TAKAO 599 MUSEUM

ขุมทรัพย์ของภูเขาทาคาโอะ

Selected

นิทรรศการตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ที่ได้รับการจัดให้เพื่อทุกคนและเป็นรูปแบบของการจัดนิทรรศการแบบเปิดโล่งล้อมรอบดอกไม้ที่สวยงามตามฤดูกาลทั้งสี่ฤดู ที่พบหลากหลายที่มีความโดดเด่นก็คือแมลงที่อาศัยอยู่ในภูเขา ถูกจัดวางอยู่บนผนังซึ่งสตาฟเอาไว้ แสดงให้เห็นถึงมนต์เสน่ห์ของการพัฒนาแบบไดนามิกของทาคาโอะที่เป็นภาพยนตร์ เช่น กำแพงธรรมชาติ"ที่พิพิธภัณฑ์ ทาคาโอะ 599 ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อแสดงให้เห็นความสำคัญของสิ่งมีชีวิตที่มีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมแห่งธรรมชาติ "

  • โค๊ะนารา(โอ๊คนารา) ตระกูลฟากาซี
    โค๊ะนารา(โอ๊คนารา)
    โค๊ะนารา(โอ๊คนารา) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในพื้นที่ป่า ภูเขาและ เนินเขา หรือยังพบในบริเวณในเขตเมืองด้วยเช่นกัน เมล็ดสามารถกินได้ ปัจจุบันนิยมที่จะนำมาปลูกในเขตชุมชน เพื่อเป็นไม้ประดับ ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ลำต้นด้านนอกเป็นสีเทา ดำ เมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 1 เมตร ไม้นี้มีเนื้อไม้ค่อนข้างแข็ง และสามารถมีอายุการใช้งานได้นาน จึงนำมาใช้ในการผลิตในวัสดุการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน เฟอร์นิเจอร์ ไม้แกะสลัก ใบมีลักษณะบาง เรียวรูปไข่ ยาวประมาณ 7-15 ซม. ขอบใบมีลักษณะที่เป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย ดอจะบานประมาณเดือนมิถุนายน เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในพื้นที่ป่า ภูเขาและ เนินเขา หรือยังพบในบริเวณในเขตเมืองด้วยเช่นกัน เมล็ดสามารถกินได้ ปัจจุบันนิยมที่จะนำมาปลูกในเขตชุมชน เพื่อเป็นไม้ประดับ ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ลำต้นด้านนอกเป็นสีเทา ดำ เมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 1 เมตร ลำต้นมักถูกปกคลุมไปด้วยหนาม ลำต้นมีสีน้ำตาลเข้ม ดอกจะบานในฤดูใบไม้ร่วงของปีถัดไป

    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ เทือกเขาโอคุ - ทาคาโอะ
  • ชิระ คาชิ (สนใบไผ่) ตระกูลฟากาซี
    ชิระ คาชิ   (สนใบไผ่)
    ชิระ คาชิ (สนใบไผ่) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง ที่เติบโตในป่า บริเวณพื้นที่ภูเขา ลำต้นด้านนอก เป็นสีดำ สีเขียว เมื่อสัมผัสที่ผิวเนื้อไม้จะราบเรียบ ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 80 ซม. ปัจจุบันมักจะมีการนำมาใช้เป็นไม้สวน ไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือน ตามริมถนนหนทาง และในด้านประโยชน์ใช้สอยจากเนื้อไม้ เช่นเดียวกับที่ ถูกนำมาใช้ กับวัสดุสำหรับการก่อสร้างอาคาร สำหรับอุปกรณ์ ดนตรีและ วัสดุ เครื่องดนตรี ใบเป็นรูปบวงรี ยาวประมาณ 7-14 ซม. คมชัด ที่ขอบใบมีร่องฟัน และคล้ายกับฟันของใบเลื่อย ที่ด้านหลังใบน แต่งแต้มด้วยสีขาว ดอกบานประมาณเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในพื้นที่ป่า ภูเขาและ เนินเขา หรือยังพบในบริเวณในเขตเมืองด้วยเช่นกัน เมล็ดสามารถกินได้ ปัจจุบันนิยมที่จะนำมาปลูกในเขตชุมชน เพื่อเป็นไม้ประดับ ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ลำต้นด้านนอกเป็นสีเทา ดำ เมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 1 เมตร เมล็ดมีรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5 ซม. และจะแก่จัดในฤดูใบไม้ร่วง ในฤดูกาลต่อไปต่อไป

    ● ความสูง ประมาณ 15 to20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 ถึง 3
  • สุดาจี (chinquapin) ตระกูลฟากาซี
    สุดาจี  (chinquapin)
    สุดาจี (chinquapin) ตระกูลฟากาซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตดีในป่า บนพื้นที่ภูเขา ซึ่งเรียกว่า ' ต้นบีช ประเภท Castanopsis โดยทั่วไป ลำต้นด้านนอกเป็นสีดำ สีน้ำตาล และหากโตเต็มที่แล้วลำต้นจะกว้างประมาณ 1 เมตร เป็นไม้พรรณที่ใช้ปลูกในสวน และเป็นต้นไม้ที่ใช้ป้องกันลมได้เป็นอย่างดี และประโยชน์อีกทางคือ มักจะนำไปผลิตเป็นวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์เครื่องมือที่ทำจากไม้ เฟอร์นิเจอร์ และ เครื่องใช้ วัสดุอื่น ๆ ใบมีลักษณะเป็นรูปวงรี กว้างประมาณ 6-15 ซม. ขอบใบเป็นร่องหยักคล้ายฟันเลื่อย ดอกบานระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ขณะที่ดอกไม้บาน ใบอ่อนที่มีสีเหลือง ขึ้นมาอย่างหนาตา กลิ่นหอมจากดอกหอมรุนแรง เมล็ดพันธ์จะเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร จะเริ่มแก่จัดในฤดูใบไม้ร่วงปีต่อไป และสามารถกินได้ด้วย

    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail ที่ 1 - 3
  • ฟุสะซากุระ ตระกูลซากุระ
    ฟุสะซากุระ
    ฟุสะซากุระ ตระกูลซากุระ
    ต้นไม้ผลัดใบขนาดเล็กที่พบในบริเวณที่เปียกชื้น รวมทั้ง ในภูเขา.ลำต้นด้านนอกเป็นสีน้ำตาลสดและผิวของลำต้นค่อนข้างเรียบเนียน ลำต้นเติบโตเต็มที่ จะกว้างประมาณ 30 ซม. ซึ่งจะไม่โตขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับต้นไม้ขณะยังเป็นต้นกล้าอยู่ พื้นผิวของต้นไม้จะมีรอยแตกเล็ก ๆ เพื่อเปิดที่ช่วยให้ก๊าซที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างอากาศและเนื้อเยื่อภายในของพืช คล้ายกับต้นในตระกูลดอกซากุระ แต่ถือได้ว่า ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ใบมีความยาว 6 - 12 ซม. ดอกบานตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน และใน 1 โคนดอก จะมีดอกบานประมาณ 5-12 ดอก โดยมีสีแดงเข้ม ไม่มีกลีบดอกกลีบเลี้ยงและหรือเกสรตัวผู้จำนวนมาก แต่สามารถกระจายพันธ์ ขยายพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว ผลไม้เมล็ด หากได้รับการผสม เมล็ดเกสรตัวผู้ตัวเมียที่อยู่ภายในดอก จะ เปิดสีเหลืองในฤดูใบไม้ร่วงและเมล็ดจะบินตามลม

    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 15 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 4 จาทากิ, เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • โฮโอโนกิ ตระกุลแมกโนเลียซี
    โฮโอโนกิ
    โฮโอโนกิ ตระกุลแมกโนเลียซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในป่า รอบๆ เนินเขา รวมไปถึงพื้นที่บนภูเขา เมื่อสัมผัสกับลำต้น จะรู้สึกราบเรียบ ลำต้นสีเทา ที่มีขนาดเล็กมีกิ่งจำนวนมาก ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่จะกว้างประมาณ 1 เมตร เป็นไม้ยืนต้นที่นิยมนำมาตกแต่งบ้าน นำมาตกแต่งสวนเพื่อได้บรรยากาศสวยงาม ใบมีขนาดใหญ่ ยาว ประมาณ 20 ถึง 40 ซม. กว้างประมาณ 10-25 ซม. ใบเป็นรูปวงรี และหนา ซึ่งจุดเด่นที่มีใบหนาขนาดใหญ่นี่เอง จึงกลายเป็นเป็นชื่อเรียก โฮโอโนกิ ซึ่งแปลว่า ต้นไม้ใบยักษ์ จะพบมาในแถบฮิดะ เทือกเขาทาคายามะ จังหวัดไอจิ ) และผู้คนได้ใช้ประโยชน์ ในการนำใบมาห่ออาหาร และเป็นที่ใส่อาหาร แทนจานข้าว หลายสิบปีที่ผ่านมา ดอกไม้ก็มีขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 15 ซม. ดอกสีขาว แต่งแต้มด้วยสีเหลือง ดอกจะบานเต็มที่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน. เป็นลักษณะวงรี รูปไข่ ยาวประมาณ 10 ถึง 15 เซนติเมตร เมื่อเมล็ดแก่จัด จะสามารถทำหน้าที่เป็นเมล็ดพันธ์เพื่อที่จะขยายพันธ์ต่อไป

    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 4 เทือกเขาอินาริ, เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
  • อาบุราจัน (ไม้หอมญี่ปุ่น) ตระกูลลอราซี
    อาบุราจัน  (ไม้หอมญี่ปุ่น)
    อาบุราจัน (ไม้หอมญี่ปุ่น) ตระกูลลอราซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบ ที่มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นไม้พุ่ม มีถิ่นกำเนิดในป่า ในภูเขาลึก ซึ่งเรามักจะพบเห็นดอกเป็นพวง สวยงามเป็นสัญลักษณ์ของดอกอาบุราจันได้ในบริเวณที่มีความชื้นตามภูเขา ลำต้นมีสีเขียว แต่งแต้มด้วย สีเทา น้ำตาล ขนาดเล็ก ลำต้นข็งแรง ดังนั้นคนก็นำไปใช้ประโยชน์ โดยใช้ในการขึงตาข่ายแทนไม้ไผ่ ในการล้อมรั้ว และอื่น ๆ อีกมากมาย ' อาบุราจัน ' หมายถึง ' ต้นไม้สกัดน้ำมันจากธรรมชาติ ทำให้มองให้เห็นว่า ในสมัยโบราณ คนเราใช้น้ำมันจากการสกัดจากเมล็ดของผลไม้ชนิดนี้ เป็นวิธีการทางธรรมชาติ ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 4-9 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2-4 ซม. ดอกจะบานเต็มที่ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ใน 1 โคนดอกจะมีดอกเล็ก ๆ อยู่ประมาณ 3-5 ดอก มี 6 กลีบ ความยาว 2 มม. มีสีเหลืองสวยงาม มีเกสรตัวผู้ตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถผสมพันธ์ในดอกเดียวกันได้ เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเป็นท่อยาวชูขึ้นออกนอกโคนดอก และเกสรตัวเมียเป็นละอองเกสรอยู่ตรงกลางดอก เมล็ดทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 ซม. ผลเมื่อแก่จัดจะเป็นสีน้ำตาล เหลือง ในเดือนกันยายน

