมือนแตรประมาณยาว 1-1.5 ซม. มีกลีบดอก 5 กลีบ จะแบน เปิดเป็น เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ เมล็ดรูปวงรี ยาวประมาณ 1-1.5 ซม. เมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ในเดือนมิถุนายน มีรสชาติหวาน รับประทานได้

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 3 เมตร
    ● สถานที ถนนสายTrail เพลส 1 , ภูเขาอินาริ
  • ชิคุ บาเน่ะทซึกิ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    ชิคุ บาเน่ะทซึกิ
    ชิคุ บาเน่ะทซึกิ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    ต้นไม้ผลัดใบขนาดเล็กที่พบในป่าลึก ในชายป่า ป่าแห้งในภูเขา ลำต้นเป็นสีเทาและมีผิวเปลือกค่อนข้างราบเรียบ ลำต้นอ่อนมีสีเขียวเข้ม และมีขนเป็นสีเทา เมื่อต้นโตเต็มที่จะกลายเป็นสีเทาสีน้ำตาล , ที่เปลือกของลำต้นจะมีรอยแตก ใบเป็นรูปวงรี กว้างประมาณ 2 ถึง 5 ซม. ขอบใบเป็นร่องคล้ายร่องฟันของใบเลื่อยฤดูกาลออกดอกประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ดอกไม้มีสีเหลืองอ่อน ลักษณะดอกไม้เป็นลักษณะคล้ายรูประฆัง เกสรตัวเมียวางอยู่ตรงกลางดอก ดอกยาวประมาณ 2-2.7 เซนติเมตร แยกออกมาเป็นกลีบดอก 5 กลีบ ส่วนเมล็ดพันธ์ จะมีความยาวประมาณ 8 -14 มม. เมล็ดมีลักษณะที่มีขนโดยรอบ และมีปีกคล้ายปีกนก คล้ายใบ Hanetsuki เมื่อดอกแก่จัด จะลอยไปตามลม เพื่อที่จะทำหน้าที่ขายพันธ์ได้ในโอกาสต่อไป ซึ่งเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์และโตเต็มที่จะอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน ถึงเดือนพฤศจิกายน และจากนั้นก็จะลอยไปตามลม เพื่อขยายพันธ์

    ● ความสูง ประมาณ 1.5-2 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 5 ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • Viburnum plicatum var . tomentosum ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    Viburnum plicatum var . tomentosum
    Viburnum plicatum var . tomentosum ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    ต้นไม้ ผลัดใบ ขนาดเล็ก (น้อยกว่า 10 เมตร ต้นไม้สูง ที่ หาย ใบของมัน อีกครั้ง ในปีที่ผ่าน) ที่พบใน ขอบป่า เปียกและ waterside.Branches ขยาย ในแนวนอนและ ใบอ่อน มีสีน้ำตาล กับผม . เห่า เป็น สีเทา สีดำ เรียบและ มีการวาง lenticels บางครั้งบางคราว ( เปิด ที่ช่วยให้ ก๊าซ ที่จะ แลกเปลี่ยนระหว่าง อากาศและเนื้อเยื่อ ภายในของ พืช) . ใบ มี 5 ถึง 12 เซนติเมตรยาว และกว้าง รูปไข่ กับผม tip.Have แหลม บน เส้น ใบ ด้านหลังและ ขอบ ฟัน ( ขอบ ของใบ เป็นเหมือน ฟัน ของ เลื่อย) . บลูมมิ่ง ฤดู ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน บาน 5-6 มม. ใน เส้นผ่าศูนย์กลาง สี ครีม ดอก กะเทย ( เกสร ตัวเมีย และ อยู่ร่วมกัน ในหนึ่ง ดอก ) ล้อมรอบด้วย 3 ถึง 4 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง ดอกไม้ ประดับ สีขาว ( ช่อดอก รอบทิศทาง มี เกสร หรือ เกสร ) ใน ช่อดอก ( ต้นกำเนิด ด้วยดอกไม้ ) เติบโตจาก สาขา . นี้ดูเหมือนว่า ลูก ด้าย จึงชื่อ ญี่ปุ่นยาบุ demari หมายถึง ลูก ด้าย ใน พุ่มไม้ . ผลไม้ 5-7 มม. ยาวและ รูปไข่ และหลัง เปลี่ยนสีแดง จากเดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม เปลี่ยนเป็นสีดำ ตามที่พวกเขา ทำให้สุก

