TAKAO 599 MUSEUM

ขุมทรัพย์ของภูเขาทาคาโอะ

Selected

นิทรรศการตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ที่ได้รับการจัดให้เพื่อทุกคนและเป็นรูปแบบของการจัดนิทรรศการแบบเปิดโล่งล้อมรอบดอกไม้ที่สวยงามตามฤดูกาลทั้งสี่ฤดู ที่พบหลากหลายที่มีความโดดเด่นก็คือแมลงที่อาศัยอยู่ในภูเขา ถูกจัดวางอยู่บนผนังซึ่งสตาฟเอาไว้ แสดงให้เห็นถึงมนต์เสน่ห์ของการพัฒนาแบบไดนามิกของทาคาโอะที่เป็นภาพยนตร์ เช่น กำแพงธรรมชาติ"ที่พิพิธภัณฑ์ ทาคาโอะ 599 ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อแสดงให้เห็นความสำคัญของสิ่งมีชีวิตที่มีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมแห่งธรรมชาติ "

  • ด้วง Lucanus maculifemoratus ตระกูล Lucanidae
    ด้วง  Lucanus maculifemoratus
    ด้วง Lucanus maculifemoratus ตระกูล Lucanidae
    ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะซาโดะ เกาะอิอิ พบในป่าและป่าชายหาด ลำตัวค่อนข้างดูทะมัดทะแมง ชอบอยู่อาศัยอยู่เป็นทีที่ไป เมื่อเทียบกับสายพันธ์ Rectus Dorcus และ Prosopocoilus Inclinatus ส่วนที่ยื่นออกมาจากด้านหลังของหัวที่เป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์นี้ เติบโตไปพร้อมกับอายุเช่นขากรรไกรล่างและไม่ค่อยเห็นในสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก ตัวผู้มีลำตัวเป็นสีดำน้ำตาล หรือสีแดงน้ำตาล ที่ลำตัวมีขนสีทอง ตัวเมียเป็นสีดำน้ำตาลอ่อน ออกหากินในเวลากลางคืนมากกว่ากลางวัน ชอบบินไปเกาะที่ต้น Acutissimam Quercus และ Serrata Quercus

    ●ความยาวประมาณ 30-80 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม
  • ด้วงแรดญี่ปุ่น Trypoxylus dichotomus ตระกูล Scarabaeidae
    ด้วงแรดญี่ปุ่น  Trypoxylus dichotomus
    ด้วงแรดญี่ปุ่น Trypoxylus dichotomus ตระกูล Scarabaeidae
    ภูมิภาคหลัก: พบในฮอนชู ชิโกกุและคิวชู ตัวผู้มีงวงขนาดใหญ่และแข็งแรง จะเรียกว่าเป็นราชาของแมลงในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้และได้รับความนิยมมากในหมู่เด็ก แต่สามารถพบพวกมันใด้ในคาบสมุทรเกาหลี จีนและทางเหนือของคาบสมุทรอินโดจีน
    พบในป่าและป่าจากพื้นราบ ไปยังภูเขาและชอบที่จะบินไปเกาะที่ต้น Acutissimam Quercus และ Quercus Serrata เพื่อหาอาหาร
    มีกรงเล็บตรงส่วนบนของขาแหลมคมมากช่วยพยุงลำตัวและร่างกายให้อยู่ในแนวตั้งได้โดยไม่ยาก มีงวงขนาดใหญ่เพื่อป้องกันตัวจากภัยจากแมลงหรือสัตว์อื่นๆ แมลงอื่น ๆ ที่จะมารบกวนขณะที่อยู่บนต้นไม้
    วางไข่ในดิน และช่วงเป็นตัวเต็มวัยโดยมีอายุขัยเฉลี่ยสองถึงสามเดือน

    ●ความยาว (รวมถึงงวง) ประมาณ 30 ถึง 50 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาล เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม
  • ด้วงดอกไม้ ตระกูล Scarabaeidae
    ด้วงดอกไม้
    ด้วงดอกไม้ ตระกูล Scarabaeidae
    จะกระจายอยู่ในเกาะ ฮอนชู ชิโกกุ และ คิวชู เกาะซาโดะ เกาะ อิซุ เกาะอิโตะ เกาะยากุชิม่า อาศัยอยู่ในป่าหรือพื้นที่ป่าที่ลุ่ม ส่วนใหญ่จะเห็นบ่อยบนถนนชายป่าและเทือกเขา มักจะพบใน สภาพแวดล้อมที่มีต้นไม้ และ สวน ต่างๆ ตามถนนใจกลางเมือง หัวและลำตัวจะค่อนข้างแบนเล็กน้อย ออกเหลี่ยมๆ มีความแตกต่างกันบ้างแต่ละตัว สีของลำตัวจะค่อนข้างค่อนไปทางสีเขียวเกือบทองแดง ส่องแสงระยิบระยับสวยงามมาก ความสามารถในการบินสูง ( ปีกสองชั้นหรือสองคู่ และมีปีกใหญ่ด้านนอกคลุมไปถึงด้านหลัง)ส่วนขณะบินนั้นมันจะใช้เพียงปีกอ่อน (ในสุด) เท่านั้น ควบคุมการพับปีกโดยปีกด้านบน

    ● ขนาดลำตัว / ประมาณ 22-30 มิลลิเมตร
    ● ฤดูตัวเต็มวัย / เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคม
  • ด้วง Rhomborrhina Unicolor ตระกูล Scarabaeidae
    ด้วง  Rhomborrhina Unicolor
    ด้วง Rhomborrhina Unicolor ตระกูล Scarabaeidae
    ภูมิภาคหลัก: พบในฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะซาโดะ เกาะทาเนงะ เกาะยากุ พบในป่าหรือป่าจากระดับต่ำไปยังภูเขา ดูดน้ำจากต้น Quercus Acutissimam, Quercus Serrata และต้นตระกร้าวิลโลว์
    พบเห็นได้ในช่วงต้นฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมเห็นบนต้นไม้เหล่านี้พร้อมกับด้วงชนิดอื่น แมลงและผึ้งต่างๆร่วมกัน
    ขนาดของลำตัวและมีลักษณะทางชีววิทยาค่อนข้างคล้ายกับ สายพันธ์ Rhomborrhina Japonica รวมทั้งสีของลำตัวที่มีบางสีคล้ายกันด้วย แต่ก็มีแตกต่างบ้างเช่นมีสีทองแดง สีเขียว แต่สำหรับสายพันธุ์นี้จะมีสีเขียวเมทัลลิคมีความเงางามมาก นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์ที่เรียกว่าRhomborrhina Polita ซึ่งมีลำตัวเป็นสีดำ ซึ่งสายพันธุ์นี้และ Rhomborrhina Polita จะไม่ค่อยพบเห็นในเขตเมือง

    ● ขนาดลำตัว / ประมาณ 22-30 มิลลิเมตร
    ● ฤดูตัวเต็มวัย / เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคม
  • ด้วง Paratrichius doenitzi ตระกูล Scarabaeidae
    ด้วง  Paratrichius doenitzi
    ด้วง Paratrichius doenitzi ตระกูล Scarabaeidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอนชู พบในพื้นที่สีเขียวหรือทุ่งหญ้าจากระดับต่ำไปยังภูเขา เป็นชนิดวงเดียวกับผีเสื้อซึ่งสามารถพบห็นได้ในช่วงต้นฤดูร้อนกับปลายฤดูร้อน เป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับแมลงมาก มีลำตัวขนาดใหญ่ และมีสีสันสวยงามบนหลังของมัน ซึ่งจะมีให้เห็นเฉพาะในตัวผู้เท่านั้น ส่วนตัวเมียจะมีลำตัวสีขาวดำซึ่งนับจะแตกต่างไปจากตัวผู้ มีงวงหรือเสาอากาศจะดูโดดเด่นมาก พบเห็นตามใบไม้หรือดอกไม้ หรือตามพื้นหญ้าบนเส้นทางขึ้นภูเขา บินไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อกินน้ำหวานของเกสรดอกไม้ ตัวอ่อนชอบกินซากต้นไม้ผุ ๆ

    ●ความยาวประมาณ 12-16 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม
  • ด้วง Popillia japonica ตระกูล Scarabaeidae
    ด้วง  Popillia japonica
    ด้วง Popillia japonica ตระกูล Scarabaeidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู และซึชิม่า และเกาะยากุ พบได้ในพื้นที่สีเขียวหรือทุ่งหญ้าจากพื้นราบไปยังภูเขา
    ช่วงเป็นตัวอ่อนกินพืชหลายชนิดใต้ดินและบางครั้งก็กินรากของพืชตระกูลฟาบาซี่ ช่วงตัวเต็มวัยเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแมลงทำลายเพราะกินหน่อใบและดอกของพืชต่างๆของเกษตรกร ดังนั้นจึงมักจะพบพวกมันได้ในในพื้นที่เพาะปลูกมากกว่าในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ บางครั้งเติบโตได้ทีละจำนวนมากและก่อให้เกิดความเสียหายต่อการปลูกพืชพักของชาวไร่ ความยาวลำตัวมีขนาดเล็กประมาณ 1 ซม. หัวถึงท้องมีสีเดียวกัน ลำตัวเป็นสีเขียวออกเงา และพื้นผิวปีกด้านหน้าเป็นสีน้ำตาลแดงเงาๆ และมีความสวยงามมาก
    พบได้ในช่วงต้นฤดูร้อน และรวมตัวกันเพื่อหาอาหารในพืชในช่วงกลางวัน