    ● ความสูง ประมาณ 3 ถึง 6 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 3-6 , เทือกเขาอินาริ, เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ ,มินามิ-ทาคาโอะ
  • Lindera obtusiloba ตระกูลลอราซี
    Lindera obtusiloba
    Lindera obtusiloba ตระกูลลอราซี
    เป็นต้นไม้ผลัดใบที่มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นพุ่มไม้ที่เติบโตในป่า ใกล้แหล่งลำธารในป่าดงดิบ ป่าชื้น และเนินเขาทั่ว ๆ ไป ลำต้นเป็นสีเขียว และแต่งแต้มด้วย สีเทา ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่ กว้าง 18 ซม. ในขณะที่ต้นยังอ่อนอยู่ จะมีสีเลืองอมเขียว มีเปลือกที่หนานุ่ม แต่ต่อมาเมื่อต้นเริ่มแก่ลง ขนที่ขึ้นรอบโคนต้นจะเริ่มหายไป จะกลายเป็นสีเหลือง สีน้ำตาลในที่สุด ใบเป็นรูปใข่ กว้างประมาณ 5 ถึง 15 ซม. ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดในฤดูใบไม้ร่วง ดอกจะเริ่มบานประมาณเดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่า ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีดอกไม้สีเหลือง จะบาน พร้อมกับกลิ่นที่หอมฟุ้งกระจายในช่วงต้น ฤดูใบไม้ผลิ ที่ภูเขาทาคาโอะ นอกจากนี้ยังมีชื่ออื่นให้เรียกอีก ตามสีของดอก; คือดอกกำยาน เมล็ดมีรูปทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 มม. ขณะเมล็ดอ่อนอยู่จะมีสีแดง เมื่อแก่จัดแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ในเดือนกันยายน-ตุลาคม

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 6 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 5 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ- ทาคาโอะ
  • คาขุอุทซิกิ (เถาวัลย์เปรียงไฮเดรนเยีย) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    คาขุอุทซิกิ  (เถาวัลย์เปรียงไฮเดรนเยีย)
    คาขุอุทซิกิ (เถาวัลย์เปรียงไฮเดรนเยีย) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    พุ่มไม้ผลัดใบที่พบอยู่บนเนินเขาและที่ขอบป่า รวมถึงใกล้กับแหล่งลำธาร มีกิ่งก้านสาขาจำนวนมาก ลำต้นเป็นสีเขียวอมเทา และมีเปลือกต้นไม้ค่อนข้างเรียบ ขณะที่ลำต้นอ่อนอยู่ จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม อมดำ แต่จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาสีขาวในปีต่อไป คล้ายดอกไฮเดรนเยีย และเนื่องจากมีลำต้นคล้ายกับต้น deutzia crenata, ด้วยเหตุนี้ จึงมีชื่อของญี่ปุ่น Gaku-Utsugi แปลว่า ไฮเดรนเยีย ใบมีลักษณะรูปไข่ ยาว 4-7 ซม. ใบมีสีเขียวเป็นเงางาม และขอบใบจะมีรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย ดอกไม้ขณะที่บาน จะมีความยาวประมาณ 7 ถึง 10 ซม. ดอกจะเริ่มบานระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ดอกเป็นสีขาว และมีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2.5-3 ซม. โคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป

    ●ความสูง ประมาณ 1-1.5 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 4, 6 Trail
  • มารุบะ อุทซึกิ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    มารุบะ อุทซึกิ
    มารุบะ อุทซึกิ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    พุ่มไม้ผลัดใบที่พบในบริเวณที่มีแดดจัด และเนินเขาที่ร้อนชื่น จนถึงยอดเขาเขตร้อน ลำต้นจะมีสีเทา สีน้ำตาล และมีเปลือกหนา ภายในเนื้อไม้จะเป็นไม้ที่มีโพรง ภายในกลวง ไม้เมื่อยังอ่อน จะมีสีเขียวอมน้ำตาล หรืออมดำ ใบมีลักษณะเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 4-7 ซม. ใบที่อยู่ส่วนล่างของลำต้น จะยาวลงมาคลุมลำต้น ที่ล่างของใบ จะมีขนเล็ก ๆ อ่อนขึ้นทั้งแผ่น และขอบใบจะมีรอยหยักคล้ายฟันของใบเลื่อย ชื่อภาษาญี่ปุ่น Maruba-Utsugi แปลว่า ไม้ใบกลม ซึ่งพืชชนิดนี้จะมีใบกลมนั่นเอง ใบเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง สีน้ำตาลในที่สุด ออกดอกเดือนพฤษภาคม ขณะที่ดอกบานนั้น จะมองเห็นสีขาวได้ชัดเจน ดอกสีขาวจะหันหน้าขึ้นไปด้านบนของช่อดอก ดอกไม้จะมี 5 กลีบ และกลีบด้านในจะเป็นสีเหลืองนวล มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 1.5 ซม. และจะมีขนอ่อน ยาวประมาณ 3 มม. ทั่วทั้งใบ

    ●ความสูง ประมาณ 1-1.5 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 5 และ 6
  • ทามาอาจิไซ (ไฮเดรนเยีย ดอกกลม) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    ทามาอาจิไซ (ไฮเดรนเยีย ดอกกลม)
    ทามาอาจิไซ (ไฮเดรนเยีย ดอกกลม) ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ
    ไม้พุ่มผลัดใบ ที่พบในป่าใกล้แหล่งน้ำ และในป่าเปียกชื้น ในเนินเขา มีการขยายกิ่งก้านสาขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เป็นต้นอ่อนอยู่จะมีขนขึ้นตามลำต้น ใบมีรูปไข่ ความยาวประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ที่ขอบใบมีรอยหยักคล้ายเป็นร่องฟันใบเลื่อย นอกจากนี้ยัง มีขนหยาบขึ้นรอบใบทั้งสองด้าน ชื่อญี่ปุ่น ทามาอาจิไซ แปลว่า ไฮเดรนเยียทรงกลม เป็นชื่อเพราะ โคนใบมีลักษณะทรงกลม ออกดอกในระหว่างเดือนเมษายนถึง เดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้ต้นไฮเดรนเยียนี้ โดดเด่นสวยงามมาก ช่อดอกมีลักษณะทรงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม คล้ายกับแผ่นดิสค์ครอบดอกไว้ ดอกมีขนาดเล็กและมีกลีบดอกชั้นในสีขาว 3 - 5 กลีบประดับอยู่ ( ช่อดอก โดยรอบจะไม่มี เกสรตัวผู้ มีเฉพาะละอองเกสรตัวเมียเท่านั้น) ผลเป็นรูปไข่ ยาว 3.5 มม.

    ● ความสูง ประมาณ 1 ถึง 2 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 -2 / 4-6 , เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ ,มินามิ-ทาคาโอะ
  • โมมิจิ อิจิโก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    โมมิจิ อิจิโก่ะ
    โมมิจิ อิจิโก่ะ ตระกูลเชอรรี่
    ไม้พุ่มผลัดใบ ที่พบในบริเวณแดดจัด ริมถนน ริมแม่น้ำในภูเขาทางตะวันออกของญี่ปุ่น ลำต้นขนาดเล็กมีสีเขียวสด และเมื่อลำต้นแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล มีครีบบนกิ่งและก้านใบ ลำต้นสวยงดงาม ชื่อภาษาญี่ปุ่น โมมิจิ-อิจิโกะ หมายถึงสตรอเบอร์รี่เมเปิ้ล เป็นเพราะ สตรอเบอรรี่ที่มีใบคล้ายใบเมเปิ้ล ใบมี เส้นผ่าศูนย์กลาง 7-15 ซม. ในหนึ่งก้านใบ จะประกอบด้วยใบประมาณ 3 - 5 ใบ คล้าย ๆกับต้นปาล์ม ก้านใบมีลักษณะยาว และขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายร่องฟันของใบเลื่อย ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูออกดอกเป็นตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ใบจะมีลักษณะคล้ายรูปไข่ มีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีปลายคม ผลไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 ซม. เมื่อผลสุกเต็มที่ จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมและสามารถนำมารับประทานได้

    ●ความสูง ประมาณ 1 ถึง 2 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 3-6, ภูเขาอินาริ , มินามิ-ทาคาโอะ
  • จาเกทซึ บาร่ะ (ซีซัลพิเนียซี) ตระกูลถั่ว
    จาเกทซึ บาร่ะ (ซีซัลพิเนียซี)
    จาเกทซึ บาร่ะ (ซีซัลพิเนียซี) ตระกูลถั่ว
    ไม้เถายืนต้นผลัดใบ ที่พบในขอบป่า ริมธารน้ำ ในภูเขา มีเครือเถาวัลย์ที่ใหญ่ และมีหนามมากมาย ซึ่งการที่มีเถาวัลย์ระโยงระยางมากมายนี้ จึงได้ชื่อว่า จากเกทซึ-บาระ แปลว่า งูผูกหนาม ใบมีลักษณะเป็นรูปวงรี มีใบซ้อน ๆ กัน ใน 1 โคนใบจะมีอยู่ประมาณ 5 - 10 ใบ และมีความยาวประมาณ 20-40 cm. ฤดูออกดอกเป็นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน และมีช่อดอกยาว 20 ถึง 30 เซนติเมตร จะมองเห็นดอกไม้สีเหลืองเป็นพุ่มงดงามจำนวนมาก ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 3 ซม. มีกลีบใบจำนวน 5 กลีบ หนึ่งกลีบดอกมีจุดสีแดง ๆ ขนาดเล็ก ดอกมีความกว้าง 3 - 10 ซม. มีรูปทรงคล้ายเปลือกหอย เมื่อผลไม้สุกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ใน 1 ผลจะมีเมล็ดประมาณ10 เมล็ด เมล็ดมีรูปไข่ สีดำ ยาวประมาณ 1 ซม.