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 6 เมตร
    ● สถานที่ Kita- ทาคาโอะ
  • กามาสุมิ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    กามาสุมิ
    กามาสุมิ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    พุ่มไม้ผลัดใบที่พบในชายป่า ในภูเขาที่มีแดดจัด ลำต้นเป็นสีเทาสีน้ำตาลและผิวเปลือกนั้นราบเรียบ มีท่อเพื่อที่จะทำการสังเคราะห์แสง เพื่อทำการให้ก๊าซที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างอากาศและเนื้อเยื่อภายในของพืชอีกทางหนึ่ง ใบมีความยาว 6-14 ซม. กว้าง 3 ถึง 13 ซม. ขอบในมีรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย มีขนทั้งสองด้านและต่อมใบที่แตกต่างกัน ฤดูกาลที่ดอกบานอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน. ดอกสีขาวขนาดเล็ก ๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 ถึง 10 ซม. ดอกมีลักษณะอยู่กันเป็นกลุ่มเป็นพวง อย่างน้อย 5 ดอก รวมเป็น 1 พวง กสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร ผลไม้เป็นรูปไข่ยาวประมาณ 6 มม. และเปลี่ยนเป็นสีแดงจากกันยายน-พฤศจิกายน. ในฤดูหนาวเปลี่ยนเป็นแป้งสีขาวกลายเป็นหวานและกินได้

    ●ความสูง ประมาณ 2-4 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 4 ภูเขาอินาริ, โอคุ-ทาคาโอะ
  • ซุย คาสุระ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    ซุย คาสุระ
    ซุย คาสุระ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    เถาไม้กึ่งผลัดใบพบได้ที่ริมถนนในภูเขา เป็นพืชที่สามารถดำรงชีวิตได้ยืนยาว ลำต้นเติบโตระยะยาว มีกิ่งก้านสาขามากมาย ลำต้นเป็นสีเทาสีน้ำตาล, ลักษณะเป็นแนวตั้งขึ้นไปข้างบน และมีเส้นขนที่หยาบกร้านบนกิ่ง ชื่อภาษาญี่ปุ่น Sui-Kazura แปลว่า ดูดองุ่น เนื่องจากในดอกไม้มีน้ำหวาน ที่เราสามารถดูดได้รสชาติหวานเหมือนน้ำตาล ใบยาว 3-7 ซม. , กว้าง1-3 ซม. รูปไข่มีขนขึ้นรอบ ๆ อย่างหนาแน่นที่ด้านหลังของใบ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ดอกจะเริ่มบานสะพรั่ง พร้อมกับอวดความหวานของดอกไม้ที่ฐานของก้านใบ. ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 ถึง 4 ซม. มีท่อน้ำหวานอยู่ด้านใน กลีบบนจะห้อยเป็นตุ้มออกมา ภายในมีกลีบดอกสีขาวและสีแดง เมื่อแก่จัดจะค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นสีเหลือง ผลไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 ถึง 6 มม. ,และเมื่อแก่จัดก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำ ในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม

    ●ความสูง เท่ากับความสูงที่เถาวัลย์จะเกี่ยวขึ้นไปถึงต้นไม้ใหญ่ได้
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • โคย่า โบกิ (เถาวัลย์เปรียง) ตระกูลดอกเบญจมาศ
    โคย่า โบกิ  (เถาวัลย์เปรียง)
    โคย่า โบกิ (เถาวัลย์เปรียง) ตระกูลดอกเบญจมาศ
    เป็นดอกไม้ในตระกูลดอกเบญจมาศที่มีขนาดเล็กมากที่สุด เป็นพุ่มไม้ผลัดใบ ลำต้นไม่สูงมากนัก มักจะเติบโตในป่าแห้งแล้ง เนินเขา และบริเวณที่มีแดดส่องถึง ลำต้นมีสีเขียวและแต่งแต้มด้วยสีเทา สีน้ำตาล ได้ค้นพบครั้งแรกในภูเขาโคย่า จึงเป็นที่มาของชื่อนี้ โคย่า โบกิ ( Kouya - Bouki ) หรือ เถาวัลย์เปรียง นิยมนำไม้นี้ไปทำประโยชน์ เช่น ไม้กวาด หรือนำไปใช้แทนไม้ไผ่ได้ ฤดูกาลออกดอก ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ใน 1 กลุ่มดอก จะประกอบด้วยดอกไม้เล็ก ๆ ประมาณ 13 ดอก ดอกยาวประมาณ 1.5 cm. ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร ใบหนา มีขนาดสั้นสามารถแบบรับดอกไว้ได้แน่นหนา ขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายเป็นร่องฟันของใบเลื่อย