    ●ความยาวประมาณ 9-13 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม
  • ด้วงมูลสัตว์ Phelotrupes laevistriatus ตระกูล Scarabaeidae
    ด้วงมูลสัตว์  Phelotrupes laevistriatus
    ด้วงมูลสัตว์ Phelotrupes laevistriatus ตระกูล Scarabaeidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชูและเกาะซุชิม่า เกาะยากุ พบในพื้นที่สีเขียวหรือพื้นราบจนถึงภูเขา ในสวนสาธารณะ และเขตที่อยู่อาศัย สีเดียวกับลำตัว ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำเมทัลลิคและสีม่วงบางครั้งก็มีสีเขียวคราม หรือสีดำ มีความสวยงามมาก จะเรียกว่าด้วงมูลสัตว์ และอาหารหลักของพวกมันเป็นมูลจากสัตว์และส่วนใหญ่จะบินเรื่ยกับพื้นดิน ตัวเมียจะนำมูลสัตว์มาไว้ใต้ดินและวางไข่ใต้ดิน ​​และเมื่อฟักตัวอ่อนออกมาก็กินมูลสัตว์ที่เก็บไว้เลยเพื่อที่จะเติบโตต่อไป พบได้ในภูเขาทาคาโอะ และพบได้ตามเส้นทางบนภูเขา

    ● ความยาวประมาณ 14-20 มม.
    ● ฤดูตัวเต็มวัย เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน
  • เต่าทองเจ็ดจุด Coccinella Septempunctata ตระกูล Coccinellidae
    เต่าทองเจ็ดจุด  Coccinella Septempunctata
    เต่าทองเจ็ดจุด Coccinella Septempunctata ตระกูล Coccinellidae
    ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู โอกินาวา เกาะโองาวาซาระ เกาะมิยาโกะ พบในทุ่งหญ้าและพื้นที่สีเขียวจากพื้นราบไปถึงบนภูเขา และในสวนสาธารณะ หรือบนต้นไม้ริมถนนในเมือง เป็นแมลงที่ส่วนใหญ่ที่รู้จักกันทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น มีจุดด่างดำ7 จุดบนปีก มีสีแดงมันวาวจึงชื่อญี่ปุ่น Nanahoshi-tento เจ็ดดาวเต่าทอง
    จะเห็นจากต้นฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง เป็นนักล่าและหากินพืชที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เมื่อมีอันตรายจะปล่อยของเหลวสีเหลืองในร่างกายมีกลิ่นจากข้อต่อของขาเพื่อป้องกันตัวเอง
    ตัวอ่อนกินใบของพืข มีรูปร่างแตกต่างจากตัวเต็มวัย มีขนดก

    ●ความยาวประมาณ 5 ถึง 8 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัยเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
  • เต่าทอง Hexaspilota Aiolocaria ตระกูล Coccinellidae
    เต่าทอง Hexaspilota Aiolocaria
    เต่าทอง Hexaspilota Aiolocaria ตระกูล Coccinellidae
    ภูมิภาคหลัก: พบในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ และคิวชู พบในป่าพื้นที่สีเขียวจากเมืองบนภูเขาและตามลำธารในหุบเขา เป็นสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล Coccinellidae มีรูปลักษณ์ที่แปลกมากด้วยขนาดใหญ่กว่า 1cm ปีกข้างหน้ามีความเงางามมีสีแดงสลับสีดำเหมือนเต่าจึงชื่อญี่ปุ่น Kamenoko-tento ความหมายเต่าทอง จะเห็นได้จากต้นฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง และฟักตัวอ่อนที่ต้น Depressa Gastrolina และ Chrysomela Populi มักจะพบที่ต้นวอลนัทญี่ปุ่นและ Chrysomela Vigintipunctata ด้วย เมื่อเจออันตรายจะปล่อยของเหลวในร่างกายที่มีกลิ่นออกมา ในช่วงฤดูหนาวจะหลบซ่อนตัวตามซอกก้อนหิน หรือตามโพรงไม้ต่างๆ

    ●ความยาวประมาณ 8 ถึง 12 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม
  • ด้วง Acrothinium gaschkevitchii ตระกูล Chrysomelidae
    ด้วง  Acrothinium gaschkevitchii
    ด้วง Acrothinium gaschkevitchii ตระกูล Chrysomelidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชูและโอกินาวา
    พบในป่าไม้และรอบๆทุ่งหญ้าจากพื้นราบไปสู่บนภูเขา
    สีของลำตัวแตกต่างกันไปตามถิ่นที่อยู่อาศัย
    ส่วนบนของปีกหน้ามีสีแดงออกทองแดงและส่วนอื่นเป็นสีเขียวเหมือนโลหะ มีชื่อญี่ปุ่นว่า Aka-Gane-saru-hamushi หมายถึง ลูกลิงสีทองแดง สีลำตัวจะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปบ้างตามมุมต่างๆ ซึ่งดูสีมีสันสวยงาม จะเห็นได้จากฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน และอาหารจะเป็นใบของพืช ใบองุ่น บางครั้งเป็นก็ใบสะระแหน่ และมักจะพบในรากหรือโคนต้นไม้เหล่านี้เพื่อเลี้ยงตัวอ่อน ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นศัตรูพืชสำหรับพืชตระกูล Vitaceae

    ●ความยาวประมาณ 5-7 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม
  • ด้วง Leptura Ochraceofasciata ตระกูล Cerambycidae
    ด้วง  Leptura Ochraceofasciata
    ด้วง Leptura Ochraceofasciata ตระกูล Cerambycidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะทางเหนือของเกาะอิซุ เกาะริชิกิ เกาะซาโดะ เกาะโอกิ และเกาะโกโตะ
    พบในป่าไม้ ทุ่งหญ้าจากพื้นราบไปถึงบนภูเขา มีชื่อญี่ปุ่นว่า Yotsusuji - Hana - kamikiri หมายถึง เป็นชื่อดอกไม้ที่ชื่อ Cerambycidae ดอกไม้สี่สี ที่มีชื่ออย่างนั้นเนื่องจาก สีของปีกด้านนอกประกอบไปด้วยสีสี่สี ได้แก่ สีเหลืองน้ำตาล ไปจนถึงสีขาว บนปีกแข็งด้านนอก ขามีสีเหลืองน้ำตาลและ ลำตัวผอม เหมือน ผึ้ง
    จะพบได้ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ตัวเต็มวัย กินเกสรและน้ำหวานของดอกไม้ และมักบินไปยังต้นไฮเดรนเยีย ฟ้าทะลายโจร เกาลัด ญี่ปุ่น, Barbinervis Clethra และ Cornus Controversa
    ลักษณะลำตัวบางชนิดคล้ายในสายพันธ์ Clytini แต่สายพันธุ์นี้ เป็นที่รู้จักและจดจำได้ง่ายไม่ซ้ำใครโดย สังเกตที่ทรวงอก จะผอม
    เลี้ยงตัวอ่อนในลำต้นของต้นไม้ ในใบของต้น Yezo spruce และ สนแดงญี่ปุ่น

    ● ความยาว ประมาณ 12-20 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือน กันยายน
  • ด้วง Succedanea Aredolpona ตระกูล Cerambycidae
    ด้วง  Succedanea Aredolpona
    ด้วง Succedanea Aredolpona ตระกูล Cerambycidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู โอกินาวาและ เกาะริชิริ พบในป่าจากพื้นราบสู่บนภูเขา มีชื่อญี่ปุ่นว่า Akahana - kamikiri หมายถึง ดอกไม้ Cerambycidae มีดอกสีแดง เป็นชื่อที่เรียกกันส่วนใหญ่ ส่วนของลำตัวที่ไม่รวมส่วนหัวจะมีสีน้ำตาลแดง
    มักจะเห็นในภูเขาทาคาโอะ และพบเห็นได้อย่างง่ายดาย ที่ทรวงอก บางชนิดเป็นสีดำ มีหนวดและสั้นกว่าความยาวของลำตัว มีฟันเหมือนใบเลื่อยเป็นเอกลักษณ์ จะพบได้ในฤดูร้อน และมักบินไปยัง ทุ่งหญ้า และ ป่า และกินเกสรดอกไม้ และน้ำหวานของดอกไม้ รวมทั้ง ต้นไม้ Ubescens และ ไฮเดรนเยีย ฟ้าทะลายโจร
    เลี้ยงตัวอ่อนในต้นไม้ที่ตาย ไม้ Yezo spruce และ Abies sachalinensis var sachalinensis

    ● ความยาว ประมาณ 12-22 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือน กันยายน
  • ด้วงสีฟ้าที่มีจุดสีดำ Rosalia batesi ตระกูล Cerambycidae
    ด้วงสีฟ้าที่มีจุดสีดำ  Rosalia batesi
    ด้วงสีฟ้าที่มีจุดสีดำ Rosalia batesi ตระกูล Cerambycidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู
    พบในป่าไม้และป่าพื้นราบสู่บนภูเขา มีชื่อญี่ปุ่นว่า Ruri-Boshi-kamikiri หมายถึง ด้วงเขายาวสวยงาม เป็นชื่อเพราะสีร่างกายเป็นสีฟ้าอ่อน สีน้ำเงินมีจุดสีดำสามจุด สายพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักกันคือ มีสีสันสวยงาม บางชนิดมีจุดด่างดำด้านซ้ายและด้านขวาเชื่อมต่อกันก็มี มีหนวดสีฟ้าน้ำเงินและมีขนสีดำ จะพบได้ในเดือนมิถุนายนและออกหากินในช่วงกลางวัน ในภูเขาทาคาโอะ มักจะพบเห็นบนต้นบีชจาปอนิก้าที่โค่นล้มลง บินไปยังต้น uercus serrataและดอกไม้ของต้น Barbinervis Clethra ตัวอ่อนยังกินเศษไม้ของต้นไม้ในตระกูลฟากาซี่ ถึงแม้ตัวโตเต็มวัยก็ยังกิน