    ●ความสูง สูงเท่ากับเถาเครือที่สามารถพันขึ้นไปได้
    ●สถานที่ เทือเขายาทากิ
  • มิยามา ชิคิมิ ตระกูลส้ม
    มิยามา ชิคิมิ
    มิยามา ชิคิมิ ตระกูลส้ม
    ไม้พุ่มเขียวชอุ่ม ลำต้นสูงไม่เกิน 1 เมตร เจริญเติบโตได้ดีตลอดทั้งปี พบในเขตป่าในภูเขาทาคาโอ่ะ ส่วนมากจะพบในป่าต้นสน อยู่ใกล้เชิงเขา และที่อากาศหนาวเย็น ใบมีลักษณะคล้ายต้น skimmia จึงมีชื่อญี่ปุ่น Miyama - sikimi แปลว่า ต้นมิยามา สคิมเนีย ใบยาว 4-9 ซม.,กว้าง3-5 ซม. มีรูปไข่ ใบมีลักษณะมันวาว ออกดอกปีละ 1 ครั้ง ในระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมกลีบดอกจะยื่นออกมาออกนอกโคนต้นที่ดูสวยงามมาก ในโคนดอก มีเกสรตัวผู้ที่เป็นแท่งโคนโน้มออกจากตัวดอก และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางของโคนดอก มีเกสรสีเหลือง ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. มีสีขาว ยาว 5-8 มม. ผลไม้รูป ทรงกลม และมีเมล็ดพันธุ์ 1 เมล็ดอยู่ภายใน เมื่อแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่จะมีส่วนที่เป็นพิษ ที่เรียกว่า skimmianine และที่มีอยู่ในผลไม้มากที่สุด หารับประทานเข้าไป อาจทำให้เกิดการล้มป่วยลงได้

    ● ความสูง ประมาณ 1 ถึง 1.5 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย 1 - 3 - 4 ภูเขาอินาริ
  • อาคาเม่ะ คาชิว่า ตระกูล ยูฟอร์เบียซี (ไม้ประภาคาร)
    อาคาเม่ะ คาชิว่า
    อาคาเม่ะ คาชิว่า ตระกูล ยูฟอร์เบียซี (ไม้ประภาคาร)
    ไม้พุ่มผลัดใบ พบตามริมถนน เขตป่า เนินเขา บริเวณที่มีแดดส่องถึง ในป่าร้อนชื้น ตามภูเขา ในภูเขา ลำต้นมีขนาดเล็ก สีเทา สีน้ำตาล เมื่อเติบโตเต็มที่จะกว้างประมาณ 50 ซม. ใบมีลักษณะรูปไข่ ยาว 7-20 ซม. ใบอ่อนมีขนสีแดงอยู่หนาแน่น ใช้ในการห่ออาหาร ชื่อญี่ปุ่น Akame-gashiwa แปลว่า ไม้แดง ดอกไม้บาน ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้มีสีเหลือง ยาว7-20 ซม และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน ละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ ผลเป็นรูปไข่ ยาว 8 มม. ,และเมื่อสุกเต็มที่ จะกลายเป็นสีน้ำตาล ช่วงประมาณเดือนกันยายน

    ● ความสูง ประมาณ 5 ถึง 15 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1
  • เอโรฮ่า โมมิจิ (เมเปิ้ล) ตระกูลโมมิจิ
    เอโรฮ่า โมมิจิ (เมเปิ้ล)
    เอโรฮ่า โมมิจิ (เมเปิ้ล) ตระกูลโมมิจิ
    เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง เติบโตในป่า บริเวณพื้นที่ลาดเอียงที่มีแดดส่องถึง บริเวณพื้นที่บนภูเขา บริเวณที่ชื้น และตามริมลำธาร นิยมนำมาประดับสวน เป็นไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือน บอนไซ จึงมีชื่อเรียก เอโรฮ่า โมมิจิ แปลว่าเมเปิ้ลจำลอง เมือลำต้นโตเต็มที่จะเริ่มเปลียนจากสีเขียวเป็นสีเทาเข้ม และลำต้นจะเริ่มตั้งสูงขึ้น ลำต้นกว้างประมาณ 60 ซม. 1โคนกิ่งจะประกอบด้วยใบประมาณ 5 - 7 ใบ เป็นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งใบของต้นไม้เมเปิ้ลแต่ละต้น แต่ละสายพันธ์ ก็จะจะมีสีที่แตกต่างกันไป เช่น สีแดง , สีเหลือง, สีส้มและ สีน้ำตาล ปลายขอบใบจะมองไกลๆ เหมือนสีแดง เนื่องจากแสงแดดส่องกระทบ จะออกดอกช่วงระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม เป็นไม้ใบที่มีความงดงามในโทนสีแดงจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วง

    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 ถึง 4
  • คาทซึระ ตระกูลคาทซึระ
    คาทซึระ
    คาทซึระ ตระกูลคาทซึระ
    เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นสูง พบป่าตามแนวหุบเขาที่มีความชื้น บริเวณเนินเขา ลำต้นจะมีสีเขียว แต่งแต้มด้วยสีน้ำตาลแดง และเมื่อต้นไม้ได้เริ่มแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็น สีดำสีเทาสีน้ำตาล ลำต้นกว้างประมาณ 2 เมตร เปลือกของลำต้นจะเริ่มหนาขึ้นเรื่อย ๆ และลอกออก ใบลักษณะคล้ายรูปหัวใจ เส้นรอบวงประมาณ 3 ถึง 8 ซม. ขอบใบเป็นรอยหยักเหมือนฟันของใบเลื่อย และมีลักษณะคล้าย ๆ แป้งอยู่ด้านล่างของใบ ออกดอกช่วงประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม มีกลีบดอก และกลีบเลี้ยงล้อมรอบอย่างงดงาม เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ ดอกมีสีแดง สีม่วง แต่งแต้มด้วยสีชมพูอ่อนฉูดฉาด เมล็ดมีรูปร่างคล้ายกล้วย ยาวประมาณ 1.5 ซม. เมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ สีม่วง ในฤดูใบไม้ร่วง

    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 - 4 , Trail 6 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • ซาคากิ ตระกูลทซึบากิ
    ซาคากิ
    ซาคากิ ตระกูลทซึบากิ
    เป็นไม้ป่าดิบ ที่เติบโตในป่าบนพื้นที่ภูเขา เนินเขา ลำต้นจะเป็นสีเขียวอมแดง และสีน้ำตาลเข้ม ใบมีลักษณะกลม ขนาดเล็กจำนวนมาก ลำต้นยาวประมาณ 30 เซนติเมตร เริ่มแตกกิ่งก้านตั้งแต่ช่วงฤดูหนาว ใบถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมของลัทธิชินโต ถือว่าเป็นต้นไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยนำใบประดับในแท่นบูชา ซึ่งมีความเชื่อนี้มาตั้งแต่อดีตกาล ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 8 ถึง 10 ซม. กว้างประมาณ 2-4 ซม. หนา​​และเงางาม ฤดูกาลอกกดอกประมาณช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ใน 1 โคนกิ่งจะประกอบด้วยดอก 1-3ดอก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 ซม. มีกลีบดอกไม้ 5 กลีบ ที่เริ่มเป็นขาวในตอนแรก และจากนั้นต่อมาก็จะเริ่มมีสีเหลืองมาแซม เมล็ดมีรูทรงกลม ยาวประมาณ 7 มม. กสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ และเริ่มแก่เต็มที่ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ซึ่งจะเปลียนเป็นสีดำ สีม่วง

    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 12 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail ที่ 1 ถึง 3
  • คิบุชิ ตระกูลคิบูชิ
    คิบุชิ
    คิบุชิ ตระกูลคิบูชิ
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เจริญเติบโตในป่าลึก เนินเขา ลำต้นแต่งแต้มด้วยสีน้ำตาลและ สีดำ และเมื่อลำต้นเติบโตเต็มที่แล้วลำต้นจะเริ่มตั้งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใบรูปไข่ ยาวประมาณ 6 ถึง 12 ซม. กว้างประมาณ 3-6 ซม. ขอบเป็นรอยหยักคล้ายเป็นร่องฟันของใบเลื่อย ฤดูกาลออกดอกในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ดอกมีลักษณะเป็นลักษณะคล้ายรูประฆังคว่ำ กว้างประมาณ 4 ถึง 10 ซม. โดยห้อยหัวลงมาเป็นตุ้ม มีสีขาว เกสรตัวผู้ยาว 8 มม.มีสีเหลือง และเกสรตัวเมียมีสีเขียวอมเหลือง เมล็ดรูปวงรีและทรงกลม ยาวประมาณ 8 มม. เมล็ดเมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีเขียว ซึ่งประมาณช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม เหตุผลที่ใช้ชื่อ คิบุชิ เนื่องจาก นิยมใช้เมล็ดพันธุ์เหล่านี้เป็นแทนสมอดีงูชนิดหนึ่งได้ จึงได้ใช้ชื่อนี้สืบมา

    ● ความสูง ประมาณ 3 ถึง 5 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 5 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ-ทาคาโอะ
  • ฮานะอิคาดะ ตระกูลมิซูกิ
    ฮานะอิคาดะ
    ฮานะอิคาดะ ตระกูลมิซูกิ
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เจริญเติบโตในป่า เนินเขา และในบริเวณที่มีความชื้น เช่นใกล้กับริมธารบนภูเขา ลำต้นเมื่อเติบโตเต็มที่จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม มันเงา ลักษณะของดอกเป็นเอกลักษณะ เป็นดอกไม้ขนาดเล็ก ซึ่งดอกจะบานอยู่ตรงกลางโคนใบ ซึ่งใบจะมีลักษณะเป็นใบที่กว้างมาก ที่มองเห็นได้ชัดเจนและสวยงามมาก จึงได้รับการตั้งชื่อว่า ฮานะอิคาดะ แปลว่า ดอกไม้ใบกว้าง ใบเป็นรูปวงรี กว้าง 6 ถึง 12 ซม. ขอบใบเป็นรอยหยักเหมือนฟันของใบเลื่อย ฤดูกาลของดอกที่บานในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เป็นดอกไม้ที่มี สีเขียวอ่อน , ยาวประมาณ 5 มม. เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ เมล็ดมีรูปร่าง ทรงกลม ในเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.7-1 ซม.เมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ สีม่วง ในเดือน สิงหาคม-ตุลาคม . เมล็ดมีรสหวาน และใบอ่อนนำมาปรุงอาหารรับประทาน ทอดกับแป้งเทมปุระ และใบสามารถนำไปต้ม ประกอบอาหารได้

    ● ความสูง ประมาณ 1-3 เมตร
    ● สถานที่ ถนนสายTrail 4 Trail 6 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • มูราซากิ ชิกิบุ คุมะ ทซึจิระ
    มูราซากิ ชิกิบุ
    มูราซากิ ชิกิบุ คุมะ ทซึจิระ
    เป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เติบโตในป่า เนินเขา บริเวณที่มีความชื้น แหล่มริมธาร หรือสามารถพบเห็นได้ตามป่าทั่ว ๆ ไป ลำต้นมีสีเขียวถูกแต่งแต้มด้วยสีเทาอ่อน และผิวเปลือกของลำต้นนั้นราบเรียบ ลำต้นจะตั้งตรงสวยงาม นิยมที่จะนำไม้พรรณนี้นำมาเป็นไม้ประดับในสวนหย่อม ประดับตามอาคารบ้านเรือน ซึ่งถือได้ว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 6-13 ซม. ขอบใบคมชัดสวยงาม และขอบใบด้านบนยังเป็นรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย ฤดูกาล ออกดอกระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ดอกไม้มีสีม่วง เส้นผ่าศูนย์กลางดอกไม้ประมาณ 4 มิลลิเมตร กออกเป็น 4 จะแบน เปิดเป็น 4 เกสร เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ ละอองเรณูจะมีสีเหลือง และสามารถขยายพันธ์ได้อย่างง่าย

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 3 เมตร
    ● สถานที่ ภูเขาอินาริ , โอคุ-ทาคาโอะ
  • อุควิสุกะ คุระ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    อุควิสุกะ คุระ
    อุควิสุกะ คุระ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    เเป็นไม้พุ่มผลัดใบ ที่เติบโตในป่า เนินเขา บริเวณที่มีความชื้น แหล่มริมธาร หรือสามารถพบเห็นได้ตามป่าทั่ว ๆ ไป ลำต้นมีสีเขียวถูกแต่งแต้มด้วยดำ และผิวเปลือกของลำต้นนั้นราบเรียบ ลำต้นจะตั้งตรงสวยงาม เมื่อลำต้นโตเต็มที่ จะเป็นสีเขียวอมแดงเรื่อ ๆ นิด ใบเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3-6 ซม. กว้างประมาณ 2-4 ซม. แตกหน่อจากด้านข้าง ด้านหลังของใบเป็นผิวบาง ๆ แต่งแต้มด้วยสีขาวฤดูกาลออกดอกประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม ดอกเป็นสีชมพูอ่อนฉูดฉาด กลีบดอกมีบาง รูปทรงกระบอก มีรูปร่างเหมือนแตรประมาณยาว 1-1.5 ซม. มีกลีบดอก 5 กลีบ จะแบน เปิดเป็น เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ เมล็ดรูปวงรี ยาวประมาณ 1-1.5 ซม. เมื่อสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ในเดือนมิถุนายน มีรสชาติหวาน รับประทานได้

