Selected
นิทรรศการตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ที่ได้รับการจัดให้เพื่อทุกคนและเป็นรูปแบบของการจัดนิทรรศการแบบเปิดโล่งล้อมรอบดอกไม้ที่สวยงามตามฤดูกาลทั้งสี่ฤดู ที่พบหลากหลายที่มีความโดดเด่นก็คือแมลงที่อาศัยอยู่ในภูเขา ถูกจัดวางอยู่บนผนังซึ่งสตาฟเอาไว้ แสดงให้เห็นถึงมนต์เสน่ห์ของการพัฒนาแบบไดนามิกของทาคาโอะที่เป็นภาพยนตร์ เช่น กำแพงธรรมชาติ"ที่พิพิธภัณฑ์ ทาคาโอะ 599 ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อแสดงให้เห็นความสำคัญของสิ่งมีชีวิตที่มีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมแห่งธรรมชาติ "
- 
					
						ดอกซือมีเระจิ๋ว ตระกูลซือมิเระ   ดอกซือมีเระจิ๋ว ตระกูลซือมิเระ ดอกซือมีเระจิ๋ว ตระกูลซือมิเระ สมุนไพรยืนต้นที่พบในหลาย ๆ ส่วนของภูเขา ส่วนใหญ่จะเป็นสันภูเขาที่มีแดดจัด และในทุ่งหญ้าในภูเขาที่มีแดดจัดเช่นกัน ตลอดโคนต้น ใบและดอก เป็นพุ่มกลม ๆ สวยงามมาก ชื่อภาษาญี่ปุ่น โคะซือมิเระ หมายความถึง ดอกซือมีเระ ที่มีลักษณะคล้ายวีโอล่า ขนาดเล็ก ซึ่งมีแสงแรกจากดวงอาทิตย์ในยามเช้าตรู่ ส่งมายังวีโอล่า ให้ดูเลื่อมเป็นสีแดงอ่อน ๆ ระเรื่อ ดูงดงาม ขนาดของดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางสีม่วง มีขนสั้น ๆ โดยรอบดอก มีผมสั้นได้ที่สเปอร์ที่ด้านหลังของกลีบดอกที่เป็นเอกลักษณ์มากสำหรับพืชในตระกูลนี้ เป็นเอกลักษณ์ของพืชในตระกูลนี้ ใบนั้นจะมีลักษณะเป็นรูปไข่ โดยขึ้นตรงมาจากพื้นเดิน ที่เป็นพุ่มรูปสามเหลี่ยม ใบหากเบ่งบานในช่วงฤดู จะยังมีขนาดเล็กประมาณ 2 ซม. แต่หากดอกได้บานเต็มที่แล้ว ใบจะขยายขนาดเป็น 2-5 ซม. ดอกซือมีเร๊ะ วีโอล่าไม่มีกลีบเลี้ยง แต่จะมีขนดกด้านข้างของใบและดอกซึ่งจึงถูกเรียกว่า สายของวีโอล่า สมุนไพรยืนต้นที่พบในหลาย ๆ ส่วนของภูเขา ส่วนใหญ่จะเป็นสันภูเขาที่มีแดดจัด และในทุ่งหญ้าในภูเขาที่มีแดดจัดเช่นกัน ตลอดโคนต้น ใบและดอก เป็นพุ่มกลม ๆ สวยงามมาก ชื่อภาษาญี่ปุ่น โคะซือมิเระ หมายความถึง ดอกซือมีเระ ที่มีลักษณะคล้ายวีโอล่า ขนาดเล็ก ซึ่งมีแสงแรกจากดวงอาทิตย์ในยามเช้าตรู่ ส่งมายังวีโอล่า ให้ดูเลื่อมเป็นสีแดงอ่อน ๆ ระเรื่อ ดูงดงาม ขนาดของดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางสีม่วง มีขนสั้น ๆ โดยรอบดอก มีผมสั้นได้ที่สเปอร์ที่ด้านหลังของกลีบดอกที่เป็นเอกลักษณ์มากสำหรับพืชในตระกูลนี้ เป็นเอกลักษณ์ของพืชในตระกูลนี้ ใบนั้นจะมีลักษณะเป็นรูปไข่ โดยขึ้นตรงมาจากพื้นเดิน ที่เป็นพุ่มรูปสามเหลี่ยม ใบหากเบ่งบานในช่วงฤดู จะยังมีขนาดเล็กประมาณ 2 ซม. แต่หากดอกได้บานเต็มที่แล้ว ใบจะขยายขนาดเป็น 2-5 ซม. ดอกซือมีเร๊ะ วีโอล่าไม่มีกลีบเลี้ยง แต่จะมีขนดกด้านข้างของใบและดอกซึ่งจึงถูกเรียกว่า สายของวีโอล่า
 
 ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
 ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 10 ซม.
 ●สถานที่ ภูเขามินามิ-ทาคาโอะ
- 
					
						โคมิยามา ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ   โคมิยามา ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ โคมิยามา ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ สมุนไพรยืนต้นที่พบในบริเวณในป่าลึก ป่ารกชัดและที่มีความชื้น ตามริมลำธารต่าง ๆ โดยเฉพาะในเทือกเขาทาคาโอะ จะเพิ่มเบ่งบานสะพรั่งในช่วงปลายฤดูของดอกซือมีเระ นั่นคือฤดูใบไม้ผลิ ใบขนาดใหญ่ที่โดเด่นมาก แต่มีดอกที่เล็กมาก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีสีขาว และมีเส้นสีม่วงแผ่กระจายทั่วกลีบ กลีบเลี้ยงที่ด้านหลังของกลีบดอกจะมีขนรอบ ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชชนิดนี้ รูปร่างของใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ความยาวประมาณ 3 - 5 ซม เป็นสีด้าน ไม่เงามัน ส่วน ด้านหลังของใบเป็นสีม่วง ช่วงปลายของฤดูกาล จะเริ่มมีการผสมเกสรดอกไม้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเมล็ดพันธ์เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป สมุนไพรยืนต้นที่พบในบริเวณในป่าลึก ป่ารกชัดและที่มีความชื้น ตามริมลำธารต่าง ๆ โดยเฉพาะในเทือกเขาทาคาโอะ จะเพิ่มเบ่งบานสะพรั่งในช่วงปลายฤดูของดอกซือมีเระ นั่นคือฤดูใบไม้ผลิ ใบขนาดใหญ่ที่โดเด่นมาก แต่มีดอกที่เล็กมาก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีสีขาว และมีเส้นสีม่วงแผ่กระจายทั่วกลีบ กลีบเลี้ยงที่ด้านหลังของกลีบดอกจะมีขนรอบ ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชชนิดนี้ รูปร่างของใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ความยาวประมาณ 3 - 5 ซม เป็นสีด้าน ไม่เงามัน ส่วน ด้านหลังของใบเป็นสีม่วง ช่วงปลายของฤดูกาล จะเริ่มมีการผสมเกสรดอกไม้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเมล็ดพันธ์เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป
 
 ●ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
 ●ความสูง ประมาณ 5-8 เซนติเมตร
 ●สถานที่ ถนนสาย Trail 4 Trail 6 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						ดอกซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ   ดอกซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ ดอกซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ สมุนไพรยืนต้นที่พบในทุ่งหญ้าที่มีแดดจัด และบนถนนที่อยู่รอบ ๆ เทือกเขาทาคาโอะ ปัจจุบันลดเหลือน้อยลงมาก นอกจากเทือกเขาทาคาโอ่ะแล้ว แทบจะไม่ปรากฏที่อื่น ชื่อตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น ซือมิเระ หมายถึง วีโอล่า ซึ่งรูปร่างของดอกมีลักษณะคล้ายวิโอลา โคนต้นใหญ่ มีกิ่งก้านสาขาที่ดูแข็งแรง แทงยอดมาจากใต้ดิน ใบเป็นเหมือนรูปทรงของแตร โค้งมน และมีความยาวประมาณ 3-8 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางของโคนดอกประมาณ 1.2 - 1.7 ซม. และมีเส้นผ่าศูนย์ศูนย์กลางดอกเป็นสีม่วงเข้ม กลีบเลี้ยงด้านข้างมีขนสีขาว และเดือยยาวและประมาณ 7 มิลลิเมตร สมุนไพรยืนต้นที่พบในทุ่งหญ้าที่มีแดดจัด และบนถนนที่อยู่รอบ ๆ เทือกเขาทาคาโอะ ปัจจุบันลดเหลือน้อยลงมาก นอกจากเทือกเขาทาคาโอ่ะแล้ว แทบจะไม่ปรากฏที่อื่น ชื่อตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น ซือมิเระ หมายถึง วีโอล่า ซึ่งรูปร่างของดอกมีลักษณะคล้ายวิโอลา โคนต้นใหญ่ มีกิ่งก้านสาขาที่ดูแข็งแรง แทงยอดมาจากใต้ดิน ใบเป็นเหมือนรูปทรงของแตร โค้งมน และมีความยาวประมาณ 3-8 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางของโคนดอกประมาณ 1.2 - 1.7 ซม. และมีเส้นผ่าศูนย์ศูนย์กลางดอกเป็นสีม่วงเข้ม กลีบเลี้ยงด้านข้างมีขนสีขาว และเดือยยาวและประมาณ 7 มิลลิเมตร
 
 ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
 ●ความสูง ประมาณ 7-15 เซนติเมตร
 ●สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 5 เทือกเขาอินาริ อุระ-ทาคาโอะ และโอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						ทาคาโอะ ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ   ทาคาโอะ ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ ทาคาโอะ ซือมีเระ ตระกูลซือมิเระ ในบริเวณเทือเขาทาคาโอะนี้ อาจจะถูกเรียกว่าเป็น "ภูเขาของวีโอลา." หรือภูเขาของซือมีเระ ก็ได้ พืชชนิดนี้พบในบริเวณที่ชื้น แดดร่มรำไร ตามขอบป่าตามริมลำธาร ชื่อภาษาญี่ปุ่น ทาคาโอะ-ซือมิเระ หมายถึง ซือมิเระ ที่พบครั้งแรกอยู่ในเทือกเขาทาคาโอ่ะ ซึ่งจริงแล้ว มีอยู่ทั่วที่ญี่ปุ่น แต่ได้ถูกพบครั้งแรก ที่ภูเขาทาคาโอ่ะในปี ค.ศ. 1928 (สมัย Showa ที่3) จึงได้ชื่อนี้ ด้านหน้าของใบเป็นสีน้ำตาลเข้ม ในช่วงฤดูออกดอกนั้น จะมองให้เห็นเด่นชัด เป็นเอกลักษณ์มากสำหรับพืชชนิดนี้เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1 .5 - 2 ซม. มีกลิ่นหอมเล็กน้อย สีของดอกไม้ที่เป็นสีขาวกับริ้วสีม่วงแผ่จากจุดศูนย์กลางของกลีบดอก ความยาวของใบประมาณ 3-6 ซม. เป็นรูปไข่ ในบริเวณเทือเขาทาคาโอะนี้ อาจจะถูกเรียกว่าเป็น "ภูเขาของวีโอลา." หรือภูเขาของซือมีเระ ก็ได้ พืชชนิดนี้พบในบริเวณที่ชื้น แดดร่มรำไร ตามขอบป่าตามริมลำธาร ชื่อภาษาญี่ปุ่น ทาคาโอะ-ซือมิเระ หมายถึง ซือมิเระ ที่พบครั้งแรกอยู่ในเทือกเขาทาคาโอ่ะ ซึ่งจริงแล้ว มีอยู่ทั่วที่ญี่ปุ่น แต่ได้ถูกพบครั้งแรก ที่ภูเขาทาคาโอ่ะในปี ค.ศ. 1928 (สมัย Showa ที่3) จึงได้ชื่อนี้ ด้านหน้าของใบเป็นสีน้ำตาลเข้ม ในช่วงฤดูออกดอกนั้น จะมองให้เห็นเด่นชัด เป็นเอกลักษณ์มากสำหรับพืชชนิดนี้เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1 .5 - 2 ซม. มีกลิ่นหอมเล็กน้อย สีของดอกไม้ที่เป็นสีขาวกับริ้วสีม่วงแผ่จากจุดศูนย์กลางของกลีบดอก ความยาวของใบประมาณ 3-6 ซม. เป็นรูปไข่
 
 ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
 ●ความสูง ประมาณ 5 ถึง 12 ซม.
 ●สถานที่ ถนนสาย Trail 1 J , เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						นาคาวาโน ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ   นาคาวาโน ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ นาคาวาโน ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ เป็นพืชยืนต้น ที่เติบโตในบริเวณ์แอ่งน้ำในป่าที่มีความชื้น ในชายป่า และบริเวณสันเขา เริ่มเติบโตในช่วฤดูใบไม้ผลิต (เป็นไม้ยืนต้นที่จำเป็นต้องใช้เวลาเจริญเติบโตเป็นเวลาหลายปี) ชื่อที่เป็นตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น นาคาวาโนนั้น ทำให้ทราบว่า เป็นดอกซือมิเร ที่มีลักษณะของวีโอล่า ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด ยาวที่สุด ซึ่งรูปร่างของดอกจะคล้ายกับเครื่องดนตรีสมัยเก่าของญี่ปุ่นในยุคซามูไร พืชชนิดนี้จะกระจายไปทั่วภาคเหนือของชายฝั่งแปซิฟิก ส่วนซือมิเระ ประเภทอื่นนั้น ที่พบในทะเลญีปุ่น จะมีข้อแตกต่างกัน คือใบจะสั้นกว่า บางกว่า และมีรูปหัวใจเป็นแนวยาว ความยาวของใบ ประมาณ 5 - 8 ซม มีลักษณะโค้งมน เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 2 - 2.5 ซม. มีสีม่วงอ่อน ส่วนใหญ่จะพบมากที่สุดในเทือกเขาทาคาโอะ เมื่อต้นสามารถเจริญเติบโตเต็มที่ จะมีความยาวถึง 15 ซม. เป็นพืชยืนต้น ที่เติบโตในบริเวณ์แอ่งน้ำในป่าที่มีความชื้น ในชายป่า และบริเวณสันเขา เริ่มเติบโตในช่วฤดูใบไม้ผลิต (เป็นไม้ยืนต้นที่จำเป็นต้องใช้เวลาเจริญเติบโตเป็นเวลาหลายปี) ชื่อที่เป็นตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น นาคาวาโนนั้น ทำให้ทราบว่า เป็นดอกซือมิเร ที่มีลักษณะของวีโอล่า ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด ยาวที่สุด ซึ่งรูปร่างของดอกจะคล้ายกับเครื่องดนตรีสมัยเก่าของญี่ปุ่นในยุคซามูไร พืชชนิดนี้จะกระจายไปทั่วภาคเหนือของชายฝั่งแปซิฟิก ส่วนซือมิเระ ประเภทอื่นนั้น ที่พบในทะเลญีปุ่น จะมีข้อแตกต่างกัน คือใบจะสั้นกว่า บางกว่า และมีรูปหัวใจเป็นแนวยาว ความยาวของใบ ประมาณ 5 - 8 ซม มีลักษณะโค้งมน เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 2 - 2.5 ซม. มีสีม่วงอ่อน ส่วนใหญ่จะพบมากที่สุดในเทือกเขาทาคาโอะ เมื่อต้นสามารถเจริญเติบโตเต็มที่ จะมีความยาวถึง 15 ซม.
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายน
 ● ความสูง ประมาณ 5 - 12 ซม.
 ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 ,2 , 4 และ 5 เทือกเขาอุระ - ทาคาโอะ ,มินามิ- ทาคาโอะ
- 
					
						นิโออิ ทาจิ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ   นิโออิ ทาจิ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ นิโออิ ทาจิ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโตในทุ่งหญ้า ริมเขาที่มีแดดร่มรำไร ชื่อภาษาญี่ปุ่น นิอิ ทาจิ ซือมิเระ หมายถึง ดอกซือมิเระ ที่ส่งกลิ่นหอมยาวนานจับใจ เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกไม้ประมาณ 1.2-1.5 ซม. กลีบดอกมีลักษณะกลม มีสีม่วงเข้ม มีสีขาว และมีเส้นสีม่วงแผ่กระจายทั่วกลีบ กลีบเลี้ยงที่ด้านหลังของกลีบดอกจะมีขนรอบ ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชชนิดนี้ รูปร่างของใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ความยาวประมาณ 2.5 - 4 ซม เป็นสีด้าน ไม่เงามัน ส่วน ด้านหลังของใบเป็นสีม่วง ช่วงปลายของฤดูกาล จะเริ่มมีการผสมเกสรดอกไม้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเมล็ดพันธ์เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโตในทุ่งหญ้า ริมเขาที่มีแดดร่มรำไร ชื่อภาษาญี่ปุ่น นิอิ ทาจิ ซือมิเระ หมายถึง ดอกซือมิเระ ที่ส่งกลิ่นหอมยาวนานจับใจ เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกไม้ประมาณ 1.2-1.5 ซม. กลีบดอกมีลักษณะกลม มีสีม่วงเข้ม มีสีขาว และมีเส้นสีม่วงแผ่กระจายทั่วกลีบ กลีบเลี้ยงที่ด้านหลังของกลีบดอกจะมีขนรอบ ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชชนิดนี้ รูปร่างของใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ความยาวประมาณ 2.5 - 4 ซม เป็นสีด้าน ไม่เงามัน ส่วน ด้านหลังของใบเป็นสีม่วง ช่วงปลายของฤดูกาล จะเริ่มมีการผสมเกสรดอกไม้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเมล็ดพันธ์เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป
 
 ●ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงปลายฤดูมีนาคม
 ●ประมาณ 5-15 เซนติเมตร
 ●สถานที่ เทือกเขาโอคุ ทาคาโอ่ะ มินามิ ทาคาโอ่ะ
- 
					
						โนจิ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ   โนจิ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ โนจิ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) พบในบริเวณทุ่งหญ้า บริเวณริมถนน ตามรั้วบ้าน กำแพงหินของบ้านและนำไปประดับในรีสอร์ท ในสถานที่ต่าง ๆ รอบโคนใบและดอก จะมีขนสีขาวสั้นๆ โดยรอบ ลักษณะของการเจริญเติบโต จะคล้าย ๆ กับ ซือมิเระสีม่วง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า มีกลิ่นหอมเย้ายวนมากที่สุด ปลายของใบ โนจิ ซือมิเระ เป็นแฉกแยกออก ลำต้นตั้งตรงจากพื้นรากหยั่งจากพื้นดินในแนวตั้ง เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1 - 1.5 ซม. และมีเส้นสีม่วง สีน้ำเงินเข้ม ลากผ่าน กลีบใบเป็นรูปไข่ เรียวยาว ประมาณ 3 - 8 ซม. มี ก้านใบมีสีม่วง ด้านหลังของใบเป็นสีม่วง ช่วงปลายของฤดูกาล จะเริ่มมีการผสมเกสรดอกไม้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเมล็ดพันธ์เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) พบในบริเวณทุ่งหญ้า บริเวณริมถนน ตามรั้วบ้าน กำแพงหินของบ้านและนำไปประดับในรีสอร์ท ในสถานที่ต่าง ๆ รอบโคนใบและดอก จะมีขนสีขาวสั้นๆ โดยรอบ ลักษณะของการเจริญเติบโต จะคล้าย ๆ กับ ซือมิเระสีม่วง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า มีกลิ่นหอมเย้ายวนมากที่สุด ปลายของใบ โนจิ ซือมิเระ เป็นแฉกแยกออก ลำต้นตั้งตรงจากพื้นรากหยั่งจากพื้นดินในแนวตั้ง เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1 - 1.5 ซม. และมีเส้นสีม่วง สีน้ำเงินเข้ม ลากผ่าน กลีบใบเป็นรูปไข่ เรียวยาว ประมาณ 3 - 8 ซม. มี ก้านใบมีสีม่วง ด้านหลังของใบเป็นสีม่วง ช่วงปลายของฤดูกาล จะเริ่มมีการผสมเกสรดอกไม้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเมล็ดพันธ์เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม หรือปลายเดือนเมษายน
 ● ประมาณ 5-10 เซนติเมตร
 ● สถานที่ ถนนหมายเลข 6 เทือกเขา อุระทาคาโอ่ะ มินามิทาคาโอ่ะ
- 
					