    ●ความยาวประมาณ 18-30 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน
  • ด้วงขาวด่าง Anoplophora malasiaca ตระกูล Cerambycidae
    ด้วงขาวด่าง  Anoplophora malasiaca
    ด้วงขาวด่าง Anoplophora malasiaca ตระกูล Cerambycidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู โอกินาวา ซาโดะ เกาะโอกิ เกาะซึชิม่า เกาะทาเนงะบเกาะยากุ
    พบในป่าจากพื้นราบสู่บนภูเขา เป็นที่รู้จักมากที่สุดตระกูล Cerambycidae ทั้งตัวเต็มวัยและตัวอ่อนในหลายชนิดกินพืชในตระกูล Salicaceae, Castanopsis ประเภทตระกูล Rutaceae และตระกูล aceraceae ที่สามารถพบได้ในทุ่งนา ในภูเขาทาคาโอะมักจะพบได้ในเส้นทางขึ้นภูเขา มีสีดำเงามีบางจุดที่ขาว หนวดเป็นสีฟ้าสว่าง และมีแถบสีดำยาวพาดเป็นแถบ ตัวผู้มีขนาดสองเท่าขนาดของความยาวลำตัวและเป็น1.2 ของตัวเมีย เป็นแมลงที่สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อต้นไม้ในสวนและริมถนน

    ●ความยาวประมาณ 25-35 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลโตเต็มวัยในเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม
  • ด้วงสีเหลือง – ด่าง Psacothea hilaris ตระกูล Cerambycidae
    ด้วงสีเหลือง – ด่าง Psacothea hilaris
    ด้วงสีเหลือง – ด่าง Psacothea hilaris ตระกูล Cerambycidae
    ภูมิภาค หลัก: ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะโอกิ และเกาะอิกิสึ
    พบได้ในป่าจากพื้นราบระดับต่ำ แต่ก็พบได้ในทุ่งนาและริมถนนที่มีต้นไม้ในเขตเมือง มีหนวดยาวและตัวผู้มีหนวดยาวกว่า และมีความยาวมากกว่าลำตัวถึงสามเท่า สีลำตัวเป็นสีดำกับสีขาวเหลืองมีจุดสีเหลือง จะเห็นได้ในช่วงต้นฤดูร้อนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง และเลี้ยงตัวอ่อนบนใบไม้และเปลือกไม้ของต้นมะเดื่อ หม่อน และพืชในตระกูล Rutaceae มีลักษณะพิเศษด้วยขากรรไกรล่าง ที่แข็งแรง ลำตัวจะสะท้อนแสงกับแสงไฟ เมื่อตัวเต็มวัยตัวเมียจะแทะเปลือกไม้ให้เป็นช่องว่างเพื่อที่จะวางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน
    ตัวอ่อนที่ฟักออกมาจะกินอาหารในต้นไม้เหล่านี้และเติบโต

    ● ความยาว ประมาณ 14-30 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัยน ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
  • ด้วง Paraglenea โชคลาภ (Ramie Longicorn Beetle) ตระกูล Cerambycidae
    ด้วง  Paraglenea โชคลาภ (Ramie Longicorn Beetle)
    ด้วง Paraglenea โชคลาภ (Ramie Longicorn Beetle) ตระกูล Cerambycidae
    ภูมิภาคหลัก: ฮอนชู (ทางทิศตะวันตกของภูมิภาคคันโต) ชิโกกุ คิวชู ซึชิม่า เกาะโอกิ เกาะทาเนงะ พบในป่าไม้โดยรอบๆและในพื้นที่สีเขียวพื้นราบสู่บนภูเขา เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศนำมาทางท่าเรือนางาซากิ เป็นสายพันธ์ Urticaceae ซึ่งได้นำเข้ามาจากประเทศจีนในช่วงสมัยเอโดะ ภูมิภาคหลักขึ้นมาเหนือเนื่องจากหนีอากาศหนาวมาที่อากาศร้อน ลำตัวมีสีที่สวยงามมีจุดสีดำสีขาวสีเขียว มีขนาดใหญ่ พบในภูเขาทาคาโอะ เริ่มพบเมื่อต้นปี 1990 เป็นอีกหนึ่งในสายพันธุ์ Cerambycidae มักจะเห็นได้ในเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ออกหากินในช่วงกลางวันและเลี้ยงตัวอ่อนและให้อาหารบนใบไม้ต้น Ramie, โบเมเรีย นิเวียร์, โบเมเรีย จาปอนิก้า,ต้นมะนาวญี่ปุ่นและ ชบา Syriacus โดยเลี้ยงตัวอ่อนในลำต้นและรากของต้นพืชเหล่านี้จนตัวเต็มวัย

    ●ความยาวประมาณ 10 ถึง 20 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม
  • ด้วงมีเขาสีขาวลาย Batocera lineolata ตระกูล Cerambycidae
    ด้วงมีเขาสีขาวลาย  Batocera lineolata
    ด้วงมีเขาสีขาวลาย Batocera lineolata ตระกูล Cerambycidae
    ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะซาโดะ เกาะโอกิ เกาะอามามิและเกาะซึชิม่า พบในป่าไม้และพื้นที่สีเขียวพื้นราบสู่บนภูเขา
    เป็นด้วงสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดที่ถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นและที่มีขนาดใหญ่เกือบ 6 ซม. ลำตัวมีสีดำที่ปกคลุมด้วยขนสั้นสีเทา
    มีลายสีเหลืองบนปีกข้างหน้า แต่รูปแบบเหล่านี้จะจางหายไปเป็นสีขาวเมื่อขยับปีกจึงชื่อญี่ปุ่นว่า Shirosuji-kamikiri หมายถึง ด้วงลายขาว ดวงตาขนาดใหญ่และมีขากรรไกรล่างแข็งแรงมาก ออกหากินในเวลากลางคืน หรือบางครั้งอาจพบในช่วงเวลากลางวัน
    ตัวเต็มวัยกินเปลือกของต้นไม้ใน Salicaceae, Juglandaceae, Betulaceae, Fagaceae Ulmaceae และเจริญเติบโตได้ในต้นไม้และยังกินน้ำเลื้ยงของต้นไม้เหล่านี้ เลี้ยงตัวอ่อนในต้นเกาลัดญี่ปุ่นQuercus Acutissima และต้นไม้ในตระกูล Castanopsis

    ●ความยาวประมาณ 45-55 มม.
    ● โตเต็มวัยในช่วงเดือนมิถุนาคม-เดือนสิงหาคม
  • ด้วงมีเขาสีขาวลาย Batocera lineolata ตระกูล Attelabidae
    ด้วงมีเขาสีขาวลาย  Batocera lineolata
    ด้วงมีเขาสีขาวลาย Batocera lineolata ตระกูล Attelabidae
    ภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ และคิวชู
    พบในป่าและทุ่งหญ้าจากพื้นราบสู่บนภูเขา
    สีลำตัวแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น บางตัวมีสีเหลืองสีน้ำตาล แต่ส่วนมากสีน้ำตาลแดงถึงสีน้ำตาลเข้ม ตัวผู้และตัวเมียมีความแตกต่างกัน ตัวผู้ในรูปทรงทั้งลำตัวศีรษะและหน้าอกและหนวดยาว ชื่อญี่ปุ่น Hige-naga-otosibumi หมายถึง หนวดและหนามยาว ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย ตัวเมียทรวงอกไม่ยาวและหนวดก็ไม่ยาว จะพบได้จากช่วงต้นฤดูร้อนถึงกลางฤดูร้อน รังที่เป็นเหมือนเปลสำหรับตัวอ่อน ทำด้วยใบของต้น Praecox Lindera, แม็กโนเลีย Kobushi, น็อธวี้ด ญี่ปุ่น, Lindera sericea และ Lindera และนำเปลไปไว้ที่พื้นดิน

    ●ความยาวประมาณ 8 ถึง 12 มม.
    ●ฤดูตัวเต็มวัย เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม
  • ด้วง Mesalcidodes trifidus ตระกูล Curculionidae
    ด้วง Mesalcidodes trifidus
    ด้วง Mesalcidodes trifidus ตระกูล Curculionidae
    ภูมิภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู
    พบในป่าโดยรอบในพื้นที่สีเขียวและทุ่งหญ้าจากพื้นราบสู่บนภูเขา
    สีลำตัวเป็นสีดำและมีขนที่สวยงามหนาแน่นเรียกว่าขนเกล็ดและเป็นสีขาว ส่วนล่างของปีกบนเป็นสีขาวส่วนใหญ่จึงมีชื่อญี่ปุ่นว่าOjiro-ashinaga-zomushi หมายถึง หางยาวสีขาว
    เป็นสายพันธุ์ของ Curculionidae และขาของสายพันธุ์นี้จะไม่ยาว
    ฤดูใบไม้ผลิมันจะเลี้ยงตัวอ่อนบนใบของคุดสุและมักจะมองเห็นได้บนใบของพืช เมื่อมีอันตรายมันจะพับขาแนบลำตัวและทำตัวนิ่งๆ ราวกับว่ามันตายไปแล้ว ตัวเมียวางไข่โดยการเจาะลำต้นของคุดสุและเลี้ยงตัวอ่อนในนั้นจนเติบโตต่อไป

    ●ความยาวประมาณ 9-10 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม
  • ด้วง Gigas Sipalinus ตระกูล Rhynchophoridae
    ด้วง  Gigas Sipalinus
    ด้วง Gigas Sipalinus ตระกูล Rhynchophoridae
    ภูมิภาคหลัก: พบในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู โอกินาวา เกาะอิซุ และเกาะซึชิม่า พบในป่าและป่าไม้จากที่ราบลุ่มไปยังภูเขา
    สีลำตัว เป็นสีน้ำตาลสลับกับจุดดำ แต่เดิมสีลำตัวเป็นสีดำ และจะปรับเปลี่ยนสีผิวเมื่ออยู่ต่อไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำพื้นผิวของลำตัวเหมือนโลหะและแข็งมาก
    มีชื่อญี่ปุ่นว่า Oo - zomushi หมายถึง ขนาดใหญ่ ได้ชื่อนี้เพราะมีปากที่ใหญ่และยาวเหมือนช้าง ( Curculionidae ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง แมลงช้าง ) เป็น สายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล Curculionidae ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อตัวเต็มวัยจะพบเห็นได้ในช่วงต้นฤดูร้อนถีงกลางฤดูร้อน กินอาหารจำพวกเปลือกไม้ของต้น Acutissima Quercus และ Quercus Serrata ในช่วงกลางวันอาศัยอยู่ในซากต้นไม้ล้ม และ ต้นไม้ที่แห้งตาย ตัวเต็มวัยมีชีวิตอยู่ ประมาณสองปีหลังจากที่เกิด ตัวเมียวางไข่ในป่าไม้และเลี้ยงตัวอ่อน จะพบเจอได้ต้องเข้าไปในป่าลึก