    ● ความสูง ประมาณ 60 ซม. ถึง 1 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 5 ภูเขาอินาริ , โอคุ-ทาคาโอะ
  • เฟิร์น สึกินะ (หญ้าปล้อง) ตระกูลหญ้าปล้อง
    เฟิร์น สึกินะ (หญ้าปล้อง)
    เฟิร์น สึกินะ (หญ้าปล้อง) ตระกูลหญ้าปล้อง
    เฟิร์นพืชที่พบในแม่นํ้า บริเวณทีมีแดดส่องถึง เขตทุ่งหญ้าทั่วไป บ่อยครั้งก็จะพบเห็นว่าเฟิร์นชนิดนี้อยู่ในกลุ่มที่เติบโตด้วยสปอร์ เช่นเดียวกับที่กลุ่มที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบมีสีเขียวเข้ม ลำต้นมีสีน้ำตาลอ่อน อยู่พ้นจากพื้นดิน และชั้นของสปอร์รอบรากของเฟิร์นหญ้าปล้อง ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์วิจัยจากสหรัฐอเมริกา ผู้เป็นต้นกำเนิดในการฆ่าเชื้อที่ลำต้น เพื่อให้การสปอร์นั้นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างองค์ประกอบสารอาหารที่ผ่านการสังเคราะห์โทนิค ซึ่งถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เฟิร์นชนิดนี้ชื่อภาษาญี่ปุ่น Sugina แปลว่า หน่อเหง้าที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมที่จะทำสปอร์ได้ และเฟิร์นสึกินะนี้ เราสามารถนำมาปรุงแต่งอาหารรับประทานได้ โดยการต้ม หรือหมัก

    ●ฤดูกาล เดือนมีนาคม ถึงเดือนกันยายน
    ●ความสูง ประมาณ 10 -15 ซม. (เฉพาะยอด) ประมาณ 10 -40 ซม. (รวมทั้งต้น)
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • โอฮานะ วาราบิ (หญ้าอานม้า) ตระกุลหญ้าอานม้า
    โอฮานะ วาราบิ (หญ้าอานม้า)
    โอฮานะ วาราบิ (หญ้าอานม้า) ตระกุลหญ้าอานม้า
    เฟิร์นโอฮานะ วาราบิ จะมีการเจริญเติบเฤดูหนาวอย่างเต็มที่ และจะเริ่มตายลงในช่องฤดูร้อน ส่วนใหญ่พบในป่า หรือในดินที่อุดมไปด้วยจากเนินเขาไปยังภูเขา. โอฮานะ วาราบิจะทำการสังเคราะห์โทนิคโดยใบ เฉพาะใบที่มีสปอร์ เติบโตจากหนึ่งก้านใบไปสู่ก้านใบถัดไป ขนาดลำต้นสูงประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ใบจะมีขนาดเล็ก และขอบใบเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย ซึ่งจะมีขนสั้น ๆ รอบ ๆ ใบด้วยเช่นกัน แล้วแต่สายพันธ์ ใบจะมีลักษณะนุ่ม และมีสีเขียวหรือสีน้ำตาล พืชที่มีลักษณะทางพันธุกรรมคล้ายคลึงกันคือ ternatum botrychium และ botrychium nipponicum และ เฟิร์นโอฮานะ วาราบิ จะมีการสปอร์บนลำต้น ก้านใบ สปอร์จะสุกในระหว่างตุลาคม-พฤศจิกายน