						ฮิคาเง่ะ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ   ฮิคาเง่ะ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ ฮิคาเง่ะ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) พบในบริเวณทุ่งหญ้า บริเวณริมถนน ตามรั้วบ้าน กำแพงหินของบ้าน เป็นสายพันธ์รอบโคนใบและดอก จะมีขนสีขาวสั้นๆ โดยรอบ มีหลายสายพันธ์ที่นำมาพัฒนาสายพันธ์เป็นต้นแม่ อันได้แก่ พันธุ์ Takaosumire ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ ฮาคาเก่ะ ซือมิเระอย่างมาก ลักษณะของใบ มีสีเขียว ปลายของใบเป็นรูปหัวใจ ยาวประมาณ 3-6 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของดอก ประมาณ 1.5 - 2 ซม. กลิ่นหอมหวาน มีสีขาว และลายเส้นสีม่วงลากผ่าน มักจะมีดอกที่อยู่ติดกันเป็นกลุ่ม อย่างหนาแน่น ช่วงปลายของฤดูกาล จะเริ่มมีการผสมเกสรดอกไม้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเมล็ดพันธ์เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) พบในบริเวณทุ่งหญ้า บริเวณริมถนน ตามรั้วบ้าน กำแพงหินของบ้าน เป็นสายพันธ์รอบโคนใบและดอก จะมีขนสีขาวสั้นๆ โดยรอบ มีหลายสายพันธ์ที่นำมาพัฒนาสายพันธ์เป็นต้นแม่ อันได้แก่ พันธุ์ Takaosumire ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ ฮาคาเก่ะ ซือมิเระอย่างมาก ลักษณะของใบ มีสีเขียว ปลายของใบเป็นรูปหัวใจ ยาวประมาณ 3-6 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของดอก ประมาณ 1.5 - 2 ซม. กลิ่นหอมหวาน มีสีขาว และลายเส้นสีม่วงลากผ่าน มักจะมีดอกที่อยู่ติดกันเป็นกลุ่ม อย่างหนาแน่น ช่วงปลายของฤดูกาล จะเริ่มมีการผสมเกสรดอกไม้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นเมล็ดพันธ์เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป
 
 ● ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
 ● ความสูง ประมาณ 5-12 เซนติเมตร
 ● สถานที่ เทือกเขา อุระทาคาโอ่ะ ,โอคุ ทาคาโอ่ะ
- 
					
						ฮิเมะ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ   ฮิเมะ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ ฮิเมะ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) พบในบริเวณเทือกเขาทาคาโอ่ะ ตามบริเวณทุ่งหญ้า บริเวณริมถนน ตามรั้วบ้าน กำแพงหินของบ้าน รอบโคนใบและดอก จะมีขนสีขาวสั้นๆ โดยรอบ ลักษณะของการเจริญเติบโต จะคล้าย ๆ กับ ซือมิเระสีม่วง ที่เรียกชื่อว่า ฮิโก่ะ ซือมิเระ เนื่องจากได้ค้นพบครั้งแรกที่เมืองฮิโก่ะ จังหวัดคุมาโมโต่ะ มีสีม่วง เช่นเดียวกับเอซัง ซือมิเร่ะ แต่มีขนาดเล็กว่า ในทางเดียวกัน โคนใบจะมีทั้งหมดประมาณ 5 ชั้น เส้นผ่าศูนย์กลางของดอก ประมาณ 1 - 1.5 ซม. ขอบของกลีบดอกจะไม่ หยักเหมือน Eizansumire ดอกจะมีสีขาว มีลายเส้นสีม่วงลากผ่าน เข้ามาในฐานของกลีบดอก มีกลิ่นหอม หวานที่หลากหลาย เติบโตขึ้น ที่ด้านข้างของกลีบ ระยะยาว ของ( ส่วนจินตภาพ ของการเปิด กระเป๋า รูป ที่ด้านหลังของ กลีบ)เป็น 4 มิลลิเมตร เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) พบในบริเวณเทือกเขาทาคาโอ่ะ ตามบริเวณทุ่งหญ้า บริเวณริมถนน ตามรั้วบ้าน กำแพงหินของบ้าน รอบโคนใบและดอก จะมีขนสีขาวสั้นๆ โดยรอบ ลักษณะของการเจริญเติบโต จะคล้าย ๆ กับ ซือมิเระสีม่วง ที่เรียกชื่อว่า ฮิโก่ะ ซือมิเระ เนื่องจากได้ค้นพบครั้งแรกที่เมืองฮิโก่ะ จังหวัดคุมาโมโต่ะ มีสีม่วง เช่นเดียวกับเอซัง ซือมิเร่ะ แต่มีขนาดเล็กว่า ในทางเดียวกัน โคนใบจะมีทั้งหมดประมาณ 5 ชั้น เส้นผ่าศูนย์กลางของดอก ประมาณ 1 - 1.5 ซม. ขอบของกลีบดอกจะไม่ หยักเหมือน Eizansumire ดอกจะมีสีขาว มีลายเส้นสีม่วงลากผ่าน เข้ามาในฐานของกลีบดอก มีกลิ่นหอม หวานที่หลากหลาย เติบโตขึ้น ที่ด้านข้างของกลีบ ระยะยาว ของ( ส่วนจินตภาพ ของการเปิด กระเป๋า รูป ที่ด้านหลังของ กลีบ)เป็น 4 มิลลิเมตร
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายน
 ● ความสูง ประมาณ 3-8 เซนติเมตร
 ● สถานที่ เทือกเขามินามิ ทาคาโอะ
- 
					
						มารูบะ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ   มารูบะ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ มารูบะ ซือมิเระ ตระกูลซือมิเระ เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) พบในบริเวณเทือกเขาทาคาโอ่ะ ตามบริเวณทุ่งหญ้า บริเวณริมถนน ตามรั้วบ้าน กำแพงหินของบ้าน รอบโคนใบและดอก จะมีขนสีขาวสั้นๆ โดยรอบ ชื่อในภาษาญี่ปุ่น Viola keiskei ( Marubasumire ) หมายถึง ดอกซือมิเระใบครึ่งเสี้ยว เนื่องจากใบของพืชชนิดนี้ จะต่างจากซือมิเระพันธ์อื่น ๆ ตรงที่ ใบจะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ส้นผ่าศูนย์กลางของดอกดอกไม้ของ 1 - 1.5 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางเป็นเส้นสีม่วง ซึ่งดอกของต้นซือมีเระจะมีโคนดอกรูปร่างคล้ายวีโอลา และกลางดอกจะมีกลีบแยกออกดอกของอาโออิ ซือมีเระ จะบานเพียงระยะสั้น ดอกไม้มีสีม่วงและสีขาวบานสะพรั่ง ใบเป็นรูปกลมมีขนรอบ ใบในช่วงฤดูออกจะออกมาเป็นขนาดเล็ก ขนาดประมาณ 2 ซม. แต่หลังจากนั้น เมื่อดอกบานเต็มที่แล้วจะมีขนาดใหญ่ประมาณ 7-8 ซม เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) พบในบริเวณเทือกเขาทาคาโอ่ะ ตามบริเวณทุ่งหญ้า บริเวณริมถนน ตามรั้วบ้าน กำแพงหินของบ้าน รอบโคนใบและดอก จะมีขนสีขาวสั้นๆ โดยรอบ ชื่อในภาษาญี่ปุ่น Viola keiskei ( Marubasumire ) หมายถึง ดอกซือมิเระใบครึ่งเสี้ยว เนื่องจากใบของพืชชนิดนี้ จะต่างจากซือมิเระพันธ์อื่น ๆ ตรงที่ ใบจะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ส้นผ่าศูนย์กลางของดอกดอกไม้ของ 1 - 1.5 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางเป็นเส้นสีม่วง ซึ่งดอกของต้นซือมีเระจะมีโคนดอกรูปร่างคล้ายวีโอลา และกลางดอกจะมีกลีบแยกออกดอกของอาโออิ ซือมีเระ จะบานเพียงระยะสั้น ดอกไม้มีสีม่วงและสีขาวบานสะพรั่ง ใบเป็นรูปกลมมีขนรอบ ใบในช่วงฤดูออกจะออกมาเป็นขนาดเล็ก ขนาดประมาณ 2 ซม. แต่หลังจากนั้น เมื่อดอกบานเต็มที่แล้วจะมีขนาดใหญ่ประมาณ 7-8 ซม
 
 ● ฤดูกาล ต้นเดือนมีนาคม ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
 ● ความสูง ประมาณ 5 ถึง 10 ซม.
 ● สถานที่ ถนนสาย Trail 3 เทือกเขาอุระ - ทาคาโอะ
- 
					
						ฮิเมอากิ ตระกูลฮิเมอากิ   ฮิเมอากิ ตระกูลฮิเมอากิ ฮิเมอากิ ตระกูลฮิเมอากิ เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในบริเวณที่มีอากาศแห้งแล้ง เช่น ทุ่งหญ้า ที่มีแดดจัด เป็นพืชที่ต้องใช้เวลานานหลายปีในการเจริญเติบโต ลักษณะของดอก เป็นดอกขนาดเล็ก ประมาณ 1 ซม. และแต่งแต้มด้วยสีแดง สีม่วง ประกอบด้วยกลีบดอกไม้จำนวน 3 กลีบ และประกอบกันเป็นกลุ่มดอกที่รวมกันเป็นพวง อย่างประณีต สวยงาม เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในบริเวณที่มีอากาศแห้งแล้ง เช่น ทุ่งหญ้า ที่มีแดดจัด เป็นพืชที่ต้องใช้เวลานานหลายปีในการเจริญเติบโต ลักษณะของดอก เป็นดอกขนาดเล็ก ประมาณ 1 ซม. และแต่งแต้มด้วยสีแดง สีม่วง ประกอบด้วยกลีบดอกไม้จำนวน 3 กลีบ และประกอบกันเป็นกลุ่มดอกที่รวมกันเป็นพวง อย่างประณีต สวยงาม
 ส่วนรากของต้นไม้ประเภทนี้จะเป็นรากขนาดกลาง ๆ จะถูกแต่งแต้มด้วยสีเดียวกับกลีบดอกไม้ ในช่วงฤดูกาล ความยาวของดอกประมาณ 1 เซนติเมตร หลังจากที่บานเต็มที่ ดอกจะยาวถึง 3 ซม. หลังจากนั้นเมื่อดอกแก่จัดเต็มที่ ก็จะเหี่ยวแห้งไปในที่สุด
 
 ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
 ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
 ● สถานที่ เทือกเขาอินาริ ,อุระ ทาคาโอ่ะ ,มินามิ ทาคาโอ่ะ
- 
					
						ฮานาเนโก่ะ โน๊ะเม่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ   ฮานาเนโก่ะ โน๊ะเม่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ ฮานาเนโก่ะ โน๊ะเม่ะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าหิน สันเขา นาข้าว ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (ไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่เหนียว เลื้อยลำต้น ขนานกับพื้นดิน เป็นพืชที่อยู่ในป่าดงดิบ โดยมีการเจริญเติบโตตลอดทั้งปี ในพืชตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ นั้น ฮานาเนโก่ะโน๊ะเม่ะ จะเป็นพืชพรรณที่ต้นใหญ่ที่สุด และมีดอกใหญ่ที่สุด เบ่งบานออกน่าประทับใจมาก ใน1 ดอก จะมีกลีบเลี้ยงดอกประมาณ 2 - 3 กลีบ เส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 5 มิลลิเมตร มีลักษณะใบเป็นรูปพัด โค้งมน มีความยาวประมาณ 5-8 มิลลิเมตร มีสีเขียวเข้ม ขอบใบมีรอยหยักเหมือนฟันของเลื่อย เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าหิน สันเขา นาข้าว ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (ไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่เหนียว เลื้อยลำต้น ขนานกับพื้นดิน เป็นพืชที่อยู่ในป่าดงดิบ โดยมีการเจริญเติบโตตลอดทั้งปี ในพืชตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ นั้น ฮานาเนโก่ะโน๊ะเม่ะ จะเป็นพืชพรรณที่ต้นใหญ่ที่สุด และมีดอกใหญ่ที่สุด เบ่งบานออกน่าประทับใจมาก ใน1 ดอก จะมีกลีบเลี้ยงดอกประมาณ 2 - 3 กลีบ เส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 5 มิลลิเมตร มีลักษณะใบเป็นรูปพัด โค้งมน มีความยาวประมาณ 5-8 มิลลิเมตร มีสีเขียวเข้ม ขอบใบมีรอยหยักเหมือนฟันของเลื่อย
 
 ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนมีนาคม
 ● ความสูง ประมาณ 5-10 เซนติเมตร
 ● สถานที่ ถนนสายที่ 1 ถนนเฮบิทากิ , เทือกเขาอุระทาคาโอ่ะ
- 
					
						ยูกิโน๊ะชิตะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ   ยูกิโน๊ะชิตะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ ยูกิโน๊ะชิตะ ตระกูลยูกิโน๊ะชิตะ เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในบริเวณที่มีความชื้นสูง บนโขดหิน หรือใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ ใกล้ ๆ กับภูเขา เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลานานหลายปีที่จะบำรุงต้นไม้ให้เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ชื่อ ยูกิโน๊ะชิตะ แปลว่า อยู่ภายใต้หิมะสีขาว โดยไม่เหี่ยวแห้ง ยังคงเป็นสีเขียวเสมอ ต้นไม้นี้จะเจริญะเติบโตตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง ยืนยาวไปจนถึงฤดูหนาว ภายใต้หิมะที่ปกคลุม จะยังคงสภาพอยู่ได้จนถึงฤดูใบไม้ผลิในฤดูกาลหน้า เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในบริเวณที่มีความชื้นสูง บนโขดหิน หรือใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ ใกล้ ๆ กับภูเขา เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลานานหลายปีที่จะบำรุงต้นไม้ให้เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ชื่อ ยูกิโน๊ะชิตะ แปลว่า อยู่ภายใต้หิมะสีขาว โดยไม่เหี่ยวแห้ง ยังคงเป็นสีเขียวเสมอ ต้นไม้นี้จะเจริญะเติบโตตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง ยืนยาวไปจนถึงฤดูหนาว ภายใต้หิมะที่ปกคลุม จะยังคงสภาพอยู่ได้จนถึงฤดูใบไม้ผลิในฤดูกาลหน้า
 เนื่องจากต้นมีรากหยั่งถึงพื้นที่แข็งแรง มีกิ่งก้านสาขาที่สวยงามโดดเด่ และมีผู้นิยม นำไปประดับเป็นต้นคริสมาสต์ ขนาดของใบมีความยาว 3 - 6 ซม. มีรูปคล้ายไต หรือรูปหัวใจ พื้นผิวของใบเป็นสีเขียวเข้ม และมีเส้นคล้าย ๆ เส้นเลือดอยู่ตามก้านของใบ โดยมีสีแดง สีม่วง เป็นจำนวนมาก ส่วนใบจะหนา นุ่ม สามารถนำมาปรุงแต่งอาหารได้ และสกัดเป็นยาสมุนไพรได้
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนพฤษภาคม ถึงปลายเดือนมิถุนายน
 ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 50 ซม.
 ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 Trail 6 จาทากิ ,เทือกเขาโอคุ- ทาคาโอะ
- 
					
						จิโรโบ เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น   จิโรโบ เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น จิโรโบ เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น สมุนไพรยืนต้นที่พบในป่าทุ่งโล่ง และที่ขอบป่าในภูเขา คล้ายกับ ฝิ่นคุซาโน แต่ที่เด่นชัดจะเป็นลักษณะของดอกที่เล็กกว่า เป็นเอกลักษณ์ ตามชื่อภาษาญี่ปุ่น Jirobo-engosaku หมายถึง ไวโอลินเล็ก (ไวโอลินที่เล็กกว่าไวโอลินทั่วไป) จากความหมายชื่อพันธ์ไม้ คำว่า จิโร (แปลว่า ลูกชายคนที่สองในครอบครัว) ซึ่งจะหมายถึง มีดอกขนาดเล็กกว่าดอกไม้อื่นในตระกูลเดียวกัน จึงใช้ชื่อนี้เรียกดอกไม้ชนิดนี้ ก้านดอกจะเป็นส่วนที่ยืดออกจากลำต้น จึงมีความแข็งแรง ความยาวดอก ยาว 1.5 ซม. สีของดอกเป็นสีแดงสีม่วง ส่วนดอกสีฟ้า สีม่วงและสีขาวซ้อนด้านใน จะเป็นพันธ์ที่หาดูได้ยากมาก ลำต้นมีขนาดใหญ่ และมีรากแก้วที่แข็งแรงหยั่งลงถึงพื้นได้ลึก ใบลักษณะใบคล้ายรูปไข่ มีใบจำนวนมากคลุมรอบลำต้น สมุนไพรยืนต้นที่พบในป่าทุ่งโล่ง และที่ขอบป่าในภูเขา คล้ายกับ ฝิ่นคุซาโน แต่ที่เด่นชัดจะเป็นลักษณะของดอกที่เล็กกว่า เป็นเอกลักษณ์ ตามชื่อภาษาญี่ปุ่น Jirobo-engosaku หมายถึง ไวโอลินเล็ก (ไวโอลินที่เล็กกว่าไวโอลินทั่วไป) จากความหมายชื่อพันธ์ไม้ คำว่า จิโร (แปลว่า ลูกชายคนที่สองในครอบครัว) ซึ่งจะหมายถึง มีดอกขนาดเล็กกว่าดอกไม้อื่นในตระกูลเดียวกัน จึงใช้ชื่อนี้เรียกดอกไม้ชนิดนี้ ก้านดอกจะเป็นส่วนที่ยืดออกจากลำต้น จึงมีความแข็งแรง ความยาวดอก ยาว 1.5 ซม. สีของดอกเป็นสีแดงสีม่วง ส่วนดอกสีฟ้า สีม่วงและสีขาวซ้อนด้านใน จะเป็นพันธ์ที่หาดูได้ยากมาก ลำต้นมีขนาดใหญ่ และมีรากแก้วที่แข็งแรงหยั่งลงถึงพื้นได้ลึก ใบลักษณะใบคล้ายรูปไข่ มีใบจำนวนมากคลุมรอบลำต้น
 
 ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนเมษายน
 ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
 ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ, คิตะ-ทาคาโอะ
- 
					