    ● ความยาว ประมาณ 12-29 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาล ตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน
  • แตนยักษ์ญี่ปุ่น Vespa mandarinia japonica ตระกูล Vespidae
    แตนยักษ์ญี่ปุ่น   Vespa mandarinia japonica
    แตนยักษ์ญี่ปุ่น Vespa mandarinia japonica ตระกูล Vespidae
    พวกมันอาศัยกันอยู่อย่างแพร่หลายในฮอกไกโด เกาะฮอนชูเป็นเกาะหลัก ชิโกกุ คิวชิว เกาะยากุชิม่า เกาะทาเนงะชิม่า
    พบได้ในพื้นดินทั่วไปและพื้นที่ราบต่ำเนินเขาเตี้ยๆ และยังมีบางส่วนที่อยู่อาศัยแถวๆ ย่านที่อยู่อาศัยก็มี
    เป็นสายพันธุ์ผึ้งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีแถบลายสีส้มและหนาบนลำตัวสีดำดูโดดเด่นมาก ที่อยู่อาศัยของพวกมันคือถ้ำ หรือโพรงสร้างอยู่ใต้พื้นดิน มักจะอาศัยรวมกันอยู่ กินเนื้อแมลงเป็นอาหารเป็นเหยื่อจำพวกแมลงขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกันพวกมันก็โจมตีที่อยู่อาศัยผึ้งกลุ่มอื่น ๆ เพื่อกินตัวอ่อนและรังเป็นอาหาร
    พวกมันสร้างรังโดยนำเปลือกไม้จากต้นไม้มาทำรัง เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่ามีนิสัยดุร้ายก้าวร้าวและมีพิษที่ร้ายแรง ที่สามารถทำให้มนุษย์ตายได้ ประเด็นก็คือว่า เมื่อคุณเห็นพวกมันหรือได้ยินเสียงกระพือปีก ' ผับ ' ไม่ต้องแสดงอาการต่อสู้หรือตื่นตระหนกให้ออกจากบริเวณจุดนั้นไป สิ่งที่ต้องควรรู้ไว้คือ จุดที่พวกมันจะมารวมกันก็คือจุดที่มีเครื่องดื่มรสหวานหรือกับข้าวที่ห่อมานั่นเอง

    ● ความยาว ประมาณ 27-45 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนเมษายนถึง เดือนตุลาคม
  • แตน Vespa Simillima Xanthoptera ตระกูล Vespidae
    แตน  Vespa  Simillima Xanthoptera
    แตน Vespa Simillima Xanthoptera ตระกูล Vespidae
    ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่เกาะฮอนชู ชิโกกุ คิวชิว เกาะซาโดะ เกาะซึชิม่า และ เกาะยากุชิม่า พวกมันอาศัยอยู่ใกล้กับจุดที่มีต้นไม้อยู่หนาแน่น ในพื้นที่การปลูกต้นไม้หนาแน่น จะมีลำตัวขนาดที่แตกต่างกันตามหน้าที่ มีแตนขนาดกลาง ขนาดเล็ก โดยขนาดใหญ่สุดขนาดเป็นผึ้งราชินี ผึ้งงานประมาณ 20 มม ตัวผู้ขนาดประมาณ 20 ถึง 24 มม. ราชินีผึ้งประมาณ 25-28 มิลลิเมตร
    ต้นฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดู ที่เริ่มปรากฏขึ้นและ เริ่มทำรังเป็นทรงกลม กลวงบนต้นไม้ หรือใต้ดิน ที่เป็นปัญหาในปีที่ผ่านมา ปัญหาคือพวกมันสร้างรังอยู่ใต้หลังคาบ้านในญี่ปุ่น ในบ้านที่อยู่อาศัย ตามผนังที่อยู่อาศัยในเขตเมือง ด้วยสีลำตัวเป็นสีเหลืองสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ทั้งนี้ลักษณะเฉพาะของพวกมันคือจะไม่ทำร้ายมนุษย์ก่อนถ้าไม่ไปทำอะไรมันก่อนพวกมันก็โจมตีมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้อควรแนะนำเมือ่เห็นผึ้งทำรัง ไม่ควรที่จะไปดูในระยะใกล้ พวกมันชอบกินน้ำหวาน หรือผลไม้ที่มีรสหวาน และ จับกิน แมลงต่างๆเช่น จักจั่น

    ● ความยาว ประมาณ 20 ถึง 28 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัยคือ เดือนเมษายนถึง เดือนพฤศจิกายน
  • แมลงภู่ appendiculata Xylocopa ตระกูล Apidae
    แมลงภู่  appendiculata Xylocopa
    แมลงภู่ appendiculata Xylocopa ตระกูล Apidae
    พวกมันอาศัยอยู่กันอย่างแพร่หลายในฮอนชู, ชิโกกุ คิวชิว รวมทั้งเกาะซึชิม่า และเกาะยากุชิม่า มักอาศัยอยู่ที่ป่าละเมาะพื้นที่ภูเขาและทางเดินรอบพื้นที่สีเขียว ดังนั้นเราจะเห็นอาศัยอยู่ในสวนหรือสวนสาธารณะและในย่านที่อยู่อาศัย ต้นฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อนจะออกหากินเป็นจำนวนมากตามเกสรดอกไม้เพื่อกินน้ำหวานของดอกไม้ต่างๆ ตัวผู้ชอบแสดงอาณาเขตของตัวเอง ที่สันเขาบางครั้งเราจะเห็นพวกมันปกป้องดินแดนของตัวเองโดยบินวนไปรอบๆ
    เจาะกิ่งไม้พุ่มสำหรับเป็นสถานที่เพาะพันธุ์และเลี้ยงลูกอ่อนอยู่ในนั้น เสียงของปีกจะดัง ซึ่งเกิดจากปีกที่หนาแน่นปกคลุมไปด้วยขนหนาซึ่งอาจทำให้ดูน่ากลัว แต่ความจริงก็คือจะเชื่องและไม่ทำร้ายมนุษย์

    ●ความยาวประมาณ 20 ถึง 24 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม
  • มดงาน Japonicas Camponotus ตระกูล Formicidae
    มดงาน Japonicas Camponotus
    มดงาน Japonicas Camponotus ตระกูล Formicidae
    ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชูและเกาะซึชิม่า เกาะยากุ พบในทุ่งหญ้าที่ราบสู่บนภูเขา สร้างรังเปิดในพื้นดินจึงมักจะพบที่สวนสาธารณะและสวนต่างๆในเขตเมือง เป็นสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในพันธ์พื้นเมืองที่ถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น มดงานมีขนาดประมาณ 10 มม. และราชินีมดขนาด 17 มม. สีลำตัวป็นสีดำและมีท้องสีน้ำตาล อาศัยอยู่ในเขตที่กว้างใหญ่ มีมดราชินีในถ้ำใต้ดิน สำหรับมดงานมีหน้าที่หาอาหาร หากินแมลงที่ตายแล้วและดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นพืชใต้ดิน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนมดตัวผู้ตัวโตเต็มวัยขนาดเขื่องมีปีก และราชินีมดจะออกมาจากที่ซ่อนเพื่อสืบพันธุ์ ตัวเมียจะทิ้งปีกมดและสร้างรังอีก ดูแลลูกมดที่เกิดมาออกมาในระยะแรก จนกระทั่งมดตัวเล็กๆกลายเป็นมดงาน ส่วนตัวเมียก็เป็นราชินีมดและวางไข่อย่างต่อเนื่องต่อไป

    ●ความยาวประมาณ 7-13 มม. (มดงาน)
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย ประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน
  • มด Obscuripes Camponotus ตระกูล Formicidae
    มด Obscuripes Camponotus
    มด Obscuripes Camponotus ตระกูล Formicidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโดฮอนชู ชิโกกุ คิวชู เกาะยากุ และเกาะซึชิม่า พบในป่าและทุ่งหญ้าจากพื้นราบ สู่บนภูเขา
    เป็นสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด มีลักษณะนิสัยเหมือนสายพันธ์ Camponotus Japonicus ในญี่ปุ่น และราชินีมดมีขนาดลำตัวเกือบ 2 ซม. สีของหัวและขามีสีดำและที่หน้าอกและส่วนที่ด้านหน้าของช่องท้องมีสีน้ำตาลแดง บางชนิดมีสีสีน้ำตาลแดงเฉพาะในทรวงอก
    แทบจะไม่เคยเห็นในชุมชนเมือง โดยปกติจะสร้างรังในซากไม้ที่ตายแล้ว หรือรากของต้นไม้ในป่าซึ่งไม่ได้อยู่ในดิน มดงานเรามักจะพบเห็นได้ในบริเวณทั่วไปที่พื้นดิน ทำงานเพียงลำพัง กินแมลงที่ตายแล้วและ กินเพลี้ยน้ำหวาน

    ●ความยาวประมาณ 7-12 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม
  • แมลงปอสามัญ Orthetrum albistylum speciosum ตระกูล Libellulidae
    แมลงปอสามัญ  Orthetrum albistylum speciosum
    แมลงปอสามัญ Orthetrum albistylum speciosum ตระกูล Libellulidae
    ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชูและโอกินาวา
    พบในทุ่งหญ้าที่มีแสงแดด ริมแม่น้ำ บินไปยังแอ่งน้ำและเป็นอีกหนึ่งในแมลงปอที่พบบ่อยอยู่ในชุมชนในเขตเมือง หลังการเกิดเป็นตัวเต็มวัยในฤดูใบไม้ผลิ สีของลำตัวทั้งตัวผู้และตัวเมียก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเหลืองกับมีจุดสีดำบนหน้าท้อง เฉพาะลำตัวของตัวผู้เท่านั้นที่จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำด้วยอายุที่มากขึ้น และจากหน้าอกไปตรงกลางของช่องท้องจะถูกปกคลุมไปด้วยแป้งสีขาวมีลักษณะเหมือนเกลือ นี่คือที่มาของชื่อภาษาญี่ปุ่นว่าShiokara-Tombo ความหมายคือ แมลงปอเค็ม สีลำตัวของตัวเมียจะไม่เปลี่ยน และเรียกว่าเป็น Mugiwara-Tombo ความหมายคือ แมลงปอฟาง ตัวเมียจะบินวนเวียนอยู่เหนือน้ำจุ่มตรงปลายของช่องท้องลงสู่พื้นน้ำเพื่อวางไข่