    ●ฤดูกาล เดือนตุลาคมถึงมีนาคม
    ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • เซนไม (เฟิร์น) ตระกูลเฟิร์น
    เซนไม  (เฟิร์น)
    เซนไม (เฟิร์น) ตระกูลเฟิร์น
    เฟิร์นเซนไม จะเริ่มเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูร้อน เฟิร์นจะมีสีเขียวเข้ม หลังจากนั้น หากถึงฤดูหนาว เฟิร์นจะเริ่มเหี่ยวและตายลงในที่สุด พบเฟิร์นชนิดนี้ในป่าและทุ่งหญ้า รวมไปถึง เขตภูเขา ชอบพื้นที่เปียกและมักจะพบอยู่ใกล้ลำธารและคู ใบอ่อนจะมีการสร้างรูปทรงบิดเป็นเกลียว และปกคลุมด้วยขนรอบ ๆ ดูแล้วคล้ายเหรียญเก่าที่เรียกว่า zenmaki ต่อจากนั้นได้เปลี่ยนมาเป็น ชื่อปัจจุบัน คือ Zenmai จึงใช้เป็นชื่อเฟิร์น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เฟิร์น Zenmai จะเป็นที่นิยมในการนำไปปรุงอาหารไว้รับประทาน ยกเว้นใบอ่อนของเฟิร์น ซึ่งใบอ่อนจะได้รับการสังเคราะห์โทนิค และใบสปอร์ จึงไม่นิยมที่จะมารับประทาน เพราะอาจได้รับสารพิษหรือผลกระทบได้ เฟิร์นเซนไม จะเจริญเติบโตเต็มที่จนมีความสูงถึงประมาณ 50 ซม. มีสีเหลืองและสีเขียวอ่อน ขอบใบจะมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย ที่หลังใบเฟิร์น จะมีเส้นใบเลี้ยงคล้ายเส้นเลือดอย่างมองเห็นได้ชัดเจน หลังจากที่ทำการสปอร์แล้ว ใบของเฟิร์นจะเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวไปเป็นสีน้ำตาล ในฤดูร้อน แต่หลังจากนั้นพอถึงฤดูหนาว เฟิร์นจะเริ่มเหี่ยวและตายลง

    ●ฤดูกาล ประมาณเดือนเมษายนถึงกันยายน
    ●ความสูง ประมาณ 50 ซม. ถึง 1 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
  • วาราบิ (เฟิร์นผักกูด) ตระกูลเฟิร์น
    วาราบิ  (เฟิร์นผักกูด)
    วาราบิ (เฟิร์นผักกูด) ตระกูลเฟิร์น
    เฟิร์นนี้เป็นพืชพรรณที่เจริญเติบโตในฤดูร้อนเฟิร์นเ และจะเริ่มแก่ตัวลง และเหี่ยวลงในปลายฤดูฤดูหนาว พบในพื้นที่อากาศหนาวเย็น ในเนินป่า และป่าดงดิบ ในทุ่งหญ้าที่มีแดดส่องถึง และย่านที่อยู่อาศัยจากเนินเขาไปยังยอดเขา ใช้การขยายพันธ์โดยใช้เหง้า ซึ่งจะฝังตัวอยู่ในใต้ดิน เช่นเดียวกับเฟิร์นพันธ์อื่นๆ ในตระกูลเดียวกัน ใบอ่อนจะนิยมมาปรุงอาหารรับประทานได้ แต่จะต้องมีการแช่อยู่ในน้ำ เพื่อที่จะลบส่วนที่เป็นพิษออกเสียออก เพราะพืชพรรณชนิดนี้มีพิษอยู่ทั้งลำต้น ใบยาวประมาณ 50-70 ซม.ใบจะมีลักษณเรียวยาว มีรูปร่างเป็นรูปสามเหลี่ยม ห้าเหลี่ยม ขอบใบเป็นกลียวคลื่น และล่างใบจะมีแป้งมีขนสั้น ๆ อยู่รายรอบ นุ่มเหมือนขนนก พื้นผิวหยาบ ๆ มีขนรายรอบ และสากมือไม่เงางาม และจะมีสารที่ทำปฏฺกริยากับสปอร์ ที่ด้านหลังใบ