						มิยามา คิเคมัง ตระกูลฝิ่น   มิยามา คิเคมัง ตระกูลฝิ่น มิยามา คิเคมัง ตระกูลฝิ่น สมุนไพรล้มลุก ที่มักพบบนถนนที่ปกคลุมด้วยแดดจัด บริเวณขอบป่า และแม้แต่ในพื้นที่อยู่บนนอกเขตป่า ชื่อญี่ปุ่น Miyama-ki-keman อักษรความหมายคือ ช่อดอกไม้สีเหลืองที่อยู่ในเขตภูเขา นอกจากนี้เรายังพบในพื่นที่ในพื้นราบอยู่บ้าง เป็นดอกไม้ที่มีดอกจำนวนมากในก้านดอกเดียว ซึ่งที่เป็นที่น่าสนใจมาก ในกลีบดอกทที่มีละอองเกสรสีเหลืองนี้เป็นสีเหลือง ยังมีพิษอยู่ด้วย ในเดือนเมษายน จะเริ่มมีการเจริญเติบโตของลำต้นอย่างเต็มที่ ดอกมีลักษณะคล้ายรูปริมฝีปาก ยาวประมาณ 2 ซม ดอกเริ่มแรกจะเป็นสีขาว แล้วเมื่อดอกแก่จัด โคนดอกจะเริ่มเปลี่ยนเป็นผง เปลี่ยนเป็นสีเขียว สีแดง เป็นผงละอองเนื้อนุ่ม และมีกลิ่นเหมือนยาง หลังจากดอกแก่เต็มที่จะกลายเป็นผลคล้ายลูกปัด เพื่อขยายพันธ์ต่อไป สมุนไพรล้มลุก ที่มักพบบนถนนที่ปกคลุมด้วยแดดจัด บริเวณขอบป่า และแม้แต่ในพื้นที่อยู่บนนอกเขตป่า ชื่อญี่ปุ่น Miyama-ki-keman อักษรความหมายคือ ช่อดอกไม้สีเหลืองที่อยู่ในเขตภูเขา นอกจากนี้เรายังพบในพื่นที่ในพื้นราบอยู่บ้าง เป็นดอกไม้ที่มีดอกจำนวนมากในก้านดอกเดียว ซึ่งที่เป็นที่น่าสนใจมาก ในกลีบดอกทที่มีละอองเกสรสีเหลืองนี้เป็นสีเหลือง ยังมีพิษอยู่ด้วย ในเดือนเมษายน จะเริ่มมีการเจริญเติบโตของลำต้นอย่างเต็มที่ ดอกมีลักษณะคล้ายรูปริมฝีปาก ยาวประมาณ 2 ซม ดอกเริ่มแรกจะเป็นสีขาว แล้วเมื่อดอกแก่จัด โคนดอกจะเริ่มเปลี่ยนเป็นผง เปลี่ยนเป็นสีเขียว สีแดง เป็นผงละอองเนื้อนุ่ม และมีกลิ่นเหมือนยาง หลังจากดอกแก่เต็มที่จะกลายเป็นผลคล้ายลูกปัด เพื่อขยายพันธ์ต่อไป
 
 ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
 ●ความสูง ประมาณ 20 ถึง 40 ซม.
 ●สถานที่ ถนนTrail 1 - 3 - 5 จาทากิi, เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ / โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						มูราซากิ คิเคมัง ตระกูลฝิ่น   มูราซากิ คิเคมัง ตระกูลฝิ่น มูราซากิ คิเคมัง ตระกูลฝิ่น สมุนไพรล้มลุกที่พบในพื้นป่าที่มีแดดส่องถึง ป่าโปร่ง และที่ขอบป่าในภูเขาและยังพบอยู่ในเขตเมือง ชื่อญี่ปุ่น มูราซากิ-เคมัง ถูกตั้งชื่อตามดอกไม้ที่มีลักษณะ คล้ายพวงหรีด ดอกไม้ตกแต่งในพุทธศาสนาเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีสีม่วงเหมือนชื่อ (มูราซากิ ซึ่งแปลว่าสีม่วง) ทั้งต้นและใบ ดอกจะมีลักษณะที่อ่อนนุ่ม แต่ถ้าหากได้รับการขีดข่วนจะ จะมีกลิ่นฉุนอย่างรุนแรง พืชชนิดนี้ จะเริ่มเติบโตตั้งแต่เดือนเมษายน และยาวไปจนถึงปลายฤดูหนาว ในฤดูใบไม้ผลิต้นเติบโตขึ้น และดอกจะเริ่มบาน โดยมีความยาวประมาณ 1.5 ซม. สีของดอกไม้ที่เป็นสีแดง สีม่วงและสีคล้ายกับ ยามาเอ็งโกซากุ และ จิโรโบเองโก่ะซากุ แต่พืชชนิดนี้มีร่องใบที่มีลักษณะคล้ายฟันที่ถี่กว่า โดยคล้ายกับใบของแครอท หากได้สูดดมเข้าร่างกาย หรือทานเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ อาจก่อให้เกิดการอาเจียนได้ สมุนไพรล้มลุกที่พบในพื้นป่าที่มีแดดส่องถึง ป่าโปร่ง และที่ขอบป่าในภูเขาและยังพบอยู่ในเขตเมือง ชื่อญี่ปุ่น มูราซากิ-เคมัง ถูกตั้งชื่อตามดอกไม้ที่มีลักษณะ คล้ายพวงหรีด ดอกไม้ตกแต่งในพุทธศาสนาเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีสีม่วงเหมือนชื่อ (มูราซากิ ซึ่งแปลว่าสีม่วง) ทั้งต้นและใบ ดอกจะมีลักษณะที่อ่อนนุ่ม แต่ถ้าหากได้รับการขีดข่วนจะ จะมีกลิ่นฉุนอย่างรุนแรง พืชชนิดนี้ จะเริ่มเติบโตตั้งแต่เดือนเมษายน และยาวไปจนถึงปลายฤดูหนาว ในฤดูใบไม้ผลิต้นเติบโตขึ้น และดอกจะเริ่มบาน โดยมีความยาวประมาณ 1.5 ซม. สีของดอกไม้ที่เป็นสีแดง สีม่วงและสีคล้ายกับ ยามาเอ็งโกซากุ และ จิโรโบเองโก่ะซากุ แต่พืชชนิดนี้มีร่องใบที่มีลักษณะคล้ายฟันที่ถี่กว่า โดยคล้ายกับใบของแครอท หากได้สูดดมเข้าร่างกาย หรือทานเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ อาจก่อให้เกิดการอาเจียนได้
 
 ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม
 ●ความสูง ประมาณ 20 ถึง 50 เซนติเมตร
 ●สถานที่ ถนนTrail 1 - 3 เทือกเขาอินาริ, เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ, เทือกเขามินามิ ทาคาโอะ
- 
					
						ยามา เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น   ยามา เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น ยามา เองโก่ะซากุ ตระกูลฝิ่น สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ที่เต็มไปด้วยหิน สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) และยังพบในป่าในเขตภูเขาทาคาโอะ ซึ่งเป้นพื้นที่ที่มีความชื้นสูง และตามลำธาร ดอกจะเริ่มผลิบานเต็มที่ในต้นฤดูใบไม้ผลิ ความยาวดอก 2 ซม. มีสีแดง สีม่วง สีฟ้า เมื่อดอกแก่จัดเต็มที่จะกลายเป็นสีน้ำเงินมากขึ้น พบตามภูเขาในพื้นที่ภาคเหนือ มีใบประดับกับลำต้นที่ดูสวยงาม จะห้อยเป็นตุ้ม ในใบ 1 ชุดจะประกอบด้วย 3 ใบเล็ก ก้านใบมีลักษณะยาว รูปทรงของใบเป็นเหมือนเท้าของนก และมีขนขึ้นที่หลังใบ คล้ายกับขนนก ลำต้นมีส่วนที่อยู่ใต้พื้นดิน ที่นิยมใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพร ที่เรียกว่า Engosaku เพื่อบรรเทาอาการปวดหรือเป็นตะคริว สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ที่เต็มไปด้วยหิน สันเขา ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) และยังพบในป่าในเขตภูเขาทาคาโอะ ซึ่งเป้นพื้นที่ที่มีความชื้นสูง และตามลำธาร ดอกจะเริ่มผลิบานเต็มที่ในต้นฤดูใบไม้ผลิ ความยาวดอก 2 ซม. มีสีแดง สีม่วง สีฟ้า เมื่อดอกแก่จัดเต็มที่จะกลายเป็นสีน้ำเงินมากขึ้น พบตามภูเขาในพื้นที่ภาคเหนือ มีใบประดับกับลำต้นที่ดูสวยงาม จะห้อยเป็นตุ้ม ในใบ 1 ชุดจะประกอบด้วย 3 ใบเล็ก ก้านใบมีลักษณะยาว รูปทรงของใบเป็นเหมือนเท้าของนก และมีขนขึ้นที่หลังใบ คล้ายกับขนนก ลำต้นมีส่วนที่อยู่ใต้พื้นดิน ที่นิยมใช้ปรุงเป็นยาสมุนไพร ที่เรียกว่า Engosaku เพื่อบรรเทาอาการปวดหรือเป็นตะคริว
 
 ●ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายน
 ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 20 ซม.
 ●สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ, คิตะ-ทาคาโอะ
- 
					
						หญ้าอาสึมะ อิจิเก่ะ ตระกูล Buttercup   หญ้าอาสึมะ อิจิเก่ะ ตระกูล Buttercup หญ้าอาสึมะ อิจิเก่ะ ตระกูล Buttercup สมุนไพรยืนต้น ที่เจริญเติบโตบริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ป่าไม้ผลัดใบ ตามลำธาร (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต)ที่พบในป่าและทุ่งหญ้าโล่ง ในภูเขาเริ่มเจริญเติบโตในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ และเติบโตเต็มที่ในปลายฤดูหนาว เส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 3 ถึง 4 ซม. ดอกไม้มีสีขาว ชื่อภาษาญี่ปุ่นซูอิจิ หมายถึง ดอกไม้ที่มีความงามเป็นที่หนึ่ง ในพื้นที่ทางภาคตะวันออก เป็นชื่อที่ไพเราะมาก ซึ่งโดดเด่นในภูมิภาคคันโต หรือภาคตะวันออก ดอกจะะบานเพียงทีละดอกใน 1 โคนดอก ใบจะประกอบไปด้วย 3 ใบ ใน 1 โคนใบ ขนาดของใบยาวประมาณ 2 ถึง 3 ซม. มีลักษณะบาง ๆ และมีขนสั้นรอบ ๆ ซึ่งมองคล้ายกับดอกไม้ทะเลหลอก อัลทายเซีย และใบจะมีขอบหยักเหมือนฟัขของเลื่อย สมุนไพรยืนต้น ที่เจริญเติบโตบริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ป่าไม้ผลัดใบ ตามลำธาร (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต)ที่พบในป่าและทุ่งหญ้าโล่ง ในภูเขาเริ่มเจริญเติบโตในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ และเติบโตเต็มที่ในปลายฤดูหนาว เส้นผ่าศูนย์กลางดอก ประมาณ 3 ถึง 4 ซม. ดอกไม้มีสีขาว ชื่อภาษาญี่ปุ่นซูอิจิ หมายถึง ดอกไม้ที่มีความงามเป็นที่หนึ่ง ในพื้นที่ทางภาคตะวันออก เป็นชื่อที่ไพเราะมาก ซึ่งโดดเด่นในภูมิภาคคันโต หรือภาคตะวันออก ดอกจะะบานเพียงทีละดอกใน 1 โคนดอก ใบจะประกอบไปด้วย 3 ใบ ใน 1 โคนใบ ขนาดของใบยาวประมาณ 2 ถึง 3 ซม. มีลักษณะบาง ๆ และมีขนสั้นรอบ ๆ ซึ่งมองคล้ายกับดอกไม้ทะเลหลอก อัลทายเซีย และใบจะมีขอบหยักเหมือนฟัขของเลื่อย
 
 ●ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงปลายเดือนเมษายน
 ●ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 ซม.
 ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ, เทื่อเขามินามิ-ทาคาโอะ
- 
					
						Anemone nikoensis ตระกูล Buttercup   Anemone nikoensis ตระกูล Buttercup Anemone nikoensis ตระกูล Buttercup เช่นทุ่งหญ้าของขอบสดใสของป่าไม้และป่าพรุไปตามภูเขา (พืชที่จะปลูกในช่วงหลายปี) สถานที่ที่จะเติบโตยืนต้นมันเป็นชื้น ชื่อของ "หญ้าหนึ่งล้อ" อยู่กับความจริงที่ว่าบานหนึ่งล้อดอกไม้สีขาวขนาดใหญ่ไปข้างหน้าของก้านเดียว เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 4 เซนติเมตรมีการแสดงตน กลีบเลี้ยงสามารถมองเห็นได้ 5-6 กลีบมีการเปิด หลายคนเป็นสีขาวนอกจากนี้ยังมีนามแฝงของ "Urabeniichige" จากข้อเท็จจริงที่ว่าเหล่านั้นบางครั้งกลับเป็นสีม่วงอ่อนจะเห็น สามใบมีด้ามยาวที่แนบมาจากกลางลำต้นใบเป็นจำนวนมากตัดปรับรูปแบบที่เป็นลักษณะขรุขระ เช่นทุ่งหญ้าของขอบสดใสของป่าไม้และป่าพรุไปตามภูเขา (พืชที่จะปลูกในช่วงหลายปี) สถานที่ที่จะเติบโตยืนต้นมันเป็นชื้น ชื่อของ "หญ้าหนึ่งล้อ" อยู่กับความจริงที่ว่าบานหนึ่งล้อดอกไม้สีขาวขนาดใหญ่ไปข้างหน้าของก้านเดียว เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 4 เซนติเมตรมีการแสดงตน กลีบเลี้ยงสามารถมองเห็นได้ 5-6 กลีบมีการเปิด หลายคนเป็นสีขาวนอกจากนี้ยังมีนามแฝงของ "Urabeniichige" จากข้อเท็จจริงที่ว่าเหล่านั้นบางครั้งกลับเป็นสีม่วงอ่อนจะเห็น สามใบมีด้ามยาวที่แนบมาจากกลางลำต้นใบเป็นจำนวนมากตัดปรับรูปแบบที่เป็นลักษณะขรุขระ
 
 ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
 ● ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 ซม.
 ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ, เทื่อเขามินามิ-ทาคาโอะ
- 
					
						หญ้าโทโกกุ ซาบาโน่ ตระกูล Buttercup   หญ้าโทโกกุ ซาบาโน่ ตระกูล Buttercup หญ้าโทโกกุ ซาบาโน่ ตระกูล Buttercup สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร ตามถนนหนทาง ขอบป่าตามแนวภูเขา และพบมากในเทือกเขาทาคาโอ่ะ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีการเจริญเติบโตของต้นตลอดทุกฤดูกาล ดอกจะบานและเติบโตอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีลักษณะของดอกที่คล้ายกับหางปลาซาบะ จึงถูกเรียกเป็นชื่อนี้ Tougoku - sabanoo แปลว่า หางของปลาซาบะ ซึ่งถูกพบมาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 6-8 มม. มีสีครีม มีกลีบดอกสีเหลือง ด้านในของ กลีบเลี้ยงมีลักษณะเป็นกลีบบาง ๆ หุ้มล้อมกลีบดอก ใบสีเขียว และมีกลิ่นที่ฉุนรุ่นแรง มีรากฝอย รากแขนงเป็นจำนวนมาก และมีใบงอกออกมาจากโคนต้นจากด้านล่าง ใน 1กิ่ง จะมีใบเล็กประกอบ 3-5 ใบ สลับกันไป รูปทรงของใบเป็นรูปใบเรียวโค้งยาว ขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายฟันของใบเลื่อย ดอกมักจะบานมากในช่วงฤดูร้อน สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร ตามถนนหนทาง ขอบป่าตามแนวภูเขา และพบมากในเทือกเขาทาคาโอ่ะ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีการเจริญเติบโตของต้นตลอดทุกฤดูกาล ดอกจะบานและเติบโตอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีลักษณะของดอกที่คล้ายกับหางปลาซาบะ จึงถูกเรียกเป็นชื่อนี้ Tougoku - sabanoo แปลว่า หางของปลาซาบะ ซึ่งถูกพบมาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 6-8 มม. มีสีครีม มีกลีบดอกสีเหลือง ด้านในของ กลีบเลี้ยงมีลักษณะเป็นกลีบบาง ๆ หุ้มล้อมกลีบดอก ใบสีเขียว และมีกลิ่นที่ฉุนรุ่นแรง มีรากฝอย รากแขนงเป็นจำนวนมาก และมีใบงอกออกมาจากโคนต้นจากด้านล่าง ใน 1กิ่ง จะมีใบเล็กประกอบ 3-5 ใบ สลับกันไป รูปทรงของใบเป็นรูปใบเรียวโค้งยาว ขอบใบเป็นรอยหยักคล้ายฟันของใบเลื่อย ดอกมักจะบานมากในช่วงฤดูร้อน
 
 ● ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
 ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 ซม.
 ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ, มินามิ-ทาคาโอะ
- 
					
						หญ้านิรินโซ ตระกูล Buttercup   หญ้านิรินโซ ตระกูล Buttercup หญ้านิรินโซ ตระกูล Buttercup สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต ในชายป่าที่มีแดดจัด ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ดอกจะบานออกมาเป็น 2 ช่อใน 1 ก้านดอก จึงได้ชื่อว่า "Nirinsou" ซึ่งแปลว่า หญ้าสองช่อ แต่ในความเป็นจริง อาจจะบานมากกว่า 2 ช่อก็มี มักจะขึ้นบริเวณที่มีความชื้นสูง อยู่ในชายป่าตามริมน้ำ จะมีความสวยงามมากที่สุดในฤดูที่ดอกบาน ขณะที่มองเห็นหญ้าชนิดนี้บานปกคลุมไปด้วยดอกไม้สีขาว มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2 ซม. และบานด้านบนของ 2 ช่อดอกใน 1 ก้านดอกไม้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับดอกไม้ทะเลพันธ์อื่น ๆ แต่มีขนาดที่เล็กกว่ามาก กลีบเลี้ยงจะมี 5 กลีบ ส่วนใหญ่แล้วกลีบดอกจะเป็นสีขาว แต่ยังมีแสงสีแดงหรือสีเขียว ปนอยู่บ้าง บางดอกจะมีกลีบเลี้ยงทั้งสิ้น 7 กลีบ สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต ในชายป่าที่มีแดดจัด ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ดอกจะบานออกมาเป็น 2 ช่อใน 1 ก้านดอก จึงได้ชื่อว่า "Nirinsou" ซึ่งแปลว่า หญ้าสองช่อ แต่ในความเป็นจริง อาจจะบานมากกว่า 2 ช่อก็มี มักจะขึ้นบริเวณที่มีความชื้นสูง อยู่ในชายป่าตามริมน้ำ จะมีความสวยงามมากที่สุดในฤดูที่ดอกบาน ขณะที่มองเห็นหญ้าชนิดนี้บานปกคลุมไปด้วยดอกไม้สีขาว มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 2 ซม. และบานด้านบนของ 2 ช่อดอกใน 1 ก้านดอกไม้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับดอกไม้ทะเลพันธ์อื่น ๆ แต่มีขนาดที่เล็กกว่ามาก กลีบเลี้ยงจะมี 5 กลีบ ส่วนใหญ่แล้วกลีบดอกจะเป็นสีขาว แต่ยังมีแสงสีแดงหรือสีเขียว ปนอยู่บ้าง บางดอกจะมีกลีบเลี้ยงทั้งสิ้น 7 กลีบ
 
 ●ฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
 ●ความสูง ประมาณ 15 ถึง 20 ซม.
 ●สถานที่ ถนน Trail 1 - 6 จากาติ, ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ, มินามิ-ทาคาโอะ, คิตะ-ทาคาโอะ
- 
					