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 3 เมตร
    ● สถานที ถนนสายTrail เพลส 1 , ภูเขาอินาริ
  • Viburnum plicatum var . tomentosum ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    Viburnum plicatum var . tomentosum
    Viburnum plicatum var . tomentosum ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    ต้นไม้ ผลัดใบ ขนาดเล็ก (น้อยกว่า 10 เมตร ต้นไม้สูง ที่ หาย ใบของมัน อีกครั้ง ในปีที่ผ่าน) ที่พบใน ขอบป่า เปียกและ waterside.Branches ขยาย ในแนวนอนและ ใบอ่อน มีสีน้ำตาล กับผม . เห่า เป็น สีเทา สีดำ เรียบและ มีการวาง lenticels บางครั้งบางคราว ( เปิด ที่ช่วยให้ ก๊าซ ที่จะ แลกเปลี่ยนระหว่าง อากาศและเนื้อเยื่อ ภายในของ พืช) . ใบ มี 5 ถึง 12 เซนติเมตรยาว และกว้าง รูปไข่ กับผม tip.Have แหลม บน เส้น ใบ ด้านหลังและ ขอบ ฟัน ( ขอบ ของใบ เป็นเหมือน ฟัน ของ เลื่อย) . บลูมมิ่ง ฤดู ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน บาน 5-6 มม. ใน เส้นผ่าศูนย์กลาง สี ครีม ดอก กะเทย ( เกสร ตัวเมีย และ อยู่ร่วมกัน ในหนึ่ง ดอก ) ล้อมรอบด้วย 3 ถึง 4 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง ดอกไม้ ประดับ สีขาว ( ช่อดอก รอบทิศทาง มี เกสร หรือ เกสร ) ใน ช่อดอก ( ต้นกำเนิด ด้วยดอกไม้ ) เติบโตจาก สาขา . นี้ดูเหมือนว่า ลูก ด้าย จึงชื่อ ญี่ปุ่นยาบุ demari หมายถึง ลูก ด้าย ใน พุ่มไม้ . ผลไม้ 5-7 มม. ยาวและ รูปไข่ และหลัง เปลี่ยนสีแดง จากเดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม เปลี่ยนเป็นสีดำ ตามที่พวกเขา ทำให้สุก

    ● ความสูง ประมาณ 2 ถึง 6 เมตร
    ● สถานที่ Kita- ทาคาโอะ
  • กามาสุมิ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    กามาสุมิ
    กามาสุมิ ตระกูลสายน้ำผึ้ง
    พุ่มไม้ผลัดใบที่พบในชายป่า ในภูเขาที่มีแดดจัด ลำต้นเป็นสีเทาสีน้ำตาลและผิวเปลือกนั้นราบเรียบ มีท่อเพื่อที่จะทำการสังเคราะห์แสง เพื่อทำการให้ก๊าซที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างอากาศและเนื้อเยื่อภายในของพืชอีกทางหนึ่ง ใบมีความยาว 6-14 ซม. กว้าง 3 ถึง 13 ซม. ขอบในมีรอยหยักคล้ายกับร่องฟันของใบเลื่อย มีขนทั้งสองด้านและต่อมใบที่แตกต่างกัน ฤดูกาลที่ดอกบานอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน. ดอกสีขาวขนาดเล็ก ๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 ถึง 10 ซม. ดอกมีลักษณะอยู่กันเป็นกลุ่มเป็นพวง อย่างน้อย 5 ดอก รวมเป็น 1 พวง กสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร ผลไม้เป็นรูปไข่ยาวประมาณ 6 มม. และเปลี่ยนเป็นสีแดงจากกันยายน-พฤศจิกายน. ในฤดูหนาวเปลี่ยนเป็นแป้งสีขาวกลายเป็นหวานและกินได้

    ●ความสูง ประมาณ 2-4 เมตร
    ●สถานที่ ถนนสายTrail 4 ภูเขาอินาริ, โอคุ-ทาคาโอะ
  • ไก่ฟ้าทองแดง ชื่อญี่ปุ่น “Yamadori” วงศ์: ไก่ฟ้า
    ไก่ฟ้าทองแดง ชื่อญี่ปุ่น “Yamadori”
    ไก่ฟ้าทองแดง ชื่อญี่ปุ่น “Yamadori” Selected
    เป็นไก่ฟ้าที่พบเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
    ขนาดจะโตกว่าไก่ฟ้าธรรมดาหนึ่งเท่า ไก่ฟ้าเพศผู้จะมีปีกยาวกว่าลำตัว
    และชอบอยู่ตามป่าทึบ เมื่อเทียบกับไก่ฟ้าชนิดอื่นๆ ที่ชอบอยู่ตามพื้นที่โล่งแจ้ง ไก่ฟ้าเพศผู้กับเพศเมียมีสีน้ำตาล เมื่ออยู่ในป่าก็ดูกลมกลืนกับสิ่งแวคล้อม และเสียงร้องไม่ค่อยโดดเด่น " คุ คุ คุ คุ " จะเดินวนไปรอบ ๆโคนต้นไม้ในป่าเพื่อจับแมลง ไส้เดือน เมล็ดหญ้าและตาอ่อนของต้นไม้ ประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนเป็นช่วงฤดูผสมพันธ์ เพศผู้จากที่ไม่ค่อยแสดงตัวก็จะมีการตีปีกเพื่อให้เกิดเสียง
    เพื่อประกาศอาณาเขต ทำรังใต้ร่มเงาของต้นไม้ที่ล้ม
    โดยการนำใบไม้และเปลือกไม้มากองสร้างรัง วางไข่ครั้งละ 7-10 ฟอง

    ●ขนาด/เพศผู้ประมาณ125เซนติเมตร(รวมปลายปีก)เพศเมียประมาณ55เซนติเมตร
    ●ฤดู/เดือน1~12
    เป็นนกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)
  • นกพิราบสีฟ้า ชื่อญี่ปุ่น “Aobato” วงศ์:นกพิราบ
    นกพิราบสีฟ้า ชื่อญี่ปุ่น “Aobato”
    นกพิราบสีฟ้า ชื่อญี่ปุ่น “Aobato” Selected
    เป็นนกที่มีความสวยงามมาก ลักษณะเด่นคือ ลำตัวมีสีเขียวเหลืองและจงอยเป็นสีฟ้า เพศผู้และเพศเมียมีสีที่ใกล้เคียงกันมาก ลักษณะความแตกต่างคือ ปีกของเพศผู้จะมีขนสีม่วง ชอบอาศัยอยู่ตามป่าดงดิบ หรือป่าทึบ โดยจะอยู่เป็นฝูงตามป่าใบไม้กว้างเขียวชอุ่มเช่น ต้นโอ๊คฟันเลื่อย ต้นเมเปิ้ล ต้นโอ๊คมองโกเลีย เป็นต้น สำหรับป่าโปร่งนั้นแทบจะไม่ได้พบเห็นเลย จะกินผลของต้นไม้ ตาอ่อน หรือผลของต้นโอ๊ค นอกจากนั้นในต้นฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ผลิจะมีการบินมายังชายฝั่งทะเลเพื่อกินน้ำทะเลหรือตามแหล่งน้ำที่มีเกลือ แหล่งน้ำพุร้อนตามภูเขา เป็นการกินเกลือแร่เพื่อเพิ่มเสริมให้ร่างกายแข็งแรง ในฤดูผสมพันธ์เพศผู้จะร้องเสียงแบบเหงา ๆ " โอะ อะ โอะ"อย่างยาวๆแบบต่อเนื่อง ช่วงเดือนมิถุนายนทำรังโดยการเอากิ่งไม้เล็กๆมาทำเป็นรูปจานบนกิ่งไม้ ในหนึ่งครั้งวางไข่ประมาณ 2 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 33 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ) หรือว่า
    นกอพยพ(HyouChou:เป็นนกที่จะอยู้ในบางพื้นที่ในบางฤดูและก็อพยพไป

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกกาเหว่าน้อย ชื่อญี่ปุ่น“Hototogisu” วงศ์:นกกาเหว่า
    นกกาเหว่าน้อย ชื่อญี่ปุ่น“Hototogisu”
    นกกาเหว่าน้อย ชื่อญี่ปุ่น“Hototogisu” Selected
    อาศัยอยู่ในป่าโล่งกว้าง ภูเขาลูกต่ำ ๆ เมื่อเทียบกับนกกาเหว่าอื่นๆ
    ตัวผู้จะร้องมีเสียงว่า “Tokkyo Kyoka - Kyoku ” แต่ชนิดนี้จะมีเสียงคือ “ Kyo Kyo Kyo ”ด้วยเสียงที่ดังมาก บางทีอาจเป็นเสียง “Ho To To Gi Su ” จึงเป็นที่มาของชื่อนกชนิดนี้ ด้านหลังนกที่โตเต็มวัยจะมีสีเทา ส่วนหน้าอกจะเป็นลายสีดำ ตัวผู้กับตัวเมียมีสีเหมือนกัน แต่ตัวเมียจะมีสีน้ำตาลแดง อาหารที่ชอบจำพวกแมลง แต่ที่ชอบมากกว่าคือ ด้วงและหนอน ไม่สร้างรังเป็นของตนเอง จะไปไข่ไว้ที่รังนกชนิดอื่น ฝากเลี้ยงและฟักออกเป็นตัว (ฟักไข่หนึ่งลูกต่อหนึ่งรัง) นี่คือลักษณะนิสัยของนกกาเหว่า จะเลือกรังนกที่มีลักษณะสีของไข่เหมือนกันคือมีสีน้ำตาลคล้ายๆกัน ฤดูผสมพันธุ์คือ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม
    จะขโมยไข่จากรังของนกชนิดอื่นออกมา 1 ใบและเติมไข่ของตัวเองเข้าไปแทน ในช่วงใบไม้ร่วงจะหลบหนาวโดยอพยพไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ●ขนาด/ประมาณ 28เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน5~10
    นกฤดูร้อน(Natsudori:ช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเพื่อขยายพันธ์ พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงจะอพยพไปทางใต้ )

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • เหยี่ยวดำ ชื่อญี่ปุ่น “Tobi” วงศ์: เหยี่ยว
    เหยี่ยวดำ ชื่อญี่ปุ่น “Tobi”
    เหยี่ยวดำ ชื่อญี่ปุ่น “Tobi” Selected
    เป็นเหยี่ยวที่ชอบอาศัยอยู่ชายฝั่งทะเล เลียบแม่น้ำและอยู่ในเมือง
    จะร้องเสียง「พี-เอียว โร โร โร」และบินบนอากาศวนเป็นรูปวงกลม ตามที่ทุกคนคุ้นเคยมีชื่อเรียกว่า ว่าวสีดำ ชอบอยู่เป็นฝูง ออกหากินในตอนเช้า กินซากสัตว์ที่ตายแล้ว หรือปลา แมลง และกบเป็นต้น และหรือบางครั้งก็กินเศษอาหารตามกองขยะ ตัวผู้กับตัวเมียสีเหมือนกัน เมื่อตัวโตเต็มวัยจะมีสีน้ำตาลทั้งตัว ขณะบินจะเห็นหางเป็นรูปสี่เหลี่ยมคามหมู ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงผสมพันธ์ จะอยู่ด้วยกันและช่วยกันสร้างรังบนต้นไม้สูง โดยนำเศษกิ้งไม้แห้งมาทำรังเป็นรูปจานและวางไข่ทีละประมาณ 2-3 ฟอง