    ●ฤดูกาล ประมาณเดือนเมษายนถึงกันยายน
    ●ความสูง ประมาณ 1 ถึง 2 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • คิจากุซิด้า (เฟิร์นนกยูง) ตระกูลแอสเตอร์
    คิจากุซิด้า (เฟิร์นนกยูง)
    คิจากุซิด้า (เฟิร์นนกยูง) ตระกูลแอสเตอร์
    เฟิร์นนี้เป็นพืชพรรณที่เจริญเติบโตในฤดูร้อนเฟิร์น และจะเริ่มแก่ตัวลง และเหี่ยวลงในปลายฤดูฤดูหนาว พบในพื้นที่อากาศหนาวเย็น ในเนินป่า และป่าดงดิบ ก้านใบได้งอกออกมาจากโคนต้นโดยตรง หนึ่งก้านใบแบ่งออกเป็นหลายสาขาและมีใบจำนวนมากคล้ายนกยูงเปิดหางจึงชื่อญี่ปุ่น Kujyaku-sida แปลว่า เฟิร์นนกยูงแพนหาง ลำต้นใต้ดินเติบโตและมีเกล็ดเล็กน้อย (ส่วนใหญ่รูปร่างเหมือนที่พบในลำต้นและก้านใบเฟิร์นใน) ก้านใบจะบาง มีสีแดงสีม่วง ใบมีความยาวประมาณ 15-25 ซม. กว้างประมาณ 30 ซม จุดสปอร์ของใบ จะมีสีเขียวสด และอ่อนนุ่ม และมีพระจันทร์รูปครึ่งเสี้ยว ทั้งขอบบนด้านหลัง ต้นกล้ามีประกายสีแดง และเมื่อมองไปที่พืชชนิดนี้จากระยะไกล อาจปรากฏมองคล้าย ๆ เป็นดอกไม้ ปัจจุบันนิยามนำมาประดับสวน

    ●ฤดูกาล เดือนพฤษภาคม ถึงกันยายน
    ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 6
  • โอบาโนโนโมโต (ว่านกีบแรด ว่านกีบม้า) ตระกูลว่าน
    โอบาโนโนโมโต (ว่านกีบแรด ว่านกีบม้า)
    โอบาโนโนโมโต (ว่านกีบแรด ว่านกีบม้า) ตระกูลว่าน
    เฟิร์นชนิดนี้มีใบสีเขียว สามารถดำรงชีวิตได้ตลอดทั้งปี พบในป่า เนินเขา และยอดเขา มีจุดสปอร์ทีใบ ชื่อภาษาญี่ปุ่น Oobano-inomotoso แปลว่า เฟิร์นใบใหญ่ เนื่องจากมีใบขนาดใหญ่กว่าเฟิร์นสายพันธ์อื่นในตระกูลเดียวกัน พืชพรรณนี้จะทนกต่อดินฟ้าอากาศได้ดีกว่าเฟิร์นสายพันธ์อื่น ๆ ซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้ดีตลอดทั้งปี มีก้านใบเป็นสีน้ำตาล 1 กิ่งประกอบด้วยใบประมาณ 6-14 ใบ ใบกว้างประมาณ 1.5-3 ซม. ยาวประมาณ 20 ถึง 60 ซม. . ใบด้านล่างยาวประมาณ 16 ซม ก้านใบของเฟิร์นนี้ ที่ใบจะมีจุดสปอร์ สำหรับกาารสังเคราะห์ แสง) ที่รอบใบจะมีขนสั้น ๆ อ่อนนุ่มรายรอบ และขอบใบจะมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย มีจุดปอร์ตรงใบ เนื่องจากพืชพรรณนี้สามารถสังเคราะห์แสงได้ ใบมีลักษณะบาง และกว้างกว่าเฟิร์นเซนไม และเฟิร์นวาราบิ