						หญ้ามิยาม่า ฮาโคเบ่ะ ตระกูลนาเดชิโก่ะ   หญ้ามิยาม่า ฮาโคเบ่ะ ตระกูลนาเดชิโก่ะ หญ้ามิยาม่า ฮาโคเบ่ะ ตระกูลนาเดชิโก่ะ สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร ตามถนนหนทาง ขอบป่าตามแนวภูเขา และพบมากในเทือกเขาทาคาโอ่ะ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) สายพันธุ์นี้มีขนาดลำต้นใหญ่ กว่าดอกหญ้าประเภทอื่น ดอกมีสีขา เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 1-1.5 ซม. มีลำต้น กิ่งก้านแข็งแรง และรากหยั่งลึกถึงพื้นได้ลึก จึงทำให้ลำต้นหาอาหารได้อย่างสมบูรณ์ กลีบดอกมีทั้งสิ้น 5 กลีบ ใน 1 ช่อดอก และยังมีอีกสายพันธ์หนึ่ง ที่มีกลีบดอกถึง 10 กลีบ ที่โคนดอกมีเกสรตัวผู้ตัวเมีย เพื่อผสมพันธ์กันในดอกเดียวกัน โดยเกสรตัวผู้จะมีเดียวยาวสีขาวโผล่พ้นดอกออกมาชัดเจน ใบมีรูปร่างคล้ายจอบ ยาวประมาณ 1-3.5 เซนติเมตร มีก้านใบที่ค่อนข้างยาว และใบนั้น จะปกคลุมทั่วพื้นดิน สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณป่าชื้น ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธาร ตามถนนหนทาง ขอบป่าตามแนวภูเขา และพบมากในเทือกเขาทาคาโอ่ะ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) สายพันธุ์นี้มีขนาดลำต้นใหญ่ กว่าดอกหญ้าประเภทอื่น ดอกมีสีขา เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 1-1.5 ซม. มีลำต้น กิ่งก้านแข็งแรง และรากหยั่งลึกถึงพื้นได้ลึก จึงทำให้ลำต้นหาอาหารได้อย่างสมบูรณ์ กลีบดอกมีทั้งสิ้น 5 กลีบ ใน 1 ช่อดอก และยังมีอีกสายพันธ์หนึ่ง ที่มีกลีบดอกถึง 10 กลีบ ที่โคนดอกมีเกสรตัวผู้ตัวเมีย เพื่อผสมพันธ์กันในดอกเดียวกัน โดยเกสรตัวผู้จะมีเดียวยาวสีขาวโผล่พ้นดอกออกมาชัดเจน ใบมีรูปร่างคล้ายจอบ ยาวประมาณ 1-3.5 เซนติเมตร มีก้านใบที่ค่อนข้างยาว และใบนั้น จะปกคลุมทั่วพื้นดิน
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนมิถุนายน
 ● ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 ซม.
 ● สถานที่ ถนนอุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						อุวะบามิโซ ตระกูลตำแย   อุวะบามิโซ ตระกูลตำแย อุวะบามิโซ ตระกูลตำแย สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในป่าดิบชื้น ในป่าที่ไม่มีแดดส่องถึง พบตามริมลำธาร ที่มีความชุ่มเย็น ตามริมถนน และบริเวณตีนเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อภาษาญี่ปุ่น Uwabami แปลว่างูยักษ์ งูขนาดใหญ่จึงหมายถึง พืชอันเป็นที่อาศัยของงูยักษ์ นอกจากนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งคือ Mizu หรือ Mizuna แปลว่า พืชน้ำ ซึ่งพืชชนิดนี้จะอยู่ใกล้ริมธาร และต้องการความชื้นสูง ใบมีสีแดง มีความยาว 4-10 ซม. เป็นรูปร่างคล้ายไข่ และมีขอบใบหยักรูปร่างคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีขนทั้งสองด้าน ดอกไม้มีขนาดเล็ก ๆ เป็นกลุ่ม เป็นก้านดอก ที่บานออกจากก้านใบ บานดอกไม้เล็ก ๆ บานเต็มที่ในฤดูใบไม้ร่วง สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในป่าดิบชื้น ในป่าที่ไม่มีแดดส่องถึง พบตามริมลำธาร ที่มีความชุ่มเย็น ตามริมถนน และบริเวณตีนเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อภาษาญี่ปุ่น Uwabami แปลว่างูยักษ์ งูขนาดใหญ่จึงหมายถึง พืชอันเป็นที่อาศัยของงูยักษ์ นอกจากนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งคือ Mizu หรือ Mizuna แปลว่า พืชน้ำ ซึ่งพืชชนิดนี้จะอยู่ใกล้ริมธาร และต้องการความชื้นสูง ใบมีสีแดง มีความยาว 4-10 ซม. เป็นรูปร่างคล้ายไข่ และมีขอบใบหยักรูปร่างคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีขนทั้งสองด้าน ดอกไม้มีขนาดเล็ก ๆ เป็นกลุ่ม เป็นก้านดอก ที่บานออกจากก้านใบ บานดอกไม้เล็ก ๆ บานเต็มที่ในฤดูใบไม้ร่วง
 
 ●ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนมิถุนายน
 ●ความสูง ประมาณ 20 ถึง 30 ซม.
 ●สถานที่ ถนนสาย 1 สาย 3 สาย 4 และสาย 6 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						ฮิโตริ ชิสุกะ ตระกูลดอกหญ้า   ฮิโตริ ชิสุกะ ตระกูลดอกหญ้า ฮิโตริ ชิสุกะ ตระกูลดอกหญ้า เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในป่าลึก ชายป่า ทุ่งหญ้า (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีก้านที่แข็งแรง 1 ก้านจะประกอบด้วยใบ 4 ใบ มีดอกสีขาว ชือที่เรียกว่า ฮิโตริ ชิสุกะ (Chloranthus japonicus) แปลว่า "คน 1 คนที่ดูสงบเงียบ" ซึ่งหมายถึง ลักษณะสง่างามของลำต้นและโคนดอกที่มีความแข็งแกร่ง ยืนหยัดด้วยลำต้นเดียว ที่ถูกเปรียบเทียบจาก นางสนมราชสำนักในอดีตชื่อ Shizukagozen (นางสนมผู้เลอโฉมในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ระหว่างศตวรรษที่ 12) ช่อดอกมีความยาวประมาณ 3 ซม. ลักษณะของจ่ย กิ่ง ใบจะะมียางสีขาว ใช้นำมาปรุงแต่งเป็นยาได้ ในช่อดอกจะประกอบไปด้วย เกสรตัวผู้ ตัวเมียในดอกเดียวกัน โคนดอกจะไม่มีกลีบนอก หรือ ไม่มี่กลีบเลี้ยง ดอกมีสีขาว และเมื่อดอกเจริญเติบโตเต็มที่จะเริ่มมีสีเขียวเข้มเข้ามาประปราย ขอบใบมีรอยหยักคล้ายขอบฟันของใบเลื่อย และเมื่อดอกแก่จัด ภายในดอกจะมีเมล็ดแก่อยู่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ .3-3 มิลลิเมตร เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในป่าลึก ชายป่า ทุ่งหญ้า (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีก้านที่แข็งแรง 1 ก้านจะประกอบด้วยใบ 4 ใบ มีดอกสีขาว ชือที่เรียกว่า ฮิโตริ ชิสุกะ (Chloranthus japonicus) แปลว่า "คน 1 คนที่ดูสงบเงียบ" ซึ่งหมายถึง ลักษณะสง่างามของลำต้นและโคนดอกที่มีความแข็งแกร่ง ยืนหยัดด้วยลำต้นเดียว ที่ถูกเปรียบเทียบจาก นางสนมราชสำนักในอดีตชื่อ Shizukagozen (นางสนมผู้เลอโฉมในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ระหว่างศตวรรษที่ 12) ช่อดอกมีความยาวประมาณ 3 ซม. ลักษณะของจ่ย กิ่ง ใบจะะมียางสีขาว ใช้นำมาปรุงแต่งเป็นยาได้ ในช่อดอกจะประกอบไปด้วย เกสรตัวผู้ ตัวเมียในดอกเดียวกัน โคนดอกจะไม่มีกลีบนอก หรือ ไม่มี่กลีบเลี้ยง ดอกมีสีขาว และเมื่อดอกเจริญเติบโตเต็มที่จะเริ่มมีสีเขียวเข้มเข้ามาประปราย ขอบใบมีรอยหยักคล้ายขอบฟันของใบเลื่อย และเมื่อดอกแก่จัด ภายในดอกจะมีเมล็ดแก่อยู่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ .3-3 มิลลิเมตร เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไป
 
 ●ฤดูกลาล ต้นเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
 ● ความสูง ประมาณ 10 ถึง 15 ซม.
 ● สถานที่ เทือกเขาอุระ - ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ- ทาคาโอะ
- 
					
						เอบิเน่ ตระกูลกล้วยไม้   เอบิเน่ ตระกูลกล้วยไม้ เอบิเน่ ตระกูลกล้วยไม้ เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในชายป่า ทุ่งหญ้า ป่าไผ่ที่มีความชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีกลุ่มดอกใน 1 โคนดอก ประกอบด้วยดอกเล็ก ๆ ประมาณ 10-20 ก้านใบมีความแข็งแรง ใบเป็นใบแนวยาวเส้นตรงวางขวางกับลำต้น ปัจจุบันเริ่มมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการ ลักลอบขุด และตัดทำลายป่า ชื่อเรียก เอบิเน่ (Calanthe) แปลว่า หนวดกุ้ง ซึ่งมีกลีบดอก แลลักษณะลำต้นคล้ายกับหนวดกุ้ง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ถึง 3 ซม. กลีบดอกมีทั้งสิ้น 3 กลีบ และมีกลีบเลี้ยงอยู่ 3 กลีบ กลีบดอกที่อยู่ด้านล่าง จะถูกแบ่งออกเป็น 2 - 3 สีที่แตกต่างกัน มักจะมีดอกในโทนสีสีแดงอ่อน หรือสีขาว กลีบดอกและกลีบเลี้ยง จะมีสีน้ำตาล สีมะกอก ใบมีรูปทรงเป็นรูปไข่ ยาว ประมาณ 10 ถึง 30 ซม. ใบกว้าง 5-8 ซม. มีจำนวนใบที่โคนกิ่งประมาณ 3 ถึง 5 ใบ มีโคนต้นที่แข็งแรง รากหยั่งลึก ทำให้ต้นมีการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อผ่านเข้าฤดูหนาว จะมีการสลัดใบ ใบที่แก่แล้วจะเหี่ยวเฉาร่วงลง และมีใบใหม่ขึ้นมาทดแทนในไม่ช้า เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในชายป่า ทุ่งหญ้า ป่าไผ่ที่มีความชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีกลุ่มดอกใน 1 โคนดอก ประกอบด้วยดอกเล็ก ๆ ประมาณ 10-20 ก้านใบมีความแข็งแรง ใบเป็นใบแนวยาวเส้นตรงวางขวางกับลำต้น ปัจจุบันเริ่มมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการ ลักลอบขุด และตัดทำลายป่า ชื่อเรียก เอบิเน่ (Calanthe) แปลว่า หนวดกุ้ง ซึ่งมีกลีบดอก แลลักษณะลำต้นคล้ายกับหนวดกุ้ง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ถึง 3 ซม. กลีบดอกมีทั้งสิ้น 3 กลีบ และมีกลีบเลี้ยงอยู่ 3 กลีบ กลีบดอกที่อยู่ด้านล่าง จะถูกแบ่งออกเป็น 2 - 3 สีที่แตกต่างกัน มักจะมีดอกในโทนสีสีแดงอ่อน หรือสีขาว กลีบดอกและกลีบเลี้ยง จะมีสีน้ำตาล สีมะกอก ใบมีรูปทรงเป็นรูปไข่ ยาว ประมาณ 10 ถึง 30 ซม. ใบกว้าง 5-8 ซม. มีจำนวนใบที่โคนกิ่งประมาณ 3 ถึง 5 ใบ มีโคนต้นที่แข็งแรง รากหยั่งลึก ทำให้ต้นมีการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อผ่านเข้าฤดูหนาว จะมีการสลัดใบ ใบที่แก่แล้วจะเหี่ยวเฉาร่วงลง และมีใบใหม่ขึ้นมาทดแทนในไม่ช้า
 
 ● ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนพฤษภาคม
 ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 40 เซนติเมตร
 ● สถานที่ เทือกเขาโอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง) ตระกูลกล้วยไม้   คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง) ตระกูลกล้วยไม้ คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง) ตระกูลกล้วยไม้ เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบ ที่มีแดดส่องถึง บริเวณตีนเขา เนินเขา พบเห็นเป็นพืชคลุมดิน ที่อยู่ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ ๆ บนภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็นพรรณไม้ที่พบน้อยมาก และหาดูได้ยากมากเราสามารถพบเห็นได้เพียงในเทือกเขาทาคาโอะเท่านั้น มีดอกสีเหลืองสด และนี่คือเหตุผลจะถูกตั้งชื่อ คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง)' Cephalanthera falcata . มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกไม้ประมาณ 1-1.5 ซม. มีจำนวนดอกบาน 3 ถึง 12 ดอก ต่อ 1 โคนดอก ด้านบนของก้านบิดโค้งขึ้นไป ดอกจะไม่บานทั้งหมดในช่วงเช้า แต่จะรอให้พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะเริ่มคลี่ปลายขลิบดอกออกมาเป็นสีเหลืองทองเรื่อ ๆ งดงาม กลีบดอกและกลีบเลี้ยง จะมีสีเดียวกัน ที่โคนราก จะมีประมาณ 5 - 7 กมร 1 โคนราก มีสีน้ำตาลเข้ม ใบมีลักษณะเหมือนหญ้าไม้ไผ่ ยาวประมาณ 8 ถึง 15 ซม กว้างประมาณ 2 - 4.5 ซม. ใบ มีโคนต้นที่แข็งแรง รากหยั่งลึก ทำให้ต้นมีการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อผ่านเข้าฤดูหนาว จะมีการสลัดใบ ใบที่แก่แล้วจะเหี่ยวเฉาร่วงลง และมีใบใหม่ขึ้นมาทดแทนในไม่ช้า เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบ ที่มีแดดส่องถึง บริเวณตีนเขา เนินเขา พบเห็นเป็นพืชคลุมดิน ที่อยู่ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ ๆ บนภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็นพรรณไม้ที่พบน้อยมาก และหาดูได้ยากมากเราสามารถพบเห็นได้เพียงในเทือกเขาทาคาโอะเท่านั้น มีดอกสีเหลืองสด และนี่คือเหตุผลจะถูกตั้งชื่อ คิมลัง (กล้วยไม้สีทอง)' Cephalanthera falcata . มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกไม้ประมาณ 1-1.5 ซม. มีจำนวนดอกบาน 3 ถึง 12 ดอก ต่อ 1 โคนดอก ด้านบนของก้านบิดโค้งขึ้นไป ดอกจะไม่บานทั้งหมดในช่วงเช้า แต่จะรอให้พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะเริ่มคลี่ปลายขลิบดอกออกมาเป็นสีเหลืองทองเรื่อ ๆ งดงาม กลีบดอกและกลีบเลี้ยง จะมีสีเดียวกัน ที่โคนราก จะมีประมาณ 5 - 7 กมร 1 โคนราก มีสีน้ำตาลเข้ม ใบมีลักษณะเหมือนหญ้าไม้ไผ่ ยาวประมาณ 8 ถึง 15 ซม กว้างประมาณ 2 - 4.5 ซม. ใบ มีโคนต้นที่แข็งแรง รากหยั่งลึก ทำให้ต้นมีการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อผ่านเข้าฤดูหนาว จะมีการสลัดใบ ใบที่แก่แล้วจะเหี่ยวเฉาร่วงลง และมีใบใหม่ขึ้นมาทดแทนในไม่ช้า
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
 ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
 ● สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						ชุนลัง (Noble Orchid) ตระกูลกล้วยไม้   ชุนลัง (Noble Orchid) ตระกูลกล้วยไม้ ชุนลัง (Noble Orchid) ตระกูลกล้วยไม้ เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบแห้งแล้ง ที่มีแดดส่องถึง บริเวณตีนเขา เนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ยังเป็นหนึ่งในพรรณไม้ กล้วยไม้ที่หาได้ยากที่สุดพรรณหนึ่ง ที่พบในเทือกเขาทาคาโอ่ะ ก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จากชื่อที่ใช้เรียก ชุนลัง แปลว่า กล้วยไม้ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ หรือกล้วยไม้ชาววัง (Noble Orchid) แสดงให้เห็นว่า เป็นกล้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุด จะบานเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 3 - 3.5 ซม. และมักจะบานสะพรั่งที่ด้านบนของก้านดอก กลีบเลี้ยงและกลีบดอก เป็นสีเหลือง สีเขียว กลีบดอกไม้ด้านนอกจะเป็นสีแดงเลือด สีแดงฝาด ๆ คล้ายจุดดำ ๆ แดงบนใบหน้า และจึงเป็นที่มาของอีกชื่อหนึ่งคือ 'ตุ่นเข้ม' หรือ 'จีจี้ (คุณตาคุณยาย) ซึ่งหมายถึงกล้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุด มีใบที่หนา ยาวประมาณ 20 ถึง 35 ซม.กว้างประมาณ 0.6 - 1 ซม. ขอบใบมีลักษณะคมเหมือน ร่องฟัน หรือฟันของใบเลื่อย ใบสีเขียวเข้ม มีการแตกหน่อจากรากตลอดทั้งปี มีการเจริญเติบโตไม่เว้นแม้ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตในป่าดิบแห้งแล้ง ที่มีแดดส่องถึง บริเวณตีนเขา เนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ยังเป็นหนึ่งในพรรณไม้ กล้วยไม้ที่หาได้ยากที่สุดพรรณหนึ่ง ที่พบในเทือกเขาทาคาโอ่ะ ก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ จากชื่อที่ใช้เรียก ชุนลัง แปลว่า กล้วยไม้ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ หรือกล้วยไม้ชาววัง (Noble Orchid) แสดงให้เห็นว่า เป็นกล้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุด จะบานเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 3 - 3.5 ซม. และมักจะบานสะพรั่งที่ด้านบนของก้านดอก กลีบเลี้ยงและกลีบดอก เป็นสีเหลือง สีเขียว กลีบดอกไม้ด้านนอกจะเป็นสีแดงเลือด สีแดงฝาด ๆ คล้ายจุดดำ ๆ แดงบนใบหน้า และจึงเป็นที่มาของอีกชื่อหนึ่งคือ 'ตุ่นเข้ม' หรือ 'จีจี้ (คุณตาคุณยาย) ซึ่งหมายถึงกล้วยไม้ที่เก่าแก่ที่สุด มีใบที่หนา ยาวประมาณ 20 ถึง 35 ซม.กว้างประมาณ 0.6 - 1 ซม. ขอบใบมีลักษณะคมเหมือน ร่องฟัน หรือฟันของใบเลื่อย ใบสีเขียวเข้ม มีการแตกหน่อจากรากตลอดทั้งปี มีการเจริญเติบโตไม่เว้นแม้ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนมีนาคม ถึงปลายเดือนเมษายน
 ● ความสูง ประมาณ 15-25 เซนติเมตร
 ● สถานที่ ถนนสายTrail 5 ภูเขาอินาริ , เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ , มินามิ-ทาคาโอะ
- 
					
						ดอกไอริส ตระกูลดอกไม้เมืองหนาว   ดอกไอริส ตระกูลดอกไม้เมืองหนาว ดอกไอริส ตระกูลดอกไม้เมืองหนาว เป็นพรรณไม้ป่าดงดิบ ยืนต้น ที่เติบโตบริเวณตีนเขา เนินเขา บนเชิงดอย ยอดดอย แล้วยังพบตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ริมธาร (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เติบโตโดยการขยายเหง้า เพราะไม่สามารถที่จะขยายพันธ์ได้จากเมล็ดพันธุ์ มักจะปลูกเป็นกำแพงบนฝั่งแม่น้ำ ขนาดของดอก มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 4 ถึง 6 ซม. บานในตอนเช้าและเหี่ยวเฉาในช่วงบ่าย บนขอบใบมีรอยหยักสวยงาม และมีสีประกายแสงสีม่วง และสีส้ม กลีบด้านนอกมีสีสันสวยงาม เมือถึงฤดูกาลที่บานเต็มที่ จะมีความสวยงามมากในป่า และจะมีความโดดเด่นอย่างมาก มักจะพบในเทือกเขาทาคาโอะ ใบเป็นรูปดาบยาว 30 ถึง 60 ซม. พื้นผิวมันวาวและสีเขียวสดใส เป็นพรรณไม้ป่าดงดิบ ยืนต้น ที่เติบโตบริเวณตีนเขา เนินเขา บนเชิงดอย ยอดดอย แล้วยังพบตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ริมธาร (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เติบโตโดยการขยายเหง้า เพราะไม่สามารถที่จะขยายพันธ์ได้จากเมล็ดพันธุ์ มักจะปลูกเป็นกำแพงบนฝั่งแม่น้ำ ขนาดของดอก มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 4 ถึง 6 ซม. บานในตอนเช้าและเหี่ยวเฉาในช่วงบ่าย บนขอบใบมีรอยหยักสวยงาม และมีสีประกายแสงสีม่วง และสีส้ม กลีบด้านนอกมีสีสันสวยงาม เมือถึงฤดูกาลที่บานเต็มที่ จะมีความสวยงามมากในป่า และจะมีความโดดเด่นอย่างมาก มักจะพบในเทือกเขาทาคาโอะ ใบเป็นรูปดาบยาว 30 ถึง 60 ซม. พื้นผิวมันวาวและสีเขียวสดใส
 
 ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
 ●ความสูง ประมาณ 50-60 เซนติเมตร
 ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6, เทือกเขาอินาริ , จากาติ, อุระ-ทาคาโอะ Iroha, โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						หญ้าอุระชิมะโซ ตระกูลดอกหญ้า   หญ้าอุระชิมะโซ ตระกูลดอกหญ้า หญ้าอุระชิมะโซ ตระกูลดอกหญ้า สมุนไพรยืนต้นที่พบในระดับที่สูง ตามชายเขา ที่โคนกิ่งมีกาบสีม่วงเข้ม มีดอกที่เติบโตจากก้านใบ ในโคนดอกจะมีละอองเกสรตัวผู้ตัวเมียอยู่ด้วยกัน ละอองเกสรตัวผู่จะมีท่อยาวโค้งสูง คล้าย ๆ ดอกหน้าวัว จากชื่อ Urashima (คือ ตัวละครหลักของเรื่องนางฟ้าในญี่ปุ่น Urashima ที่ถือคันเบ็ด) ซึ่งดอกไม้นี้ จะมีลักษณะความงามคล้าย อุรชิมา จึงได้กำหนดชื่อเรียกเป็นชื่อนี้ ก้านใบยาวประมาณ 50 ซม. ลำต้นหนา. มี 11-17 ใบต่อก้านใบ ที่โคนต้นและใบ มีสารพิษปนอยู่ นิยมที่จะนำไปสกัดทำเป็นยาสมุนไพร เช่น ซาโปนิน ต้องระวัง หากสัมผัสเข้าโดยตรงทั้งทางปาก หรือผิวหนังอาจทำให้ปวดแสบปวดร้อน และระคาดผิวได้ สมุนไพรยืนต้นที่พบในระดับที่สูง ตามชายเขา ที่โคนกิ่งมีกาบสีม่วงเข้ม มีดอกที่เติบโตจากก้านใบ ในโคนดอกจะมีละอองเกสรตัวผู้ตัวเมียอยู่ด้วยกัน ละอองเกสรตัวผู่จะมีท่อยาวโค้งสูง คล้าย ๆ ดอกหน้าวัว จากชื่อ Urashima (คือ ตัวละครหลักของเรื่องนางฟ้าในญี่ปุ่น Urashima ที่ถือคันเบ็ด) ซึ่งดอกไม้นี้ จะมีลักษณะความงามคล้าย อุรชิมา จึงได้กำหนดชื่อเรียกเป็นชื่อนี้ ก้านใบยาวประมาณ 50 ซม. ลำต้นหนา. มี 11-17 ใบต่อก้านใบ ที่โคนต้นและใบ มีสารพิษปนอยู่ นิยมที่จะนำไปสกัดทำเป็นยาสมุนไพร เช่น ซาโปนิน ต้องระวัง หากสัมผัสเข้าโดยตรงทั้งทางปาก หรือผิวหนังอาจทำให้ปวดแสบปวดร้อน และระคาดผิวได้
 
 ●ฤดูกาล กลางเดือนเมษายน ถึงปลายเดือนพฤษภาคม
 ●ความสูง ประมาณ 40-60 เซนติเมตร
 ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						ยาบูเระ คาสะ ตระกูลดอกเบญจมาศ   ยาบูเระ คาสะ ตระกูลดอกเบญจมาศ ยาบูเระ คาสะ ตระกูลดอกเบญจมาศ สมุนไพรยืนต้นที่พบในป่าลึก และป่าภูเขา ชื่อภาษาญี่ปุ่น Yaburegasa แปลว่า ร่มขาด เนื่องจากในช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ใบอ่อนแตกหน่อมาจากพื้นดิน จะมองเห็นมีลักษณะคล้ายกับร่มขาด เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1 ซม. มีสีขาว สีแดง และสีอ่อน ๆ ใน 1 ช่อดอกจะประกอบด้วยดอกไม้ประมาณ 7-13 ดอก ที่โคนดอกนั้นมีละอองเกสรตัวผู้ที่เป็นเดือยยาวโค้งงอน และเกสรตัวเมียที่อยู่กลางโคนดอกที่สวยงามสมบูรณ์ ใบเป็นรูปกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 35-50 ซม. โอบอุ้มลำต้นเหมือนใบของต้นปาล์มที่มีลำต้นยาวๆ ใบอ่อนมีผมขนนุ่ม ๆ และเมื่อใบเริ่มแก่แล้วขนจะเริ่มหายไป ใบอ่อนจะกินใบต้มสามารถหมักผสมน้ำส้มสายชูหรือใช้สำหรับน้ำซุป ใบสดนิยมนำมาทอดกับแป้งเทมปุระ สมุนไพรยืนต้นที่พบในป่าลึก และป่าภูเขา ชื่อภาษาญี่ปุ่น Yaburegasa แปลว่า ร่มขาด เนื่องจากในช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ใบอ่อนแตกหน่อมาจากพื้นดิน จะมองเห็นมีลักษณะคล้ายกับร่มขาด เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1 ซม. มีสีขาว สีแดง และสีอ่อน ๆ ใน 1 ช่อดอกจะประกอบด้วยดอกไม้ประมาณ 7-13 ดอก ที่โคนดอกนั้นมีละอองเกสรตัวผู้ที่เป็นเดือยยาวโค้งงอน และเกสรตัวเมียที่อยู่กลางโคนดอกที่สวยงามสมบูรณ์ ใบเป็นรูปกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 35-50 ซม. โอบอุ้มลำต้นเหมือนใบของต้นปาล์มที่มีลำต้นยาวๆ ใบอ่อนมีผมขนนุ่ม ๆ และเมื่อใบเริ่มแก่แล้วขนจะเริ่มหายไป ใบอ่อนจะกินใบต้มสามารถหมักผสมน้ำส้มสายชูหรือใช้สำหรับน้ำซุป ใบสดนิยมนำมาทอดกับแป้งเทมปุระ
 
 ●ฤดูกาล ปลายเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนตุลาคม
 ●ความสูง ประมาณ 50 ซม. ถึง 1 เมตร
 ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 3-5, ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ, คิตะ-ทาคาโอะ
- 
					
						โอตารุ บุคุโร่ ตระกูลบัลลูนฟลาวเวอร์   โอตารุ บุคุโร่ ตระกูลบัลลูนฟลาวเวอร์ โอตารุ บุคุโร่ ตระกูลบัลลูนฟลาวเวอร์ สมุนไพรยืนต้น ที่พบในทุ่งหญ้าภูเขาแห้งหรือบนถนน ป่าดงดิบชื้น รวมถึงทุ่งหญ้า มีขนตามลำต้น ใบ กิ่ง ประปราย ลำต้นดูแข็งแรง ชื่อภาษาญี่ปุ่น Hotaru-Bukuro แปลว่า กล่องใส่หิ่งห้อย เพราะดอกไม้มีลักษณะคล้าย กระดาษเรืองแสง มองให้เห็นถึงบรรยากาศที่เด็กมาเล่นหิ่งห้อยใต้ต้นไม้ ดอกมีความยาวประมาณ 4 ถึง 5 ซม.มีลักษณะคล้ายรูประฆัง 5 กลีบห้อยเป็นตุ้ม มีสีขาว, สีม่วงและสีแดง มีลักษณะคล้าย ๆ กับ ฟุคุชิมา ชาจิน ซึ่งเป็นตระกูลบัลลูนฟลาวเวอร์ เดียวกัน ใบมีความยาวประมาณ 5 ถึง 7 ซม. ใบมีรูปร่างคล้ายไข่ ปลายใบมีร่องฟันหรือคล้ายฟันใบเลื่อย ที่โคนดอกจะมีละอองเกสรตัวผู้ตัวเมียในการสืบพันธ์ หลังจากดอกไม้แก่จัด จะเหี่ยวเฉาลง เมล็ดแก่จะมีสีดำที่อยู่ตรงกลางโคนดอก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีลักษณะโค้งมน และจะทำหน้าที่เป็นเมล็ดพันธ์เพื่อขยายพันธ์ต่อไป สมุนไพรยืนต้น ที่พบในทุ่งหญ้าภูเขาแห้งหรือบนถนน ป่าดงดิบชื้น รวมถึงทุ่งหญ้า มีขนตามลำต้น ใบ กิ่ง ประปราย ลำต้นดูแข็งแรง ชื่อภาษาญี่ปุ่น Hotaru-Bukuro แปลว่า กล่องใส่หิ่งห้อย เพราะดอกไม้มีลักษณะคล้าย กระดาษเรืองแสง มองให้เห็นถึงบรรยากาศที่เด็กมาเล่นหิ่งห้อยใต้ต้นไม้ ดอกมีความยาวประมาณ 4 ถึง 5 ซม.มีลักษณะคล้ายรูประฆัง 5 กลีบห้อยเป็นตุ้ม มีสีขาว, สีม่วงและสีแดง มีลักษณะคล้าย ๆ กับ ฟุคุชิมา ชาจิน ซึ่งเป็นตระกูลบัลลูนฟลาวเวอร์ เดียวกัน ใบมีความยาวประมาณ 5 ถึง 7 ซม. ใบมีรูปร่างคล้ายไข่ ปลายใบมีร่องฟันหรือคล้ายฟันใบเลื่อย ที่โคนดอกจะมีละอองเกสรตัวผู้ตัวเมียในการสืบพันธ์ หลังจากดอกไม้แก่จัด จะเหี่ยวเฉาลง เมล็ดแก่จะมีสีดำที่อยู่ตรงกลางโคนดอก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีลักษณะโค้งมน และจะทำหน้าที่เป็นเมล็ดพันธ์เพื่อขยายพันธ์ต่อไป
 
 ●ฤดูกาล กลางเดือนมิถุนายน ถึงปลายเดือนกรกฎาคม
 ●ความสูง ประมาณ 30-80 เซนติเมตร
 ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 5 ภูเขาอินาริ, จาทากิ, ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ เทือกเขามินามิ-ทาคาโอะ
- 
					
						โอโทโค่ะ เอชิ ตระกูลดอกวาเลนเซีย   โอโทโค่ะ เอชิ ตระกูลดอกวาเลนเซีย โอโทโค่ะ เอชิ ตระกูลดอกวาเลนเซีย สมุนไพรยืนต้นที่พบบนเนินเขา ป่าทีมีแดดส่องถึง อยู่ใกล้กับริมธารที่มีความชุ่มชื้น บริเวณเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อญี่ปุ่น, Otokoeshi แปลว่า ดอกไม้ที่เป็นสัญญลักษณ์ให้กับผู้ชาย ซึ่งจะแตกต่างจาก Ominaeshi ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เป็นสัญญลักษณ์ของผู้หญิง แต่อยู่ในตระกูลดอกวาเลนเซียเหมือนกัน ซึ่งดอกไม้ที่เป็นสัญญลักษณ์ของผู้หญิงด้วย จะเป็นดอกไม้สีเหลือง โอโทโค่ะ เอชิ จะมีใบขนาดใหญ่และมีลักษณะเป็นภาพผู้ชายที่แข็งแกร่ง ดอกไม้จะมีสีขาวและเรียบง่าย เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 4 มม. และบานบนแท่นดอกอย่างสง่างาม ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ และยาวประมาณ 3-15 ซม. ที่โคนลำต้นจะมีขนสีขาวหยาบ มล็ดแก่จะมีสีดำที่อยู่ตรงกลางโคนดอก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีลักษณะโค้งมน และจะทำหน้าที่เป็นเมล็ดพันธ์เพื่อขยายพันธ์ต่อไป รากและโคนลำต้นจะใช้เป็นยาจีนในการรักษาอาการอักเสบ สมุนไพรยืนต้นที่พบบนเนินเขา ป่าทีมีแดดส่องถึง อยู่ใกล้กับริมธารที่มีความชุ่มชื้น บริเวณเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ชื่อญี่ปุ่น, Otokoeshi แปลว่า ดอกไม้ที่เป็นสัญญลักษณ์ให้กับผู้ชาย ซึ่งจะแตกต่างจาก Ominaeshi ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เป็นสัญญลักษณ์ของผู้หญิง แต่อยู่ในตระกูลดอกวาเลนเซียเหมือนกัน ซึ่งดอกไม้ที่เป็นสัญญลักษณ์ของผู้หญิงด้วย จะเป็นดอกไม้สีเหลือง โอโทโค่ะ เอชิ จะมีใบขนาดใหญ่และมีลักษณะเป็นภาพผู้ชายที่แข็งแกร่ง ดอกไม้จะมีสีขาวและเรียบง่าย เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 4 มม. และบานบนแท่นดอกอย่างสง่างาม ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ และยาวประมาณ 3-15 ซม. ที่โคนลำต้นจะมีขนสีขาวหยาบ มล็ดแก่จะมีสีดำที่อยู่ตรงกลางโคนดอก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีลักษณะโค้งมน และจะทำหน้าที่เป็นเมล็ดพันธ์เพื่อขยายพันธ์ต่อไป รากและโคนลำต้นจะใช้เป็นยาจีนในการรักษาอาการอักเสบ
 
 ●ฤดูกาล เดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม
 ●ความสูง ประมาณ 60 ซม. ถึง 1 เมตร
 ●สถานที่ ถนนสาย Trail 3 ภูเขามินามิ-ทาคาโอะ
- 
					
						ทซึริ ฟุเน๊ะ ตระกูลตาตั๊กแตน   ทซึริ ฟุเน๊ะ ตระกูลตาตั๊กแตน ทซึริ ฟุเน๊ะ ตระกูลตาตั๊กแตน พืชพรรณสมุนไพร ที่พบในถนนที่มีความชื้นสูง อยู่ใกล้ริมลำธารริมน้ำ มีการเจริญเติบโตที่ง่าย โดดเด่นเวลาที่ดอกบานงดงามมาก ดอกมีสีแดง สีม่ว ชื่อภาษาญี่ปุ่น Tsurifune จึงถูกตั้งชื่อตามดอกไม้ที่วางระฆังเหมือนคล้ายฝักดอกเรียกว่า tsurifune. ดอกไม้เป็น 3 ถึง 4 เซนติเมตร และเคล็ดลับของกลีบดอกที่เปิดในแนวตั้ง. มีสามกลีบและกลีบเลี้ยงและกลีบเลี้ยงเป็นหนึ่งในถุงที่มีขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างและมีแรงกระตุ้น (กระเป๋าเหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่ด้านหลังของกลีบ) ยิงที่ด้านหลัง. ใบมีความยาว 5-13 ซม. , 2-6 ซม. ความกว้างของเพชรที่มีรูปทรงรูปไข่ andand rhomboid รูปกับก้านใบยาวชี้เคล็ดลับฟันมีอัตรากำไรที่ดี (ขอบใบเป็นเหมือนฟันของเลื่อย). ลำต้นมีสีแดงและมีโหนดหนา. หลังจากดอกแบก 1 ถึง 2 ซม. ยาวและผลไม้ป๊อป เมล็ดที่สัมผัสเมื่อทำให้สุก พืชพรรณสมุนไพร ที่พบในถนนที่มีความชื้นสูง อยู่ใกล้ริมลำธารริมน้ำ มีการเจริญเติบโตที่ง่าย โดดเด่นเวลาที่ดอกบานงดงามมาก ดอกมีสีแดง สีม่ว ชื่อภาษาญี่ปุ่น Tsurifune จึงถูกตั้งชื่อตามดอกไม้ที่วางระฆังเหมือนคล้ายฝักดอกเรียกว่า tsurifune. ดอกไม้เป็น 3 ถึง 4 เซนติเมตร และเคล็ดลับของกลีบดอกที่เปิดในแนวตั้ง. มีสามกลีบและกลีบเลี้ยงและกลีบเลี้ยงเป็นหนึ่งในถุงที่มีขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างและมีแรงกระตุ้น (กระเป๋าเหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่ด้านหลังของกลีบ) ยิงที่ด้านหลัง. ใบมีความยาว 5-13 ซม. , 2-6 ซม. ความกว้างของเพชรที่มีรูปทรงรูปไข่ andand rhomboid รูปกับก้านใบยาวชี้เคล็ดลับฟันมีอัตรากำไรที่ดี (ขอบใบเป็นเหมือนฟันของเลื่อย). ลำต้นมีสีแดงและมีโหนดหนา. หลังจากดอกแบก 1 ถึง 2 ซม. ยาวและผลไม้ป๊อป เมล็ดที่สัมผัสเมื่อทำให้สุก
 
 ●ซีซั่นในช่วงต้นเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมประมาณกลาง
 ●ความสูงประมาณ 40-80 เซนติเมตร
 ●สถานที่ Trail 1 Trail 4 Trail 6 Ura-ทาคาโอะ Oku-ทาคาโอะ, Minami-ทาคาโอะ
- 
					