    ●ขนาด/ตัวผู้ประมาณ 58 ซม. ตัวเมียประมาณ 68 ซม.
    ●ฤดู/ประมาณเดือน1~12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)
  • เหยี่ยวนกเขาท้องขาว ชื่อญี่ปุ่น “Ootaka” วงศ์: เหยี่ยว
    เหยี่ยวนกเขาท้องขาว ชื่อญี่ปุ่น “Ootaka”
    เหยี่ยวนกเขาท้องขาว ชื่อญี่ปุ่น “Ootaka” Selected
    อาศัยอยู่พื้นที่ราบจนถึงในป่าบนภูเขา บางที่ก็พบเห็นได้ในเมือง
    นกตัวเมียเมื่อโตเต็มวัยจะมีสีเทาฟ้า ส่วนนกตัวผู้จะสีน้ำตาล จะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน นอกจากฤดูผสมพันธ์แล้วจะอยู่ลำพังตัวเดียว อาหารที่ล่าคือไก้ฟ้า เป็ด กระรอก กระต่ายป่าเป็นต้น และจะจับนกพิราบหรือกาตามส่วนสาธารณะเป็นเหยื่อ ฤดูผสมพันธ์คือ ประมาณเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน จะสร้างรังที่รากต้นไม้ใหญ่เช่นรากต้นสน โดยการวางไข่ครั้งละ 2-4 ฟอง ช่วยกันเลี้ยงลูก โดยตัวผู้จะทำหน้าที่ในการล่าเหยื่อ มีเสียงร้องว่า 「เคท,เคท 」 และเอาเหยื่อให้ตัวเมียมาเลี้ยงลูก จะสร้างรังที่เดิมทุกปี หรือไม่ก็มีการหมุนสลับเปลี่ยนกันในรังอื่นๆ ที่มีอยู่2-3รัง

    ●ขนาด/ตัวผู้ประมาณ 50 ซม. ตัวเมียประมาณ 56 ซม.
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ) หรือว่า
    นกอพยพ(HyouChou:เป็นนกที่จะอยู้ในบางพื้นที่ในบางฤดูและก็อพยพไป)
  • นกเค้าเเมว ชื่อญี่ปุ่น “Fukuroo” วงศ์: นกเค้าเเมว
    นกเค้าเเมว ชื่อญี่ปุ่น “Fukuroo”
    นกเค้าเเมว ชื่อญี่ปุ่น “Fukuroo” Selected
    จะอาศัยในป่า และป่าที่ใกล้ผู้คนอาศัยอยู่ โดยจะชอบอาศัยบนต้นไม้ใหญ่ในวัดหรือศาลเจ้า ตัวผู้กับตัวเมียมีสีเหมือนกัน สีของลำตัวแตกต่างกันไปตามพื้นที่ โดยหลักแล้วเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีเทา ส่วนนกเค้าแมวที่อาศัยอยู่ทางเหนือจะออกเป็นสีขาว ชอบอยู่ตัวเดียว หรืออยู่เป็นคู่ ในกลางวันจะพักผ่อนบนต้นไม้ และเริ่มออกหากินในตอนเย็น
    จะบินไปรอบๆโดยไม้ให้มีเสียงบิน จะล่าเหยื่อจำพวก หนู นก จิ้งจก กบแมลงเป็นอาหาร พอเข้าฤดูผสมพันธ์ ทั้งตัวผู้และตัวเมียก็จะร้อง 「 โฮ-โฮ 」 ส่วนมากจะสร้างรังในโพรงของต้นไม้ใหญ่ บางทีก็ทำรังบนหลังหลังคาบ้าน หรือตามขอบเพดานศาลเจ้า ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนเมษายนจะวางไข๋ครั้งละประมาณ 2-3 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 50 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน1~12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกเค้าเหยี่ยว ชื่อญี่ปุ่น “Aobazuku” วงศ์: นกเค้าเเมว
    นกเค้าเหยี่ยว ชื่อญี่ปุ่น “Aobazuku”
    นกเค้าเหยี่ยว ชื่อญี่ปุ่น “Aobazuku” Selected
    เป็นอีกนกชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ใกล้ที่อยู่อาศัยของผู้คนมากที่สุด ทำรังตามต้นไม้ใหญ่ตามศาลเจ้า วัดในเมือง ชื่อนกเค้าเหยี่ยว (Aobazuku) มีการตั้งชื่อจากการทีเริ่มมีใบไม้เขียวขึ้นแน่นหนา จึงตั้งชื่อนี้ ตัวผู้กับตัวเมียสีเหมือนกัน หัวกลมสีน้ำตาลเข้ม มีลักษณะที่โดดเด่นคือ มีดวงตาสีเหลืองทอง ตอนกลางวันจะนอนหลับพักผ่อนบนต้นไม้ พอตกเย็นจะร้อง 「 โฮทโฮท, โฮทโฮท」 เป็นการส่งสัญญานว่าจะออกล่าเหยื่อทั้งตัวผู้และตัวเมีย จะไปบินรวมตัวกันที่โคมไฟในเมืองเพื่อดักจับมอดหรือแมลงทับกิน ค้างคาว หรือ นกเล็ก ๆด้วย ช่วงฤดูผสมพันธ์คือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน จะทำรังตามช่องว่างของสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ หรือต้นไม้ใหญ่ วางไข่ทีละ 2-5 ฟอง ตัวเมียกกไข่ ตัวผู้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยและหาอาหาร พอหน้าหนาวจะหลบความหนาวมาทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ●ขนาด/ประมาณ 29 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 5-10
    นกฤดูร้อน(Natsudori:ช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเพื่อขยายพันธ์ พอเข้าหน้าใบไม้ร่วงจะอพยพไปทางใต้ )

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกหัวขวานแคระญี่ปุ่น ชื่อญี่ปุ่น “Kogera” วงศ์: นกหัวขวาน
    นกหัวขวานแคระญี่ปุ่น ชื่อญี่ปุ่น “Kogera”
    นกหัวขวานแคระญี่ปุ่น ชื่อญี่ปุ่น “Kogera” Selected
    เป็นนกหัวขวานที่เล็กที่สุดเท่าที่พบเห็นได้ที่ญี่ปุ่น
    ตัวผู้และตัวเมียมีสีเกือบเหมือนกันแต่ตัวผู้ด้านหลังหัวจะมีลายสีแดงเล็กๆ
    อาศัยอยู่ในป่าตามภูเขา แต่ปัจจุบันมีการขยายพันธ์เป็นจำนวนมากและกระจายอยู่ตามสวนสาธารณะในเมือง ชอบอาศัยเป็นคู่หรืออยู่ตัวเดียว โดยจะอยู่ปะปนกับฝูงนกกระจาบ ย้ายจากต้นหนึ่งไปสู่อีกต้นหนึ่งเพื่อหาอาหาร เช่นแมงมุม หรือแมลง หรืออาจเป็นน้ำหวานของดอกซากุระโดยใช้ลิ้นในการดูดน้ำหวาน ในฤดูผสมพันธ์ใช้เสียงร้องหาคู่ 「เกียー、เกียเกียกิกิกิ 」 ใช้ปากเจาะต้นไม้เป็นจังหวะ โคะโละโละโละโละ・・・ (เหมือนตีกลอง)เพื่อให้เป็นโพรงและทำรังในนั้น โดยจะเลือกต้นไม้ที่แห้งแล้ว ในการทำรังนั้นก็จะชอบต้นซากุระหรือต้นไม้ที่มีเห็ดเล็กๆขึ้น
    ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน จะวางไข่ทีละประมาณ 5 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 15 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกหัวขวานสีเขียวญี่ปุ่น ชื่อญี่ปุ่น “Aogera” วงศ์: นกหัวขวาน
    นกหัวขวานสีเขียวญี่ปุ่น ชื่อญี่ปุ่น “Aogera”
    นกหัวขวานสีเขียวญี่ปุ่น ชื่อญี่ปุ่น “Aogera” Selected
    เป็นนกหัวขวานที่อาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้น โดยจะอาศัยตามพื้นที่ราบไปถึงป่าในภูเขาตั้งแต่แถวฮอนชูไปทางตอนใต้ ปัจจุบันสามารถพบรังของมันได้ที่ต้นซากุระในสวนสาธารณะ ด้านหลังลำตัวมีสีเขียวแต่งแต้มด้วยสีเทา หัวกับจงอยเป็นสีแดงดูสวยงามและโดดเด่นมาก ตัวผู้กับตัวเมียสีเกือบเหมือนกันแต่ตัวผู้เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วส่วนสีแดงจะเยอะกว่าโดยจุดสังเกตคือส่วนหัวทั้งหมดจะเป็นสีแดง ย้ายจากต้นไม้ไปสู่อีกต้นหนึ่งเพื่อจับแมลง หรือแมงมุมที่เกาะบนต้นไม้มากิน บางทีก็ลงมาเล่งหามดตามพื้นดิน ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะกินผลไม้หรือผลของต้นไม้ ฤดูผสมพันธ์คือ เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน มีเสียงร้อง 「 เพียวー、เพียวー」เสียงเหมือนนกหวีด เจาะต้นไม้เสียงเหมือนดีกลอง (「โคะโละโละโละโละ・・・」) เพื่อสร้างรัง ส่วนใหญ่จะเลือกเจาะต้นไม้ที่ยังไม่แห้ง ในแต่ละครั้งจะวางไข่ประมาณ 7-8ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 29 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)
  • นกเเซวสวรรค์หางดำ ชื่อญี่ปุ่น “Sankouchou” วงศ์: นกแซวสวรรค์
    นกเเซวสวรรค์หางดำ ชื่อญี่ปุ่น “Sankouchou”
    นกเเซวสวรรค์หางดำ ชื่อญี่ปุ่น “Sankouchou” Selected
    ประมาณเดือนเมษายนจะอพยพกลับมาจากทางเอชียตะวันออกเฉียงใต้หลังจากที่หมดฤดูหนาว โดยจะผสมพันธ์กันตามพื้นที่ราบไปถึงป่าในภูเขา มักได้ยินเสียงร้องเป็นTsukiーHiーHo-ShiーHoiHoi」 จึงมีการตังชื่อจากเสียงร้องที่ได้ยินเป็น"ซาน-โค-โจ" มีลักษณะพิเศษคือที่จงอยปากและบริเวณรอบดวงตาเป็นสีฟ้าสดใส หางของตัวผู้จะยาวกว่าลำตัว3เท่า ส่วนตัวเมียจะหางสั้นทำให้สามารถแยกแยะได้ทันทีที่เห็น
    ชอบอาศัยอยู่ในป่ารกทึบ บินวนไปมาอย่างว่องไวปราดเปรียวเพื่อจับแมลงหรือแมงมุมที่ปลายของใบไม้กิน ตัวผู้จะสร้างอาณาเขตของตัวเอง เมื่อมีผู้บุกรุกจะไล่ทันที ฤดูผสมพันธ์คือ เดือนพฤษภาคมถึงประมาณเดือนกรกฎาคม สร้างรังโดยเอาตะไคร่น้ำหรือใยแมงมุมมาติดระหว่างกิ่งไม้เพื่อทำรังเป็นรูปทรงกรวยกลับก้านเหมือนหมวกสามมุม วางไข่ครั้งละประมาณ 3-5 ฟอง