    ● ฤดูกาล ประมาณเดือนมกราคม ถึงเดือนธันวาคม
    ● ความยาวของใบ ประมาณ 20 ถึง 60 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 3 Trail 5-6
  • เฟิร์นจูมงจิซิด้า ตระกูลเฟิร์น สปรีนเวิร์ท (spleenwort)
    เฟิร์นจูมงจิซิด้า
    เฟิร์นจูมงจิซิด้า ตระกูลเฟิร์น สปรีนเวิร์ท (spleenwort)
    เฟิร์นนี้เป็นพืชพรรณที่เจริญเติบโตในฤดูร้อนเฟิร์น และจะเริ่มแก่ตัวลง และเหี่ยวลงในปลายฤดูฤดูหนาว เป็นเฟิร์นป่าดิบ ที่มีใบสีเขียว และเจริญเติบโตได้ดีตลอดทั้งปี พบในบริเวณที่มีความชุ่มชื้น ตามริมลำธารน้ำไหล ที่ขอบป่า เนินป่า และบนภูเขาสูง ใบเฟิร์นมีขนาดใหญ่และมีลักษณะคล้ายบานประตูที่ปิดไว้ทั้งสองด้าน จึงมีชื่อว่า Jyumonji - sida แปลว่า เฟิร์นบานประตูทั้งสอบ ใช้เหง้าในการขยายพันธ์จากด้านล่างของลำต้นที่อยู่ใต้ดิน ก้านใบมีเกล็ดสีน้ำตาล รูปร่างโดยรวม (ลำต้น ใบ โคนต้น กิ่ง ฯลฯ) จะคล้าย ๆ กับเฟิร์นสายพันธ์ข้างเคียง ที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน ซึ่งมีใบที่ขึ้นเป็นหลักๆ ตามโคนต้นอยู่หนาแน่นมาก เรามักจะนำไปปรุงอาหาร โดยใช้ต้นกล้า เหง้า โดยการถอดเกล็ดออก แล้วนำไปหมัก แล้วนำไปชุบแป้งเทมปูระทอดะ ก้านใบมีความยาวประมาณ 15 - 35 ซม. และใบเล็ก ๆ บนลำต้นส่วนบน จะมีลักษณะคล้ายรูปตะขอ ยาวประมาณ 3 - 5 ซม. วัดความยาวทั้งหมดของลำต้นประมาณ 60 ซม. จะมีปุ่มสปอร์อยู่ใต้ใบ เพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง ขอบใบจะมีร่องฟัน รอยหยักคล้ายฟันของใบเลื่อย นอกจากนี้ สปอร์จะสุกเร็วกว่าเฟิร์นพันธ์อื่นๆ ในตระกูลเดียวกัน

    ● ฤดูกาล ประมาณ เดือนมกราคมถึงเดือน ธันวาคม
    ● ความยาวของใบ ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
    ● สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • โคโมทัช (เฟิร์นโอเรียทอล) ตระกูลเฟิร์นตะวันออก
    โคโมทัช  (เฟิร์นโอเรียทอล)
    โคโมทัช (เฟิร์นโอเรียทอล) ตระกูลเฟิร์นตะวันออก
    เฟิร์นเอเวอร์กรีนที่มีใบสีเขียวตลอดทั้งปีที่พบนบริเวณที่มีความชื้อสูง เติบโตไปพร้อมกับสปอร์ที่ใบ เพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง และหน่อเหง้าที่ใช้ในการขยายพันธ์ ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงมีชื่อญี่ปุ่นว่า Komochi-sida แปลว่าเฟิร์นเด็ก หมายถึงเฟิร์นที่มีลักษณะความพร้อมที่จะเติบโตในเวลาอันรวดเร็ว มีต่อสปอร์ที่ใหญ่ชัดเจน เริ่มเติบโตจากใบเล็ก ๆ บนพื้นดินในฤดูร้อน จนตลอดถึงฤดูใบไม้ร่วงของฤดูกาลถัดไป ซึ่งจะมีการงอกหน่อเหง้าของเฟิร์นชุดใหม่อีกครั้ง ก้านใบยาวประมาณ 30 - 60 ซม. ความสูงของลำต้นทั้งหมดประมาณ 30 เซนติเมตร ถึง 2 เมตร ใบจะมีลักษณะหนา หนักและเงางาม ขอบใบจะมีรอยหยักร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย จุดสปอร์ที่อยู่หลังใบ จะมีสารเคลือบป้องกันด้วย indusium อยางแน่นหนา