						มัทซึ คาเส่ะ ตระกูลส้ม   มัทซึ คาเส่ะ ตระกูลส้ม มัทซึ คาเส่ะ ตระกูลส้ม เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในป่าลึก ชายป่าทีมีร่มเงา ทุ่งหญ้า พบตามริมลำธารที่มีความชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็นพืชหญ้าพื้นเมืองที่มีเฉพาะพระราชวังของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ใช้ในการประดับโคมไฟ ตะเกียงจุดน้ำมัน ที่เป็นเอกลักษณ์ในราชวังในอดีต มีจุดเด่นที่นำหญ้าชนิดนี้มาสกัดทำเป็นสารป้องกันแมลง เนื่องจากกลิ่นนั้น จะป้องกันแมลงได้เป็นอย่างดี ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 5 มม. กลีบดอกมีสีที่สวยสด มีเฉพาะกลีบดอกด้านนอกเท่านั้น ส่วนกลีบดอกด้านใน และกลีบเลี้ยงนั้นไม่มี เกสรตัวผู้ที่เป็นรูปเดือยโผล่พ้นดอกนั้นจะมีสีเหลือง ที่เรียกว่าต่อมใบ ที่ผลิตน้ำหวาน และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางดอก มีผงละอองที่ใช้ในการผสมเกสรกันอย่างธรรมชาติตามแรงลม หรือแมลงที่มากินน้ำหวานภายในดอก ชื่อภาษาญี่ปุ่นอีกชื่อหนึ่ง Matsukaze แปลว่าหมายถึง ต้นสนลู่ลม เนื่องจากลำต้นคล้ายต้นสน ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้วยใบประมาณ 3 ใบ ใบมีลักษณะคล้ายรูปไข่คว่ำ ยาว 1 - 2.5 ซม. สีขาว มื่อถึงฤดูกาล จะมีผลออกมา และผลนั้นเมื่อแก่จัด จะหล่นลงพื้น ใช้เมล็ดแก่ที่อยู่ภายใน เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไปได้อีกวิธีหนึ่ง เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในป่าลึก ชายป่าทีมีร่มเงา ทุ่งหญ้า พบตามริมลำธารที่มีความชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็นพืชหญ้าพื้นเมืองที่มีเฉพาะพระราชวังของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ใช้ในการประดับโคมไฟ ตะเกียงจุดน้ำมัน ที่เป็นเอกลักษณ์ในราชวังในอดีต มีจุดเด่นที่นำหญ้าชนิดนี้มาสกัดทำเป็นสารป้องกันแมลง เนื่องจากกลิ่นนั้น จะป้องกันแมลงได้เป็นอย่างดี ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 5 มม. กลีบดอกมีสีที่สวยสด มีเฉพาะกลีบดอกด้านนอกเท่านั้น ส่วนกลีบดอกด้านใน และกลีบเลี้ยงนั้นไม่มี เกสรตัวผู้ที่เป็นรูปเดือยโผล่พ้นดอกนั้นจะมีสีเหลือง ที่เรียกว่าต่อมใบ ที่ผลิตน้ำหวาน และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางดอก มีผงละอองที่ใช้ในการผสมเกสรกันอย่างธรรมชาติตามแรงลม หรือแมลงที่มากินน้ำหวานภายในดอก ชื่อภาษาญี่ปุ่นอีกชื่อหนึ่ง Matsukaze แปลว่าหมายถึง ต้นสนลู่ลม เนื่องจากลำต้นคล้ายต้นสน ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้วยใบประมาณ 3 ใบ ใบมีลักษณะคล้ายรูปไข่คว่ำ ยาว 1 - 2.5 ซม. สีขาว มื่อถึงฤดูกาล จะมีผลออกมา และผลนั้นเมื่อแก่จัด จะหล่นลงพื้น ใช้เมล็ดแก่ที่อยู่ภายใน เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไปได้อีกวิธีหนึ่ง
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม
 ● ความสูง ประมาณ 50-80 เซนติเมตร
 ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						กวาวเครือ ตระกูลถั่ว   กวาวเครือ ตระกูลถั่ว กวาวเครือ ตระกูลถั่ว ไม้เถายืนต้น ที่เจริญเติบโตในป่าลึก ทุ่งหญ้า (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็น 1 ใน 7 ประเภทของพรรณไม้ที่พบมากที่สุดในภูเขา ในฤดูใบไม้ร่วง เป็นไม้เถาที่สามารถมีเครือพันรอบต้นไม้ได้ไกลถึง 10 เมตร รากจะหนาและมีแรงยึดจับได้เหนียวและแน่นมาก พื้นที่พบกวาวเครือ ส่วนใหญ่จะมาจากพื้นที่ในเขตจังหวัดนารา ที่เป็นเมืองเก่าของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรแห้ง โดยเป็นยาเย็นบรรเทาอาการปวดได้ ช่อดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 10 ถึง 20 ซม. ดอกไม้มีความยาว1.5 - 2 ซม. มีสีแดง สีม่วง จะเริ่มบานเริ่มจากด้านล่างของลำต้นก่อน โคนใบจะประกอบไปด้วย ใบทั้ง 3 ใบ ใบมีรูปไข่ แต่ละใบมีความยาว 10 ถึง 15 เซนติเมตร ใบมีสีขาวขุ่น หนียว สามารถนำใบมาปรุงแต่งอาหาร คือใช้ทอดกับแป้งเทมปูระ ด้วยรสชาติอร่อยอีกด้วย ไม้เถายืนต้น ที่เจริญเติบโตในป่าลึก ทุ่งหญ้า (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) เป็น 1 ใน 7 ประเภทของพรรณไม้ที่พบมากที่สุดในภูเขา ในฤดูใบไม้ร่วง เป็นไม้เถาที่สามารถมีเครือพันรอบต้นไม้ได้ไกลถึง 10 เมตร รากจะหนาและมีแรงยึดจับได้เหนียวและแน่นมาก พื้นที่พบกวาวเครือ ส่วนใหญ่จะมาจากพื้นที่ในเขตจังหวัดนารา ที่เป็นเมืองเก่าของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรแห้ง โดยเป็นยาเย็นบรรเทาอาการปวดได้ ช่อดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 10 ถึง 20 ซม. ดอกไม้มีความยาว1.5 - 2 ซม. มีสีแดง สีม่วง จะเริ่มบานเริ่มจากด้านล่างของลำต้นก่อน โคนใบจะประกอบไปด้วย ใบทั้ง 3 ใบ ใบมีรูปไข่ แต่ละใบมีความยาว 10 ถึง 15 เซนติเมตร ใบมีสีขาวขุ่น หนียว สามารถนำใบมาปรุงแต่งอาหาร คือใช้ทอดกับแป้งเทมปูระ ด้วยรสชาติอร่อยอีกด้วย
 
 ●ฤดูกาล กลางเดือนกรกฎาคม ถึงกลางเดือนกันยายน
 ●ความสูง ประมาณหัวเข่า
 ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 4 และ 6 จาทากิ และ อุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						ฟูจิ กังโซ ตระกูลถั่ว   ฟูจิ กังโซ ตระกูลถั่ว ฟูจิ กังโซ ตระกูลถั่ว สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ส่วนใหญ่จะพบในป่าบนภูเขาเท่านั้น กิ่งก้านมีความแข็งแรงและเหนียว ดอกมีสีชมพู มีความยาว 1 ซม ก้านดอกนั้นจะไม่มีใบ มีความยาวของลำต้นถึง 30 ซม. ใน 1 ก้านใบจะประกอบด้วยใบบ้างก็ 5 บ้างก็ 7 สลับกันไป ต่อ 1 โคนกิ่ง ลำต้นจะมีขนสีขาวคล้ายขนนก ใบมีลักษณะคล้ายรูปไข่ ยาวระมาณ 10 ซม. ชื่อภาษาญี่ปุ่น ฟูจิ-คันโซ แปลว่าต้นถั่วที่หายากที่สุดในดินแดนฟูจิ หรือที่ญี่ปุ่น ลักษณะของดอกยังมีลักษณะคล้ายกับ ถั่วที่อยู่ในตระกูลเดียวกันอีกด้วย หลังจากที่ ออกดอกตามฤดูกาลแล้ว จะมีผลสุกออกตามมา และเมื่อผลแก่ จะมีสีน้ำตาล เมล็ดดำที่อยู่ภายในจะทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ส่วนใหญ่จะพบในป่าบนภูเขาเท่านั้น กิ่งก้านมีความแข็งแรงและเหนียว ดอกมีสีชมพู มีความยาว 1 ซม ก้านดอกนั้นจะไม่มีใบ มีความยาวของลำต้นถึง 30 ซม. ใน 1 ก้านใบจะประกอบด้วยใบบ้างก็ 5 บ้างก็ 7 สลับกันไป ต่อ 1 โคนกิ่ง ลำต้นจะมีขนสีขาวคล้ายขนนก ใบมีลักษณะคล้ายรูปไข่ ยาวระมาณ 10 ซม. ชื่อภาษาญี่ปุ่น ฟูจิ-คันโซ แปลว่าต้นถั่วที่หายากที่สุดในดินแดนฟูจิ หรือที่ญี่ปุ่น ลักษณะของดอกยังมีลักษณะคล้ายกับ ถั่วที่อยู่ในตระกูลเดียวกันอีกด้วย หลังจากที่ ออกดอกตามฤดูกาลแล้ว จะมีผลสุกออกตามมา และเมื่อผลแก่ จะมีสีน้ำตาล เมล็ดดำที่อยู่ภายในจะทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป
 
 ● ฤดูกาล เดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน
 ● ความสูง ประมาณ 50 ซม. ถึง 1.5 เมตร
 ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 ถึง 2 , Trail 4-6 , ภูเขาอินาริ , อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						คินมิทซึ ฮิกิ ตระกูลเชอรรี่   คินมิทซึ ฮิกิ ตระกูลเชอรรี่ คินมิทซึ ฮิกิ ตระกูลเชอรรี่ สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ที่พบในทุ่งหญ้าที่ชุ่มชื้น ตามริมถนน พื้นที่ในภูเขา ฯลฯ ลำต้นมีโคนที่ตรง ดอกเป็นดอกสีขาวขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ดอกแทงออกมาจากก้านใบ และเมื่อดอกได้บานสะพรั่งเต็มที่แล้ว จะกลายมาเป็นสีขาว ซึ่งพืชพรรณนี้จะมีส่วนที่คล้ายคลึงกับ มิสึฮิกิ อยู่บ้าง แต่ทั้งสองพันธ์นี้ ก็ได้รับการกล่าวถึงอยู่เสมอ และบ้างก็ให้คำยกย่อง มีชื่ออีกหนึ่งชื่อคือ Kin- mizuhiki แปลว่า ต้นทองของอาณาจักร ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 0.7 - 1 ซม. ใน 1 โคนดอก จะปรากฏว่ามีกลีบดอกอยู่ 5 กลีบ และจะเริ่มบานตั้งแต่กลีบล่างก่อน ใบมีรูปร่างเหมือนไข่ ยาว 3-6 ซม. ใน 1 โคนใบจะประกอบด้วยใบประมาณ 5 -9 ใบ และขอบใบจะมีร่องฟันหรือเป็นร่องฟันของใบเลื่อย เมล็ดยาวประมาณ 3 ซม. เมื่อถึงฤดูกาล จะมีผลออกมา และผลนั้นเมื่อแก่จัด จะหล่นลงพื้น ใช้เมล็ดแก่ที่อยู่ภายใน เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไปได้อีกวิธีหนึ่ง สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าบนเนินเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ที่พบในทุ่งหญ้าที่ชุ่มชื้น ตามริมถนน พื้นที่ในภูเขา ฯลฯ ลำต้นมีโคนที่ตรง ดอกเป็นดอกสีขาวขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ดอกแทงออกมาจากก้านใบ และเมื่อดอกได้บานสะพรั่งเต็มที่แล้ว จะกลายมาเป็นสีขาว ซึ่งพืชพรรณนี้จะมีส่วนที่คล้ายคลึงกับ มิสึฮิกิ อยู่บ้าง แต่ทั้งสองพันธ์นี้ ก็ได้รับการกล่าวถึงอยู่เสมอ และบ้างก็ให้คำยกย่อง มีชื่ออีกหนึ่งชื่อคือ Kin- mizuhiki แปลว่า ต้นทองของอาณาจักร ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 0.7 - 1 ซม. ใน 1 โคนดอก จะปรากฏว่ามีกลีบดอกอยู่ 5 กลีบ และจะเริ่มบานตั้งแต่กลีบล่างก่อน ใบมีรูปร่างเหมือนไข่ ยาว 3-6 ซม. ใน 1 โคนใบจะประกอบด้วยใบประมาณ 5 -9 ใบ และขอบใบจะมีร่องฟันหรือเป็นร่องฟันของใบเลื่อย เมล็ดยาวประมาณ 3 ซม. เมื่อถึงฤดูกาล จะมีผลออกมา และผลนั้นเมื่อแก่จัด จะหล่นลงพื้น ใช้เมล็ดแก่ที่อยู่ภายใน เพื่อใช้ในการขยายพันธ์ต่อไปได้อีกวิธีหนึ่ง
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนกรกฎาคม ถึงปลายเดือนกันยายน
 ● ความสูง ประมาณ 50 ซม. ถึง 1 เมตร
 ● สถานที่ ถนนสาย Trail 3 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ- ทาคาโอะ
- 
					
						ไซไฮลัง (กล้วยไม้แมลงภู่) ตระกูลกล้วยไม้   ไซไฮลัง (กล้วยไม้แมลงภู่) ตระกูลกล้วยไม้ ไซไฮลัง (กล้วยไม้แมลงภู่) ตระกูลกล้วยไม้ สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าทั่วไป ป่าดงดิล รวมทั้งป่าใกล้ลำธารในภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ญี่ปุ่นชื่อ Saihai แปลว่า กระบองกล้วยไม้ เนืองจากมีดอกคล้ายกระบองที่ใช้ในการรบสหรัฐฯ ดอกไม้มีความยาว 3 ซม. ใน 1 ก้านดอกจะมีดอกเล็ก ๆ รวมอยู่เป็นพุ่มประมาณ 10 ถึง 20 ดอก และบานหันหน้าทิ้งตัวลงบนส่วนบนของลำต้นด้านล่าง สีของดอกไม้เป็นสีน้ำตาลอมชมพู สีแดงก็มีให้เห็นอยู่บ้าง กลีบดอกจะยื่นออกมาออกนอกโคนต้นที่ดูสวยงามมาก ในโคนดอก มีเกสรตัวผู้ที่เป็นแท่งโคนโน้มออกจากตัวดอก และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางของโคนดอก มีเกสรสีเหลือง ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาว 15-35 ซม. ดอกจะบานตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิจนถึงปลายฤดูหนาว ใบมีลักษณะพิเศษคือ จะมีใบขนาดใหญ่บาง ๆ คล้ายใบไผ่ สมุนไพรยืนต้นที่เจริญเติบโตในพื้นที่ป่าทั่วไป ป่าดงดิล รวมทั้งป่าใกล้ลำธารในภูเขา (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ญี่ปุ่นชื่อ Saihai แปลว่า กระบองกล้วยไม้ เนืองจากมีดอกคล้ายกระบองที่ใช้ในการรบสหรัฐฯ ดอกไม้มีความยาว 3 ซม. ใน 1 ก้านดอกจะมีดอกเล็ก ๆ รวมอยู่เป็นพุ่มประมาณ 10 ถึง 20 ดอก และบานหันหน้าทิ้งตัวลงบนส่วนบนของลำต้นด้านล่าง สีของดอกไม้เป็นสีน้ำตาลอมชมพู สีแดงก็มีให้เห็นอยู่บ้าง กลีบดอกจะยื่นออกมาออกนอกโคนต้นที่ดูสวยงามมาก ในโคนดอก มีเกสรตัวผู้ที่เป็นแท่งโคนโน้มออกจากตัวดอก และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางของโคนดอก มีเกสรสีเหลือง ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาว 15-35 ซม. ดอกจะบานตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิจนถึงปลายฤดูหนาว ใบมีลักษณะพิเศษคือ จะมีใบขนาดใหญ่บาง ๆ คล้ายใบไผ่
 
 ●ฤดูกาล ต้นเดือนมิถุนายน ถึงต้นเดือนกรกฎาคม
 ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร
 ●สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 3 Trail 6 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						โอบาชาโน ฮิเค่ะ ตระกูลลิลลี่   โอบาชาโน ฮิเค่ะ ตระกูลลิลลี่ โอบาชาโน ฮิเค่ะ ตระกูลลิลลี่ สมุนไพรไม้เถายืนต้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ที่พบอยู่ใต้ต้นไม้ป่าดิบหรือพื้นที่ร่มรื่นในภูเขา เป็นลักษณะเถายาว เติบโตใต้ดิน ชื่อภาษาญี่ปุ่น Ooba-jyano-hige แปลว่า เคราของงูยักษ์ เนื่องจากว่ามีใบคล้ายเคราของงู และพืชชนิดนี้ปกติจะมีใบกว้างและหนา เมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่นในสายพันธ์ตระกูลเดียวกัน ใบงอกออกมาจากโคนต้น และมีความยาวประมาณ 20-40 ซม.มีพื้นผิวมันวาว แต่ขอบหยาบ ดอกยาวประมาณ 6-7 มม. มีสีขาวหรือสีม่วง หากในแถบเทือกเขาทาคาโอ่ะมักจะพบสีขาว เป็นส่วนใหญ่ ดอกมีลักษณะโค้งเล็กน้อย เวลาบานจะเชิดหน้าขึ้นดูสง่า เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์ สมุนไพรไม้เถายืนต้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) ที่พบอยู่ใต้ต้นไม้ป่าดิบหรือพื้นที่ร่มรื่นในภูเขา เป็นลักษณะเถายาว เติบโตใต้ดิน ชื่อภาษาญี่ปุ่น Ooba-jyano-hige แปลว่า เคราของงูยักษ์ เนื่องจากว่ามีใบคล้ายเคราของงู และพืชชนิดนี้ปกติจะมีใบกว้างและหนา เมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่นในสายพันธ์ตระกูลเดียวกัน ใบงอกออกมาจากโคนต้น และมีความยาวประมาณ 20-40 ซม.มีพื้นผิวมันวาว แต่ขอบหยาบ ดอกยาวประมาณ 6-7 มม. มีสีขาวหรือสีม่วง หากในแถบเทือกเขาทาคาโอ่ะมักจะพบสีขาว เป็นส่วนใหญ่ ดอกมีลักษณะโค้งเล็กน้อย เวลาบานจะเชิดหน้าขึ้นดูสง่า เกสรตัวผู้จะมีลักษณะเหมือนขนนกสีขาว และมีเดือยโผล่พ้นจากโคนดอก และเกสรตัวเมียจะมีละอองเกสร เพื่อใช้เป็นที่ผสมพันธ์และกลายเป็นเมล็ดแก่ที่ใช้ในการขยายพันธ์
 
 ●ฤดูกาล ปลายเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกรกฎาคม
 ●ความสูง ประมาณ 15-25 เซนติเมตร
 ●สถานที่ ถนนสายTrail 2 、3, 5 , ภูเขาคิตะ-ทาคาโอะ
- 
					
						ยาบุลัง ตระกูลลิลลี่   ยาบุลัง ตระกูลลิลลี่ ยาบุลัง ตระกูลลิลลี่ สมุนไพรไม้เถายืนต้น ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต ที่พบในขอบป่าดงดิบป่าร้อนชื้น ที่มีร่มเงาในป่าภูเขา ซึ่งปัจจุบันยังนิมยมใช้เป็นพืชคลุมดินที่สวนสาธารณะและสวน ใบมีจำนวนมากที่งอกออกจากรากหรือลำต้นส่วนล่าง และกลายเป็นขนาดใหญ่ ใช้เหง้าในการขยายพันธ์ มีดอกขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 8-12 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 8 มิลลิเมตร โคนดอกจะประกอบด้วยดอกจำนวนมาก ประมาณ 6 ดอก มารวมกันเป็นช่อดอก ดอกมีสีม่วง มีเกสรตัวผู้ที่มีลักษณะคล้ายเดือยท่อ ที่โผล่พ้นดอกออกมา และมีเกสรตัวเมียที่อยู่กลางโคนดอกเป็นสีเหลือง ขนาดของใบยาวประมาณ 30 ถึง 50 ซม. กว้าง 0.8 - 1 ซม. เจริญเติบโตได้ดีในป่าที่มีร่ม มีใบคล้ายกล้วยไม้ จึงชื่อญี่ปุ่นชื่อว่า ยาบุรัง แปลว่า กล้วยไม้ทีมีลักษณะเป็นพุ่ม การขยายพันธ์นอกจากการใช้หน่อขยายแล้ว ยังมีวิธีการใช้เมล็ดด้วย โดยจะมีเมล็ดเล็ก ๆ คล้าย ๆ ผลงานทีอยู่ในโคนดอกเมื่อแก่จัด จะนำเมล็ดเหล่านี้ไปขยายพันธ์ต่อได้เช่นกัน ขนาดเมล็ดมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ถึง 6 มม. เมื่อแรกเริ่ม เมล็ดจะเป็นสีเขียว เมือแก่จัดจะเป็นเป็นสีดำสีม่วงในปลายฤดูใบไม้ร่วงในที่สุด สมุนไพรไม้เถายืนต้น ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต ที่พบในขอบป่าดงดิบป่าร้อนชื้น ที่มีร่มเงาในป่าภูเขา ซึ่งปัจจุบันยังนิมยมใช้เป็นพืชคลุมดินที่สวนสาธารณะและสวน ใบมีจำนวนมากที่งอกออกจากรากหรือลำต้นส่วนล่าง และกลายเป็นขนาดใหญ่ ใช้เหง้าในการขยายพันธ์ มีดอกขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 8-12 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 8 มิลลิเมตร โคนดอกจะประกอบด้วยดอกจำนวนมาก ประมาณ 6 ดอก มารวมกันเป็นช่อดอก ดอกมีสีม่วง มีเกสรตัวผู้ที่มีลักษณะคล้ายเดือยท่อ ที่โผล่พ้นดอกออกมา และมีเกสรตัวเมียที่อยู่กลางโคนดอกเป็นสีเหลือง ขนาดของใบยาวประมาณ 30 ถึง 50 ซม. กว้าง 0.8 - 1 ซม. เจริญเติบโตได้ดีในป่าที่มีร่ม มีใบคล้ายกล้วยไม้ จึงชื่อญี่ปุ่นชื่อว่า ยาบุรัง แปลว่า กล้วยไม้ทีมีลักษณะเป็นพุ่ม การขยายพันธ์นอกจากการใช้หน่อขยายแล้ว ยังมีวิธีการใช้เมล็ดด้วย โดยจะมีเมล็ดเล็ก ๆ คล้าย ๆ ผลงานทีอยู่ในโคนดอกเมื่อแก่จัด จะนำเมล็ดเหล่านี้ไปขยายพันธ์ต่อได้เช่นกัน ขนาดเมล็ดมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ถึง 6 มม. เมื่อแรกเริ่ม เมล็ดจะเป็นสีเขียว เมือแก่จัดจะเป็นเป็นสีดำสีม่วงในปลายฤดูใบไม้ร่วงในที่สุด
 