    ●ขนาด/ตัวผู้ 45 ซม.(รวมขนหาง)ตัวเมีย 18 ซม.
    ●ฤดู/ประมาณเดือน4~8
    นกฤดูร้อน(Natsudori:ช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเพื่อขยายพันธ์ พอเข้าหน้าใบไม้ร่วงจะอพยพไปทางใต้ )

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกปีกลายสก๊อต ชื่อญี่ปุ่น “Karasu” วงศ์ กา
    นกปีกลายสก๊อต ชื่อญี่ปุ่น “Karasu”
    นกปีกลายสก๊อต ชื่อญี่ปุ่น “Karasu” Selected
    ตัวผู้และตัวเมียมีสีลำตัวเกือบเหมือนกันคือเป็นสีน้ำตาล ส่วนห้วมีลวดลายสีขาวสลับดำ ที่ปีกมีลวดลายสีดำ ขาว ฟ้า เวลาบินจะเด่นสะดุดตามาก อาศัยในพื้นที่ราบหรือป่าโปร่งในพื้นที่ภูเขา นอกจากฤดูผสมพันธ์จะรวมตัวกันเป็นฝูงเล็กๆ ลักษณะการเดินจะกระโดดไปบนต้นไม้หรือตามพื้นดินเพื่อหาแมลง จิ้งเหลน ผลไม้กินเป็นอาหาร
    อาหารที่ชื่นชอบคือลูกโอ๊ก โดยมีนิสัยซ่อนไว้ตามช่องว่างระหว่างต้นไม้หรือฝั่งดินเพื่อสะสม และค่อยมากินทีหลังแต่ส่วนมากมักถูกลืม
    ปกติร้องเสียง「แจะー、แจ-อิ」ด้วยเสียงแหบแห้ง แต่ก็มีความชำนาญในการเลียนแบบเสียงร้องของนกชนิดอื่นเช่น นกเล็กๆหรือเหยี่ยว
    จากช่วงเดือนเมษายนถึงประมาณเดือนมิถุนายนคือช่วงฤดูผสมพันธ์ วางไข่ครั้งละประมาณ 5-6 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 33 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)
  • นกติ๊ด มีชื่อญี่ปุ่น “Yamagara” วงศ์ นกติ๊ด
    นกติ๊ด มีชื่อญี่ปุ่น “Yamagara”
    นกติ๊ด มีชื่อญี่ปุ่น “Yamagara” Selected
    อาศัยตามพื้นที่ราบหรือในป่าภูเขาเตี้ยๆ ชอบใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้ใบกว้างที่ป่าเขียวตลอดปี เช่นต้นโอ๊คและต้นการบูร เป็นต้น
    เป็นนกที่คุ้นเคยกับผู้คนได้ง่าย พบได้บ่อยตามพื้นที่บ้านพักอาศัย
    นอกจากฤดูผสมพันธ์ชอบอยู่ตัวเดียวหรืออยู่เป็นฝูงเล็กๆ ซึ่งอาจรวมนกที่จับคู่กันอยู่ด้วยยาวไปตลอดทั้งปี ตัวผู้กับตัวเมียสีเหมือนกัน
    ปีกมีสีเทาอมฟ้า ด้านหลังและอกเป็นสีน้ำตาล(Kuriiro) โดดเด่นมาก
    กินแมลงหรือผลของต้นไม้ อาหารที่ชื่นชอบมากที่สุดคือลูกโอ๊ด จะใช้เท้าสองข้างหนีบและใช้จงอยผ่าอย่างเชี่ยวชาญ
    นอกจากนั้นยังมีนิสัยชอบเอาลูกโอ๊ดซ่อนไว้ตามช่องว่างระหว่างเปลือกไม้หรือในดินเพื่อเป็นเสบียงอาหารสำหรับช่วงฤดูหนาว
    เดือนเมษายนถึงประมาณเดือนกรกฎาคมเป็นฤดูผสมพันธ์ ตัวผู้จะร้องว่า「ทซึทซึพิーทซึทซึพี」
    การทำรังจะใช้รังร้างหรือรังเก่าของนกหัวขวาน วางไข่ครั้งละประมาณ 5-8 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 14 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกติ๊ดใหญ่ ชื่อญี่ปุ่น “shijū-kara” วงศ์ นกติ๊ด
    นกติ๊ดใหญ่ ชื่อญี่ปุ่น “shijū-kara”
    นกติ๊ดใหญ่ ชื่อญี่ปุ่น “shijū-kara” Selected
    ตั้งแต่คอถึงท้องมีลายเส้นสีดำเหมือนเนทไทเป็นลักษณะที่โดดเด่นมาก
    ตัวผู้กับตัวเมียมีสีเกือบเหมือนกัน แต่ตัวผู้มีลายเส้นที่กว้างกว่าเป็นจุดที่สามารถแยกความแตกต่างได้ อาศัยตามพื้นราบถึงป่าในภูเขา หรือในที่อยู่อาศัยของผู้คน หรืออาจพบได้ในสวนสาธารณะ นอกจากฤดูผสมพันธ์จะทำกิจกรรมร่วมกันเป็นฝูงเล็กๆ ไม่ค่อยกลัวคน บางครั้งถึงขั้นทำรังที่กล่องรับจดหมายหรือกระถางดอกไม้ในสวนเลยทีเดียว จับแมลงหรือแมงมุมบนต้นไม้หรือบนพื้นดินกินเป็นอาหาร และเมล็ดพืชด้วย
    หรืออาจเห็นรวมตัวกันที่ถาดอาหาร อาหารที่ชอบคือ เมล็ดทานตะวัน
    ฤดูผสมพันธ์ตัวผู้จะร้อง「ทซึทซึพีーทซึทซึพีー」
    เดิมทีจะทำรังตามช่องว่างระหว่างโขดหินหรือโพรงของต้นไม้ แต่ตอนนี้ชอบใช้รังกล่องบ่อยๆ
    จากเดือนเมษายนถึงประมาณเดือนกรกฎาคมจะวางไข่ครั้งละประมาณ7~10ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 15 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกนางแอ่นขาวมาร์ติน ชื่อญี่ปุ่น”Iwatsubame “ วงศ์ นกนางแอ่น
    นกนางแอ่นขาวมาร์ติน ชื่อญี่ปุ่น”Iwatsubame “
    นกนางแอ่นขาวมาร์ติน ชื่อญี่ปุ่น”Iwatsubame “ Selected
    เมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิจะบินมาจากทางใต้เร็วกว่านกนางแอ่นชนิดอื่นเล็กน้อย ลำตัวจะค่อนข้างเล็กและขนปีกจะสั้น ส่วนใหญ่มีสีน้ำตาลแดงจากหัวผ่านมาถึงลำคอ แต่นกนางแอ่นขาวมาร์ตินมีลำคอสีขาว ชอบอยู่เป็นฝูงในพื้นที่ราบและป่าเปิดในภูเขาสูง จับเหยื่อขณะบินได้เช่นยุง มอด แมลงวัน เดิมทีจะสร้างรังกันเป็นกลุ่มตามถ้ำตามชายฝั่งหรือผนังหินของภูเขาเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันจะทำรังใต้ชายคาบ้าน ใต้สะพาน สถานีต่าง ๆ หรือ ซอกตึก เป็นต้น
    จากเดือนเมษายนถึงประมาณเดือนสิงหาคมจะเข้าฤดูผสมพันธ์ ตัวผู้จะร้อง「พิริท、จูริ、จิท」
    สร้างรังเป็นรูปถ้วยโดยการเอาหญ้าแห้งและโคลนมายึดติดด้วยน้ำลายของตัวเอง วางไข่ครั้งละประมาณ3~4ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 15 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดืนอ 3~10
    นกฤดูร้อน(Natsudori:ช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเพื่อขยายพันธ์ พอเข้าหน้าใบไม้ร่วงจะอพยพไปทางใต้ )
  • นกปรอทหูสีน้ำตาล ชื่อญี่ปุ่น “Hiyo-dori” วงศ์ นกปรอท
    นกปรอทหูสีน้ำตาล ชื่อญี่ปุ่น “Hiyo-dori”
    นกปรอทหูสีน้ำตาล ชื่อญี่ปุ่น “Hiyo-dori” Selected
    อาศัยตามพื้นที่ราบหรือในป่าบนภูเขา หรือบางครั้งก็พบได้ในเมือง
    ร้องเสียงดังว่า「พีー、พีー、ฮิーโย、ฮิーโย」 จึงเป็นที่มาของชื่อญี่ปุ่น "Hiyo-dori" สวนมากจะใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้ จะไม่ค่อยลงมาที่พื้นดิน
    กินผลไม้ น้ำหวานของดอกไม้ แมลง หรือบางครั้งก็ลูกนกชนิดอื่น รวมทั้งจิ้งแหลนด้วย นกปรอทมีหูสีน้ำตาล เดิมทีในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อนจะเลี้ยงลูกอ่อนตามภูเขา ฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวจะย้ายมาอยู่แถบที่อบอุ่นที่เป็นพื้นที่ราบ แต่ปัจจุบันพบว่ามาทำรังบนต้นไม้ในสวนสาธารณะหรือบ้านพักอาศัยตลอดทั้งปี และมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นด้วย
    ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงประมาณเดือนกรกฎาคมเป็นฤดูผสมพันธ์ สร้างรังโดยนำกิ่งไม้แห้งมากอง ๆ หรืออาจมีเชือกพลาสติกมาเป็นวัตถุดิบก็มี วางไข่ครั้งละประมาณ 4~5 ฟอง

    พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงจะรวมตัวกันเป็นฝูงร้อยกว่าตัว และอพยพไปยังสถานที่อบอุ่นเป็นระยะทางสั้นๆ (จะมีการโยกย้ายที่อยู่ตามฤดูกาล)



    ●ขนาด/ประมาณ 28 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ) หรือว่า
    นกอพยพ(HyouChou:เป็นนกที่จะอยู้ในบางพื้นที่ในบางฤดูและก็อพยพไป )
  • นกกระจิบ ชื่อญี่ปุ่น “Uguisu” วงศ์ นกกระจิบ
    นกกระจิบ ชื่อญี่ปุ่น “Uguisu”
    นกกระจิบ ชื่อญี่ปุ่น “Uguisu” Selected
    มีเสียงร้อง 「โฮ-โฮเคะ-เคียว 」 จะร้องในช่วงฤดูผสมพันธ์ โดยตัวผู้จะร้องเพื่อประกาศอาณาเขต ส่วนตัวเมียจะร้อง「จิ๊ด,จิ๊ด」
    อาศัยอยู่ตามป่าไม้ พุ่มไม้ หรือทุ้งหญ้าตามพื้นราบถึงพื้นที่เป็นภูเขาในช่วงฤดูหนาวจะพบเห็นตามสวนสาธารณะในเมืองเต็มไปหมด
    ตัวผู้กับตัวเมียมีสีเหมือนกัน โดยลำตัวเป็นสีเขียวแต่งแต้มด้วยสีเทา
    บนตาจะมีแถบสีเทาอ่อน นอกจากฤดูผสมพันธ์จะอยู่ตัวเดียว จะกินแมลงหรือแมงมุม อาหารที่ชอบจะเป็นลูกพลับ
    หยุดพักตามกิ่งไม้ระหว่างบินในระยะใกลแต่ก็ไม่ได้บินระยะทางไกลมาก บินไปรอบในพุ่มไม้ ใช้วิธีหวดหรือโบกหางเพื่อบินเปลี่ยนทิศทางบิน
    ฤดูผสมพันธุ์จากเมษายน-สิงหาคม สร้างรังด้วยหญ้าสีเงินหรือหญ้าไม้ไผ่แห้งในพุ่มไม้โดยทำเป็นรูปทรงกลม วางไข่ครั้งละประมาณ 4-6 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 15 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ) หรือว่า
    นกอพยพ(HyouChou:เป็นนกที่จะอยู้ในบางพื้นที่ในบางฤดูและก็อพยพไป