    ●ฤดูกาล ประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม
    ●ความยาวของใบ ประมาณ 30 ซม. ถึง 2 เมตร
    ●สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • เฟิร์นอุจิวะโกเค่ะ ตระกูลเฟิร์นเอเวอร์กรีน
    เฟิร์นอุจิวะโกเค่ะ
    เฟิร์นอุจิวะโกเค่ะ ตระกูลเฟิร์นเอเวอร์กรีน
    เฟิร์นเอเวอร์กรีนที่มีใบสีเขียวตลอดทั้งปีที่พบนบริเวณที่มีความชื้อสูง เติบโตไปพร้อมกับสปอร์ที่ใบ เพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง และหน่อเหง้าที่ใช้ในการขยายพันธ์ ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ขนอยู่หนาแน่น. และปลูกลงบนพื้นดิน และวางใบ โคนต้นไปกับพื้นผิวของพื้นดิน ใบเมื่อเข้าชุดกันแล้วจะมีลักษณะคล้ายพัดลม หรือรูปหัวใจ ซึ่งใบเล็ก ๆ จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ถึง 2 ซม. จะรวบกันเป็นโคนต้นทีดูแน่นหนา เช่นเดียวกันต้นปาล์ม ต้นหมาก ชื่อภาษาญี่ปุ่น Uchiwa-goke แปลว่า เฟิร์นพัดลมกระดาษ ซึ่งได้มาจากโคนต้นที่รวบใบมารวมกัน มองดูคล้ายพัดลมกระดาษ ก้านใบเป็นแนวยาวเป็นเส้นตรง โค้งตรงปลาย ยาว 1 ซม. พื้นผิวของใบเป็นบางอย่างโปร่งใส ด้านหลังใบจะมีจุดสปอร์ เหมือนกับใบเฟิร์นสายพันธ์อื่นในตระกูลเดียวกัน

    ●ฤดูกาล ประมาณเดือนมกราคม ถึงเดือนธันวาคม
    ●ความสูง ประมาณ 1-2 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 6
  • เฟิร์นโนคิสึ โนบุ (Lepisorus thunbergianus) ตระกูลเฟิร์นเอเวอร์กรีน
    เฟิร์นโนคิสึ โนบุ  (Lepisorus thunbergianus)
    เฟิร์นโนคิสึ โนบุ (Lepisorus thunbergianus) ตระกูลเฟิร์นเอเวอร์กรีน
    เฟิร์นเอเวอร์กรีนที่มีใบสีเขียวตลอดทั้งปี ที่พบในบริเวณใกล้กับถ้ำ ภูเขาหิน และใกล้กับต้นไม้ใหญ่ และนอกจากนี้เรานิยมนำใบของเฟิร์นชนิดนี้นำมาใช้เป็นวัสดุมุงหลังคา ชายคา หรือที่กั้นระหว่างห้องของคนญี่ปุ่น จึงมีชื่อญี่ปุ่น Nosiki-nobu ตัวซ่อนอยู่บนชายคา เหง้ามีลักษณะสั้น และมีรากฝอยขนาดใหญ่ ใช้ในการหาอาหารให้กับลำต้น ซึ่งส่วนใหญ่รูปร่างก็จะเหมือนๆที่พบในลำต้นและก้านใบเฟิร์นของสายพันธ์อื่นๆ การตั้งลำต้น จะเติบโตในแนวนอนโดยการเจริญเติบโตด้วยการหาอาหารจากรากขนาดเล็กจำนวนมาก ใบยาวประมาณ 12-30 ซม. โดยงอกออกมาจากโคนต้นโดยตรง ผิวใบมีสีเหลืองสีเขียว แต่ด้านหลังจะเป็นสีเขียวด้าน ไม่มันเงา ซึ่งจะสามารถ ทนสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดี ปลายใบนั้นจะมีลักษณะเรียวยาวแหลมม้วนขึ้น และขอบใบจะมีรอยม้วนโค้งเป็นคล้ายคลื่นสไปรัลสวยงาม และหลังใบจะมีจุดสปอร์ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางใบประมาณ 3 มิลลิเมตร