    ●ความยาว ประมาณ 49 ถึง 55 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน
  • แมลงปอ Sympetrum pedemontanum elatum ตระกูล Libellulidae
    แมลงปอ  Sympetrum pedemontanum elatum
    แมลงปอ Sympetrum pedemontanum elatum ตระกูล Libellulidae
    ภูมิภาคหลัก: ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู
    พบได้ที่ริมลำธารที่ไหลช้า นาข้าวและบ่อจากพื้นราบไปยังภูเขา
    ลำตัวมีการเปลี่ยนสีเป็นสีแดงเหมือน Frequens Sympetrum ที่ทรวงอกและช่องท้องเมื่อตัวเต็มวัย ตัวผู้เปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น ปลายปีกด้านหน้าและด้านหลังมีสายสะพายสีน้ำตาล ที่เป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์นี้จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะแยกความแตกต่างได้ ลำตัวของตัวเต็มวัยตัวเมียไม่เป็นสีแดง แต่จะมีสีค่อนข้างน้ำตาลแดง ส่วนตัวผู้ลำตัวมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมสีแดง ส่วนตัวเมียจะเป็นสีขาว อาหารหลักเป็นแมลงขนาดเล็กที่จับได้ในขณะที่บิน


    ●ความยาวประมาณ 30 ถึง 40 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน
  • แมลงปอวงแหวนทอง Sieboldii Anotogaster ตระกูล Cordulegastridae
    แมลงปอวงแหวนทอง  Sieboldii Anotogaster
    แมลงปอวงแหวนทอง Sieboldii Anotogaster ตระกูล Cordulegastridae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู โอกินาวา เกาะซาโดะ เกาะยากุ และเกาะอามามิ เกาะโอชิมะ
    เป็นแมลงปอพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และมีความยาวถึงประมาณ 11 ซม. พบในหนองน้ำลำธารและในพื้นราบที่ระดับต่ำและที่ลำธารบนภูเขา แต่ไม่ค่อยพบพื้นที่ในเมือง ลำตัวเป็นที่น่าสนใจมากเพราะมีตาขนาดใหญ่สีเขียวเข้มและลำตัวป็นสีดำกับสีเหลือง อาหารหลักเป็นแมลงขนาดเล็กและจับเหยื่อในขณะที่บิน
    ตัวเต็มวัยตัวผู้จะมีอาณาเขตของตัวเองและลาดตระเวนรอบๆ ในพื้นที่ เมื่อตัวเมียตั้งท้องจะบินวนเวียนบริเวณผิวน้ำและให้ช่องท้องจุ่มลงไปใต้น้ำเพื่อวางไข่

    ●ความยาวประมาณ 90-100 มม.
    ●ฤดูกาล ช่วงโตเต็มวัยคือเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม
  • แมลงปอคอร์เนเลีย Calopteryx ตระกูล Calopterygidae
    แมลงปอคอร์เนเลีย  Calopteryx
    แมลงปอคอร์เนเลีย Calopteryx ตระกูล Calopterygidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ที่ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู
    พบที่ลำธารและลำธารน้ำใสจากพื้นราบระดับต่ำไปถึงบนภูเขา
    เป็นสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดของ Calopterygidae ในประเทศญี่ปุ่น อาหารหลักเป็นแมลงขนาดเล็ก
    มีปีกใสๆสีน้ำตาลและท้องสีเขียวเหมือนโลหะแวววาว ดูสง่างามเมื่อชะลอตัวบินที่ริมน้ำ ตัวเมียด้านบนปีกมีสีขาวและที่ท้องเป็นสีน้ำตาล
    ตัวผู้เมื่อโตตัวเต็มวัยจะสร้างอาณาเขต และมีคู่ บางครั้งตัวเมียจะวางไข่ใต้น้ำ ซึ่งในไข่มีลักษณะพิเศษที่สามารถกันน้ำได้
    ปีกเป็นชั้นๆและปีกของมันก็สามารถอยู่ใต้น้ำได้เกือบเป็นชั่วโมง

    ●ความยาวประมาณ 60-65 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลโตเต็มวัยคือเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
  • แมลงปอ Superstes Epiophlebia ตระกูล Epiophlebiidae
    แมลงปอ Superstes Epiophlebia
    แมลงปอ Superstes Epiophlebia ตระกูล Epiophlebiidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุและคิวชู
    รู้จักกันทั่วไปว่าเป็น "ฟอสซิลที่มีชีวิต" เพราะหลายส่วนของลำตัวรวมทั้งอวัยวะสืบพันธุ์ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ Epiophlebiidae ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ในเทือกเขาหิมาลัย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ลักษณะลำตัวจะคล้ายกับ Gomphidae แต่ปีกเหมือน Damselflies เพราะรูปร่างของด้านหน้าและด้านหลังปีกเกือบจะเหมือนกัน พบที่ต้นน้ำลำธารหรือล้อมรอบป่าและอาหารหลักเป็นแมลงขนาดเล็กรวมทั้งแมลงวันยุง ตัวเมียวางไข่บนลำต้นของพืชที่อยู่ริมน้ำซึ่งอยู่ระหว่างก้อนหินในลำธาร (ใช้วิธีการลอกคลาบจากตัวอ่อนเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย ) ช่วงเป็นตัวอ่อนอาศัยอยู่ใต้น้ำ1 เดือน หลังจากนั้นเข้าสู่ตัวเต็มวัยใช้ชีวิตอยู่บนบกตามริมน้ำ และมีช่วงอายุ 7-8 ปี

    ● ความยาวประมาณ 50-60 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัยประมาณเดือนพฤษภาคม
  • จั๊กจั่น Graptopsaltria nigrofuscata ตระกูล Cicadidae
    จั๊กจั่น Graptopsaltria nigrofuscata
    จั๊กจั่น Graptopsaltria nigrofuscata ตระกูล Cicadidae
    ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใน ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชิว รวมทั้งเกาะซึชิม่า เกาะยากุชิม่า ชอบอาศัยอยู่ที่ตามแหล่งเพาะปลูก และป่าไม้ ในพื้นดินทั่วไป และในพื้นที่ภูเขา สามารถพบเห็นได้ในสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่และกินน้ำเลี้ยงของลำต้น ส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ เช่นต้นแพร์ญี่ปุ่น พบเห็นได้ที่ต้นไม้ขนาดใหญ่จะเกาะอยู่ตามกิ่งของต้นไม้ จักจั่นตัวผู้มีเสียงร้องที่แหลม จวี้ - จวี้ ' หรือ ' จี้ - จี้ - จี้ - จี้ ' ว่ากันว่าชื่อของพวกมัน ถูกนำตัวไปตั้งชื่อเพราะเสียงร้องคล้ายกันมากกับเสียงทอดอาหารในน้ำมัน
    ปีกมีความทึบแสง และสีออกน้ำตาลแดงเข้มกับแถบที่เป็นแสงและเงา
    ตัวเมียวางไข่อยู่ในเปลือกไม้ หลังจากฟักเป็นตัวอ่อนจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน 6-7 ปี ตัวอ่อนถูกฝังอยู่ใต้ดินใต้รากของต้นไม้นานถึง 1 ปี และคลานขึ้นไปที่พื้นดินเป็นแมลงตัวเต็มวัย

    ● ความยาว ( รวม ความยาว จากหัวถึง ปีก ) ประมาณ 50-60 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัยเดือนกรกฎาคมถึงเดือน กันยายน
  • จั๊กจั่น Opalifera Meimuna ตระกูล Cicadidae
    จั๊กจั่น Opalifera Meimuna
    จั๊กจั่น Opalifera Meimuna ตระกูล Cicadidae
    ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชิว รวมทั้งเกาะซึชิม่า เกาะยากุชิม่า อาศัยอยู่ที่ต้นไม้และป่าละเมาะ กระจายอยู่ทั่วๆไปในพื้นที่เป็นเนินภูเขาเตี้ย ๆ เราสามารถเห็นได้ในสวนสาธารณะ ในย่านที่อยู่อาศัยหรือบนต้นไม้ริมถนน
    ชอบบินอยู่เหนือต้นไม้ต่างๆเพื่อหากินผลไม้สุกของต้นไม้
    ช่วงฤดูร้อนในเดือนสิงหาคม-กันยายนจะออกมาและมีเสียงร้องที่ดังระงมไปทั่ว ' OH- SHE- TSUKU - TSUKU และดังอย่างสม่ำเสมอ ทำให้พวกมันถูกตั้งชื่อตามเสียงร้องที่ออกมาในตอนเช้าหรือในช่วงบ่าย สีลำตัวเป็นสีเหลืองน้ำตาล และสีดำที่มีแถบสีเขียว
    ความคล้ายคลึงกันและความแตกต่างระหว่างตัวผู้และตัวเมีย ทั้งสองเพศมีขนาดของลำตัวเท่าๆกัน โดยตัวผู้มีลักษณะตัวทรงกลมเนื่องจากต้องบรรจุถุงลม ส่วนตัวเมียจะมีลักษณะลำตัวเป็นเหลี่ยมกว่าเนื่องจากบรรจุอวัยวะ ท่อ ที่ใช้สำหรับการวางไข่)