 ●ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม
 ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร
 ●สถานที่ ถนนสาย Trail 2 Trail 5 เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						ยามาโฮโต่ะ คิสึ (ลิลลี่นกคัดคูเล็ก) ตระกูลลิลลี่   ยามาโฮโต่ะ คิสึ (ลิลลี่นกคัดคูเล็ก) ตระกูลลิลลี่ ยามาโฮโต่ะ คิสึ (ลิลลี่นกคัดคูเล็ก) ตระกูลลิลลี่ สมุนไพรไม้เถายืนต้น ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต ที่พบในขอบป่าและในป่าลึกใกล้กับภูเขา ขณะที่ดอกไม้บานสะพรั่ง จะทิ้งใบทั้งหมด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชพรรณชนิดนี้ ลำต้นแข็งแรง มีก้านใบ กิ่งที่แทงยอดออกมาจากโคนลำต้นจากด้านล่างขึ้นมาถึงลำต้นช่วงบน ดอกบานจะหันหน้าขึ้นไปข้างบน ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. และในกลางโคนดอกจะมีจุดสีม่วงอยู่ และมีกลีบดอกสีขาวประปรายอยู่ด้านใน ซึ่งลักษณะแบบนี้จะมีส่วนที่คล้ายคลึงกับลักษณะของของหน้าอกของนกกาเหว่า จึงมีชื่อญี่ปุ่นว่า Yama-hototogisu แปลว่า นกกาเหว่าน้อยในภูเขา ลักษณะเกสรตัวผู้จะเป็นท่อโค้งที่พ้นจากโคนดอกออกมา ส่วนเกสรตัวเมียจะอยู่ตรงส่วนกลางของกลีบดอกทั้ง 6 กลีบ ม้วนงอลงอย่างสวยงาม ใบมีความยาวประมาณ 8-13 ซม. มีลักษณะเป็นรูปไข่ที่มีปลายแหลม ลำต้นมีขนสั้น ๆ ประปราย ซึ่งจะแตกต่างกันไปบ้างแล้วแต่สายพันธ์ หลังจากออกดอกแล้ว จะเกิดผลซึ่งมีความยาว 3 ซม. และเมล็ดรูปไข่ ที่อยู่ในผลนั้นเมื่อแก่จัด จะทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป สมุนไพรไม้เถายืนต้น ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต ที่พบในขอบป่าและในป่าลึกใกล้กับภูเขา ขณะที่ดอกไม้บานสะพรั่ง จะทิ้งใบทั้งหมด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพืชพรรณชนิดนี้ ลำต้นแข็งแรง มีก้านใบ กิ่งที่แทงยอดออกมาจากโคนลำต้นจากด้านล่างขึ้นมาถึงลำต้นช่วงบน ดอกบานจะหันหน้าขึ้นไปข้างบน ดอกไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. และในกลางโคนดอกจะมีจุดสีม่วงอยู่ และมีกลีบดอกสีขาวประปรายอยู่ด้านใน ซึ่งลักษณะแบบนี้จะมีส่วนที่คล้ายคลึงกับลักษณะของของหน้าอกของนกกาเหว่า จึงมีชื่อญี่ปุ่นว่า Yama-hototogisu แปลว่า นกกาเหว่าน้อยในภูเขา ลักษณะเกสรตัวผู้จะเป็นท่อโค้งที่พ้นจากโคนดอกออกมา ส่วนเกสรตัวเมียจะอยู่ตรงส่วนกลางของกลีบดอกทั้ง 6 กลีบ ม้วนงอลงอย่างสวยงาม ใบมีความยาวประมาณ 8-13 ซม. มีลักษณะเป็นรูปไข่ที่มีปลายแหลม ลำต้นมีขนสั้น ๆ ประปราย ซึ่งจะแตกต่างกันไปบ้างแล้วแต่สายพันธ์ หลังจากออกดอกแล้ว จะเกิดผลซึ่งมีความยาว 3 ซม. และเมล็ดรูปไข่ ที่อยู่ในผลนั้นเมื่อแก่จัด จะทำหน้าที่ขยายพันธ์ต่อไป
 
 ●ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม
 ●ความสูง ประมาณ 40-70 เซนติเมตร
 ●สถานที่ ถนนสาย 2 - 4 - 6 ภูเขา-ทาคาโอะ
- 
					
						ยาบุเมียวกะ (หญ้าน้ำค้างสีม่วง) ตระกูลหญ้าน้ำค้าง   ยาบุเมียวกะ (หญ้าน้ำค้างสีม่วง) ตระกูลหญ้าน้ำค้าง ยาบุเมียวกะ (หญ้าน้ำค้างสีม่วง) ตระกูลหญ้าน้ำค้าง เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) ยังพบในขอบป่า ใกล้ริมลำธาร และป่าดิบชื้น ก้านใบ กิ่งก้านสาขา งอกออกมาจากโคนลำต้นโดยตรง ยามดอกบานสะพรั่ง จะมองเห็นกลุ่มดอกเล็ก ๆ สีขาวเป็นพวง เป็นตุ้มย้อยลงมาจากโคนต้นด้านบนงดงาม ตามลำต้นจะมีขนสั้นๆ ดก รายรอบ และผิวของลำต้นมีลักษณะเป็นเนื้อหยาบ ลำต้นจะเลื้อยคลุมไปตามพื้นดิน มองดูแล้วขาวไปหมด เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 6-8 ซม. มีกลีบดอกอยู่ประมาณ 5 -6 กลีบ ดอกจะบานสะพรั่งวันต่อวัน ในช่วงที่มีแสงแดดเท่านั้น ตกเย็นดอกจะหุบกลับไปเหมือนเดิม เกสรตัวผู้เป็นเส้นสีเหลือง และเกสรตัวเมียอยู่ในกลางดอกในศูนย์ที่มีจุดสีแดง โดยใช้หลักของแรงลมพัดนำพาละอองเรณูเกสร ไปยังดอกอื่น หรือผสมเกสรโดยแมลงที่มาตาอม ทำให้เกิดการผสมพันธ์ แล้วจะกลายเป็นผล และเมล็ดแก่จัดที่จะนำไปขยายพันธ์ ใบเป็นรูปไข่ ยาว15 ถึง 30 ซม. ใน 1 กิ่ง จะประกอบด้วยใบประมาณ 6 - 7 ใบ ชื่อภาษาญี่ปุ่น ยาบุ เมียวกะ แปลว่า พุ่มไม้ของดอกหญ้า เนื่องจากมีใบและโคนต้นที่ใหญ่ และสามารถคลุมทั้งต้นไว้ได้อย่างมิดชิด ผลมีลักษณะทรงกลม ยาวประมาณ 5 มม.เมื่อผลอ่อนจะมีสีขาว และจะกลายเป็นสีฟ้า ครามในที่สุด ในฤดูใบไม้ร่วง เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในที่ป่าชื้นทั่วไป (ใช้เวลาหลายปี ในการเจริญเติบโต) ยังพบในขอบป่า ใกล้ริมลำธาร และป่าดิบชื้น ก้านใบ กิ่งก้านสาขา งอกออกมาจากโคนลำต้นโดยตรง ยามดอกบานสะพรั่ง จะมองเห็นกลุ่มดอกเล็ก ๆ สีขาวเป็นพวง เป็นตุ้มย้อยลงมาจากโคนต้นด้านบนงดงาม ตามลำต้นจะมีขนสั้นๆ ดก รายรอบ และผิวของลำต้นมีลักษณะเป็นเนื้อหยาบ ลำต้นจะเลื้อยคลุมไปตามพื้นดิน มองดูแล้วขาวไปหมด เส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 6-8 ซม. มีกลีบดอกอยู่ประมาณ 5 -6 กลีบ ดอกจะบานสะพรั่งวันต่อวัน ในช่วงที่มีแสงแดดเท่านั้น ตกเย็นดอกจะหุบกลับไปเหมือนเดิม เกสรตัวผู้เป็นเส้นสีเหลือง และเกสรตัวเมียอยู่ในกลางดอกในศูนย์ที่มีจุดสีแดง โดยใช้หลักของแรงลมพัดนำพาละอองเรณูเกสร ไปยังดอกอื่น หรือผสมเกสรโดยแมลงที่มาตาอม ทำให้เกิดการผสมพันธ์ แล้วจะกลายเป็นผล และเมล็ดแก่จัดที่จะนำไปขยายพันธ์ ใบเป็นรูปไข่ ยาว15 ถึง 30 ซม. ใน 1 กิ่ง จะประกอบด้วยใบประมาณ 6 - 7 ใบ ชื่อภาษาญี่ปุ่น ยาบุ เมียวกะ แปลว่า พุ่มไม้ของดอกหญ้า เนื่องจากมีใบและโคนต้นที่ใหญ่ และสามารถคลุมทั้งต้นไว้ได้อย่างมิดชิด ผลมีลักษณะทรงกลม ยาวประมาณ 5 มม.เมื่อผลอ่อนจะมีสีขาว และจะกลายเป็นสีฟ้า ครามในที่สุด ในฤดูใบไม้ร่วง
 
 ● ฤดูกาล กลางเดือนสิงหาคม ถึงกลางเดือนกันยายน
 ● ความสูง ประมาณ 50 ซม. ถึง 1 เมตร
 ● สถานที่ ถนนสาย Trail 1 - 2 - 4- 6 , ภูเขาอินาริ , จาทากิ , อุระ- ทาคาโอะ
- 
					
						อาซึมะ ยามาอะซามิ (แอสเตอร์จิ๋ว) ตระกูลดอกเบญจมาศ   อาซึมะ ยามาอะซามิ (แอสเตอร์จิ๋ว) ตระกูลดอกเบญจมาศ อาซึมะ ยามาอะซามิ (แอสเตอร์จิ๋ว) ตระกูลดอกเบญจมาศ ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณที่เปียกชื้นใกล้ลำธารที่ ไม่มีแดดจัด ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธารต่าง ๆ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) พืชพรรณนี้ ได้พบเห็นครั้งแรกในเกาะคิวชู และชิโกกุ และในอดีตกาลที่พบมากอีกที่หนึ่งคือในเขตคันโตะ ชื่อภาษาญี่ปุ่น (อาซึมะ แปลว่า โบราณ) จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก ชื่อเต็ม อาซึมะ ยามาอะซามิ จึงแปลว่า ดอกแอสเตอร์จิ๋วโบราณ ดอกไม้ดอกเล็กพรรณนี้ จะมีจำนวนดอกที่หนาแน่นมากเมื่อเทียบกับในตระกูลแอสเตอร์ด้วยกัน ดอกไม้จะเป็นรูปทรงกรม สีแดง สีม่วง และหลากหลายสี และก้านดอกจะเป็นท่อหลอดยาว ๆ ที่มีขนบาง ๆ สีขาวโดยรอบ ก้านดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 มม. ค่อนข้างเหนียวและชูดอกได้อย่างแข็งแรง ใบจะแทงยอดออกจากลำต้นโดยตรง ยาวประมาณ 20 ซม. กลีบดอกจะเป็นลักษณะเป็นกลีบบาง เรียวยาวมนตรงปลาย เหมือนปีกนกมาเรียงกัน พืชพรรณนี้จะมีความคงทนต่อสภาพอากาศได้ดี จะเจริญเติบโตเต็มที่และผลิดอกมากที่สุดในฤดูใบไม้ผลิ ตลอดยาวนานจนถึงฤดูหนาวของฤดูกาลต่อไป สีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและหายากที่สุดคือสีขาว ภายในโคนดอก จะมีละอองเกสรอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แมลงเป็นผู้ผสมเกสรให้ รวมถึงลมที่พัดตามหลักธรรมชาติ ซึ่งใน 1 ดอก จะมีละอองเกสรดอกไม้ทั้งเกสรตัวผู้เกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน เพื่อที่จะเป็นการขยายพันธ์ได้ ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต บริเวณที่เปียกชื้นใกล้ลำธารที่ ไม่มีแดดจัด ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น ตามลำธารต่าง ๆ (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) พืชพรรณนี้ ได้พบเห็นครั้งแรกในเกาะคิวชู และชิโกกุ และในอดีตกาลที่พบมากอีกที่หนึ่งคือในเขตคันโตะ ชื่อภาษาญี่ปุ่น (อาซึมะ แปลว่า โบราณ) จึงเป็นที่มาของชื่อเรียก ชื่อเต็ม อาซึมะ ยามาอะซามิ จึงแปลว่า ดอกแอสเตอร์จิ๋วโบราณ ดอกไม้ดอกเล็กพรรณนี้ จะมีจำนวนดอกที่หนาแน่นมากเมื่อเทียบกับในตระกูลแอสเตอร์ด้วยกัน ดอกไม้จะเป็นรูปทรงกรม สีแดง สีม่วง และหลากหลายสี และก้านดอกจะเป็นท่อหลอดยาว ๆ ที่มีขนบาง ๆ สีขาวโดยรอบ ก้านดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 มม. ค่อนข้างเหนียวและชูดอกได้อย่างแข็งแรง ใบจะแทงยอดออกจากลำต้นโดยตรง ยาวประมาณ 20 ซม. กลีบดอกจะเป็นลักษณะเป็นกลีบบาง เรียวยาวมนตรงปลาย เหมือนปีกนกมาเรียงกัน พืชพรรณนี้จะมีความคงทนต่อสภาพอากาศได้ดี จะเจริญเติบโตเต็มที่และผลิดอกมากที่สุดในฤดูใบไม้ผลิ ตลอดยาวนานจนถึงฤดูหนาวของฤดูกาลต่อไป สีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและหายากที่สุดคือสีขาว ภายในโคนดอก จะมีละอองเกสรอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แมลงเป็นผู้ผสมเกสรให้ รวมถึงลมที่พัดตามหลักธรรมชาติ ซึ่งใน 1 ดอก จะมีละอองเกสรดอกไม้ทั้งเกสรตัวผู้เกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน เพื่อที่จะเป็นการขยายพันธ์ได้
 
 ● ฤดูกาล ต้นเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
 ● ความสูง ประมาณ 1.5-2 เมตร
 ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 และ 2 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						คาชิวา บาฮากุมะ ตระกูลดอกเบญจมาศ   คาชิวา บาฮากุมะ ตระกูลดอกเบญจมาศ คาชิวา บาฮากุมะ ตระกูลดอกเบญจมาศ ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่แข็งแรง และรากหยั่งลงพื้นดินอย่างแน่นหนา มีจุดเด่นที่ดอกมีความสวยงามโดดเด่น ก้านดอกประกอบไปด้วย ท่อขนาดเล็ก เหนียว โดยมีดอกประกอบอยู่ประมาณ 5 - 6 ดอกในก้านดอกเดียวกัน ส่วนบนของก้านดอกจะถูกแต่งแต้มด้วยสีขาว ดอกไม้ยาวประมาณ 1.7-2.7 ซม. ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดยาวประมาณ 1.4 ซม. มีขนสั้นๆโดยรอบ เจริญเติบโตเต็มที่ในช่วงฤดูหนาว และมักจะมองเห็นดอกที่ถูกเคลือบด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ' Shimobashira ' ซึ่งแปลว่า (ดอกไม้น้ำแข็ง) ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีลำต้นที่แข็งแรง และรากหยั่งลงพื้นดินอย่างแน่นหนา มีจุดเด่นที่ดอกมีความสวยงามโดดเด่น ก้านดอกประกอบไปด้วย ท่อขนาดเล็ก เหนียว โดยมีดอกประกอบอยู่ประมาณ 5 - 6 ดอกในก้านดอกเดียวกัน ส่วนบนของก้านดอกจะถูกแต่งแต้มด้วยสีขาว ดอกไม้ยาวประมาณ 1.7-2.7 ซม. ใบเป็นรูปวงรี ยาวประมาณ 10 ถึง 20 ซม. ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดยาวประมาณ 1.4 ซม. มีขนสั้นๆโดยรอบ เจริญเติบโตเต็มที่ในช่วงฤดูหนาว และมักจะมองเห็นดอกที่ถูกเคลือบด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ' Shimobashira ' ซึ่งแปลว่า (ดอกไม้น้ำแข็ง)
 
 ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม
 ● ความสูง ประมาณ 30-70 เซนติเมตร
 ● สถานที่ ถนนสาย trail 1 , 6 , ภูเขาอินาริ , จาทากิ ,อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						ชูบุงโซ ตระกูลดอกเบญจมาศ   ชูบุงโซ ตระกูลดอกเบญจมาศ ชูบุงโซ ตระกูลดอกเบญจมาศ ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีความโดดเด่นทีความงามของดอกไม้ เติบโตในที่เขตสูง บนภูเขา และเติบโตโดยใช้เวลาที่ยาวนานข้ามฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงจนึงฤดูหนาวในปีถัดไป จึงเป็นที่มาของชื่อญี่ปุ่น ชูบุงโซ ลำต้นสูง 1 เมตร และมีการขยายพันธ์โดยใช้หน่อ เหง้า ดอกไม้มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับลำต้น ก้านดอกสั้น ดอกจะประกอบไปด้วย ก้านดอกที่มีลักษณะคล้าย ๆ ท่อกลม ๆ ยาว ๆ มีขนสั้น ๆ สีขาวโดยรอบ ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มม. แต่งแต้มด้วยสีเหลืองอ่อน สีเขียว ในกลางโคนดอกจะมีเกสรตัวเมียอยู่ กลีบดอกมีลักษณะบางๆ เป็นกลีบสีขาวขนาดเล็กโอบอุ้มดอกไว้ ใบมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ เรียวยาว ยาวประมาณ 7-15 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 ถึง 3 ซม. หากสัมผัสจะรู้สึกสาก ๆ หยาบกร้าน ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ด ยาว ประมาณ 2.5 มิลลิเมตร ไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโต ในบริเวณเขตแห้งแล้งในป่า บนภูเขา ตามสันเขา ทุ่งหญ้า และริมลำธารที่มีอากาศชุ่มชื้น (เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการเจริญเติบโต) มีความโดดเด่นทีความงามของดอกไม้ เติบโตในที่เขตสูง บนภูเขา และเติบโตโดยใช้เวลาที่ยาวนานข้ามฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงจนึงฤดูหนาวในปีถัดไป จึงเป็นที่มาของชื่อญี่ปุ่น ชูบุงโซ ลำต้นสูง 1 เมตร และมีการขยายพันธ์โดยใช้หน่อ เหง้า ดอกไม้มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับลำต้น ก้านดอกสั้น ดอกจะประกอบไปด้วย ก้านดอกที่มีลักษณะคล้าย ๆ ท่อกลม ๆ ยาว ๆ มีขนสั้น ๆ สีขาวโดยรอบ ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มม. แต่งแต้มด้วยสีเหลืองอ่อน สีเขียว ในกลางโคนดอกจะมีเกสรตัวเมียอยู่ กลีบดอกมีลักษณะบางๆ เป็นกลีบสีขาวขนาดเล็กโอบอุ้มดอกไว้ ใบมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ เรียวยาว ยาวประมาณ 7-15 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 ถึง 3 ซม. หากสัมผัสจะรู้สึกสาก ๆ หยาบกร้าน ขอบใบมีลักษณะเป็นร่องฟันคล้ายฟันของใบเลื่อย และมีผิวหยาบ ๆ ตรงโคนดอก จะมีเกสรตัวผู้ และละอองเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน และละอองเกสรเป็นเหมือนปุยนุ่นเบา ๆ สามารถลอยไปตามลม เพื่อไปกาะเกสรตัวเมียที่ดอกอื่นได้ หรือผสมเกสรในดอกเดียวกัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ด ยาว ประมาณ 2.5 มิลลิเมตร
 
 ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม
 ● ความสูง ประมาณ 50-90 เซนติเมตร
 ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 ถึง 6 , ภูเขาอินาริ , จาทากิ , อุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						นันเทน ฮากิ ตระกูลถั่ว   นันเทน ฮากิ ตระกูลถั่ว นันเทน ฮากิ ตระกูลถั่ว เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี มีเถาเครือสำหรับในการพยุงต้นให้สามารถดำรงชีวิตได้ กับต้นไม้ยืนต้นอื่น ๆ ดอกมีความยาวประมาณ1.5 ซม. สีของดอกเป็นสีแดง สีม่วง และสีอื่น ๆ แล้วแต่สายพันธ์บานบน 2-4 ซม. ใน 1 กิ่งประกอบใบจำนวน 2 ใบ แต่ละใบยาว 3-7 ซม. ใบเป็นรูปไข่ มีขนดกและมีก้านใบสั้น ชื่อภาษาญี่ปุ่น Nanten-Hagi เป็นชื่อเพราะ รูปทรงของใบคล้ายกับ Nandina domestica (Nanten ในภาษาญี่ปุ่นและ Hagi เป็นไม้จำพวกถั่วเครือเถา) และนอกจากนี้จะมีชื่อเรียกอีกว่า Futaba-Hagi ซึ่งหมายถึง พืช 2 ใบ เนื่องจาก มองจากโคนกิ่ง จะมีใบคู่งอกขึ้นมาจากลำต้น เป็นใบที่หันหน้าเข้าหากัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดมีทรงกลม เมล็ดยาว 3 ซม. ในฤดูใบไม้ผลิจะเรียกต้นกล้าว่า Azukina ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดในปี นอกจากนี้พืชพรรณนี้นิยมนำมาปรุงอาหาร เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี มีเถาเครือสำหรับในการพยุงต้นให้สามารถดำรงชีวิตได้ กับต้นไม้ยืนต้นอื่น ๆ ดอกมีความยาวประมาณ1.5 ซม. สีของดอกเป็นสีแดง สีม่วง และสีอื่น ๆ แล้วแต่สายพันธ์บานบน 2-4 ซม. ใน 1 กิ่งประกอบใบจำนวน 2 ใบ แต่ละใบยาว 3-7 ซม. ใบเป็นรูปไข่ มีขนดกและมีก้านใบสั้น ชื่อภาษาญี่ปุ่น Nanten-Hagi เป็นชื่อเพราะ รูปทรงของใบคล้ายกับ Nandina domestica (Nanten ในภาษาญี่ปุ่นและ Hagi เป็นไม้จำพวกถั่วเครือเถา) และนอกจากนี้จะมีชื่อเรียกอีกว่า Futaba-Hagi ซึ่งหมายถึง พืช 2 ใบ เนื่องจาก มองจากโคนกิ่ง จะมีใบคู่งอกขึ้นมาจากลำต้น เป็นใบที่หันหน้าเข้าหากัน เมื่อดอกได้แก่จัด เมล็ดตรงกลางสีดำจะเริ่มร่วงลงพื้นดิน เพื่อจะกลายเป็นเมล็ดพันธ์ เพื่อขยายพันธ์กันต่อไป เมล็ดมีทรงกลม เมล็ดยาว 3 ซม. ในฤดูใบไม้ผลิจะเรียกต้นกล้าว่า Azukina ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดในปี นอกจากนี้พืชพรรณนี้นิยมนำมาปรุงอาหาร
 
 ●ฤดูกาล เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม
 ●ความสูง ประมาณ 30 ถึง 60 เซนติเมตร
 ●สถานที่ เทือกเขาอุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						ยาบุมาเหม่ะ ตระกูลถั่ว   ยาบุมาเหม่ะ ตระกูลถั่ว ยาบุมาเหม่ะ ตระกูลถั่ว เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี เป็นพืชพรรณประเภทไม้เลื้อยคลานไปตามดิน หรือเครือพันไปกับต้นไม้ยืนต้นเพื่อให้ต้นพยุงอยู่ได้ ชื่อ ยาบุมาเหม่ะ หมายถึง ถั่วเถาเครือ ตามลักษณะของลำต้นที่พบเห็น ดอกไม้ยาวประมาณ 2 ซม. ด้านบนเป็นเหมือนรูปผีเสื้อสีขาว ขอบกลีบดอกเป็นสีม่วงเข้ม และช่อดอกที่มีกลีบบาง ๆ ก็จะมีสีอ่อนแซมมาด้วย ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่สายพันธ์ ลำต้นประกอบด้วยทั้งลำต้นใต้ดิน และลำต้นบนดิน ที่มีหน้าที่แตกต่างกันไป 1โคนกิ่ง ประกอบไปด้วยใบ 3 ใบใบมีรูปไข่ ยาวประมาณ 3 ถึง 6 ซม. เมื่อดอกแก่จัดจะเริ่มเหี่ยวลง และเมล็ดแก่จัดสีดำ ก็จะทำหน้าที่ขยายพันธ์ในโอกาสต่อไป เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี เป็นพืชพรรณประเภทไม้เลื้อยคลานไปตามดิน หรือเครือพันไปกับต้นไม้ยืนต้นเพื่อให้ต้นพยุงอยู่ได้ ชื่อ ยาบุมาเหม่ะ หมายถึง ถั่วเถาเครือ ตามลักษณะของลำต้นที่พบเห็น ดอกไม้ยาวประมาณ 2 ซม. ด้านบนเป็นเหมือนรูปผีเสื้อสีขาว ขอบกลีบดอกเป็นสีม่วงเข้ม และช่อดอกที่มีกลีบบาง ๆ ก็จะมีสีอ่อนแซมมาด้วย ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่สายพันธ์ ลำต้นประกอบด้วยทั้งลำต้นใต้ดิน และลำต้นบนดิน ที่มีหน้าที่แตกต่างกันไป 1โคนกิ่ง ประกอบไปด้วยใบ 3 ใบใบมีรูปไข่ ยาวประมาณ 3 ถึง 6 ซม. เมื่อดอกแก่จัดจะเริ่มเหี่ยวลง และเมล็ดแก่จัดสีดำ ก็จะทำหน้าที่ขยายพันธ์ในโอกาสต่อไป
 
 ● ฤดูกาล เดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม
 ● ความสูง เท่ากับความสูงของไม้ยืนต้น ที่จะสามารถพันเครือขึ้นไปได้
 ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 4-6 , ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
- 
					
						ซาระชินะโชมะ ตระกูล Buttercup   ซาระชินะโชมะ ตระกูล Buttercup ซาระชินะโชมะ ตระกูล Buttercup เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี มีลำต้นแข็งแรง สามารถปรับสภาพได้ดีในทุกฤดูกาล 1 โคนดอกจะประกอบด้วยดอกไม้เล็ก ๆ รวมกันเป็นพุ่ม พุ่มละประมาณ 10 ถึง 30 ซม. ใน 1 พุ่มใหญ่ ๆ จะประกอบด้วยดอกเล็กๆรวมกันกว่า 150 ดอก โดยรวมแล้วจะมีลักษณะภายนอกพื้นฐานใกล้เคียงกับพืชพรรณที่อยู่ในตระกูล Buttercup เดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะ คล้าย Cimicifuga จาปอ ในกลุ่มเดียวกัน แต่สิ่งที่จะมีแตกต่างไปบ้างก็คือก็คือใบ จะแตกต่างตรงที่ใบเล็กกว่า และก้านดอกยาวเพียง 1 ซม. ใบประกอบด้วย 3 ใบ ลักษณะของใบจะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3-8 ซม. มีปลาย แหลม และมีขอบใบจะมีลักษณะคล้ายฟันของใบเลื่อย มีหนามที่ขอบและหยาบ ชื่อ ซาระชินะโซมะ หมายถึง ต้มใบสดยาจีน ซึ่งแต่เดิมได้ถูกนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรหม้อต้ม จึงได้ถูกเรียกชื่อนี้ โดยนำใบไปแช่น้ำไว้ แล้วนำไปต้มเพื่อเอาน้ำนั้นมาปรุงเป็นยาสมุนไพร หลังจากที่ดอกแก่จัด ภายในโคนดอกจะปรากฏเมล็ดพันธ์ที่แก่จัดเป็นสีดำ เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. ซึ่งเมล็ดพันธ์เหล่านี้จะนำไปขยายพันธ์ต่อไปห เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี มีลำต้นแข็งแรง สามารถปรับสภาพได้ดีในทุกฤดูกาล 1 โคนดอกจะประกอบด้วยดอกไม้เล็ก ๆ รวมกันเป็นพุ่ม พุ่มละประมาณ 10 ถึง 30 ซม. ใน 1 พุ่มใหญ่ ๆ จะประกอบด้วยดอกเล็กๆรวมกันกว่า 150 ดอก โดยรวมแล้วจะมีลักษณะภายนอกพื้นฐานใกล้เคียงกับพืชพรรณที่อยู่ในตระกูล Buttercup เดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะ คล้าย Cimicifuga จาปอ ในกลุ่มเดียวกัน แต่สิ่งที่จะมีแตกต่างไปบ้างก็คือก็คือใบ จะแตกต่างตรงที่ใบเล็กกว่า และก้านดอกยาวเพียง 1 ซม. ใบประกอบด้วย 3 ใบ ลักษณะของใบจะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3-8 ซม. มีปลาย แหลม และมีขอบใบจะมีลักษณะคล้ายฟันของใบเลื่อย มีหนามที่ขอบและหยาบ ชื่อ ซาระชินะโซมะ หมายถึง ต้มใบสดยาจีน ซึ่งแต่เดิมได้ถูกนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรหม้อต้ม จึงได้ถูกเรียกชื่อนี้ โดยนำใบไปแช่น้ำไว้ แล้วนำไปต้มเพื่อเอาน้ำนั้นมาปรุงเป็นยาสมุนไพร หลังจากที่ดอกแก่จัด ภายในโคนดอกจะปรากฏเมล็ดพันธ์ที่แก่จัดเป็นสีดำ เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. ซึ่งเมล็ดพันธ์เหล่านี้จะนำไปขยายพันธ์ต่อไปห
 
 ● ฤดูกาล ปลายเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม
 ● ความสูง ประมาณ 60 ซม. ถึง 1.2 ม.
 ● สถานที่ ถนนสายTrail 1 Trail 4-6 ,ภูเขาอินาริ , อุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						ฮิกัง บานะ ( ลิลลี่ แมงมุม สีแดง) ตระกูลดอกลิลลี่   ฮิกัง บานะ ( ลิลลี่ แมงมุม สีแดง) ตระกูลดอกลิลลี่ ฮิกัง บานะ ( ลิลลี่ แมงมุม สีแดง) ตระกูลดอกลิลลี่ เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี ซึ่งเป็นไม้มงคลที่เป็นความเชื่อของคนจีนในสมัยโบราณ ว่าในช่วงเวลาระหว่างฤดูใบไม้ร่วง เป็นเวลาที่กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน จะต้องปลูกดอกไม้สีแดงไว้เพื่อเป็นมงคลกับชีวิต และความเชื่อนี้ก็นำเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับพืชพรรณนี้ และยังมีชื่ออีกชื่อคือ'Lycoris radiata' ซึ่งหมายถึง ดอกไม้สีแดงด้วยแสงของธรรมในพระสูตร ซึ่งด้านบนของก้านดอกจะตั้งตรง ยามมีดอกบาน จะไม่เหลือใบ การขยายพันธ์โดยการแตกหน่อ ใช้เหง้าเป็นการแพร่พันธ์ ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้ว 5-7 ดอกบานสะพรั่ง กลีบดอกมี 6 กลีบ กลีบบาง ๆ ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ในโคนดอกจะมีเกสรตัวผู้ที่โน้มตัวออกจากดอก และเกสรตัวเมียทีอยู่กลางดอก เมือผสมพันธ์แล้ว หากดอกเหี่ยวลง เมล็ดพันธ์ภายในกลางดอกจะเปลี่ยนเป็นสีดำ และทำหน้าที่ขยายพันธ์ได้อีกทางหนึ่ง ใบเป็นแผ่นบาง และยาว ประมาณ 30 ถึง 60 ซม. กว้าง 6-8 มม. ใบมีสีเขียวเข้ม เป็นมันวาว สลับกับสี ขาว พืชพรรณนี้จะมีพิษอยู่ทั้งต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในลำต้น หากเข้าไปสัมผัสหรือนำเข้าร่างกายโดยไม่ตั้งใจ พิษร้ายจะทำให้เกิดอาการเช่น อาเจียน และท้องเสีย ในบางกรณีอาจนำไปสู่ความตายได้ เป็นไม้ยืนต้น ที่เจริญเติบโตในสถานที่มีแดดร่มรำไร เช่นบริเวณแหล่งน้ำ ใกล้ ๆ กับป่า ตามภูเขาลำธาร เป็นไม้ยืนต้นที่ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตหลายปี ซึ่งเป็นไม้มงคลที่เป็นความเชื่อของคนจีนในสมัยโบราณ ว่าในช่วงเวลาระหว่างฤดูใบไม้ร่วง เป็นเวลาที่กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน จะต้องปลูกดอกไม้สีแดงไว้เพื่อเป็นมงคลกับชีวิต และความเชื่อนี้ก็นำเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับพืชพรรณนี้ และยังมีชื่ออีกชื่อคือ'Lycoris radiata' ซึ่งหมายถึง ดอกไม้สีแดงด้วยแสงของธรรมในพระสูตร ซึ่งด้านบนของก้านดอกจะตั้งตรง ยามมีดอกบาน จะไม่เหลือใบ การขยายพันธ์โดยการแตกหน่อ ใช้เหง้าเป็นการแพร่พันธ์ ใน 1 โคนดอกจะประกอบด้ว 5-7 ดอกบานสะพรั่ง กลีบดอกมี 6 กลีบ กลีบบาง ๆ ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ในโคนดอกจะมีเกสรตัวผู้ที่โน้มตัวออกจากดอก และเกสรตัวเมียทีอยู่กลางดอก เมือผสมพันธ์แล้ว หากดอกเหี่ยวลง เมล็ดพันธ์ภายในกลางดอกจะเปลี่ยนเป็นสีดำ และทำหน้าที่ขยายพันธ์ได้อีกทางหนึ่ง ใบเป็นแผ่นบาง และยาว ประมาณ 30 ถึง 60 ซม. กว้าง 6-8 มม. ใบมีสีเขียวเข้ม เป็นมันวาว สลับกับสี ขาว พืชพรรณนี้จะมีพิษอยู่ทั้งต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในลำต้น หากเข้าไปสัมผัสหรือนำเข้าร่างกายโดยไม่ตั้งใจ พิษร้ายจะทำให้เกิดอาการเช่น อาเจียน และท้องเสีย ในบางกรณีอาจนำไปสู่ความตายได้
 
 ● ฤดูกาล กลางเดือนกันยายน ถึงปลายเดือนกันยายน
 ● ความสูง ประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร
 ● สถานที่ ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ โอคุ-ทาคาโอะ
- 
					
						คายะ (ต้นจันทน์เทศ) ตระกูล Taxaceae   คายะ (ต้นจันทน์เทศ) ตระกูล Taxaceae คายะ (ต้นจันทน์เทศ) ตระกูล Taxaceae เป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงมากกว่า 5 เมตร ที่มีใบ กิ่ง ลำต้นเขียวสด พบในบริเวณที่เปียกชื้น ใกล้ลำธารที่ไม่มีแดดจัด ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น มีต้นกล้าสีเทาอ่อน ๆ เมื่อผ่านไปหลายปี ต้นเริ่มที่จะมีสีที่เข้มมากขึ้น และมีเปลือกเนื้อไม้ที่เพิ่มชั้นมากขึ้น ลำต้นกว้างประมาณ 2 เมตร ได้นำมาใช้เป็นไม้แปรรูปทุกชนิด ดีกว่าไม้ที่มีอายุใกล้เคียงกัน เนื่องจากเป็นเนื้อแข็ง มีความทนทานสูง นิยมแพร่หลายสำหรับงานวัสดุก่อสร้าง ใบมีความยาวประมาณ 2 - 3 ซม. กว้างประมาณ 2 - 3 ซม การไสไม้หน้าผิวเรียบ จะประสพความยากลำบาก ในระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางดอก มีผงละอองที่ใช้ในการผสมเกสรกันอย่างธรรมชาติตามแรงลมเพื่อขยายพันธ์ ผลมีรูปวงรี ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร เมื่อผลแก่จัด เมล็ดที่อยู่ด้านในก็จะร่วงหล่น และเป็นการขยายพันธ์โดยธรรมชาติ ผล จะมีรสค่อนข้างฝาด เผ็ด แต่สามารถนำไปปรุงแต่งอาหารได้รสชาติดี อร่อย เป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงมากกว่า 5 เมตร ที่มีใบ กิ่ง ลำต้นเขียวสด พบในบริเวณที่เปียกชื้น ใกล้ลำธารที่ไม่มีแดดจัด ทุ่งหญ้าที่มีอากาศชุ่มชื้น มีต้นกล้าสีเทาอ่อน ๆ เมื่อผ่านไปหลายปี ต้นเริ่มที่จะมีสีที่เข้มมากขึ้น และมีเปลือกเนื้อไม้ที่เพิ่มชั้นมากขึ้น ลำต้นกว้างประมาณ 2 เมตร ได้นำมาใช้เป็นไม้แปรรูปทุกชนิด ดีกว่าไม้ที่มีอายุใกล้เคียงกัน เนื่องจากเป็นเนื้อแข็ง มีความทนทานสูง นิยมแพร่หลายสำหรับงานวัสดุก่อสร้าง ใบมีความยาวประมาณ 2 - 3 ซม. กว้างประมาณ 2 - 3 ซม การไสไม้หน้าผิวเรียบ จะประสพความยากลำบาก ในระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียที่อยู่ตรงกลางดอก มีผงละอองที่ใช้ในการผสมเกสรกันอย่างธรรมชาติตามแรงลมเพื่อขยายพันธ์ ผลมีรูปวงรี ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร เมื่อผลแก่จัด เมล็ดที่อยู่ด้านในก็จะร่วงหล่น และเป็นการขยายพันธ์โดยธรรมชาติ ผล จะมีรสค่อนข้างฝาด เผ็ด แต่สามารถนำไปปรุงแต่งอาหารได้รสชาติดี อร่อย
 
 ● ความสูง ประมาณ 20 - 30 เมตร
 ● สถานที่ ถนนสายTrail 3 และ 4 ภูเขาอุระ-ทาคาโอะ