    ●ฤดูกาล ประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 30 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 ภูเขา-ทาคาโอะ
  • มาเมซิดะ (เฟิร์นถั่ว) ตระกูลเฟิร์นเอเวอร์กรีน
    มาเมซิดะ  (เฟิร์นถั่ว)
    มาเมซิดะ (เฟิร์นถั่ว) ตระกูลเฟิร์นเอเวอร์กรีน
    เฟิร์นเอเวอร์กรีนที่มีใบสีเขียวตลอดทั้งปี ที่พบในบริเวณใกล้กับถ้ำ ภูเขาหิน และใกล้กับต้นไม้ใหญ่ เหง้ามีลักษณะสั้น และมีรากฝอยขนาดใหญ่ ใช้ในการหาอาหารให้กับลำต้น ซึ่งส่วนใหญ่รูปร่างก็จะเหมือนๆที่พบในลำต้นและก้านใบเฟิร์นของสายพันธ์อื่นๆ การตั้งลำต้น จะเติบโตในแนวนอนโดยการเจริญเติบโตด้วยการหาอาหารจากรากขนาดเล็กจำนวนมาก ใบมีลักษณะที่หนา ก้านใบแข็งแรง สามารถพยุงใบให้ยึดกับลำต้นได้กระชับ มีใบที่หนา เงางาม และสามารถทนในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้ดี ชื่อภาษาญี่ปุ่น mame-Zita หมายถึง เฟิร์นที่มีขนาดเท่าถั่ว เนื่องจากเป็นเฟิร์นที่มีรูปร่างขนาดเล็กและกลมคล้ายกับถั่ว ใบสปอร์ที่มีประมาณ 5 ถึง 6 ซม. รูปร่างเหมือนไม้พายยาว มีจุดสปอร์ที่อยู่ใต้ใบ มีการเก็บถุงสปอร์ ไว้อย่างแน่นหนา

    ●ฤดูกาล ประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม
    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 6 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 6
  • คิโยสึมิ ดิโตโกเข่ะ (เฟิร์นหนามตะขอ) ตระกูลเฟิร์นเอเวอร์กรีน
    คิโยสึมิ ดิโตโกเข่ะ (เฟิร์นหนามตะขอ)
    คิโยสึมิ ดิโตโกเข่ะ (เฟิร์นหนามตะขอ) ตระกูลเฟิร์นเอเวอร์กรีน
    มอสส์เติบโตลดลงจากต้นไม้ในพื้นที่ครึ่งร่มรื่นใกล้ลำธารในภูเขา. ชอบสภาพแวดล้อมที่ชื้น. มากของพวกเขาจะพบใน Mt. Kiyosumi ในจังหวัดชิบะจึงชื่อญี่ปุ่น Kiyosumi-Ito-goke  มีลำต้นที่จะเติบโตไปพร้อมกับต้นไม้ใหญ่ ความสูงของลำต้นทั้งหมดตั้งแต่โคนต้นล่างจนถึง ยอดใบสุด ประมาณ 10 - 20 ซม. ใบจะมีรูปไข่ ความยาวขอบใบล่างจนถึงปลายใบสุด ประมาณ 2-2.5 มม.ใบมีร่องหยักขอบที่มีขอบฟันเหมือนฟันของขอบใบเลื่อย ใบจะมีลักษณะเป็นเงามันคล้ายน้ำมันทินเนอร์ชุบอาบเคลือบไว้ สีเป็นสีเขียวสดใสและเงางามเช่นผ้าไหมและพืชทั้งหมดมีลักษณะเหมือนลูกไม้สีเขียวเหนือต้นไม้ใบสปอร์ที่มีประมาณ 3 ซม. รูปร่างเหมือนไม้พายยาว มีจุดสปอร์ที่อยู่ใต้ใบ มีการเก็บถุงสปอร์ ไว้อย่างแน่นหนา

    ●ฤดูกาล ประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม
    ●ความยาว ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 6
※ใบเสนอราคาจากทาง app ภูเขาทาคาโอะ(แอนดี้)
もっと見る 閉じる