    ● ความยาว ( รวมความยาวจากหัวถึงปีก ) ประมาณ 45 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม
  • จั๊กจั่น Tanna japonensis ตระกูล Cicadidae
    จั๊กจั่น  Tanna japonensis
    จั๊กจั่น Tanna japonensis ตระกูล Cicadidae
    ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแถบ ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ คิวชิว รวมทั้งเกาะซึชิม่า เกาะยากุชิม่า จะอาศัยอยู่ในป่าละเมาะและกระจายอยู่ทั่วไปในพื้นที่เนินเขาเตี้ยๆ ฤดูกาลที่ค่อนข้างพบเห็นมากที่สุดก็น่าจะเป็นช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนและเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ในเดือนกรกฎาคมพบมากที่สุด มีเสียงร้องจี๊ จี๊ จึงแป็นที่มาของชื่อ ' Hi- Gu- Ra -Shi ( จั๊กจั่น ตอนเย็น ) จะร้องในเวลาพลบค่ำยามเย็น ' ฮิ - - ฮิ ฮิ ฮิ - - ฮิ ... ซึ่งมักจะเป็นการร้องทักทายในยามเช้ารับรุ่งอรุณ จะร้องเสียงที่ฟังดูแล้วให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน สีลำตัวขึ้นอยู่กับแต่ละตัว แต่ส่วนมากมักมีสีดำ สีน้ำตาลแดงมีแถบเป็นสีเขียวและสีดำด้วยก็มี ตัวผู้ส่วนใหญ่มีท้องบวมขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่บรรจุถุงลม ในขณะที่ตัวเมียมีลักษณะลำตัวเป็นเหลี่ยมๆ เนื่องจากเป็นที่บรรจุ ( อวัยวะ ท่อ ที่ใช้ สำหรับการวาง ไข่ ) หรือบางครั้งก็ดูเหมือนมีผ้าฝ้ายสีขาวติดอยู่ที่ลำตัว ซึ่งนั่นก็คือตัวอ่อนที่เพิ่งฟักออกมาและกลายเป็นจั๊กจั่นตัวเต็มวัยต่อไป

    ● ความยาว ( รวม ความยาว จากหัวถึง ปีก ) ประมาณ 40 ถึง 50 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือน กันยายน
  • จั๊กจั่น Oncotympana maculaticollis ตระกูล Cicadidae
    จั๊กจั่น  Oncotympana maculaticollis
    จั๊กจั่น Oncotympana maculaticollis ตระกูล Cicadidae
    อาศัยอยู่ภาคใต้ของฮอกไกโด พื้นที่ในเกาะฮอนชู ชิโกกุ คิวชิว รวมทั้งเกาะซึชิม่า จะอาศัยอยู่ในป่าละเมาะกระจายอยู่ทั่วไปและในพื้นที่ภูเขา ส่วนใหญ่พบมากในภูมิภาคแถบคันโต โดยพบได้บ่อยกรณีที่มีการตัดต้นไม้เพื่อทำถนน หรือต้นไม้ริมถนนตามชานเมืองหรือแม้กระทั่งต้นไม้ในสวนสาธารณะก็ตาม เวลาร้องจะระดมเสียงร้องออกมาพร้อม ๆ กันดังกระจายไปทั่ว โดยเฉพาะในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม จะมีเสียงร้องที่เพราะและดังมาก เช่น ' Min- Min- Min ( เป็นเสียงของจักจั่นที่แข็งแกร่ง ) ที่ลำตัวมีสีดำและสีเขียว และมักจะมีฝุ่นผงสีขาวเกาะติดอยู่ ที่หายากจะมีสีดำเพียงสีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่อาจมีคละเคล้าผสมกันไปบ้างทั้งหมด ส่วนที่หายากมากที่สุดคือที่มีลำตัวสีเขียวทั้งหมด ที่มักจะเรียกว่า ' จักรพรรดิ '
    ลักษณะปีกมีความโปร่งใสและมีขนาดเกือบสองเท่าของลำตัว
    อาหารที่ชอบคือผลไม้ โดยใช้วิธีเจาะเข้าไปในผลแล้วดูดกินน้ำในผลไม้ มีช่วงชีวิตตั้งแต่เป็นตัวอ่อนจนตัวเต็มวัยและสิ้นอายุขัยรวม 6 ปี

    ● ความยาว ( รวมความยา จากหัวถึงปีก ) ประมาณ 55 ถึง 63 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน
  • Sastragala esakii ตระกูล Acanthosomatidae
    Sastragala esakii
    Sastragala esakii ตระกูล Acanthosomatidae
    ภาคหลัก: ฮอนชู ชิโกกุ คิวชู ซึชิม่า และเกาะอามามิ
    พบในป่าไม้และทุ่งหญ้าจากพื้นราบถึงบนภูเขา
    สีด้านหลังเป็นสีน้ำตาลและด้านหน้าของช่องท้องจากปีกหน้าและขามีสีเขียว ถึงสีเหลืองเขียว เป็นสายพันธุ์ของ Acanthosomatidae มีทรวงอกเป็นเหลี่ยมสายพันธุ์นี้มีความโดดเด่นคือลักษณะเป็นรูปหัวใจมีแถบสีเหลืองขาว ตั้งชื่อตามนักทฤษฎีวิทยา ของญี่ปุ่นคือ ศาตราจารย์. Teiso Esaki กินเยื่อใบไม้ของต้นด๊อกวู้ดยักษ์ Toxicodendron Succedaneum, Oudo และ Pricklyญี่ปุ่น และโดยมากมักจะพบในต้นไม้เหล่านี้ ตัวเมียวางไข่ที่ด้านหลังของใบรวมถึงต้นด๊อกวู้ดยักษ์และมักจะใช้ใบห่อหุ้มเป็นรังที่อยู่อาศัย
    และยังคงใช้ประโยชน์จากใบที่ใหญ่นั้นปกป้องอันตรายจากศัตรูภายนอกด้วย

    ●ความยาวประมาณ 10 ถึง 12 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม
  • Statilia maculata ตระกูล Mantidae
    Statilia maculata
    Statilia maculata ตระกูล Mantidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอนชู ชิโกกุ คิวชู อิซุ เกาะยากุ และเกาะซึชิม่า พบในป่าและทุ่งหญ้าพื้นราบไปยังภูเขา และตามทุ่งนา โดยส่วนมากของสายพันธุ์นี้จะมีสีลำตัวเป็นสีเหลืองกับสีน้ำตาลเข้ม แต่ก็มีสีเขียวด้วยแต่พบได้ยาก ด้านในของขาหน้าเป็นสีดำซึ่งเป็นที่โดดเด่นมาก พบในพืชที่มีสีเขียวทั่วไป หรือต้นไม้ และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงมักจะพบบนใบที่ตายแล้ว และตัวเมียวางไข่เอาไว้ตามซอกหินหรือโคนต้นไม้

    ●ความยาวประมาณ 36-60 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
  • ตั๊กแตนตำข้าวเล็ก Japonica Acromantis ตระกูล Acromantidae
    ตั๊กแตนตำข้าวเล็ก Japonica  Acromantis
    ตั๊กแตนตำข้าวเล็ก Japonica Acromantis ตระกูล Acromantidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอนชู ชิโกกุและคิวชู เกาะนันเซอิ พบในป่าและทุ่งหญ้าบนพื้นราบระดับต่ำไปยังภูเขา เป็นตั๊กแตนตำข้าวขนาดเล็กมาก แม้ขนาดของลำตัวประมาณ 3 ซม. แต่ก็มีปีกขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมท้องเป็นการระบุว่าเป็นตัวเต็มวัย สีลำตัวป็นสีเขียวและสีน้ำตาล บางส่วนมีการผสมสีเช่นสีน้ำตาลที่ด้านหลังและสีเขียวบนขาหน้า เมื่อพบอันตรายจะหยุดการเคลื่อนไหวและลดตัวลงหมอบไปกับพื้น บางครั้งวางขาข้างขวาแนบท้องแกล้งทำเป็นตาย ลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลี่ยมที่ยื่นออกมารวมตาทั้งสองข้าง ตัวอ่อนเมื่อฟักตัวออกมาจากไข่ลำตัวเป็นสีดำเหมือนมด

    ●ความยาวประมาณ 25-32 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม
  • Baculum irregulariterdentatum ตระกูล Phasmatidae
    Baculum irregulariterdentatum
    Baculum irregulariterdentatum ตระกูล Phasmatidae
    อาศัยอยู่ใน ฮอนชู ชิโกกุ คิวชิว
    อาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ และในทุ่งหญ้าสีเขียวที่ราบต่ำไปยังเนินเขา บางตัวมีลำตัวสีเขียว และบางตัวก็มีสีน้ำตาลเข้ม
    เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าพวกมันปรับเปลี่ยนสีผิวให้เข้ากับส่วนหนึ่งของต้นไม้หรือก้านของใบทำให้เราไม่สามารถมองเห็นได้เลย
    เป็นแมลงที่ถึงแม้จะมีปีกแต่ก็บินไม่ได้ เคลื่อนไหวตัวจากต้นไม้ไปยังใบไม้ได้อย่างช้า ๆ อาหารที่ชอบคือใบไม้ รวมทั้งผลของเชอร์รี่และดอกฟันปลา จะมีลักษณะคล้ายสายพันธ์ Phraortes illepidus นี้มากตรงมีหนวดยาวไปถึงขาหน้า นอกจากนี้ยังมีสายพันธ์Phluctaenoides Micadina ที่มีปีกด้วย พบได้ตามภูเขาทาคาโอะที่มีรูปแบบการแพร่พันธุ์ที่แปลกหายากมาก 'Parthenogenesis' นั่นหมายความว่าตัวเมียสามารถวางไข่ได้โดยไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์กับตัวผู้