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกกระจิบหัวลาย ชื่อญี่ปุ่น”Yabuame” วงศ์ นกกระจิบ
    นกกระจิบหัวลาย ชื่อญี่ปุ่น”Yabuame”
    นกกระจิบหัวลาย ชื่อญี่ปุ่น”Yabuame” Selected
    เมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิ จะบินอพยพกลับมาจากทางใต้เมื่อพ้นฤดูหนาว
    จะอาศัยในซุ่มป่าไม้ไผ่ที่เขียวชอุ่มที่มีแสงรำไร และเนื่องจากเป็นนกที่อาศัยอยู่แต่ในพุ่มไม้จึงไม่ค่อยเจอ นอกเหนือจากฤดูผสมพันธ์จะชอบอยู่ตัวเดียวมากกว่า ใช้วิธีเดินแบบกระโดดในพุ่มไม้หรือบนพื้นดินเพื่อหาแมลงหรือแมงมุมกิน ลักษณะการเคลื่อนไหวนั้นดูแล้วคล้ายหนู
    ตัวผู้กับตัวเมียมีสีเหมือนกัน ลำตัวมีสีน้ำตาล ส่วนหัวเป็นลายสีขาวเหมือนคิ้ว ขนหางสั้น จากช่วงเดือนพฤษภาคมถึงประมาณเดือนกรกฎาคม เป็นฤดูผสมพันธ์ ตัวผู้จะร้องหาคู่ว่า 「ชินชินชิน」 ร้องเหมือนเสียงแมลง เวลาที่อยู่ในอาณาเขตของตัวเองจะร้องเสียง「จาท จาท」เพื่อเป็นการเตือนให้นกตัวอื่นถอยห่าง สร้างรังเป็นรูปถ้วยโดยนำเอาใบไม้ร่วงหรือตะไคล่น้ำมากองที่พื้นที่ลุ่มบนพื้นดินหรือบนโคลนต้นไม้วางไข่ครั้งละประมาณ 5-7 ฟอง
    ฤดูใบไม้ร่วงพอเลี้ยวลูกโตเต็มวัยจะอพยพลงใต้

    ●ขนาด/ประมาณ 11 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณ 4~10
    นกฤดูร้อน(Natsudori:ช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเพื่อขยายพันธ์ พอเข้าหน้าใบไม้ร่วงจะอพยพไปทางใต้ )
  • นกติ๊ดตัวน้อยตัวนิด ชื่อญี่ปุ่น “Enaga” วงศ์ นกติ๊ต
    นกติ๊ดตัวน้อยตัวนิด ชื่อญี่ปุ่น “Enaga”
    นกติ๊ดตัวน้อยตัวนิด ชื่อญี่ปุ่น “Enaga” Selected
    ในญี่ปุนเป็นนกที่มีจงอยปากสั้นที่สุด
    ลำตัวมีรูปร่างกลมตัวเล็ก มีขนหางยาวเป็นจุดที่โดดเด่นมาก
    ตัวผู้และตัวเมียมีสีเหมือนกัน หัวสีขาวจะมีลวดลายเส้นสีดำบนตา
    บนไหล่มีขนสีองุ่นอ่อนปนอยู่ อาศัยอยู่ตามพื้นราบหรือป่าสนในภูเขาจะพบเห็นตามสวนสาธารณะหรือ ย่านที่อยู่อาศัยที่มีต้นไม้จำนวนมาก
    มีร้องเสียง 「จิวริ,จิวริ,ชิริริ,จี-จี」 ทั้งปีโดยไม่เกี่ยวกับฤดูผสมพันธ์
    นอกจากฤดูผสมพันธ์แล้วจะใช้ชีวิตเป็นฝูงเล็ก ๆ อาศัยอยู่ปะปนกับนกชนิดอื่นเช่นนกติ๊ตใหญ่ เป็นต้น จับแมลงหรือแมงมุมตามปลายกิ่งไม้เป็นอาหาร หรือกินผลของต้นไม้ด้วย ในต้นฤดูใบไม้ผลิจะดูดน้ำเลี้ยงจากต้นไม้เช่นต้นเมเปิ้ลเป็นต้น ฤดูผสมพันธ์คือช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมิถุนายน สร้างรังโดยใช้ใยแมงมุมเป็นกาวติดกับตะไคร่น้ำเพื่อทำรังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าบนกิ่งไม้ วางไข่ครั้งละประมาณ 7-12 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 14 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)
  • นกกระจิ๊ดหัวมงกุฎ ชื่อญี่ปุ่น”Sendaimushikui” วงศ์ นกกระจิบ
    นกกระจิ๊ดหัวมงกุฎ ชื่อญี่ปุ่น”Sendaimushikui”
    นกกระจิ๊ดหัวมงกุฎ ชื่อญี่ปุ่น”Sendaimushikui” Selected
    เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิจะอพยพกลับมาจากทางใต้หลังจากย้ายไปถิ่นอื่นในช่วงฤดูหนาว จะใช้ชีวิตในป่าต้นไม้ผลัดใบกระจายในวงกว้างเช่นใบเมเปิ้ลและ ต้นKonaraของภูเขาต่ำ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงจะสามารถพบเห็นได้ตามย่านที่อยู่อาศัยหรือในสวนสาธารณะ
    ตัวผู้กับตัวเมียสีเหมือนกัน ตั้งแต่หัวถึงด้านหลังมีสีเขียวเข้ม บนตามีเส้นลายสีขาวเหมือนคิ้ว มีการเคลือนไหวอยู่ตลอดเวลาบนกิ่งไม้ จะหยุดนิ่งที่ปลายของใบไม้เพื่อจับแมลงหรือแมงมุมที่อยู่ตามใบไม้กิน
    ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนเป็นฤดูการผสมพันธ์ตัวผู้จะร้อง 「โจ โจ บิด 」, ได้ยินเหมือน 「โ ชจู อิท ปาย กึ~อิ 」
    สร้างรังด้วยหญ้าแห้งที่เก็บมาจากพื้นตามที่ลุ่มของฝั่งหรือพื้นดินในป่าลักษณะรังตรงทางเข้าจะเอียงเป็นรูปทรงบอลที่ว่างเปล่า,วางไข่ครั้งละประมาณ 5-6 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 13 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 4~10
    นกฤดูร้อน(Natsudori:ช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเพื่อขยายพันธ์ พอเข้าหน้าใบไม้ร่วงจะอพยพไปทางใต้ )
  • นกแว่นตาขาว ชื่อญี่ปุ่น”Mejiro” วงค์ นกแว่นตาขาว
    นกแว่นตาขาว ชื่อญี่ปุ่น”Mejiro”
    นกแว่นตาขาว ชื่อญี่ปุ่น”Mejiro” Selected
    อาศัยตามพื้นที่ราบถึงป่าตามภูเขาต่ำ ๆ ตามสวนสาธารณะและสวนขนาดใหญ่ หรือสวนในบ้าน ตัวเมียและตัวผู้มีสีเหมือนกัน
    ตั้งแต่หัวถึงด้านหลังมีสีเขียวเหลือง รอบ ๆ ตามีวงสีขาวดูสะดุดตา
    ในแต่ละปีส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตเป็นคู่ เดินวนไปมาบนต้นไม้เพื่อหาแมงมุมหรือแมลงกินเป็นอาหาร เมื่อเอาอาหารมาวางที่ถาดอาหารจะมาร่วมวงกินทันที ชอบกินส้มเขียวหวานหรือแอปเปิล หรือบางที่อาจจำพวกน้ำผลไม้ด้วย ช่วงฤดูดอกไม้บานจะชอบกินน้ำหวานจากดอกเคมีเลียและดอกซากุระ ดอกบ๊วย และกินเกสรดอกไม้ด้วย ช่วงนี้จะเห็นที่ลำตัวของมันมีผงของเกสรดอกไม้เต็มไปหมด เปรียบเสมือนทำหน้าทีในการผสมเกสร ฤดูผสมพันธ์คือช่วงเดือนเมษายนถึงประมาณเดือนมิถุนายน จะทำรังเป็นรูปถ้วยโดยการนำใยแมงมุมมาร้อยก้านหญ้าและตะไคร่น้ำที่กิ่งไม้เตี้ยๆ วางไข่ทีละประมาณ 3-5 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 12 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 1-12
    นกประจำถิ่น(Ryuuchou:เป็นนกที่ปีหนึ่งๆจะอยู่ที่เดิมๆ)
  • นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Hirenjaku” วงศ์ นกปีกขี้ผึ้ง
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Hirenjaku”
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Hirenjaku” Selected
    ในช่วงเดือนตุลาคมจะมาหลบฤดูหนาวอยู่ที่ญี่ปุ่นโดยอพยพมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไซบีเรีย จะอาศัยตามป่าภูเขาต่ำ สามารถพบเห็นได้บ่อยตามย่านที่อยู่อาศัยหรือสวนสาธารณะ ดูผิวเผินมีลักษณะเหมือนกับสายพันธ์ Garrulus Bombycilla ที่หัวจะมีขนเหมือนมงกุฎ และที่ลำตัวจะมีสีน้ำตาลแดงเหมือนกัน เสียงร้องก็ 「จิริจิริจิริ」 คล้ายๆกัน จุดที่แตกต่างกันคือ ลำตัวของนกชนิดนี้จะเล็กกว่า ขนหางมีสีดำที่ปลายมีลวดลายสีแดง ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงตลอด จะเกาะตามกิ่งไม้1กิ่งกันเป็นกลุ่มๆ หรือเกาะเรียงกันตามสายไฟฟ้า เวลาออกบินจะบินพร้อมกัน กินผลไม้คืออาหารที่ชื่นชอบ หรือแมลงที่จับได้กลางอากาศขณะบิน อพยพไปทางเหนือประมาณปลายเดือนพฤษภาคมก่อนเข้าช่วงฤดูร้อน

    ●ขนาด/ประมาณ 18 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 10~5
    นกฤดูหนาว(Fuyudori:เป็นนกที่เข้ามาหลบหนาวตอนฤดูใบไม้ร่วง พอฤดูใบไม้ผลิก็อพยพไป)
  • นกชื่อญี่ปุ่น”Shirohara” วงศ์ นกแซว
    นกชื่อญี่ปุ่น”Shirohara”
    นกชื่อญี่ปุ่น”Shirohara” Selected
    เป็นนกที่อพยพหนีหนาวมาจากแหล่งที่เป็นบ้านเกิดคือตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในลุ่มแม่น้ำ Usuri เขตติดต่อระหว่างจีนกับรัสเซีย ทางคาบสมุทรเกาหลี ที่ญี่ปุ่นจะอาศัยอยู่ตามพื้นทีราบถึงป่าในภูเขา บางครั้งจะพบในสวนผลไม้หรือสวนสาธารณะด้วย
    ลักษณะการเดินจะกระโดดไปตามพื้นดินในป่าสลัว จะไม่ค่อยเห็นตามสถานที่โล่งแจ้ง อาหารที่ชอบคือตัวอ่อนของแมลงหรือไส้เดือนจากในดินหรือใต้กองทับถมของใบไม้ที่ร่วง และผลไม้ต่าง ๆ
    ตัวผู้กับตัวเมียสีเกือบเหมือนกัน หัวสีเทาส่วนด้านหลังน้ำตาลเข้มปนเขียว ท้องเป็นสีเทาตรงกลางเป็นสีขาวจึงเป็นที่มาของชื่อ Shirohara
    มีเสียงร้อง「กิวกิวกิว」 เวลาจะบินขึ้นร้องเสียงดังๆว่า 「จี๊ทー」
    ในฤดูใบไม้ผลิจะอพยพขึ้นไปทางเหนือในจังหวัดนะงะซากิ

    ●ขนาด/ประมาณ 25 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 11~3
    นกฤดูหนาว(Fuyudori:เป็นนกที่เข้ามาหลบหนาวตอนฤดูใบไม้ร่วง พอฤดูใบไม้ผลิก็อพยพไป)
  • นกเดินดงอกลายแดง ชื่อญี่ปุ่น “Tsugumi” วงศ์ นกแซว
    นกเดินดงอกลายแดง  ชื่อญี่ปุ่น “Tsugumi”
    นกเดินดงอกลายแดง ชื่อญี่ปุ่น “Tsugumi” Selected
    เป็นตัวแทนของนกฤดูหนาวที่อพยพมาอาศัยในญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากจากไซบีเรีย อยู่กระจัดกระจายทั่วไปในพื้นที่ของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ป่าไร่การเกษตร แหล่งต้นน้ำของแม่น้ำ สวนสาธารณะและพื้นที่ที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยของคน จะอาศัยอยู่ในพุ่มไม้และป่าไม้เขียวชอุ่ม ตอนอพยพมาใหม่ๆ จะอยู่เป็นกันฝูง แต่พอเข้าฤดูหนาวจะอยู่ตัวเดียวเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะการเดินจะกระโดดไปตามพื้นดิน พอหยุดเดินจะยืดอก นกเดินดงอกลายแดงจะมีพฤติกรรมอย่างนี้ทำซ้ำไปซ้ำมาเพื่อหาอาหาร จะเขี่ยใบไม้ที่ร่วงบนพื้นดินหรือขุ้ยที่พื้นดินเพื่อหาตัวอ่อนแมลงหรือไส้เดือนกิน และชอบกินผลไม้ด้วย เช่น ลูกพลับ หรือลูก Pyracantha มีเสียงร้องอย่างต่อเนื่องว่า 「คิคิว」 ฤดูใบไม้ร่วงจะร้อง「ทซึอิー」โดยบินไปด้วยร้องไปด้วย พอฤดูใบไม้ผลิจะรวมตัวกันเป็นฝูงอีกครั้งและอพยพกลับไปทางเหนือเพื่อฟักไข่และเลี้ยงลูกอ่อน

    ●ขนาด/ประมาณ 24 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 10~4
    นกฤดูหนาว(Fuyudori:เป็นนกที่เข้ามาหลบหนาวตอนฤดูใบไม้ร่วง พอฤดูใบไม้ผลิก็อพยพไป)
  • นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Ruribitaki” วงศ์ นกแซว
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Ruribitaki”
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Ruribitaki” Selected
    ตัวผู้จะมีขนสีน้ำเงินสวยมากตั้งแต่หัวถึงหาง ใต้รักแร้มีขนสีส้มที่โดดเด่นมาก ตัวเมียเป็นสีน้ำตาลเขียว เป็นนกที่จะเปลี่ยนที่อยู่อาศัยไปตามฤดูกาล จากฤดูใบไม้ผลิไปถึงฤดูร้อนจะอยู่ที่ภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร เพื่อเลี้ยงลูกอ่อน อยู่ตามต้นสน พอเข้าฤดูหนาวจะย้ายลงมาอยู่ในพื้นที่ต่ำ จะพบเห็นตามต้นไม้หรือป่าตามสวนสาธารณะ ป่าใกล้ภูเขาทะคาโอะ ชอบอยู่ตัวเดียวเป็นส่วนใหญ่ หรืออยู่เป็นคู่เพื่อสร้างอาณาเขต อาหารที่ชอบคือแมลงหรือตะขาบ ช่วงฤดูหนาวจะกินผลไม้ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมเป็นฤดูผสมพันธ์ ตัวผู้จะไปเกาะตามกิ่งไม้สูงร้องหาคู่ 「พีจีจิวริ、ฮิวโระโระ」
    สร้างรังโดยนำเอาใบไม้แห้งหรือตะไคร่น้ำมากองเป็นรูปถ้วยที่โคนต้นไม้ หรือต้นไม้ล้ม วางไข่ครั้งละประมาณ 3-5 ฟอง

    ●ขนาด/ประมาณ 14 เซนติมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 11~3
    นกอพยพ(HyouChou:เป็นนกที่จะอยู้ในบางพื้นที่ในบางฤดูและก็อพยพไป)

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Johitaki” วงศ์ นกแซว
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Johitaki”
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Johitaki” Selected
    ฤดูใบไม้ร่วงจะอพยพมาญี่ปุ่นซึ่งย้ายมาจากไซบีเรียถิ่นกำเนิด
    จะอาศัยตามป่าภูเขาเตี้ย แหล่งต้นน้ำ พื้นที่โล่งแจ้ง เช่น ในสวนสาธารณะ ในช่วงฤดูหนาว ตัวผู้จะมีสีเงินที่หัวและหลังคอ หน้าอกมีสีส้มเด่นมาก ตัวเมียที่หางก็มีสีส้มปนอยู่บ้าง แต่โดยทั่วลำตัวแล้วเป็นสีเทา ตอนอพยพมาใหม่ๆ จะเกาะอยู่ตามกิ่งไม้หรือเสาตรงจุดที่เห็นเด่นชัด มีเสียงร้อง「ฮิอิ ฮิอิ」เพื่อประกาศอาณาเขต ชอบทำหัวเหมือนการคาราวะพร้อมกระดิกหางและร้องเสียง「คัทคัท」 เสียงนี้เหมือนเสียงเอาหินมาเคาะเพื่อจุดไฟจึงเป็นที่มาชื่อญี่ปุ่น 「Hitaki」 ชอบอยู่ตัวเดียวเป็นส่วนใหญ่ จับแมลงหรือแมงมุมกินเป็นอาหาร หรือกินผลของไม้ MasakiหรือTokiwa Crataeg​​us ที่ปลูกเป็นแนวรั้ว ก่อนที่จะถึงฤดูใบไม้ผลิจะอพยพกลับไปทางเหนือเพื่อฟักไข่และเลี้ยงลูกอ่อน

    ●ขนาด/ประมาณ 14เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 10~3
    นกฤดูหนาว(Fuyudori:เป็นนกที่เข้ามาหลบหนาวตอนฤดูใบไม้ร่วง พอฤดูใบไม้ผลิก็อพยพไป)
  • นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Kibitaki” วงศ์ นกแซว
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า  “Kibitaki”
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Kibitaki” Selected
    บินกลับมาที่ญี่ปุ่นจากทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฤดูใบไม้ผลิ
    จะอาศัยตามพื้นราบไปถึงป่าที่มีต้นไม้สูงตามภูเขา
    ตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนชื่อเรียกคือตั้งแต่คอถึงหน้าอกเป็นสีเหลืองสดใสเป็นจุดเด่นสะดุดตา ตัวเมียตั้งแต่หัวถึงด้านหลังจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนปนเขียว ชอบเกาะตามกิ่งไม้ของต้นไม้ ไม่ค่อยร่าเริ่งไม่ค่อยเคลื่อนไหว จะกินแมลงหรือแมงมุมที่อยู่ตามยอดใบไม้หรือกิ่งไม้ หรือบางครั้งก็บินไปจับแมลงกลางอากาศ ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคมเป็นฤดูผสมพันธ์ ตัวผู้จะร้องหาคู่ 「พิทโคะโระโระ」 หรือ 「ทซึทะ ทซึทะโอน」เป็นต้น โดยสามารถร้องได้หลายแบบมากและการเลียนแบบเสียงของนกอื่นก็เก่ง สร้างรังในโพรงต้นไม้โดยจะใช้ใบไม้ร่วงหรือตะไคร่น้ำมากองๆ เพื่อรองพื้น หรือสร้างรังใต้ชายคาของอาคาร ตามช่องหน้าต่าง เป็นต้น วางไข่ครั้งละประมาณ 4-6 ฟอง
    ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นเวลาอพยพ(มีการย้ายที่อยุ่อาศัยไปตามฤดูกาล)แต่ก็จะสามารถเห็นได้ตามสวนสารธาณะของเมืองบ้าง

    ●ขนาด/ประมาณ 15 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน4~10
    นกฤดูร้อน(Natsudori:ช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเพื่อขยายพันธ์ พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงจะอพยพไปทางใต้ )

    (未翻訳)鳴き声を聞く

  • นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Ooruri” (Cyanoptila cyanomelana) วงศ์ นกแซว
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Ooruri” (Cyanoptila cyanomelana)
    นกชื่อญี่ปุ่นว่า “Ooruri” (Cyanoptila cyanomelana) Selected
    ในฤดูใบไม้ผลิจะอพยพกลับจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาที่ญี่ปุ่น
    และอาศัยตามป่าของภูเขา สวนมากจะอาศัยตามแหล่งต้นน้ำ ทะเลสาบหรือหนองน้ำ ตัวผู้ตั้งแต่หัวจนถึงหางจะมีขนสีน้ำเงินเป็นมันวาว ส่วนตัวเมียมีสีน้ำตาลอ่อนๆ พอเข้าฤดูผสมพันธ์ ตัวผู้จะร้อง「พี-ริ-ริ-,จิว-บี-บี,จีจี 」 เป็นการร้องเพื่อประกาศอาณาเขตและหาคู่ เสียงร้องนั้นไพเราะมากเมื่อเปรียบเทียบกับเสียงนกจำพวก นกกระจิบ (Cettia diphone)、นกโรบิน(Erithacus Akahige)「จัดเป็นนกสวยงามทั้ง3ชนิด 」 และถือได้ว่านกสายพันธ์นี้เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เป็นการร้องเพื่อประกาศอาณาเขต ตัวผู้จะร้องตามจุดเพียงไม่กี่จุด และมีนิสัยคือร้องเวลาเดิมตลอดในทุกๆจุด ช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกรกฏาคม จะสร้างรังในที่ลุ่มตามขอบหน้าผาโดยการเอาตะไคร่น้ำมารวมกันเป็นรูปถ้วยและวางไข่ครั้งละประมาณ 3-5 ฟอง พอฤดูในไม้ร่วงจะอพยพไปยังพื้นที่อื่นเพื่อหลบหนาว

    ●ขนาด/ประมาณ 16 เซนติเมตร
    ●ฤดู/ประมาณเดือน 4~10
    นกฤดูร้อน(Natsudori:ช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อนจะอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเพื่อขยายพันธ์ พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงจะอพยพไปทางใต้ )

    (未翻訳)鳴き声を聞く

※ใบเสนอราคาจากทาง app ภูเขาทาคาโอะ(แอนดี้)
もっと見る 閉じる