    ●ความยาวประมาณ 60-100 มม.
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
  • แมลงปองู Grandis Protohermes ( Dobsonfly ) ตระกูล Corydalidae
    แมลงปองู Grandis Protohermes ( Dobsonfly )
    แมลงปองู Grandis Protohermes ( Dobsonfly ) ตระกูล Corydalidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ที่ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ และ คิวชู
    อาศัยอยู่ตามภูเขาที่มีลำธาร และป่าไม้ จากพื้นราบถึงบนภูเขา
    มีลำตัวผอมบาง มีปีกขนาดใหญ่สี่ปีก แต่ก็ไม่จัดอยู่ในตระกูลของแมลงปอ และที่สำคัญเป็นสายพันธ์ที่แตกต่างไปจากแมลงปอคือ โฮโมเมตาโบลิซึ่ม (การเปลี่ยนแปลงโดยสมบูรณ์) ส่วนช่วงเป็นดักแด้จะเหมือนแมลงปอเป็นเฮมิเมตาโบลิค (การเปลี่ยนแปลงที่ไม่สมบูรณ์) สีลำตัวเป็น สีเหลืองค่อนไปทางสีน้ำตาล มีจุด สีเหลือง บนปีก ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในป่าและทุ่งหญ้าใกล้ๆ ลำธาร จะออกหากินจริงๆในเวลากลางคืนและ บินไปยัง ต้นไม้ ต่างๆเพื่อกินเยื่อใบไม้
    นอกจากนี้ยังชอบแสงไฟ มีขากรรไกรล่างที่มีขนาดใหญ่ และเมื่อถูกโจมตีหน้าอกจะกวัดแกวงไปมาเพื่อป้องกันตัวเองซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ งู จึงญี่ปุ่น ชื่อ Hebi - tombo ความหมาย แมลงปองู
    ตัวอ่อน ที่เรียกว่า magotaro - mushi ความหมายหลานแมลง อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำที่ใสและ กินแมลงในลำธาร ทะเลสาบ

    ● ความยาว ประมาณ 36 ถึง 40 มิลลิเมตร
    ● ฤดูกาลตัวเต็มวัย เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน
  • Panorpa japonica ตระกูล Panorpidae
    Panorpa  japonica
    Panorpa japonica ตระกูล Panorpidae
    ภูมิภาคหลัก: พบได้ในฮอนชู ชิโกกุและคิวชู
    พบในป่าไม้และพื้นที่สีเขียวจากพื้นราบต่ำไปยังภูเขา
    จากตรงกลางของช่องท้องถึงปลายท้อง เป็นหาง มีลักษณะโค้งงอเหมือนหางของแมงป่อง เรียกว่า panorpidae ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง ขดปลายของช่องท้อง ตัวผู้ที่มีลักษณะท้องเป็นขดๆ ส่วนช่องท้องของตัวเมียจะมีความหนามากกว่าและไม่ขดถือเป็นจุดที่แตกต่างกัน ปลายของช่องท้องของตัวผู้เป็นเหมือนกรรไกรคมๆ มีไว้เพื่อสำหรับป้องกันปกป้องตัวเมียเมื่อมีการต่อสู้กันและใช้สำหรับเมื่อต้องผสมพันธุ์ และใช้ดูดกินของเหลวในร่างกายของแมลงที่ตายแล้วและน้ำผลไม้ ตัวผู้จะนำเอาแมลงที่ตายแล้วมาให้ตัวเมียกินเป็นอาหารและจะมีเพศสัมพันธุ์ด้วยขณะกินอาหารซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์นี้ ตัวที่เกิดในช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นสีดำ แต่ตัวที่อยู่ในช่วงฤดูร้อนจะมีสีเหลืองและจะมีลักษณะเหมือนสายพันธุ์อื่น ๆ ทุกประการตัวอ่อนอาศัยอยู่ในดินและกลายเป็นดักแด้

    ● ความยาวประมาณ 13-20 มิลลิเมตร
    ●ฤดูกาลตัวเต็มวัยช่วงเดือนเมษายน-เดือนกันยายน
  • คุวากาตะโซ ตระกูลโสม
    คุวากาตะโซ
    คุวากาตะโซ ตระกูลโสม
    สมุนไพรยืนต้น ขึ้นอยู่บนพื้นดินที่เป็นแอ่งน้ำใกล้ป่าลำธาร ดอกจะบานในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ หลังจากต้นไม้ผลิตาของกิ่งออก กลีบเลี้ยงที่มีใบรูพัด จะเริ่มผลิออก ลักษณะดอกจะบานคล้ายหมวกกันน็อกครอบ จึงมีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า Kuwagata เป็นดอกขนาดเล็ก สีของดอกมีสีแดงสีม่วงและเบ่งบาน 1-5 กลีบ จากฐานของดอกสู่ด้านบนลำต้น ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1 ซม และมีเส้นสีม่วงบางแผ่จากจุดศูนย์กลางของกลีบ กลีบจานรูปที่แยกการทำดอกไม้ มีสี่กลีบ รูปทรงของใบเป็นรูปไข่ที่มีปลายแหลมคล้ายขอบฟัน ลำต้นมีขนาดใหญ่ประมาณ 3 ถึง 5 ซม. และใบมีขนสั้น ๆ อยู่รอบ ๆ

    ●ฤดูกาล ระหว่างช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ถึงต้นเดือนมิถุนายน
    ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ●สถานที่ 6 อุระ - เทือกเขาทาคาโอะ
  • โอคะ ทซึนามิ ตระกูลมิ้นท์
    โอคะ ทซึนามิ
    โอคะ ทซึนามิ ตระกูลมิ้นท์
    เป็นสมุนไพรไม้ยืนต้น พบในบริเวณป่า และทุ่งหญ้า ชายเขาถึงยอดภูเขาทาคาโอะ อยู่ในตระกูลเดียวกับมินท์ ใบและก้านดอกมีลักษณะชิดกับลำต้น ใบมีขนาดใหญ่คลุมส่วนบนของลำต้น ลักษณะของดอกไม้มีรูปร่างโค้งงอคล้ายท่อ และมีความยาวประมาณ 2 ซม. ขณะที่บานเต็มที่ ชื่อของ ทซึนามิ ได้มาจากรูปทรงดอกที่คล้ายกับคลื่นทะเลนั่นเอง และเนื่องจากพันธ์ดังกล่าว ได้ถูกพบในเทือกเขาโอค่ะ ทาคาโอ่ะ จึงได้ถูกเรียกว่า Oka - tatsunami เจริญเติบโตอยู่บนเนินเขากว้าง มีสีดอกเป็นสีฟ้า สีม่วง ลำต้นมีขนสั้นหันดิ่งลงด้านล่าง ขอบใบกว้างมีรูปไข่ขนาดใหญ่ ในส่วนบนของใบยาวประมาณ 5 ซม. ดอกกลีบเลี้ยงด้านนอกคล้ายเป็นรูปจาน ขยายพันธ์ด้วยเมล็ด โดยเมื่อดอกแก่จัดเต็มที่ จะสามารถนำเมล็ดแก่จัดไปทำการขยายพันธ์ได้

    ● ฤดูกาล ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนมิถุนายน
    ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 50 ซม.
    ● สถานที่ ถนนสาย Trail 6
  • โฮทารุ คาสุระ ตระกูลมูราซากิ
    โฮทารุ คาสุระ
    โฮทารุ คาสุระ ตระกูลมูราซากิ
    สมุนไพรยืนต้น ขึ้นอยู่บนพื้นดินที่เป็นแอ่งน้ำใกล้ป่าลำธาร ดอกจะบานในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ หลังจากต้นไม้ผลิตาของกิ่งออก กลีบเลี้ยงที่มีใบรูพัด จะเริ่มผลิออก ในขณะที่สีของดอก จะเรืองแสงได้ในยามค่ำคืนกับแสงจันทร์ที่สวยงาม ในช่วงที่ดอกบานเต็มที่จะมองเห็นโคนต้นสีเขียว แต่งแต้มด้วยดอกไม้สีฟ้า สีม่วงที่สดใส โดดเด่นกว่าดอกไม้อื่นที่อยู่ข้างเคียง เส้นผ่าศูนย์ดอกประมาณ 1.5-2 ซม. ส่วนบนของก้านดอกมีลักษณะบาง กลีบดอกจะแบ่งออกเป็น 5 กลีบมีสีขาว ยาวประมาณ 2 ถึง 6 ซม. ใบและลำต้นมีสีเขียวขจี และลักษณะหยาบ เป็นพืชที่ปลูกคลุมดิน ไว้ แม้ในฤดูหนาวที่มีความหนาวเย็นมาก ไม่มีดอกให้ชื่นชมแล้ว แต่ยังคงใบที่ปกคลุมพื้นดินอยู่อย่างแน่นหนา

    ● ฤดูกาล ประมาณกลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ เทือกเขามินามิ- ทาคาโอะ
  • เจนเชียน ฟุเดรินโด ตระกูลเจนเทียน (ดีมังกร)
    เจนเชียน ฟุเดรินโด
    เจนเชียน ฟุเดรินโด ตระกูลเจนเทียน (ดีมังกร)
    เป็นพืชล้มลุกที่เติบโตในทุ่งหญ้า และป่าแถบชนบทที่มีแดดจัด เป็นพืชล้มลุกที่เริ่มเติบโตเริ่มตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง จนผ่านฤดูหนาวไป และเริ่มผลิดอกอย่างเต็มที่ในฤดูใบไม้ผลิของฤดูกาลถัดไป เนื่องจากมีดอกคล้ายพู่กัน จึงถูกขนานนามว่า เจนเชียนพู่กัน จะเริ่มผลิดอกงดงามในช่วงที่มีแดดจัด และเมื่อฟ้าคลึ้ม ดอกจะเริ่มหุบลง ลักษณะดอกยังมองคล้าย ๆ กับแตร ยาวประมาณ 2 - 2.5 ซม. รวมกันเป็นกลุ่มดอก เบ่งบานที่ด้านบนของแต่ละกิ่งก้าน กลีบดอกไม้แบ่งออกเป็น 5 กลีบ และจะมีกลีบดอกด้านบนอีกที่ดูซ้อนกัน จึงทำให้เห็นว่ามี นี้ทำให้พวกเขาเห็น กลีบ สีของดอกมีสีฟ้า สีม่วง และสีขาวซึ่งหายากมาก ใบเจริญเติบโตอย่างหนาแน่นบนก้านที่มีขนาดเล็ก ยาวเพียง 0.5-1.2 ซม. และถ้ามองไกล ๆ มักจะมองเห็นว่าถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงอมม่วง

    ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 10 ซม.
    ●สถานที่ เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ, เทือกเขามินามิ-ทาคาโอะ
  • ผักชีญี่ปุ่น ตระกูลเชอรรี่
    ผักชีญี่ปุ่น
    ผักชีญี่ปุ่น ตระกูลเชอรรี่
    เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่ที่มีความชื้น เช่น ในแหล่งน้ำที่อยู่ในป่า ริมถนนตาม ตามพื้นที่ตามระนาบภูเขา. (เป็นพืชยืนต้น ที่ต้องใช้เวลาในการสร้างการเจริญเติบโตได้ ต้นไม้จะผลิดอกออกผลเต็มที่ในต้นฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้จะค่อนข้างมีความบอบบางต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ซึ่งชื่อที่เขียนด้วยตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่นนั้น Sento หมายถึงพระราชวัง หมายถึงพืชพรรณที่อยู่กันเป็นกลุ่มหนาแน่น ที่ดูอลังการ งดงาม มีกิ่งก้านสาขาที่ดูสวยงาม และมีแสงสีม่วงสะท้อนที่โคนต้น กิ่งและใบ ส่วนขนาดดอกเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 มม. มีจำนวนกลีบดอก 5 กลีบ ลักษณะของดอกจะงอนโค้งเข้าหาลำต้น มีละอองเกสรตัวผู้ตัวเมีย สีเหลือง สีเขียว ที่โคนกลางดอก จัดวางไว้สวยงาม เมื่อดอกแก่จัด จะปรากฏเมล็ดพันธ์มากมายจากโคนดอก ซึ่งมีขนาดประมาณ 3 - 5 มิลลิเมตร

    ● ฤดูกาล ในช่วงปลาย เดือนมีนาคมถึง ประมาณ ปลาย เมษายน
    ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
    ● สถานที่ Trail 1 ถึง 6 , Jyataki , Ura - ทาคาโอะ
  • ดอกซือมีเระ วีโอล่า ตระกูลซือมิเระ
    ดอกซือมีเระ วีโอล่า
    ดอกซือมีเระ วีโอล่า ตระกูลซือมิเระ
    สมุนไพรยืนต้นที่พบในหลาย ๆ ส่วนของภูเขา ส่วนใหญ่จะเป็นสันภูเขาที่มีแดดจัด และในทุ่งหญ้าในภูเขาที่มีแดดจัดเช่นกัน ตลอดโคนต้น ใบและดอก เป็นพุ่มกลม ๆ สวยงามมาก ชื่อภาษาญี่ปุ่น อากาเนะ-ซือมีเร๊ะ นั้น หมายถึง วีโอล่าสีม่วงแดง ขนาดของดอกเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 - 25 ซม. มีเส้นผ่ากลางเป็นสีม่วง และจะมีขนที่คล้ายละอองเกษรอยู่โดยรอบ เป็นเอกลักษณ์ของพืชในตระกูลนี้ ใบนั้นจะมีลักษณะเป็นรูปไข่ โดยขึ้นตรงมาจากพื้นเดิน ที่เป็นพุ่มรูปสามเหลี่ยม ใบหากเบ่งบานในช่วงฤดู จะยังมีขนาดเล็กประมาณ 2 ซม. แต่หากดอกได้บานเต็มที่แล้ว ใบจะขยายขนาดเป็น 5-8 ซม. ดอกซือมีเร๊ะ วีโอล่าไม่มีกลีบเลี้ยง แต่จะมีขนดกด้านข้างของใบและดอกซึ่งจึงถูกเรียกว่า สายของวีโอล่า

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 10 ซม.
    ●สถาน ภูเขามินามิ-ทาคาโอะ
  • ดอกซือมีเระจิ๋ว ตระกูลซือมิเระ
    ดอกซือมีเระจิ๋ว
    ดอกซือมีเระจิ๋ว ตระกูลซือมิเระ
    สมุนไพรยืนต้นที่พบในหลาย ๆ ส่วนของภูเขา ส่วนใหญ่จะเป็นสันภูเขาที่มีแดดจัด และในทุ่งหญ้าในภูเขาที่มีแดดจัดเช่นกัน ตลอดโคนต้น ใบและดอก เป็นพุ่มกลม ๆ สวยงามมาก ชื่อภาษาญี่ปุ่น โคะซือมิเระ หมายความถึง ดอกซือมีเระ ที่มีลักษณะคล้ายวีโอล่า ขนาดเล็ก ซึ่งมีแสงแรกจากดวงอาทิตย์ในยามเช้าตรู่ ส่งมายังวีโอล่า ให้ดูเลื่อมเป็นสีแดงอ่อน ๆ ระเรื่อ ดูงดงาม ขนาดของดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางสีม่วง มีขนสั้น ๆ โดยรอบดอก มีผมสั้นได้ที่สเปอร์ที่ด้านหลังของกลีบดอกที่เป็นเอกลักษณ์มากสำหรับพืชในตระกูลนี้ เป็นเอกลักษณ์ของพืชในตระกูลนี้ ใบนั้นจะมีลักษณะเป็นรูปไข่ โดยขึ้นตรงมาจากพื้นเดิน ที่เป็นพุ่มรูปสามเหลี่ยม ใบหากเบ่งบานในช่วงฤดู จะยังมีขนาดเล็กประมาณ 2 ซม. แต่หากดอกได้บานเต็มที่แล้ว ใบจะขยายขนาดเป็น 2-5 ซม. ดอกซือมีเร๊ะ วีโอล่าไม่มีกลีบเลี้ยง แต่จะมีขนดกด้านข้างของใบและดอกซึ่งจึงถูกเรียกว่า สายของวีโอล่า

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 10 ซม.
    ●สถานที่ ภูเขามินามิ-ทาคาโอะ
  • โคมิยามา ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ
    โคมิยามา ซือมีเระ
    โคมิยามา ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ
    สมุนไพรยืนต้นที่พบในบริเวณในป่าลึก ป่ารกชัดและที่มีความชื้น ตามริมลำธารต่าง ๆ โดยเฉพาะในเทือกเขาทาคาโอะ จะเพิ่มเบ่งบานสะพรั่งในช่วงปลายฤดูของดอกซือมีเระ นั่นคือฤดูใบไม้ผลิ ใบขนาดใหญ่ที่โดเด่นมาก แต่มีดอกที่เล็กมาก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีสีขาว และมีเส้นสีม่วงแผ่กระจายทั่วกลีบ กลีบเลี้ยงที่ด้านหลังของกลีบดอกจะมีขนรอบ ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชชนิดนี้ รูปร่างของใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ความยาวประมาณ 3 - 5 ซม เป็นสีด้าน ไม่เงามัน ส่วน ด้านหลังของใบเป็นสีม่วง ช่วงปลายของฤดูกาล จะเริ่มมีการผสมเกสรดอกไม้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเมล็ดพันธ์เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป

    ●ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 5-8 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 4 Trail 6 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
  • ดอกซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ
    ดอกซือมิเระ
    ดอกซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ
    สมุนไพรยืนต้นที่พบในทุ่งหญ้าที่มีแดดจัด และบนถนนที่อยู่รอบ ๆ เทือกเขาทาคาโอะ ปัจจุบันลดเหลือน้อยลงมาก นอกจากเทือกเขาทาคาโอ่ะแล้ว แทบจะไม่ปรากฏที่อื่น ชื่อตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น ซือมิเระ หมายถึง วีโอล่า ซึ่งรูปร่างของดอกมีลักษณะคล้ายวิโอลา โคนต้นใหญ่ มีกิ่งก้านสาขาที่ดูแข็งแรง แทงยอดมาจากใต้ดิน ใบเป็นเหมือนรูปทรงของแตร โค้งมน และมีความยาวประมาณ 3-8 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางของโคนดอกประมาณ 1.2 - 1.7 ซม. และมีเส้นผ่าศูนย์ศูนย์กลางดอกเป็นสีม่วงเข้ม กลีบเลี้ยงด้านข้างมีขนสีขาว และเดือยยาวและประมาณ 7 มิลลิเมตร

    ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 7-15 เซนติเมตร
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 5 เทือกเขาอินาริ อุระ-ทาคาโอะ และโอคุ-ทาคาโอะ
  • ทาคาโอะ ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ
    ทาคาโอะ ซือมีเระ
    ทาคาโอะ ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ
    ในบริเวณเทือเขาทาคาโอะนี้ อาจจะถูกเรียกว่าเป็น "ภูเขาของวีโอลา." หรือภูเขาของซือมีเระ ก็ได้ พืชชนิดนี้พบในบริเวณที่ชื้น แดดร่มรำไร ตามขอบป่าตามริมลำธาร ชื่อภาษาญี่ปุ่น ทาคาโอะ-ซือมิเระ หมายถึง ซือมิเระ ที่พบครั้งแรกอยู่ในเทือกเขาทาคาโอ่ะ ซึ่งจริงแล้ว มีอยู่ทั่วที่ญี่ปุ่น แต่ได้ถูกพบครั้งแรก ที่ภูเขาทาคาโอ่ะในปี ค.ศ. 1928 (สมัย Showa ที่3) จึงได้ชื่อนี้ ด้านหน้าของใบเป็นสีน้ำตาลเข้ม ในช่วงฤดู​​ออกดอกนั้น จะมองให้เห็นเด่นชัด เป็นเอกลักษณ์มากสำหรับพืชชนิดนี้เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1 .5 - 2 ซม. มีกลิ่นหอมเล็กน้อย สีของดอกไม้ที่เป็นสีขาวกับริ้วสีม่วงแผ่จากจุดศูนย์กลางของกลีบดอก ความยาวของใบประมาณ 3-6 ซม. เป็นรูปไข่

    ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
    ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 12 ซม.
    ●สถานที่ ถนนสาย Trail 1 J , เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
※ใบเสนอราคาจากทาง app ภูเขาทาคาโอะ(แอนดี้)
もっと見る 閉じる